บทที่ 207 เก็บขยะ
ภายใน Experience Store ซูจิ่นอวี๋กำลังดูเจี่ยเผิงเปิดเกม ‘Don’t Starve’ ด้วยความตื่นเต้น
“ลองเล่นสักหน่อยสิ ไม่โกหกเลย มันสนุกมากจริงๆ!” ซูจิ่นอวี๋พูด
เจี่ยเผิงปาดเหงื่อ “อะแฮ่ม ปลาทอง ใจเย็นๆ เธอขายเกมนี้หนักมากขนาดนี้แสดงว่าเธอเป็นคนสร้างเองใช่ไหม”
ซูจิ่นอวี๋พูด “ถูกต้อง แต่ผู้จัดการได้ให้คำแนะนำบางอย่าง”
เจี่ยเผิงไม่ค่อยเชื่อนัก “ถ้าจำไม่ผิด เกมที่เธอสร้างครั้งล่าสุดคือ ‘Lifeline’ ส่วนโครงเรื่องเจิ้งหงซีเป็นคนเขียน…”
ซูจิ่นอวี๋พูด “แล้วไง นายไม่เชื่อใจฉันเหรอ”
เจี่ยเผิงพูด “อะแฮ่ม ไม่มีอะไร ฉันจะเล่น”
ถึงจะดูไม่ค่อยเชื่อซูจิ่นอวี๋เท่าไร แต่เจี่ยเผิงก็เริ่มเกม
‘Don’t Starve’ ก็เหมือนกับ ‘Plants vs. Zombies’ มีให้บริการทั้งบนคอมพิวเตอร์และมือถือและรองรับการเล่นข้ามแพลตฟอร์ม แน่นอนว่าเมื่อพิจารณาถึงวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันบนสองแพลตฟอร์ม พื้นที่แนะนำบนคอมพิวเตอร์และมือถือจะแตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม บัญชีทั้งหมดสามารถเข้าร่วมแพลตฟอร์มไหน ทีมไหนก็ได้
เมื่อเข้าสู่เกม สิ่งแรกที่เจอคือ CG
ใน BGM ที่แปลกประหลาด สนุกสนาน และมืดมน มีนกตัวหนึ่งมาที่หน้าต่างบ้านหลังเล็กหลังหนึ่ง กล้องตัดผ่านหน้าต่าง เผยให้เห็นการทดลองที่ล้มเหลวของวิลสัน เขานั่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยความหงุดหงิด
ทันใดนั้น วิทยุที่อยู่ข้างๆ เขาก็พูดขึ้น
“ดูเหมือนคุณกำลังมีปัญหา”
“ฉันมีความลับบางอย่างที่จะแบ่งปันกับคุณ”
“ถ้า…คุณพร้อมอะนะ”
วิลสันมีความสุขมากและพยักหน้าอย่างรีบร้อน
“โอเค งั้น…”
เงาที่น่าสะพรึงกลัวแวบผ่าน ตามด้วยความรู้จำนวนนับไม่ถ้วนที่หลั่งไหลเข้ามาในจิตใจของเขา
วิลสันเริ่มการทดลองอีกครั้ง
หนู ตะปู ล้อเฟือง เชื่อมโลหะ เลือด สังเวย…
ในที่สุด เขาก็สร้างพอร์ทัลแปลกๆ ขึ้นมา
“ดีมาก เปิดสวิตช์เดี๋ยวนี้”
วิลสันลังเล
“เปิดเดี๋ยวนี้!!”
วิลสันดึงคันโยก ในตอนนั้นเองก็มีเงาดำประหลาดหลายตัวโผล่ขึ้นมาจากพื้น จากนั้นคว้าตัววิลสันก่อนจะดึงเขาลงไปที่พื้น
CG จบลงและหน้าจอเข้าสู่เกมอย่างเป็นทางการ
ภาพเริ่มต้นนั้นเรียบง่ายมาก ด้วยรูปแบบเดียวกับภาพที่ประชาสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ให้ความรู้สึกตลกร้าย
มีสี่ตัวเลือกหลัก ได้แก่ [เริ่มเกม] [โมดูล] [ตัวเลือก] และ [ออก]
จากบทนำก็รู้ได้ว่านี่เป็นเกมเอาชีวิตรอด เจี่ยเผิงรู้สึกโดยสัญชาตญาณว่าเกมนี้น่าจะยาก ดังนั้นก่อนอื่นให้ค้นหาใน [โมดูล] และ [ตัวเลือก] เพื่อดูว่ามีการตั้งค่าเพื่อลดความยากของเกมหรือไม่
[โมดูล] มีม็อดที่ซูจิ่นอวี๋สร้างไว้ล่วงหน้าหลายรายการ เช่น [เรขาคณิตสถาปัตยกรรม] [แสดงคุณลักษณะของอาหาร] [เปิดแถบสถานะไว้] เป็นต้น
ม็อดเหล่านี้เทียบเท่ากับม็อดทางการ โดยพื้นฐานแล้วม็อดจะไม่ทำลายระบบตัวเลขและความสมดุลของเกม และในขณะเดียวกันก็สามารถให้คำแนะนำแก่ผู้เล่นมือใหม่เพื่อไม่ให้สับสนเกินไป
เจี่ยเผิงสุ่มเลือกม็อดสองสามตัวเพื่อติดตั้ง เขาดูตัวเลือกอีกครั้ง ที่นี่มีการตั้งค่ามากเกินไปจนเจี่ยเผิงรู้สึกหนักใจเล็กน้อย แต่เขาตัดสินใจที่จะเริ่มเกมภายใต้การจับตามองของซูจิ่นอวี๋
[โลกกำลังถูกสร้างขึ้น…]
[เลียนแบบเคราของวิลสัน…]
[การจัดการกับทฤษฎีเกม…]
[กำลังเพิ่มมอนสเตอร์ที่น่ากลัว…]
เมื่อเข้าสู่หน้าจอเกม สไตล์การวาดภาพโดยรวมจะเหมือนกับภาพโปรโมตเพียงแต่มีสีที่เข้มกว่า แต่ไม่ใช่ความรู้สึกสยองขวัญเหมือน ‘Diablo’ แต่เป็นความตลกร้ายที่แข็งแกร่ง
ภูมิประเทศ ต้นไม้ และแม่น้ำในโลกนี้ล้วนเหมือนภาพสเก็ตช์ที่เรียบง่าย ซึ่งนำเสนอตัวเองเป็นสไตล์ที่ไม่เหมือนใคร
วิลสันนอนอยู่บนพื้น โดยมีแมกซ์เวลล์พ่อมดหน้ายาวประหลาดยืนอยู่เหนือเขา
“เฮ้ เพื่อน นายดูไม่ปกติเลยนะ”
“หาอะไรกินก่อนตกกลางคืนดีกว่า!”
พูดจบแมกซ์เวลล์ก็หายตัวไป
วิลสันลุกขึ้นจากพื้น กล้องซูมออก และเกมเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ
เจี่ยเผิงคลิกเมาส์ และวิลสันก็เด้งไปมาบนแผนที่
เอฟเฟ็กต์เสียงของทั้งเกมค่อนข้างสมบูรณ์ เสียงวิ่ง เสียงนกร้อง เสียงเก็บของและเสียงสายลมทำให้โลกนี้ดูน่ากลัวน้อยลง
แน่นอน อาจเป็นเพราะนี่เป็นเวลากลางวัน
องค์ประกอบบนแผนที่มีมากมาย มีทั้งต้นอ่อน ต้นใหญ่ ดอกไม้ หญ้า แครอตและอื่นๆ
เจี่ยเผิงหันกลับไป เขาไม่พบมอนสเตอร์ที่เป็นอันตรายในขณะนี้ ดังนั้นเลยรู้สึกโล่งใจเล็กน้อย
ที่มุมบนขวาคือคุณลักษณะหลักสี่ประการ วัน (กลางวันและกลางคืน) ค่าความหิว ค่าทางจิตใจและค่าสุขภาพ ค่าอื่นๆ ก็พอเข้าใจได้อยู่ แต่ค่าจิตใจนี่หมายความว่ายังไง
แต่ค่ายิ่งสูงยิ่งดีสินะ เจี่ยเผิงคิด
วิลสันเดินไปรอบๆ แผนที่ เจี่ยเผิงไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน พูดง่ายๆ ก็คือเห็นที่ไหนก็ไปที่นั่น ในขณะเดียวกันก็เก็บทุกอย่างที่หาได้ระหว่างทางเช่น ต้นอ่อนเล็กๆ หญ้า หิน ผลไม้และอื่นๆ ที่เขาสามารถหยิบได้ไว้กับตัวเขา
เจี่ยเผิงยังมีพื้นที่บนร่างกายอีกมากในตอนนี้ เขาพกสิ่งของเพิ่มได้อีกมาก
หลังจากวิ่งเป็นเวลานาน เจี่ยเผิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาเปิดแผนที่และพบว่าเขาได้สำรวจเส้นทางที่ยาวไกลและแผนที่ก็ใหญ่กว่าที่เขาคิดไว้มาก
“แผนที่ใหญ่มาก!”
เจี่ยเผิงรู้สึกหนักใจเล็กน้อย เขาต้องสำรวจมันถึงเมื่อไหร่!
เก็บหญ้า เก็บกิ่งไม้ เก็บหิน เก็บผลไม้…
หลังจากเก็บรวบรวมไม่กี่นาที เจี่ยเผิงรู้สึกว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติกับการเล่นเกมของเขา ดังนั้นเขาจึงมองไปที่แถบฟังก์ชันทางด้านซ้าย
ตอนนี้มีเพียงหกตัวเลือกเท่านั้น ได้แก่ [เครื่องมือ] [กองไฟ] [การอยู่รอด] [วิทยาศาสตร์] [การต่อสู้] และ [เสื้อผ้า] เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว น่าจะมีตัวเลือกอื่น แต่ยังไม่ปรากฏ
ในนี้มีอุปกรณ์มากมาย เจี่ยเผิงตัดสินใจประดิษฐ์ขวานตามที่เขามีทรัพยากรเพียงพอ
หลังจากเหวี่ยงขวานไม่กี่ครั้ง ต้นไม้ก็ถูกโค่นลง ท่อนไม้หล่นลงบนพื้น
หลังจากหยิบขึ้นมาทีละชิ้น เจี่ยเผิงก็เริ่มศึกษาอุปกรณ์ที่เขาสามารถทำได้
ดูเหมือนว่าอุปกรณ์เหล่านี้จะมีประโยชน์ในตัวเอง แต่เขาไม่รู้ว่าจะหาทรัพยากรเหล่านั้นได้จากที่ไหน ของอย่างเช่นใยแมงมุม เชือก หิน ทองอะไรพวกนี้เขาไม่เคยเห็นมาก่อน
“บางทีฉันน่าจะทำเสียมแล้วเริ่มขุด ใยแมงมุม…อาจจะมีฝูงแมงมุมอยู่ที่ไหนสักแห่ง”
ในขณะที่วิ่งบนแผนที่ เจี่ยเผิงมองไปรอบๆ เพื่อหาสิ่งที่เขาต้องการ
“หือ ที่นี่มีหินก้อนใหญ่!”
เจี่ยเผิงรีบสร้างพลั่วและทุบหินอย่างเมามัน ในไม่ช้า ก้อนหิน ดินประสิวและทองแท่งก็กระจัดกระจายลงบนพื้น
“หือ ไม่เลว ที่นี่มีทองด้วย!”
เจี่ยเผิงรีบเดินไปยังหินก้อนต่อไปแล้วทุบต่อ
แม้ว่าการกระทำนี้จะน่าเบื่อ แต่เจี่ยเผิงก็ยังเล่นต่อไปด้วยความเพลิดเพลิน
เหตุผลหลักคือสามารถรวบรวมทรัพยากรการเอาชีวิตรอดที่หายากได้ และเสียงเคาะหินก็ชัดเจนและเป็นจังหวะทำให้เจี่ยเผิงรู้สึกสนุก
เจี่ยเผิงสั่งให้วิลสันเก็บของทั้งหมดขึ้นมา ในตอนนี้เขาพบเล้าหมูอยู่ข้างหน้า และมีหมูหนึ่งตัวเดินตรงมาทางนี้
……………………