บทที่ 143 เนื้อหาเกมที่หลากหลาย
หลินเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจ ทำไมถึงมีคุณสมบัติมากมายขนาดนี้
เห็นได้ชัดว่าคุณสมบัติในแผนผังแปดทิศเหล่านี้ต้องเป็นคุณสมบัติที่ตัวเอกสามารถใช้ได้ ในที่นี้ไม่ได้รวมถึงกำลังภายใน ความแข็งแกร่ง วิชาตัวเบาที่เป็นคุณสมบัติทั่วไปของจอมยุทธ์ในเกมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเขียนอักษร ทักษะทำอาหาร พิธีชงชาและอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับวรยุทธ์
มีความเป็นไปได้เพียงสองอย่างเท่านั้น อาจเป็นกลเม็ดที่ผู้พัฒนาเพิ่มเข้ามาเพื่อข่มขู่ผู้อื่น หรือผู้ออกแบบได้รวมคุณสมบัติเหล่านี้ไว้ในระบบเกมและกลายเป็นเนื้อหาสำคัญของเกม
หลินเสวี่ยเลื่อนเมาส์ไปเหนือความสามารถพิเศษทั้งสามอีกครั้ง และเธอพบว่าความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันมีผลต่างกัน
นอกเหนือจากความสามารถพิเศษที่ให้คุณสมบัติแล้ว ยังมีความสามารถพิเศษบางอย่างที่คาดไม่ถึงเช่น ‘อารมณ์อ่อนไหว’ สามารถเพิ่มประสบการณ์ที่ได้รับในการฝึกฝนทักษะ 100% เพิ่มคะแนนกลยุทธ์ระหว่างการต่อสู้ +1 และเพิ่มทักษะเป็น 120 คะแนน
นอกจากนี้ยังมี ‘จิตใจโหดเหี้ยม’ ยิ่งค่าศีลธรรมยิ่งต่ำ คะแนนการโจมตียิ่งสูงขึ้น
หลินเสวี่ยสุ่มอยู่หลายครั้ง มองจนรู้สึกเวียนหัว การตั้งค่านี้ไม่เป็นมิตรกับผู้เล่นที่มีปัญหาในการเลือกเลยจริงๆ
หลินเสวี่ยพยายามอยู่พักหนึ่ง และในที่สุดก็เลือกชุดคุณสมบัติและความสามารถพิเศษที่เธอพอใจ และเริ่มเกมอย่างเป็นทางการ
เนื้อหาในช่วงแรกของเกมนั้นคล้ายกับเกมจอมยุทธ์และเกมเทพเซียนทั่วไป เป็นการเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วเมือง รวบรวมไอเท็ม พูดคุยกับ NPC สิ่งนี้คล้ายกับเกมปริศนาขนาดใหญ่ ไอเท็ม A จะถูกแลกเปลี่ยนเป็นไอเท็ม B จากนั้นจึงแลกเปลี่ยนไอเท็ม C ท้ายที่สุด หลังจากแลกเปลี่ยนกันหลายครั้งก็สามารถรับไอเท็มหรืออาวุธที่ตัวเอกสามารถใช้ได้
ในขณะที่เล่นหลินเสวี่ยอธิบายกับเพื่อนๆ ในห้องแชตสด
“ความเป็นจีนของเกมนี้ใช้ได้เลย ทิวทัศน์ NPC ภารกิจ สไตล์ฉาก เพลงประกอบล้วนให้ความรู้สึกเหมือนจริง แม้ว่ามันจะไม่คลาสสิกเท่า ‘Warcraft’ แต่ก็ให้ความรู้สึกสบาย”
“ภารกิจค่อนข้างซับซ้อน มีการไขปริศนา แต่มีคุณสมบัติมากเกินไปจนไม่รู้ว่าคุณสมบัติพวกนี้มีประโยชน์อะไรบ้าง มันทำให้ฉันรู้สึกสับสนเล็กน้อย”
ช่วงแรกของ ‘Wulin Legend’ ค่อนข้างไม่เป็นมิตรกับมือใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อผู้เล่นท่องไปทั่วเมืองลั่วหยาง เพราะโดยพื้นฐานแล้วตัวเอกไม่เป็นวรยุทธ์เลยใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเดินไปรอบๆ และรวบรวมสิ่งของซึ่งอาจทำให้ผู้เล่นรู้สึกหงุดหงิด
