บทที่ 55 แอนิเมชันราคาแพง
ปัญหาของการวาดการ์ดต้นฉบับได้แก้ไขแล้ว แต่นี่เป็นแค่ขั้นตอนแรกเท่านั้น
Fine arts resources อื่นๆ เช่น UI, ภาพวาดต้นฉบับของฉาก เอฟเฟ็กต์พิเศษของการ์ดและอื่นๆ เฉินโม่วางแผนที่จะจัดการกับสิ่งเหล่านี้ในภายหลัง หากสามารถจ้างบริษัทข้างนอกได้ก็จะจ้าง ถ้าไม่ได้ก็จะพยายามทำด้วยตัวเอง
ตอนนี้ยังมีปัญหาหนักหนากว่านั้น เขาต้องหาบริษัทผลิตแอนิเมชันที่ไว้ใจได้
สำหรับบริษัทแอนิเมชันในโลกนี้ การสร้าง ‘My name is MT’ ไม่น่าจะมีปัญหา แต่เฉินโม่อยากให้มีรายละเอียดพิถีพิถันมากกว่านี้ อย่างน้อยก็ไปให้ถึงระดับ ‘My name is MT’ ในอีกสองสามซีซั่นข้างหน้า ให้เหนือกว่าระดับของ ‘Warrior VS Dragon’ ไปอีก
ท้ายที่สุดแล้ว แอนิเมชันนี้เปรียบเสมือนการเผยแพร่เกมไปในตัว เพื่อเป็นการประหยัดค่าประชาสัมพันธ์ ซึ่งเท่ากับละทิ้งรากฐานมุ่งหาสุดปลาย
เฉินโม่ไม่รู้จักใครในบริษัทผลิตแอนิเมชัน เขาจึงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้และตัดสินใจโทรหาจ้าวจื่อหาว
อย่างไรจ้าวจื่อหาวก็เปิดสตูดิโอเกม และเขามักจะติดต่อกับผู้คนในแวดวงเกม การหาบริษัท ผลิตแอนิเมชันที่เชื่อถือได้ไม่น่าจะยาก
ทางโทรศัพท์ เฉินโม่กล่าวขอสั้นๆ ซึ่งจ้าวจื่อหาวก็รีบส่งหมายเลขติดต่อผู้รับผิดชอบสตูดิโอแอนิเมชันให้เฉินโม่ทันที
Xuandong Aurora Studio แห่งนี้พอมีชื่อเสียงเล็กน้อยในวงการ มีมังงะจีนดีๆ อยู่สองสามเรื่อง ความสามารถไม่น่ามีปัญหา
เฉินโม่ระบุความต้องการสั้นๆ และนัดหมายกับผู้รับผิดชอบที่ Experience Store ในวันพรุ่งนี้
หลังจากการสนทนาจบลง เฉินโม่แทบจะลืมตาไม่ขึ้น
“ตัวเร่งความเร็วขั้นสุดนี่ทรงพลังจริงๆ…”
หลังจัดการงานทุกอย่างเสร็จหมดแล้ว เฉินโม่ล้มลงกับเตียงและหลับสนิทไปในที่สุด
…………………
เช้าวันรุ่งขึ้น
เฉินโม่หลับไปสิบชั่วโมงเต็ม แต่ก็ยังรู้สึกปวดเมื่อยตามตัวไปหมด
ไม่น่าแปลกเลยที่ตัวเร่งความเร็วขั้นสุดจะใช้ต่อเนื่องไม่ได้ มันอาจทำให้คนเสียชีวิตได้จริงๆ!
