Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! – บทที่ 54 จงใจรับเงินจากผู้จัดการ!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

บทที่ 54 จงใจรับเงินจากผู้จัดการ!

ทุกคนต่างพากันประเมินตัวละครว่าน่ารัก มีลักษณะเด่น แต่ไม่มีใครรู้ว่าตัวละครเหล่านี้คือฝูงวายร้าย…

ซึ่งนี่อยู่ในความคาดหมายของเฉินโม่ ถ้ามองที่ตัวละครและตัดโครงเรื่องออก ก็จะรู้สึกว่ามันแปลกๆ

เฉินโม่ถาม “คุณปลาทอง ถ้าจะให้คุณวาดภาพตัวละครต้นแบบ รวมถึงปรับแต่งกับระบายสี จะใช้เวลานานแค่ไหน ไม่ต้องละเอียดเกินไปก็ได้ ขนาดก็เอาตามภาพแบบร่างของผม”

ซูจิ่นอวี๋คิดอยู่ครู่หนึ่ง “”อืม… การ์ดพวกนี้ไม่ซับซ้อนเกินไป น่าจะเสร็จภายในสี่ห้าวันค่ะ”

เฉินโม่ส่ายหัว “สามวัน”

“อา” ซูจิ่นอวี๋ลังเล “สามวันไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ แต่คุณภาพอาจไม่ดีเท่า”

เฉินโม่พูด “ไม่เป็นไร การ์ดใบใหญ่ยังอยู่ในมือถือผม ถ้าคุณภาพแย่ลงนิดหน่อยก็ไม่เป็นไร คุณเองก็จะได้ค่อยๆ ฝึกฝนฝีมือไปด้วย ตอนนี้เราต้องการปริมาณก่อน”

ซูจิ่นอวี๋พยักหน้าด้วยความลำบากใจ “ตกลงค่ะ ฉันจะพยายามให้ดีที่สุด”

เหวินหลิงเวยพูด “ถ้าเป็นการปรับแต่งกับระบายสี ฉันก็ทําได้”

เฉินโม่ตกตะลึง “คุณแน่ใจนะ นี่เป็น Fine arts resources ของตัวเกมจริง อย่างน้อยผู้เล่นก็อาจไม่เจอปัญหา”

เจี่ยเผิงเตือน “ผู้จัดการ รุ่นพี่เป็นนักศึกษาด้านศิลป์ดีเด่น เธอรับผิดชอบงานด้านภาพต้นแบบเป็นประจํานะ”

เฉินโม่รู้สึกประหลาดใจ จริงสิ เหวินหลิงเวยกับเจี่ยเผิงอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของมหาวิทยาลัย ฝ่ายประชาสัมพันธ์ก็ต้องใช้ภาพโปสเตอร์และทําบอร์ดนิทรรศการอยู่ตลอด ประธานกับรองประธานจะไม่สามารถวาดภาพ และแต่งภาพเป็นงั้นเหรอ

“เอาละ เธอก็ช่วยกันวาดแล้วกันจะประหยัดเวลาได้มาก” เฉินโม่ตอบ

เหวินหลิงเวยยิ้มอย่างมีเลศนัย “แล้วผู้จัดการจะให้ค่าจ้างเท่าไหร่ การวาดภาพต้นแบบของฉันหนึ่งใบมีราคาห้าพันหยวน นี่เป็นราคามิตรภาพแล้ว”

เฉินโม่ “…ยังไม่เห็นผลงานจะเรียกเงินแล้วเหรอ”

เหมือนกับภาพการ์ดต้นฉบับ ค่าตัวของจิตรกรในระดับต่างๆ ก็มีราคาแตกต่างกันมากเช่นกัน มีทั้งราคา 800-900 หยวนต่อแผ่น ราคา 8,000-9,000 หยวนต่อแผ่น และมีราคาที่แพงกว่านั้นอีก

แน่นอนว่าคุณภาพขึ้นอยู่กับสิ่งที่จ่ายไป จิตรกรเก่งๆ กับจิตรกรทั่วไปย่อมมีองค์ประกอบแตกต่างกัน เช่น แสงและเงา สีและอื่นๆ

อย่างเหวินหลิงเวยที่ขอค่าจ้างห้าพันหยวนที่เป็นราคามิตรภาพ ซึ่งเป็นค่าตัวของจิตรกรระดับที่พอมีชื่อเสียงเล็กน้อย

เฉินโม่พูด “แต่คุณก็ไม่ได้ออกแบบเอง คิดเองหรือสอบถามความต้องการสักหน่อย ราคาห้าพันหยวนคือราคามิตรภาพแล้วเหรอ ผมร่างแบบเสร็จแล้ว แถมขนาดก็เล็กกว่าภาพต้นฉบับที่คุณวาดตามปกติหลายเท่า แค่ปรับแต่งกับลงสี ผมให้แค่สองพันหยวน ตกลงเอาไหม”

