Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! – บทที่ 271 เกมที่ไม่ยาก

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

บทที่ 271 เกมที่ไม่ยาก

“นี่คืองานที่พนักงานห้องหมายเลข 427 ต้องทำวันแล้ววันเล่า ปีแล้วปีเล่า ในขณะที่คนอื่นๆ มองว่างานนั้นน่าเบื่ออย่างน่าเหลือเชื่อ แต่สแตนลีย์ก็เพลิดเพลินทุกครั้งที่มีคำสั่งเข้ามา ราวกับว่าเขาถูกสร้างมาเพื่องานนี้โดยเฉพาะ”

“สแตนลีย์มีความสุข”

เมื่อซูมกล้องออก หน้าจอก็มืดอีกครั้ง และคราวนี้ชื่อเกม ‘The Stanley Parable’ ปรากฏขึ้นบนหน้าจอ

“แล้ววันหนึ่งก็เกิดเรื่องประหลาดขึ้น”

“เหตุการณ์นี้เปลี่ยนสแตนลีย์ไปตลอดกาล ซึ่งชั่วชีวิตนี้ไม่มีวันลืมเลือน”

ภาพปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้สแตนลีย์ยังคงนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แต่ไม่ขยับเขยื้อน

“เขานั่งอยู่หน้าจอแสดงผลเป็นเวลานานก่อนจะรู้ตัวว่าผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว แต่หน้าจอแสดงผลไม่ได้ออกคำสั่งแม้แต่คำเดียว”

“ไม่มีใครออกมาอธิบาย ไม่มีใครขอให้เขาไปประชุม ไม่มีใครแม้แต่จะทักทายเขา ตลอดหลายปีที่เขาทำงานที่บริษัทไม่เคยมีสิ่งนี้เกิดขึ้น สถานการณ์ที่เขาต้องอยู่คนเดียว”

กล้องแสดงให้เห็นที่นั่งอื่นๆ ในสำนักงานซึ่งล้วนแต่ว่างเปล่า

“มีบางอย่างผิดปกติอย่างชัดเจน”

“เขาตกใจและตัวแข็งทื่อ สแตนลีย์พบว่าตัวเองนั่งอยู่ที่นั่นเป็นเวลานาน”

“พอเขาได้สติก็ลุกขึ้นจากโต๊ะและเดินออกจากห้องทำงาน”

ขณะที่กำลังบรรยาย ภาพค่อยๆ เคลื่อนออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ในเกม จ้าวเหล่ยตระหนักว่าตอนนี้เขาสามารถควบคุมสแตนลีย์ให้เริ่มเกมได้แล้ว

“ช่างเป็นการเริ่มต้นที่แปลกประหลาดจริงๆ”

จ้าวเหล่ยรู้สึกงงงวยเล็กน้อย เขาเข้าใจว่าทำไมเฉินโม่ถึงบอกว่าเกมนี้เหมาะกับเขามาก เพราะสแตนลีย์ในเกมนั้นคล้ายกับเขามาก เขาเป็นคนที่มีความผูกพันกับงาน เบื้องหน้าดูมีความสุขและพอใจ แต่ที่จริงมันน่าเศร้า

เช่นเดียวกับงานของสแตนลีย์ เขาใช้งานคีย์บอร์ดตามคำสั่งบนหน้าจอทุกวัน อะไรคือความแตกต่างระหว่างสิ่งนี้กับเครื่องจักร แต่จ้าวเหล่ยก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงงานของตัวเอง แม้ว่ามันจะยุ่งยากกว่า แต่เขาแตกต่างจากที่สแตนลีย์กดคีย์บอร์ดยังไง

จ้าวเหล่ยส่ายหัวเพื่อไล่ความคิดแปลกๆ ในใจออกไป และใช้เมาส์เพื่อควบคุมมุมมองของตัวละครเพื่อสังเกตทุกที่

สำนักงานว่างเปล่าและคับแคบ คอมพิวเตอร์ แฟ้มบนโต๊ะ ตู้เก็บเอกสารและอื่นๆ ใช้งานไม่ได้ทั้งหมด หลังจากที่จ้าวเหล่ยยืนยันเรื่องนี้แล้ว เขาก็หันกลับและเดินออกจากสำนักงาน

ห้องที่มีเครื่องหมาย 428 และ 429 ไม่สามารถเปิดได้

ผู้บรรยายเล่าต่อ

“เพื่อนร่วมงานของเขาหายไปหมด หมายความว่ายังไง”

“สแตนลีย์ตัดสินใจไปที่ห้องประชุม บางทีเขาอาจพลาดบันทึกช่วยจำไป”

BGM ที่เรียบง่ายแต่ให้ความรู้สึกแปลกดังขึ้น แม้ว่าคำบรรยายจะแปลกไปหน่อย แต่ก็เข้ากันได้ดีกับเกม จ้าวเหล่ยไม่รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติถึงขนาดไม่รู้ตัวเลยว่าเกมส่วนใหญ่ไม่ควรมีคำบรรยายแบบนี้

“เมื่อสแตนลีย์มาถึงประตูบานหนึ่งที่เปิดอยู่สองบาน เขาก็เข้าประตูทางซ้าย”

น้ำเสียงของการเล่าเรื่องเป็นธรรมชาติมากราวกับว่ากำลังพูดถึงสิ่งที่มีเหตุผลและเป็นธรรมชาติ จ้าวเหล่ยไม่คิดมากและเดินเข้าไปที่ประตูด้านซ้ายโดยไม่รู้ตัว

จากนั้น คำบรรยายจะแนะนำจ้าวเหล่ยตลอดขั้นตอนของเกมถัดไปในทุกรายละเอียด

เมื่อไปที่ห้องประชุมก็ยังไม่มีใครอยู่ที่นั่น เมื่อไปที่ห้องทำงานของเจ้านายก็ยังไม่มีใครอยู่ที่นั่นอีก

แม้ว่าจะมีทางแยกหลายทาง แต่จ้าวเหล่ยก็ระงับความอยากรู้อยากเห็นของเขาและเดินต่อไปตามคำแนะนำ

“หลังจากตกใจและได้สติขึ้นมา สแตนลีย์ซึ่งรู้สึกสงสัย อยากรู้ว่าใครเป็นคนวางแผนทั้งหมดนี่ มีความลับดำมืดอะไรซ่อนอยู่”

“แต่สิ่งที่เขาไม่มีทางรู้ก็คือมีแป้นพิมพ์ลับอยู่หลังโต๊ะของเจ้านาย ซึ่งปกป้องความจริงที่น่ากลัวที่เจ้านายซ่อนไว้”

“ดังนั้น เจ้านายจึงตั้งรหัสผ่านลับ 2-8-4-5”

“แต่แน่นอน เป็นไปไม่ได้ที่สแตนลีย์จะรู้เรื่องนี้”

จ้าวเหล่ยพบแป้นพิมพ์อย่างรวดเร็วเนื่องจากไม่ได้ถูกซ่อนไว้อย่างดี หลังจากป้อนรหัสผ่านตามคำบรรยาย ประตูลับก็เปิดขึ้นในห้องทำงานของเจ้านาย

“เหลือเชื่อ สแตนลีย์แค่สุ่มป้อนรหัสผ่านบนแป้นพิมพ์ได้ถูกต้อง”

จ้าวเหล่ยอดบ่นผู้บรรยายไม่ได้

เหอะ แป้นพิมพ์นี่ไม่คิดซ่อนไว้อย่างดีเลยสักนิด รหัสผ่านนี้ก็ไม่เห็นจะซับซ้อนอะไร

เดิมทีเขาคิดว่าเกมนี้เป็นเกมปริศนา แต่มันง่ายเกินไป มันไม่นับเป็นปริศนาด้วยซ้ำ จริงไหม กดตัวเลขไม่กี่ตัวตามเสียงบรรยายกลไกก็เปิดออกแล้ว

จ้าวเหล่ยแทบระงับความอยากเข้าไปในประตูลับไม่อยู่

“สแตนลีย์ก้าวเข้าไปในทางเดินที่เพิ่งเปิดใหม่”

เขามาถึงสภาพแวดล้อมที่แตกต่างจากสำนักงานอย่างสิ้นเชิง เช่น สิ่งอำนวยความสะดวกแปลกๆ ที่กำลังก่อสร้าง เขาไปถึงส่วนลึกของอาคารผ่านลิฟต์ที่ส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าด

หลังจากเดินเลี้ยวไปหลายรอบ ประตูก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเขา โดยมีตัวอักษรขนาดใหญ่สองสามตัวเขียนไว้บนนั้นว่า ‘Mind Control Facility’