ลุกขึ้น อาบน้ำแล้วไปเปิดร้านตามปกติ
เหวินหลิงเวยมาถึงสิบโมงตรงเวลาเช่นเดียวกับซูจิ่นอวี๋ เธอก็ถือกราฟิกแท็บเล็ตและแล็ปท็อปเข้ามาระบายสีการ์ด ในห้องประชุมที่ชั้นหนึ่งของ Experience Store
ในตอนบ่าย เจ้าหน้าที่ดูแล Xuandong Aurora Studio ก็มาถึง เฉินโม่พาเขาไปที่สตูดิโอของตนบนชั้นสอง
ผู้รับผิดชอบคือกัวเฟิง เขามีอายุยังไม่ถึงสี่สิบปีและมีใบหน้าที่ใจดี ติดเพียงแค่หัวล้านเล็กน้อยเท่านั้น
เฉินโม่ไม่ได้รับแขกอะไรมากนัก เขาเข้าประเด็นเลย
“คือประมาณนี้ครับ ผมมีแผนจะทำอนิเมะ ซีซั่นแรกผมวางแผนไว้ว่าจะทำสิบตอน แต่ละตอนจะมีความยาวประมาณสิบนาที มีเพลงประกอบในช่วงเริ่มและท้ายของแต่ละตอน”
“ตัวละคร ฉาก โครงเรื่อง ลายเส้น สตอรี่บอร์ดและอื่นๆ ผมมีเสนอให้ครับ พวกคุณแค่ทําตามที่ผมต้องการก็พอครับ”
“ถ้างั้นผมขอเรียนถามว่าแอนิเมชันแบบนี้ ต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ครับ”
กัวเฟิงคิดอยู่ครู่หนึ่ง และถามว่า “คุณตั้งใจจะลงทุนเต็มที่ไหมครับ”
เฉินโม่พยักหน้า “ครับ”
กัวเฟิงพูด “ผมอยากจะแนะนำคุณจากมุมมองส่วนตัว แอนิเมชันเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างใหญ่ หากมันไม่เป็นที่นิยม คุณอาจกู้คืนค่าใช้จ่ายกลับมาไม่ได้เลย การที่คุณสร้างตัวละคร โครงเรื่อง และสตอรี่บอร์ดของคุณเอง ความเสี่ยงไม่ใช่น้อยๆ เลยนะครับ”
“แน่นอนว่า ตราบใดที่คุณมีเงินพอ พวกเราก็จะทําให้ เพียงแค่เตือนคุณด้วยความหวังดีครับ”
เฉินโม่พยักหน้า “อืม ขอบคุณที่เตือนครับ ผมทราบดีอยู่แก่ใจ คุณเสนอราคามาได้เลย”
กัวเฟิงพยักหน้า “ได้ครับ ตอนนี้หากประเมินตามราคาตลาด โดยปกติแอนิเมชันที่ใช้เวลาประมาณยี่สิบถึงสี่สิบนาที มีค่าใช้จ่ายห้าแสนหยวน เท่ากับว่าเฉลี่ยนาทีละสองหมื่นหยวน แน่นอนว่านี่เป็นระดับที่ค่อนข้างสูงในอุตสาหกรรม และรวมต้นทุนในการออกแบบ สตอรี่บอร์ด โครงเรื่องและอื่นๆ ด้วย”
เฉินโม่ลอบเช็ดเหงื่อ ก่อนพูดอย่างใจเย็นว่า “อืม…ขอคิดดูก่อนนะครับ”
อันที่จริง สิ่งที่เรียกว่าระดับสูงสุดนั้นเป็นระดับกันกับมังงะญี่ปุ่นในชีวิตก่อน ตราบใดที่ถูกปล่อยออกมาก็จะเป็นการผลิตขนาดใหญ่ คุณภาพของภาพจะมีความละเอียดสูง การพากย์เสียง BGM และอื่น ๆ จะเป็นระดับสูงสุดหมด
แต่ค่าใช้จ่ายนี้สูงเกินไปสำหรับเฉินโม่ คิดอัตราตามนาทีละสองหมื่นหยวน ตอนละสิบนาทีก็คือสองแสนหยวน
ซีซั่นแรกมีจํานวนสิบตอนจะมีค่าใช้จ่ายถึงสองล้านหยวน
ยากที่จะบอกว่า ‘My name is MT’ มีค่าใช้จ่ายเท่าไรในชาติที่แล้ว แต่แน่นอนว่ามันไม่ได้แพงขนาดนั้น และห่างไกลจากมันมาก
ในตอนนั้นบริษัท Locojoy ได้รับลิขสิทธิ์ของ ‘My name is MT’ ด้วยเงินสามล้านหยวน ซึ่งพอจะนับได้ว่าเป็นเงินก้อนใหญ่สําหรับทีมผลิตของ ‘My name is MT’ ในเวลานั้นเลย
กัวเฟิงพูดเสริมว่า “แน่นอนว่าคุณภาพการผลิตต่างกัน ราคาก็ต้องต่างกัน ถ้ายอมลดคุณภาพลงหน่อย เงินก็อาจน้อยลงได้”