เหวินหลิงเวย “ขี้งก”

เฉินโม่ “…”

เหวินหลิงเวยพูด “เอาเถอะ เพราะสงสารนายหรอกนะ สองพันหยวนต่อแผ่น สามวันต่อแผ่น ถึงยังไงก็มีแค่ฉันกับปลาทองสองคน เพราะงั้นเร็วที่สุดแล้ว”

เฉินโม่มองเจี่ยเผิงและฉางซิ่วหย่า “ถ้าพวกนายอยากวาดด้วยก็ได้นะ…”

เจี่ยเผิงรีบโบกมือ “ความสามารถของพวกเราไม่ได้สูงเท่ารุ่นพี่ อย่างมากสุดก็ช่วยวาดการ์ดมอนสเตอร์ปกติๆ บางตัวให้คุณได้เท่านั้น การ์ดตัวละครหลักพวกเรารับมือไม่ไหวหรอก”

เฉินโม่พยักหน้า “อย่างนั้นก็ได้ พวกคุณวาดการ์ดมอนสเตอร์เถอะ ผมจะแบ่งเงินให้พวกคุณตามราคาตลาด”

เจี่ยเผิงโบกมือ “ไม่เป็นไร เงินไม่สำคัญ แค่ให้พวกเราฝึกฝนก็พอแล้ว”

เฉินโม่แบ่งการ์ดให้กับทุกคน

ทักษะการวาดภาพของซูจิ่นอวี๋และเหวินหลิงเวยนั้นสูงมาก พวกเธอสามารถวาดการ์ดของตัวเอกได้อย่างสมบูรณ์ ยิ่งไปกว่านั้นเฉินโม่ก็ยังสื่อสารกับทั้งสองคนสะดวกมากขึ้นด้วย ดังนั้นเฉินโม่จึงตั้งใจมอบการ์ดตัวละคนหลักที่สําคัญสุดให้กับพวกเธอ

ส่วนนักศึกษาหลายคนที่สามารถวาดการ์ดมอนสเตอร์ได้ เฉินโม่เองก็สงวนการ์ดส่วนหนึ่งไว้ให้พวกเขาด้วย

ด้วยความเร็วสามวันต่อการ์ดหนึ่งใบ

ซูจิ่นอวี๋และเหวินหลิงเวย ต้องวาดตัวละครหลักทั้งหมดสามสิบหกตัวในเวลาห้าสิบสี่วัน เห็นได้ชัดว่าช้าเกินไป ไม่ต้องพูดถึงว่านี่เป็นแค่การ์ดบางส่วนเท่านั้น การ์ดทั้งหมดมีจํานวนมากกว่าสามร้อยใบ!

ซึ่งไม่เหมือนกับตอนสร้างเกม ‘Plants vs. Zombies’ เกม ‘Plants vs. Zombies’ มีซอมบี้หลายตัวที่สามารถนํากลับมาใช้ใหม่ได้ และพืชเองก็วาดง่าย แต่เกมการ์ดนั้น การ์ดเปรียบเสมือนตัวตนของเกม ผู้เล่นจะไม่ซื้อแน่หากภาพออกมาน่าเกลียด ครั้งนี้เฉินโม่จึงไม่กล้าทำอะไรกับมัน

ดังนั้น ตอนนี้ถ้าอยากให้บีบเวลาลงมาอีก ก็ทําได้แค่หาบริษัทเอาท์ซอร์สด้านศิลปะเท่านั้น

เฉินโม่พูดกับเหวินหลิงเวยและซูจิ่นอวี๋ว่า “พวกคุณรู้จักบริษัทเอาท์ซอร์สด้านศิลปะไหม ขอที่น่าเชื่อถือหน่อย”

เหวินหลิงเวยคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ฉันพอรู้จักอยู่ที่หนึ่ง มีเพื่อนฉันบางคนที่เป็นจิตรกรอยู่ที่นั่นและระดับก็ไม่เลวเลย”

เฉินโม่พยักหน้า “โอเค ผมขอข้อมูลติดต่อหน่อย จริงสิ แล้วพวกคุณรู้จักบริษัทผลิตแอนิเมชันไหม”

ทั้งเหวินหลิงเวยและซูจิ่นอวี๋ต่างส่ายหน้า “รู้จักไม่กี่ที่ แต่ฉันไม่มีคนรู้จัก”

เฉินโม่พูด “โอเค งั้นเอาแค่นี้ก่อน พวกคุณลองแก้การ์ดตัวละครหลักที่ผมเพิ่งส่งไปพลางๆ ก่อนก็ได้”

เฉินโม่หันกลับและขึ้นไปชั้นบน

ซูจิ่นอวี๋พูด “เดี๋ยวก่อนค่ะผู้จัดการ เกมต่อไปที่พวกเราจะสร้างเป็นแบบไหนเหรอคะ คุณจําเป็นต้องใช้ภาพการ์ดต้นฉบับจํานวนมากขนาดนี้เลยเหรอ”

เฉินโม่พูด “ไม่ต้องกังวล คุณจะรู้ในอีกไม่กี่วัน”

…………………

เมื่อกลับมาที่ชั้นสอง เฉินโม่รู้สึกง่วงเล็กน้อย ซึ่งดูเหมือนจะเป็นผลข้างเคียงของตัวเร่งความเร็วขั้นสุด

ตามข้อมูลติดต่อที่เหวินหลิงเวยให้มา เฉินโม่ก็พบบุคคลที่รับผิดชอบของบริษัทเอาท์ซอร์สด้านศิลปะ และพูดคุยเกี่ยวกับความต้องการของตัวเอง

เฉินโม่จัดเตรียมภาพลายเส้นไว้แล้ว จึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในขั้นตอนการออกแบบและวาดลายเส้น ทําให้ย่นระยะเวลาให้สั้นลงได้อย่างมาก

ในที่สุดเฉินโม่ก็ต่อรองราคาการ์ดค่าตัวละครหลัก 2,200 ใบและการ์ดมอนสเตอร์ 600 ใบได้

การ์ดมอนสเตอร์สามารถวาดได้ไม่ยากนัก ราคาจึงลดลงมาก

หลังจากประเมินราคา เฉินโม่จะต้องใช้เงินประมาณ 36 x 3 x 2200 + 200 x 600 = 357,600 ต่อรองได้ 350,000 หยวน สําหรับการ์ดทั้งชุด

แน่นอนว่าการ์ดมอนสเตอร์บางตัวสามารถเอามาใช้ซ้ำได้ แต่ก็ไม่อาจกดราคาให้อยู่ภายใน 300,000 ได้นี่สิ

เงินจำนวนไม่น้อย แต่เฉินโม่ก็ไม่รู้สึกเจ็บเนื้อเจ็บตัวเท่าไหร่ ราคานี้ถือว่ากดลงมามากแล้วจึงไม่สามารถกดลงได้อีก การที่สามารถใช้เงิน 350,000 หยวน เพื่อซื้อทรัพยากรการ์ดทั้งชุดได้ทําให้เฉินโม่รู้สึกพอใจ

ในหมู่การ์ดทั้งหมด เฉินโม่มอบการ์ดหลักเจ็ดใบ ได้แก่ MT, Shaman, Rogue, Hunter, Lady, The President และ Elder Sister ให้กับเหวินหลิงเวยและซูจิ่นอวี๋ ตามความเร็วสามวันต่อการ์ดหนึ่งใบ ซึ่งต้องใช้เวลาหนึ่งเดือน

ซูจิ่นอวี๋ต้องรับผิดชอบการออกแบบเกม เฉินโม่จึงปล่อยให้เธอวาดการ์ดทั้งหมดไม่ได้

นอกจากนี้ เฉินโม่ยังแบ่งการ์ดมอนสเตอร์ส่วนหนึ่งให้เจี่ยเผิงและคนอื่นๆ โดยคิดตามราคาตลาด

การ์ดอื่นๆ ทั้งหมดจึงถูกส่งไปที่บริษัทเอาท์ซอร์สด้านศิลปะ ถึงยังไงภายในสองเดือนนี้การ์ดทั้งหมดก็จะต้องเสร็จแน่ๆ

…………………………

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Status: Ongoing
เมื่อนักออกแบบเกมทะลุมิติมายังโลกคู่ขนานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนา ถ้างั้นเขานี่แหละจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการเกมเอง!++นักออกแบบเกมผู้ชอบเพ้อฝัน ‘เฉินโม่’ ถูกส่งมายังโลกคู่ขนานและได้รับภารกิจจากระบบเพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเขามาอยู่ในร่างของเฉินโม่ของโลกนี้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกมแทนเฉินโม่คนก่อนโลกคู่ขนานแห่งนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมเกมเป็นที่ยอมรับแต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนาจนน่าเศร้าเฉินโม่จึงคิดจะใช้ความสามารถในฐานะนักออกแบบเกมที่ติดตัวมาและประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในชีวิตก่อน มาปฏิวัติวงการเกมของโลกนี้!...“Game loading…”“เป้าหมายหลัก: เพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคู่ขนาน”“นับถอยหลังสู่การสลับโลกคู่ขนาน…”“3…”“2…”“1…”“Game Start!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท