บทที่ 362 วงจรอุบาทว์ของความอยากรู้อยากเห็นและความกลัว
ในพื้นที่สนทนาทั่วไปของแพลตฟอร์มเกม Thunder มีหลายโพสต์ดึงดูดความสนใจของผู้เล่น
“‘Outlast’ สนุกมาก! เป็นเกมที่สนุกที่สุดที่ฉันเคยเล่นมาในชีวิต ทุกคนควรมาเล่นมัน!”
“‘Outlast’ สุดสยอง! น่ากลัวไม่คุ้มกับชีวิต อย่ามาเล่น!!”
“ว่ากันว่าทุกคนที่เล่น ‘Outlast’ ล้วนพ่ายแพ้ในสิบนาที มีใครกล้าลองเล่นไหมว่าจะอยู่ได้นานแค่ไหน”
“คุณอาจจะไม่เชื่อ แต่เกมนี้สามารถทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้จริงๆ…”
แม้ว่าโพสต์เหล่านี้จะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ประสบความสำเร็จในการพิสูจน์สิ่งหนึ่ง : ‘Outlast’ เป็นเกมสยองขวัญที่ประสบความสำเร็จอย่างมากและไม่ได้กลายเป็นเกมที่ถูกร้องเรียน!
สิ่งนี้กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของผู้เล่นคนอื่นเกี่ยวกับเกม ‘Outlast’ ได้สำเร็จ
ทุกคนคงสงสัยกันมากว่านี่คือเกมสยองขวัญแนวไหน มันจะน่ากลัวแค่ไหน ตรงไหนที่น่ากลัว ทำไมทุกคนถึงล่าถอยภายในสิบนาที
มันไม่ปลอมเกินไปเหรอ
ผู้เล่นหลายคนในปักกิ่งมีความมั่นใจมาก และบอกว่าพวกเขาจะลองไปเล่น ‘Outlast’ ดู! มันเป็นแค่เกมสยองขวัญจะน่ากลัวขนาดไหนกัน
ไม่นานทุกคนก็แสดงความคิดเห็นใต้โพสต์
“แม้ว่าฉันจะรู้สึกว่าคุณเป็นผู้วิจารณ์ปลอมๆของเฉินโม่ แต่ฉันก็ยังตกเป็นเหยื่อและจะไปที่ Experience Store เพื่อเล่นเกมนี้ในวันพรุ่งนี้”
“เกินไปหรือเปล่า มันเป็นแค่เกมสยองขวัญจะน่ากลัวขนาดไหน”
“พวกหนูขี้ขลาดทั้งหลาย ดูฉันแสดงปฏิบัติการระดับสูงให้คุณดูสิ!”
“จริงเหรอ มันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ ฉันไม่เชื่อ!”
ความอยากรู้อยากเห็นของผู้เล่นและสตรีมเมอร์หลายคนที่หลงใหลในเกมสยองขวัญถูกปลุกให้ตื่นขึ้นอย่างเต็มที่ ทุกคนต่างสงสัยว่าเกมจะน่ากลัวแค่ไหนถึงขนาดทำให้คนส่วนใหญ่แพ้ในเวลาไม่ถึงยี่สิบนาที
………………
วันรุ่งขึ้น หนูทดลองชุดใหม่ก็มาถึง
“ฉันอยากเล่นเกมใหม่ ‘Outlast’!” เห็นได้ชัดว่ามีคนหนุ่มสาวหลายคนมารวมตัวกันและกระตือรือร้นมากที่แผนกต้อนรับ
ผู้คนในห้องโถงจับหน้าอก สีหน้าซีดเซียวมองดูพวกเขาด้วยความเห็นอกเห็นใจ
เฮ้อ ความไม่รู้เป็นสุขอย่างยิ่ง
เมื่อก่อนฉันก็ไม่กลัวเหมือนคุณ แต่ตอนนี้ล่ะ…เขาต้องเตรียมยารักษาโรคหัวใจที่ออกฤทธิ์เร็วทุกวัน
“เอาละ มาเล่นด้วยกัน เราจะจับมือกันหาทางหนี ใครออกไปก่อนคือหมา!”
“ฮ่าๆ ฉันเป็นคนที่สามารถเดินผ่านบ้านผีสิงไปข้างหลังโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า ฉันจะพ่ายแพ้ให้กับเกมสยองขวัญได้ยังไง”
“วันนี้ฉันจะเป็นคนแรกที่เคลียร์ ‘Outlast’ ได้!”
……………
สิบห้านาทีต่อมา คนหนุ่มสาวเหล่านี้กลับมาที่ล็อบบี้ชั้นหนึ่งด้วยใบหน้าซีดเซียวและจับหน้าอกของตนไว้
“ให้ตายเถอะ! เกมนี้น่ากลัวเกินไป ฉันจะไม่เล่นอีกต่อไป!”
“ไหนใครบอกว่าเลิกก่อนเป็นหมาไม่ใช่เหรอ”
“ไม่ ฉันหมายความว่าเราประเมินความสยองขวัญของเกมนี้ต่ำไป ฉันไม่อยากเล่นมันอีกต่อไป! ฉันจะไม่เล่นเป็นครั้งที่สอง!”
“ใจฉันยังคงเจ็บปวดกับ Coding Pod อยู่เลย!”
“ฉันจะนั่งแท็กซี่ไปแล้ว! ฉันอยากกลับบ้าน!”
“อย่าไป คุณไม่อยากสัมผัสมันอีกเหรอ”
“ลองใหม่บ้านลุงสิ! ต้องมาสัมผัสเอง อย่าลากฉันไปด้วยถ้าคุณกำลังตามหาความตาย ลาก่อน!”
ในไม่ช้า ก็มีผู้เล่นในล็อบบี้ชั้นหนึ่งที่หน้าซีดและดื่มชานมมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนแทบไม่มีพื้นที่บนโซฟาเพียงพอ
สิ่งที่แปลกก็คือผู้เล่นที่หวาดกลัวจนหน้าซีดไม่ได้ห้ามไม่ให้ผู้เล่นคนอื่นเล่น ‘Outlast’ ในทางกลับกัน พวกเขากลับกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขา
เกมนี้น่ากลัวขนาดไหน
เมื่อเหล่าผู้เล่นทยอยลงมาจากชั้นสามของพื้นที่ประสบการณ์ VR ก็มีผู้เล่นจำนวนมากขึ้นในพื้นที่ประสบการณ์คอมพิวเตอร์พร้อมที่จะสัมผัสกับเกมสยองขวัญ VR ใหม่นี้
ด้วยวิธีนี้ ผู้เล่นใน Experience Store จึงตกอยู่ในวงจรที่ไม่มีที่สิ้นสุดของ “ความอยากรู้อยากเห็น ความหวาดกลัว ผู้คนอยากรู้อยากเห็น ผู้คนหวาดกลัวมากขึ้น”…
ผู้เล่นที่ได้ลอง ‘Outlast’ แทบจะรอไม่ไหวที่จะโพสต์ในพื้นที่สนทนาทั่วไปของแพลตฟอร์มเกม Thunder และเนื้อหาของโพสต์ก็แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
บางคนว่าเกมนี้น่ากลัวมาก บางคนว่าเกมนี้ไม่น่ากลัวเลย บางคนว่าเกมนี้สนุกมาก บางคนว่าเกมนี้น่ากลัวจะตาย…
จริงเท็จ เท็จจริง บางคนบอกความจริงและแบ่งปันประสบการณ์จริงของพวกเขา ในขณะที่บางคนโกหกเพื่อหลอกให้คนอื่นมาเล่น
ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในปักกิ่งและไม่สามารถมาที่ Experience Store เพื่อเล่น ‘Outlast’ ได้ ต่างก็สงสัยกันมากว่านี่คือเกมประเภทไหน
…………………
วันที่ 23 กันยายนนี้ ‘Outlast’ จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ!
ครั้งนี้เฉินโม่ไม่ได้ใช้วิธีการส่งเสริมการขายมากเกินไปเพราะ ‘Outlast’ เป็นเกมสยองขวัญ VR ในประเทศจีน เกมประเภทนี้ถือว่าหาได้ยากมาก และกลไกเองก็เพียงพอแล้ว และการอาศัยผลประโยชน์ของผู้เล่นก็เพียงพอที่จะสร้างความนิยมได้มากมาย
ผู้เล่นกลุ่มทดลองก่อนหน้านี้ใน Experience Store มีหลายคนที่ให้ความสนใจเกมนี้ก็ได้เรียนรู้รายละเอียดบางอย่างของเกมนี้ พูดง่ายๆ ก็คือ เกมนี้น่ากลัวมาก! แม้แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังถูกเชิญออกไปภายในยี่สิบนาทีแรก!
อย่างไรก็ตาม สิ่งนี้ทำให้เกม ‘Outlast’ โด่งดังมากขึ้นเรื่อยๆ แฟน ๆ หลายคนถึงกับปัดหน้าจอในห้องถ่ายทอดสดของสตรีมเมอร์รายใหญ่เพื่อให้พวกเขาลองเล่นเกมสยองขวัญใหม่นี้
………………
แพลตฟอร์มถ่ายทอดสด Moyu ห้องถ่ายทอดสดของหลินเสวี่ย
หลินเสวี่ยที่เพิ่งจบการแข่งขันจัดอันดับ กำลังพักผ่อนและกำลังพูดคุยกับผู้ติดตามของเธอ
“อะไรนะ ให้ฉันเล่นเกม ‘Outlast’ ใหม่ของเฉินโม่หน่อยเหรอ”
“นั่นเกมสยองขวัญไม่ใช่เหรอ ฉันไม่อยากจะเล่นนะ! อย่าแม้แต่จะคิดเรื่องนี้!”
“…ถ้าไม่อยากเล่น จะอันฟอลเลยเหรอ ว้าว ใจร้ายจังเลยนะ คุณอยากเห็นสตรีมเมอร์น่ารักอย่างฉันเล่นเกมสยองขวัญที่น่ากลัวขนาดนี้จริงๆ เหรอ”
“มีคนโพสต์ ‘อยากดู’ กันเยอะมาก! พวกนาย…ฉันดูพวกนายผิดไปจริงๆ!”
เดิมทีหลินเสวี่ยต้องการเพิกเฉยต่อคนเหล่านี้ แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง ชาวเน็ตเหล่านี้ก็เริ่มกระตือรือร้นมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด ทั้งหน้าจอก็เต็มไปด้วยความคิดเห็นเช่น ‘อาเสวี่ย เล่น ‘Outlast’ เถอะ ได้โปรด’
หลินเสวี่ยพูดไม่ออกเล็กน้อย อันที่จริง เธอให้ความสนใจกับเกมใหม่ของเฉินโม่มาเป็นเวลานานแล้ว แต่เมื่อเธอได้ยินว่าเป็นเกมสยองขวัญ เธอก็ถอยกลับทันที
ให้ตายเถอะ เกมสยองขวัญ VR ที่สร้างโดยเฉินโม่สามารถเล่นได้เหรอ มันทำให้คนกลัวจนตายแน่!
ผลก็คือ ดังสุภาษิตที่ว่าหนีพ้นวันพระแต่หนีไม่พ้นวันเพ็ญ[1] เดิมทีหลินเสวี่ยไม่ต้องการพูดถึงเรื่องนี้เลย แต่ผู้ชมที่ร้องขอดู ‘Outlast’ มากขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้อีกต่อไป
“เฮ้อ โอเค” หลินเสวี่ยถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “มาตกลงกันก่อน ถ้าฉันไปถึงสถานที่ที่น่ากลัวเป็นพิเศษ ฉันจะออกจากเกมทันที ไม่มีการรับประกันว่าฉันจะผ่านด่านได้”
อาเสวี่ยลุกขึ้นและไปเปิด Coding Pod VR ของตัวเอง
ผู้คนในช่องแชตตื่นตัวทันทีและเริ่มรีเฟรชหน้าจอทีละคน
“ว้าว อาเสวี่ยจะเล่น ‘Outlast’ จริงๆ นะ! ทำได้ดีมาก!”
“เธอช่างโหดร้ายจริงๆ เด็กสาวที่น่ารักและเงียบขรึมอย่างอาเสวี่ยจะทนกับเกมที่น่าสะพรึงกลัวขนาดนี้ได้ยังไง! คุณไม่ใช่แฟนตัวจริง!”
“นี่มันเกมประเภทไหน ใครเคยเล่นบ้าง”
“ฉันเคยเล่นมาแล้วพักหนึ่ง พูดได้คำเดียวว่า คุณคิดว่าอาเสวี่ยเป็นคนเดียวที่จะกลัวจริงๆ เหรอ หึๆ ไร้เดียงสาเกินไป ทุกคนที่ดูการถ่ายทอดสดจะต้องกลัวจนตายเหมือนกัน!”
………………..
[1] หนีพ้นวันพระแต่หนีไม่พ้นวันเพ็ญ : ไม่ว่าอย่างไรก็หนีไม่พ้น (ไม่สู้เผชิญหน้าเสียตอนนี้ดีกว่า)