มีจอมอนิเตอร์นับไม่ถ้วนอยู่บนผนังห้องขนาดใหญ่นี้ สแตนลีย์กดปุ่มเพื่อเปิดใช้งานภาพทั้งหมดบนจอภาพ

รูปภาพเหล่านี้คือสแตนลีย์และเพื่อนร่วมงานของเขา คนเหล่านี้ล้วนอยู่ภายใต้การสอดส่องและไม่มีเสรีภาพใดๆ ทั้งสิ้น

สแตนลีย์มาที่แกนควบคุมและพบว่ามีปุ่มควบคุมอารมณ์ต่างๆ : ‘มีความสุข’ ‘ทุกข์ใจ’ ‘พอใจ’ และอื่นๆ

เขามาที่ห้องควบคุมพลังงานและปิดแหล่งจ่ายไฟหลัก

ในความมืดมีแสงส่องเข้ามา สิ่งที่ดึงดูดสายตาคือท้องฟ้าสีคราม เมฆสีขาว หญ้าสีเขียว ทุกอย่างดูเป็นอิสระ

สแตนลีย์เดินออกจากห้องควบคุมพลังงานโดยมีเสียงดนตรีที่ไพเราะและผ่อนคลายดังคลอ พร้อมด้วยคำชมของผู้บรรยาย

“สแตนลีย์สัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ ที่ปะทะผิวของเขา และเขารู้สึกโล่งใจ ความเป็นไปได้อันยิ่งใหญ่ของเส้นทางใหม่ที่อยู่เบื้องหน้าเขา”

“นี่คือสิ่งที่ควรเกิดขึ้นในขณะนี้”

“สแตนลีย์มีความสุขมาก”

นี่คือจุดสิ้นสุดของเกม เกมกลับสู่หน้าจอชื่อเกมเริ่มต้น

จ้าวเหล่ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย เขาผ่านแล้วเหรอ

แม้ว่าเรื่องราวจะค่อนข้างให้ความรู้และบอกเล่าเรื่องราวของพนักงานที่แสวงหาอิสรภาพ แต่มันง่ายเกินไปหรือเปล่า

และนี่คือเกมจริงๆ เหรอ

อันที่จริงในระหว่างเกมจ้าวเหล่ยมักมีความรู้สึกแปลกๆ อยู่เสมอ ทั้งทางแยกที่มากมาย การบรรยายที่ไม่ชัดเจน เขามักจะรู้สึกว่านี่อาจเป็นเกมสยองขวัญ ไม่แน่ว่าอาจมีพลังงานสูงปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันและทำให้เขาตกใจ

แต่มันก็ไม่มีอะไร แค่ทำตามคู่มือเกมแล้วกดปุ่มสองสามปุ่มเพื่อผ่านด่านอย่างง่ายดาย

จ้าวเหล่ยรู้สึกงงงวย

เขามองไปที่เฉินโม่ซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ เขา อีกฝ่ายมีสีหน้า ‘ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร’ อยู่ตลอดเวลา

จ้าวเหล่ยรู้ดีว่าต้องมีเนื้อหามากมายในเกมนี้ที่เขาไม่เคยค้นพบเลย ดังนั้นเขาจึงเริ่มเกมอีกครั้ง

………………………

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Status: Ongoing
เมื่อนักออกแบบเกมทะลุมิติมายังโลกคู่ขนานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนา ถ้างั้นเขานี่แหละจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการเกมเอง!++นักออกแบบเกมผู้ชอบเพ้อฝัน ‘เฉินโม่’ ถูกส่งมายังโลกคู่ขนานและได้รับภารกิจจากระบบเพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเขามาอยู่ในร่างของเฉินโม่ของโลกนี้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกมแทนเฉินโม่คนก่อนโลกคู่ขนานแห่งนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมเกมเป็นที่ยอมรับแต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนาจนน่าเศร้าเฉินโม่จึงคิดจะใช้ความสามารถในฐานะนักออกแบบเกมที่ติดตัวมาและประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในชีวิตก่อน มาปฏิวัติวงการเกมของโลกนี้!...“Game loading…”“เป้าหมายหลัก: เพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคู่ขนาน”“นับถอยหลังสู่การสลับโลกคู่ขนาน…”“3…”“2…”“1…”“Game Start!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท