บทที่ 145 เพลงนี้ผมซื้อ!
โจวอี้เฟิงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง “อ้อ เพลงดีเหรอ”
ผู้จัดการพยักหน้า “ใช่ อีกฝ่ายส่งเนื้อเพลง ดนตรี หรือแม้แต่เดโม่ของเพลงมาให้ ก่อนหน้านี้พวกเขาหานักร้องนำธรรมดามาร้อง แต่ลูกค้าไม่ปลื้ม ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาถึงติดต่อมาหาเรา”
โจวอี้เฟิงรู้สึกหงุดหงิด เขาต้องการที่จะปฏิเสธ แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ผู้จัดการพูด เขาเลยตัดสินใจที่จะฟัง
ในความเป็นจริง เป็นเรื่องปกติมากที่ละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ และแม้แต่เกมต่างๆ มักจะขอให้นักร้องร้องเพลงประกอบ เช่นเดียวกับชีวิตก่อนของเฉินโม่ ‘Asura’ ที่แต่งโดยหลินซี ร้องโดยเฉินอี้ซวิ่น ได้ดึงเอารูปแบบที่น่าสนใจของเกมนี้ออกมา
แต่โดยรวมแล้ว บริษัทเกมส่วนใหญ่ไม่สามารถจ้างดาราดังได้และก็ไม่มีความจำเป็นด้วย การจ้างดาราดังส่วนใหญ่เป็นเพียงกลไกเพื่อให้เกมเป็นที่นิยม
เมื่อโจวอี้เฟิงได้ยินว่าเป็นบริษัทเกม เขาก็ปฏิเสธที่จะยอมรับโดยสัญชาตญาณ
เป็นไปไม่ได้แน่นอนที่บริษัทเกมจะแต่งเนื้อร้องและดนตรีด้วยตัวเอง แม้ว่าพวกเขาจะไปหาผู้เชี่ยวชาญในวงการมาแต่งเนื้อร้องและดนตรีก็คงไม่ได้ดีกว่านี้มากนัก เป็นไปได้มากว่าพวกเขาจะไม่ดึงดูดสายตาของโจวอี้เฟิง
หากเนื้อเพลงและดนตรีไม่ดีการร้องเพลงนี้ของโจวอี้เฟิงก็เหมือนกับการรับโฆษณา แค่ใช้ความนิยมของตัวเองเพื่อเพิ่มความนิยมของอีกฝ่ายซึ่งโดยพื้นฐานแล้วไม่มีประโยชน์สำหรับเขา
แต่เนื่องจากผู้จัดการบอกว่าเพลงนี้ไม่เลวและยังส่งเดโม่ให้ โจวอี้เฟิงจึงตัดสินใจให้เวลาสามนาทีของวันนี้เพื่อฟังมันก่อนที่จะตัดสิน
โจวอี้เฟิงหยิบหูฟัง
การเรียบเรียงในตอนเริ่มต้นก็ไม่เลว และเมโลดี้ก็ยอดเยี่ยมเช่นกัน สามารถดึงดูดความสนใจของโจวอี้เฟิงได้
เมื่อเนื้อเพลงออกมา โจวอี้เฟิงก็อดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้าง
‘กระบี่ของข้าเงื้อง่าไม่ปลงใจ รักหรือชังไม่อาจเลือกสักทาง’
‘ดาบของข้ากรีดผ่านนภากว้าง ถูกหรือผิดคล้ายเข้าใจแต่กลับไม่’
‘ข้าเมามายในม่านหมอก บุญคุณความแค้นเพียงภาพลวงตา’
‘ข้าสร่างเมาในฝันสวย ชีวิตหรือความตายสุดท้ายล้วนว่างเปล่า’
บรรทัดเหล่านี้ดูเหมือนเรียบง่าย แต่ให้ความรู้สึกว่าเกี่ยวข้องกับยุทธจักรทันที! ไม่ว่าจะเป็นฉากอันโหดร้ายหรือความอ่อนโยน เนื้อเพลงนี้ได้ถ่ายทอดความรู้สึกเหล่านั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไม่เพียงแค่นั้น แต่ยังแสดงความรู้สึกของจอมยุทธ์ที่ท่องยุทธจักรเพียงลำพัง เอนกายพิงกระบี่ด้วยความเมามายออกมาได้อย่างชัดเจน!
ทำนองเปลี่ยนเข้าสู่ช่วงฮุก
‘มาเร็ว ไปเร็ว คับแค้นใจที่ไม่อาจเคียงคู่’
‘รักง่าย หน่ายเร็ว แล้วหายไปกับสายลม’
‘หัวเราะสักครั้ง ถอนใจสักหน ส่งเสียงแห่งความสุข และเสียงแห่งความทุกข์ตรม!’
‘ผู้ใดหนอจะร่วมเป็นร่วมตายไปกับข้า’
‘ผู้ใดหนอจะร่วมเป็นร่วมตายไปกับข้า’
โจวอี้เฟิงรู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเขาดูเหมือนจะเดือดและมือของเขาสั่นเล็กน้อย เขามีความรู้สึกที่ไม่สามารถควบคุมได้ราวกับว่าทุกเซลล์ในร่างกายกำลังกระโดดด้วยความดีใจ!
โจวอี้เฟิงฟังท่องฮุกของเพลงเพียงครั้งเดียวและจำมันได้อย่างแม่นยำ ไม่มีทาง เพลงนี้ดีมาก!
โจวอี้เฟิงเพิ่มระดับเสียงของหูฟังและฟังเป็นครั้งที่สอง!
เพลงนี้ฟังครั้งแรกเหมือนจะธรรมดา ไม่มีโน้ตสูงหรือท่อนเปลี่ยนที่ซับซ้อน ทำให้ดูเหมือนว่าใครๆ ก็ร้องได้ แต่ความรู้สึกของเพลงนี้ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะร้องได้
ถึงแม้โจวอี้เฟิงจะตื่นเต้นเมื่อได้ยินเพลงนี้ แต่เขาก็ฟังออกว่านักร้องคนนี้ไม่สามารถควบคุมเพลงนี้ได้เลย แม้ว่านักร้องจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกของเพลง แต่พวกเขาก็ทำไม่ได้
โจวอี้เฟิงเดาว่านี่จะต้องเป็นเหตุผลที่ต้องการเปลี่ยนนักร้อง!
เพลงนี้ไม่แข็งกระด้างหรือนุ่มนวล ไม่มีมาดบุรุษหรืออ่อนหวานอย่างสตรี หากจะใช้คำเดียวเพื่ออธิบายความรู้สึกของเพลงนี้ ก็คงเป็น ‘สง่างาม’
เพลงนี้ควรแสดงความรู้สึกของจอมยุทธ์พเนจรที่เดินทางหลายพันลี้ พบสหายรู้ใจร่วมดื่มสุรา ร่วมเป็นร่วมตายไปด้วยกัน จำเป็นต้องร้องเพลงด้วยน้ำเสียงที่สง่างามและไร้ความกังวล แต่น้ำเสียงต้องไม่สบายจนเกินไป
ยิ่งโจวอี้เฟิงฟังมากเท่าไร เขาก็ยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นเท่านั้น เขารีบพูดกับผู้จัดการของเขาว่า “เร็วเข้า บอกอีกฝ่ายว่าผมจะร้องเพลงนี้ ถามพวกเขาว่าลิขสิทธิ์เพลงนี้ขายได้เท่าไหร่ ผมจะซื้อมัน!”
………….
กัวเฟิงโทรหาเฉินโม่
“ผมมีข่าวดีมาแจ้งสองเรื่อง คุณอยากฟังเรื่องไหนก่อน” กัวเฟิงพูด
เฉินโม่ “…”
กัวเฟิงพูด “ข่าวแรกคือโจวอี้เฟิงชอบเพลงนี้มากและตกลงที่จะร้องเพลงนี้ ข่าวที่สองคือโจวอี้เฟิงชอบเพลงนี้มากและต้องการคุยกับคุณเกี่ยวกับการซื้อลิขสิทธิ์”
เฉินโม่พูด “อ้อ ไม่ขาย”
กัวเฟิงพูดไม่ออก เขานึกว่าเฉินโม่จะมีความสุขมาก แต่เฉินโม่กลับปฏิเสธอย่างเรียบง่าย!
เดิมทีหากเป็นเพียงให้โจวอี้เฟิงร้องเพลง เฉินโม่จะต้องจ่ายเงินเป็นจำนวนมาก แต่ตอนนี้โจวอี้เฟิงชอบเพลงนี้และต้องการซื้อลิขสิทธิ์ ทั้งสองฝ่ายจึงมีความสัมพันธ์แบบให้ความร่วมมือ ถ้ามันขายดีก็อาจจะได้ค่าตอบแทนเล็กๆ น้อยๆ
แต่กลับกลายเป็นว่าเฉินโม่ไม่ยินดี
กัวเฟิงพูด “…คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ พวกเขาค่อนข้างจริงจังกับเรื่องนี้ พวกเขาไม่เพียงแค่ซื้อเพลง แต่พวกเขากำลังเพิ่มเพลงลงในอัลบั้มของพวกเขาและจะให้ส่วนแบ่งกำไรแก่คุณ”
เฉินโม่พูด “แล้วมันต่างกันตรงไหน”
กัวเฟิงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่ง “ส่วนแบ่งจะสูงกว่าการซื้อขาด ขนาดก็จะต่างไปจากเดิม”
เฉินโม่พูด “สรุปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาดหรือส่วนแบ่ง ทุกอย่างเกี่ยวกับเงินใช่ไหม”
กัวเฟิงพยักหน้า “ใช่ มันเกี่ยวกับเงิน”
เฉินโม่พูด “คุณคิดว่าผมเป็นคนขาดเงินเหรอ”
กัวเฟิง “ไม่…”
เฉินโม่พูด “แล้วทำไมผมต้องขายมันด้วยล่ะ”
กัวเฟิงพูดไม่ออก “ถ้าไม่ขายคุณจะเก็บไว้ทำอะไรล่ะ เก็บไว้ให้ลูกเหรอ”
เฉินโม่พูด “ผมชอบเพลงนี้ ผมมีความสุขที่ได้เก็บมันไว้กับตัว”
กัวเฟิงรู้สึกหมดหนทาง เขาตอบหลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่งว่า “มีอีกประเด็นหนึ่ง โจวอี้เฟิงบอกว่าเขาวางแผนที่จะใส่เพลงนี้ในอัลบั้มใหม่ของเขาเป็นเพลงหลัก เขามีอิทธิพลอย่างมากในแผ่นดินใหญ่ ถ้าเพลงนี้ได้รับความนิยม มันน่าจะส่งเสริมเกมของคุณด้วยไม่ใช่เหรอครับ”
เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็จริง งั้นก็ได้ ผมจะพิจารณาเรื่องขายเพลงนี้ให้เขา ถ้าเขาร้องให้ผมพอใจได้”
กัวเฟิงพูด “โอเคครับ ผมส่งหมายเลขโทรศัพท์ของผู้จัดการของเขาให้คุณ คุณสามารถเจรจากันได้ด้วยตัวเอง ถ้าคุณไม่พอใจ คุณหาคนอื่นได้ แต่มีนักร้องชายในประเทศไม่กี่คนที่ร้องได้ดีกว่าเขา ผมหวังว่าคุณจะพอใจ”
………….
หลังจากพูดคุยกัน ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ตกลงกันได้ เฉินโม่ขายลิขสิทธิ์เพลงนี้ให้กับโจวอี้เฟิงและตกลงที่จะรับเงินส่วนหนึ่งของการขายอัลบั้ม เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับส่วนแบ่ง อย่างไรทั้งสองฝ่ายก็ได้รับประโยชน์จากสิ่งนี้
สำหรับโจวอี้เฟิง เขาได้เพลงที่ดีและสำหรับเฉินโม่ก็เป็นโอกาสในการโปรโมตที่ดีเช่นกัน
ในชีวิตก่อนเพลง ‘กระบี่ดั่งความฝัน’ ร้องโดยโจวฮว๋าเจี้ยน เช่นเดียวกับ ‘คัมภีร์ที่ยากหยั่งถึง’ เป็นเพลงแนวคลาสสิกจอมยุทธ์จีนสุดอมตะ
อันที่จริง เฉินโม่ชอบเพลง ‘คัมภีร์ที่ยากหยั่งถึง’ มากเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้ว เพลงนั้นเป็นภาษาจีนกวางตุ้ง การนำมาเป็นเพลงหลักของ ‘Wulin Legend’ คงจะแปลกไปหน่อย ดังนั้นเฉินโม่จึงเลือก ‘กระบี่ดั่งความฝัน’ เวอร์ชันจีนมา
อันที่จริง ในตอนแรกเฉินโม่ก็คิดเหมือนกันว่าจะทำยังไงให้ ‘Wulin Legend’ ได้รับความสนใจในวงกว้าง
จะใช้วิธีการทำแอนิเมชันและ CG ก่อนหน้านี้คงไม่ดี ยังไงธีมมันก็ต่างกัน ธีมจอมยุทธ์ให้ความสำคัญกับแนวคิดทางศิลปะมากกว่าภาพ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเฉินโม่จึงตัดสินใจเลือกเพลงธีม
ส่วนผู้เล่นในโลกนี้ยอมรับหรือไม่ จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อเกมเปิดตัวเท่านั้น
……………