แต่เฉินโม่ได้พยายามแก้ไขบางอย่างโดยการปรับปรุงศิลปะ ดนตรีและคำแนะนำเบื้องต้น ซึ่งชดเชยข้อบกพร่องนี้ได้ในระดับหนึ่ง
ข้อบกพร่องประเภทนี้ยากที่จะแก้ไขได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากเนื้อหาของเกมใน ‘Wulin Legend’ นั้นเข้มข้นเกินไป แม้ว่าจะมีการวางแผนเส้นทางสำหรับผู้เริ่มต้นและจัดทำคู่มือสำหรับผู้เริ่มต้นแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นที่จะเข้าใจในการเล่นครั้งแรก ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่จำกัดการพัฒนาเกมนี้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ความสนุกหลักของ ‘Wulin Legend’ ก็อยู่ที่ตรงนี้ มันเป็นเกมที่มีเนื้อหาเข้มข้นมากและควรค่าแก่การลองเล่นซ้ำ
โชคดีที่หลินเสวี่ยสนใจเกมประเภทนี้มาก ดังนั้นเธอจึงเล่นต่อด้วยความสนใจ
หลังจากเดินไปรอบๆ เมืองลั่วหยางเป็นเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง หลินเสวี่ยก็จัดการให้ตัวเอกไปพบกู่เยวี่ยเสวียนในโรงเตี๊ยม และดื่มสุราที่มีพิษจากเสวียนหมิงจื่อ
หลังจากนั้นเกมก็เปลี่ยนไปเป็นหน้าจอพัฒนาเวอร์ชันน่ารัก
“ฮะ นี่มันอะไรกัน!”
หลินเสวี่ยตกใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นหน้าจอการพัฒนาเช่นนี้
ในเกมอื่นๆ เช่นเกมแนวเทพเซียนส่วนใหญ่ วิธีการที่ตัวเอกจะพัฒนาได้คือการต่อสู้กับมอนสเตอร์อย่างต่อเนื่องเพื่ออัปเกรดและได้รับประสบการณ์
โหมดการพัฒนาประเภทนี้มักจะปรากฏในเกมพัฒนาสไตล์ญี่ปุ่นหรือ Interactive Fiction game เท่านั้น
ในเนื้อเรื่องต่อไปนี้ ตัวเอกพักฟื้นในหุบเขา และหลังจากหายจากอาการบาดเจ็บ เขาก็เข้าสู่หุบเขาเซียวเหยาและกลายเป็นศิษย์คนที่สามของหุบเขาเซียวเหยา อู๋เสียจื่อเริ่มถ่ายทอดกำลังภายใน ทักษะการใช้กระบี่และอื่นๆ คุณสมบัติของตัวเอกก็เริ่มดีขึ้นเช่นกัน
หลินเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจ “หือ โหมดพัฒนานี้น่าสนใจทีเดียว”
ในโหมดการพัฒนาสไตล์ภาพน่ารักนี้ เมื่อรวมกับเพลงที่ผ่อนคลายและข้อความตลกๆ หลินเสวี่ยตระหนักได้ว่าโหมดการพัฒนานี้เหมาะสมกับแนวคิดของการฝึกฝนในหุบเขาอย่างสมบูรณ์แบบ
นอกจากนี้ยังมีเนื้อหามากมายระหว่างการฝึกฝน นอกเหนือจากการเรียนรู้ทักษะวรยุทธ์แล้วยังรวมถึงทักษะที่ดูเหมือนไร้ประโยชน์ เช่น ทักษะทางการแพทย์ ศิลปะสี่แขนง การตีเหล็กและการทำอาหาร
ทักษะเหล่านี้มีประโยชน์จริงๆ เช่นในบางสถานการณ์ต้องการความรู้ที่เกี่ยวข้องจึงจะสำเร็จ ไม่อย่างนั้นภารกิจจะล้มเหลวและความชื่นชอบของตัวละครที่เกี่ยวข้องจะลดลง
ยิ่งเล่นไปเรื่อยๆ หลินเสวี่ยรู้สึกว่าเกมนี้น่าสนใจมาก
เกมยังคงอยู่ในโหมดการพัฒนาในขณะที่ฝึกฝนในหุบเขา ในช่วงเวลานี้เธอสามารถจัดกิจกรรมของตัวเอกได้อย่างอิสระหรือออกไปเที่ยวกระตุ้นเหตุการณ์ต่างๆ หรือฝึกวรยุทธ์ในสำนัก หรือฝึกทักษะชีวิตอื่นๆ ตามที่เธอต้องการ
นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์บางอย่างที่จะเกิดขึ้นในบางวันเช่น ในช่วงปีใหม่ ตัวเอกและศิษย์พี่ทั้งสองจะไปอวยพรปีใหม่กับอาจารย์และกล่าวแสดงความยินดี หรือในช่วงเทศกาลไหว้พระจันทร์ อาจารย์จะให้คำถามเพื่อทดสอบตัวเอก และถ้าตอบถูกก็จะได้รับรางวัล
ในช่วงเวลาฝึกฝน อาจารย์จะมอบงานบางอย่างให้กับตัวเอกและศิษย์พี่เป็นครั้งคราว เช่น ลงเขาเพื่อไปแสดงความยินดี เข้าร่วมพิธีสารทจีน ปราบปรามขับไล่ศัตรู เป็นต้น
เมื่อเสร็จภารกิจเหล่านี้ก็จะกลับสู่โหมดสำรวจแผนที่ ตัวเอกเริ่มมาที่วัดเส้าหลิน ภูเขาอู่ตัง และเมืองหางโจวและสถานที่อื่นๆ เพื่อสัมผัสกับเหตุการณ์ใหม่ ค่อยๆ ทำความรู้จักกับจอมยุทธ์ใหม่และทำความเข้าใจกับยุทธจักรแห่งนี้
ยิ่งไปกว่านั้น โหมดต่อสู้ของเกมนี้ยังทำให้หลินเสวี่ยรู้สึกแปลกใหม่อีกด้วย
การต่อสู้นั้นอยู่ในรูปแบบของหมากรุกสงครามแบบผลัดกันเล่น ซึ่งไม่ใช่รูปแบบใหม่อะไร แต่สิ่งที่ทำให้หลินเสวี่ยประหลาดใจก็คือเฉินโม่ผสมผสานวรยุทธ์ก่อนหน้านี้เข้ากับโหมดการต่อสู้นี้อย่างสมบูรณ์แบบ
กำลังภายในเทียบเท่ากับทักษะติดตัว การฝึกกำลังภายในสามารถเพิ่มค่ากำลังภายใน และเอฟเฟ็กต์พิเศษของกำลังภายในสามารถใช้ร่วมกับทักษะเชิงรุก
ทักษะเชิงรุกหรือก็คือผลลัพธ์ที่ต่างกันของวรยุทธ์ วรยุทธ์แต่ละอย่างมี 2~3 กระบวนท่าซึ่งแบ่งออกเป็นการโจมตีเดี่ยวและการโจมตีหมู่ และยังมีเอฟเฟ็กต์ที่แตกต่างกันด้วย เช่น วิชาหมัดบางอย่างสามารถกระตุ้นการโจมตีหลายครั้งได้ โจมตีสองครั้งในรอบเดียวกัน
ระบบการต่อสู้นี้ซับซ้อนเล็กน้อยสำหรับหลินเสวี่ย แต่โชคดีที่วรยุทธ์ของตัวเอกเรียนรู้ไปทีละนิด ในช่วงแรกมีเพียงวรยุทธ์ประเภทเดียวและสองสามกระบวนท่า ดังนั้นมันจึงไม่ยากเกินไป
“เกมนี้น่าสนใจมาก ถ้าเข้าใจแล้วจะหยุดเล่นไม่ได้!” หลินเสวี่ยพูดด้วยความประหลาดใจ
มีการพูดคุยกันในแชต
“อาเสวี่ยติดงอมแงมไปแล้ว…”
“ใช่ ฉันรู้สึกว่าเธอมีสมาธิกับการเล่นมาก ก่อนหน้านี้เธอยังคงแชตอยู่ แต่หลังจากนั้นเธอไม่พูดแล้ว”
“แต่เกมนี้ดูเหมือนจะสนุกจริงๆ เนื้อหาค่อนข้างเข้มข้น ฉันไม่ได้คาดหวังว่าเกมจอมยุทธ์จะเป็นโลกที่เปิดกว้างเช่นนี้!”
“ใช่ มันซับซ้อนจริงๆ แล้วยังมีการเพิ่มศิลปะสี่แขนงเข้าไปด้วย!”
“ฉันอยากเล่นด้วย มันดาวน์โหลดได้ไหม”
“ไม่ได้ มันยังไม่เปิดตัว เล่นได้แค่ใน Experience Store ของเฉินโม่เท่านั้น”
“ทำไมรู้สึกเหมือนอาเสวี่ยโง่จัง…ฉันอยากเล่นให้เธอจริงๆ!”
……………