“แน่นอนว่ามันขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณ”
เฉินโม่ถาม “3D กับ 2D ต่างกันไหมครับ”
กัวเฟิงอธิบายว่า “มีความแตกต่างกันครับ แต่ไม่ค่อยมาก จริงๆ แล้วตอนนี้แอนิเมชัน 2 มิติของเรา ทำแบบ 3 ต่อ 2 เป็นหลัก ก็คือการใช้เทคโนโลยี 3 มิติเพื่อแสดงเอฟเฟ็กต์ 2 มิติ ถ้าวาด 2 มิติด้วยมือล้วนๆ ราคาอาจจะวิ่งไปถึงแปดเก้าหมื่นหยวนต่อนาทีได้ ตอนนี้เลยไม่ได้ทําแบบนั้นแล้วครับ”
“เพราะการวาด 2 มิติด้วยมือต้องใช้จิตรกรต้นฉบับจำนวนมาก แอนิเมชัน 2D เมื่อก่อนจึงถูกมองว่าเป็นอุตสาหกรรมใช้แรงงานหนัก และราคาของจิตรกรต้นฉบับก็แพงมากด้วย ตอนนี้เทคโนโลยี 3 ต่อ 2 เติบโตเต็มที่แล้ว ทําให้ประหยัดได้มากขึ้น กําลังคนน้อยลง ดังนั้นต้นทุนจึงลดลงเล็กน้อยครับ”
เฉินโม่พยักหน้า โลกคู่ขนานยังคงแตกต่างจากชีวิตก่อนหน้านี้ แน่นอนว่าเทคโนโลยีนั้นได้เปลี่ยนโลก
เฉินโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง
ซีซั่นแรกกับสองล้านจะแพงไปไหมนะ
อันที่จริงแล้ว เทียบกับการทํารายได้ของ ‘My name is MT’ ถือว่าไม่แพงเลย หาก ‘My name is MT’ สามารถประสบความสําเร็จได้เหมือนในชีวิตก่อน ใช้เวลาแค่เดือนเดียวในการหารายได้มาคืนสําหรับแอนิเมชันทั้ง 10 ซีซั่น
นอกจากนี้ ‘My name is MT’ ไม่มีฐานคนดูที่ดีขนาดนั้นในโลกนี้ หากคุณภาพไม่ดีพอหรือ IP นี้ไม่ได้รับความนิยม เฉินโม่จะสูญเสียครั้งใหญ่
เสียเงินเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เขาพนันกับคนอื่นไปแล้ว!
ดังนั้น เฉินโม่จึงไม่กล้าประหยัดเงินสำหรับแอนิเมชัน จะแพงก็ไม่สำคัญ ขอแค่มีคุณภาพก็พอไหว!
เฉินโม่พูดอย่างจริงจัง “โอเค ผมตัดสินใจแล้วว่าจะทำตามมาตรฐานระดับสูง แต่ถ้าผมออกแบบตัวละครและสคริปต์เอง ก็น่าจะประหยัดเงินได้บ้าง”
กัวเฟิงพยักหน้า “แน่นอนครับ ถ้าคุณไม่รวมถึงสคริปต์ การออกแบบตัวละคร สตอรี่บอร์ดและอื่นๆ เข้าไปด้วย ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะลดลงเล็กน้อย แต่จะไม่มากเกินไป อาจจะ 10% ครับ”
เฉินโม่อดกุมหน้าผากไม่ได้ ถึงประหยัดค่าใช้จ่ายได้แต่ก็ไม่มาก แต่ถ้าคํานวณดีๆ ก็สามารถเก็บไว้ได้ถึงสองแสนหยวนซึ่งเป็นเงินจริง
กัวเฟิงพูดอีกว่า
“แต่ถ้าคุณมีสคริปต์ และแบบตัวละครไว้แล้วก็ขอรบกวนให้คุณร่วมมือกับพนักงานของเราอย่างใกล้ชิดด้วยนะครับ สิ่งสำคัญคือ ต้องทำให้การตั้งค่า และสตอรี่บอร์ดเหล่านี้เสร็จสิ้นในเวลาที่เหมาะสม พยายามอย่าทำการเปลี่ยนแปลงบ่อย เพื่อไม่ให้ส่งผลต่อความก้าวหน้าในการผลิตในภายหลัง”
เฉินโม่พยักหน้า “เข้าใจแล้วครับ เอาอย่างนี้ อาทิตย์หน้าเป็นปลายเดือน ผมจะให้ตัวละคร สคริปต์ และสตอรี่บอร์ดที่เกี่ยวข้องของซีซั่นแรกกับคุณ จากนั้นเราจะเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ”
……………………