บทที่ 366 ความยากที่บ้าคลั่ง
โดยพื้นฐานแล้ว สามวันหลังจากการเปิดตัว ‘Outlast’ สตรีมเมอร์ส่วนใหญ่ที่ยินดีจะเล่นเกมสยองขวัญก็เล่นเกมนี้ไปแล้วและกลัวมากจนฉี่รดกางเกง ผู้เล่นที่กระตือรือร้นบางคนถึงกับแก้ไขไฮไลท์ของสตรีมเมอร์และโพสต์ไว้บนอินเทอร์เน็ต ผู้ชมไม่สนใจที่จะล้อเลียนสตรีมเมอร์
ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเริ่ม แต่จู่ๆ ทุกคนก็ตระหนักได้ว่า ใช่ ปล่อยให้เฉินโม่เล่น ‘Outlast’ สิ! เราจะลืมเกมที่น่ากลัวเช่นนี้ได้ยังไง
แม้ว่าเฉินโม่จะเป็นผู้เล่นอันดับต้นๆ ใน ‘Warcraft’ และ ‘League of Legends’ แต่เกมสยองขวัญก็แตกต่างออกไป เกมสยองขวัญไม่ได้ทดสอบการจัดการขนาดเล็กหรือความเร็วปฏิกิริยา แต่เป็นความสงบภายใน ซึ่งเฉินโม่อาจไม่สามารถปรับตัวเข้ากับมันได้
ท้ายที่สุดแล้ว สตรีมเมอร์รายใหญ่จำนวนหนึ่งจาก ‘League of Legends’ ต่างเล่น ‘Outlast’ จนกลัวฉี่รดกางเกง
หลายคนคงจินตนาการว่าเฉินโม่ที่เล่นตัวใน ‘Warcraft’ และ ‘League of Legends’ รู้สึกหวาดกลัวและตื่นตระหนกกับ ‘Outlast’ พวกเขายิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่ามันสวยงามเกินกว่าจะมอง!
ในไม่ช้า โพสต์คำร้องต่างๆ ก็ได้รับการดัน ผู้คนจำนวนมากได้ฝากข้อความส่วนตัวไว้ใน Weibo โดย @เฉินโม่ ว่าอยากเห็นเขาเล่น ‘Outlast’ โดยใช้วิธีการทุกอย่างไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นส่วนใหญ่รู้ดีว่าความเป็นไปได้ที่เฉินโม่จะออกมาเคลื่อนไหวมีน้อยมาก เพราะเขาไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความชอบของผู้ชมหรือผลกระทบของรายการ ตอนที่เขาถ่ายทอดสด ‘League of Legends’ เขาไม่ได้เปิดไมโครโฟนด้วยซ้ำ
ด้วยความนิยมของเขา เขาสามารถสตรีม ‘League of Legends’ กับผู้ชมหลายล้านคนได้อย่างง่ายดาย แล้วผลลัพธ์คืออะไร เขาไม่ได้ถ่ายทอดสดและไม่เคยปรากฏบนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดเลยตั้งแต่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
ทำไมคนอย่างเขาถึงต้องยอมเสี่ยงฉี่รดกางเกงเพื่อถ่ายทอดสดเกม ‘Outlast’ ด้วยล่ะ
คนเหล่านี้ค่อยๆ หมดความหวังเพราะเฉินโม่ไม่ตอบสนองเลย
ท้ายที่สุดสิ่งที่ทุกคนไม่คาดคิดก็คือเฉินโม่โพสต์บน Weibo จริงๆ !
“ ‘Outlast’ จะถ่ายทอดสดคืนนี้เวลาเที่ยงคืน ทุกคนมาดูกัน เกมนี้มันไม่น่ากลัวเลย”
ผู้ชมต่างตกตะลึง อะไรนะ เฉินโม่จะถ่ายทอดสด ‘Outlast’ จริงเหรอ!
เป็นไปได้ไหมที่ข้อความส่งไปต่อเนื่องและข้อความส่วนตัวของเรากระตุ้นเขาได้ หากตั้งใจจริงทุกปัญหาก็คลี่คลายได้
อย่างไรก็ตามเวลาที่เฉินโม่เลือกนั้นน่าอึดอัดใจจริงๆ ถ่ายทอดสดตอนเที่ยงคืน นี่เขาพยายามทำให้คนกลัวหัวใจวายหรือไงกัน
ผู้เล่นบางคนก็แสดงตัวออกมาว่าพวกเขาตั้งใจที่จะไม่ดูมัน! นี่เป็นแผนการของเฉินโม่แน่นอน! ถ่ายทอดสดตอนเที่ยงคืนมันต้องน่ากลัวแน่!
อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นบางคนบอกว่าเฉินโม่ยอมถ่ายทอดสดเล่น ‘Outlast’ ตอนเที่ยงคืนก็ดีแล้ว ทำไมต้องจู้จี้จุกจิกขนาดนี้ เกมสยองขวัญจะต้องเล่นตอนดึกเพื่อสนุกไปกับมัน!
ข่าวแพร่สะพัดอย่างรวดเร็ว ในช่วงเวลานี้ ‘Outlast’ ได้รับความนิยมอย่างมากบนแพลตฟอร์มถ่ายทอดสดและเว็บไซต์วิดีโอหลัก ความนิยมเองก็สูงมากแล้ว การรวมกันของสองประเด็นร้อนอย่างเฉินโม่และเกม ‘Outlast’ ทำให้ความคาดหวังของผู้เล่นสำหรับการถ่ายทอดสดครั้งนี้ถึงจุดสูงสุด!
……………
คืนนั้นเวลาห้าทุ่มห้าสิบนาที ผู้ชมจำนวนมากมารวมตัวกันในห้องถ่ายทอดสดของเฉินโม่และพูดคุยกันท่ามกลางหน้าจอที่ยังเป็นสีดำ
จังหวะเวลากำลังดี สตรีมเมอร์ชื่อดังส่วนใหญ่ได้พักกันแล้ว บางส่วนจะเล่นต่อจนถึงตีหนึ่ง แต่คนดูเบื่อแล้วจึงมาที่ห้องถ่ายทอดสดของเฉินโม่
“เฉินโม่อยู่ที่ไหน ทำไมยังไม่มา”
“มันคงยังไม่ถึงเวลา”
“พวกนายว่าเฉินโม่คงไม่ได้ผิดสัญญาหรอกนะ”
“เป็นไปไม่ได้ เฉินโม่มักจะตรงต่อเวลาทุกครั้งที่ถ่ายทอดสด เขาจะไม่มีวันผิดสัญญา”
“อ๊ะ รูปมาแล้ว มาแล้ว! เขามาแล้ว!”
รูปภาพ Coding Pod VR ปรากฏขึ้นในห้องสตรีมสด มันเป็นอินเทอร์เฟซการเข้าสู่ระบบของ ‘Outlast’
ผู้ชมเริ่มตื่นเต้นทันที เมื่อเฉินโม่เริ่มถ่ายทอดสด ผู้ชมจำนวนมากได้รับการแจ้งเตือนและจำนวนผู้ชมก็เพิ่มขึ้นทันที!
“ว้าว ครั้งนี้เฉินโม่ก็ไม่เปิดไมโครโฟนเหมือนที่เขาทำใน ‘League of Legends’ ใช่ไหม”
“เป็นไปได้ มันคงน่าอายมากถ้ากรีดร้องขณะเล่น ฉันว่าเฉินโม่อาจจะปิดไมโครโฟน”
“ฉันอยากได้ยินเสียงกรีดร้องของเฉินโม่จริงๆ!”
ในขณะที่ทุกคนยังคงพูดคุยกัน เฉินโม่ก็พูดขึ้น
“ฮัลโหล ได้ยินผมไหม”
หลังจากได้รับคำตอบที่แน่ชัดแล้ว เฉินโม่พูดต่อว่า “ช่วงนี้มีคนจำนวนมากส่งข้อความส่วนตัวถึงผม บอกว่าเกม ‘Outlast’ นั้นเล่นยากเกินไปและน่ากลัวเกินไป ดังนั้นวันนี้ผมถ่ายทอดสดเป็นพิเศษ สาธิตเกมนี้ให้ทุกคนเห็น”
“อย่ากลัวเลยทุกคน เกมนี้ไม่ได้น่ากลัวเลย แม้ว่าผมจะไม่ได้เล่นเกมนี้จริงๆ เลยตั้งแต่สร้างขึ้นมาแต่! ด้วยความซื่อสัตย์ของนักออกแบบเกม เกมสยองขวัญนี้ถือว่าสูงกว่าค่าเฉลี่ยในความคิดของผม ในความเป็นจริง รูปแบบการเล่นของมันคือเกมผจญภัยที่มีลักษณะการไขปริศนาเล็กน้อยและมันก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่ใครๆ คิดเลย”
เฉินโม่หาว “พอดีผมง่วงนิดหน่อย รีบเคลียร์ด่านแล้วไปนอนกันเถอะ”
ผู้ชมถึงกับพูดไม่ออก สถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้เขายังไม่ลืมที่จะอวดอีก
“มันไม่น่ากลัวเลยเหรอ นี่คุยโม้จนเสียสติไปแล้วใช่ไหม”
“ถือว่าทำได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยเท่านั้นเหรอ ฉันเคยเล่นเกมสยองขวัญต่างประเทศมาเยอะแล้ว แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีเกมไหนที่น่ากลัวไปกว่านี้อีกแล้ว แล้วเกมสยองขวัญที่น่ากลัวมากๆ ในใจคุณเป็นยังไงล่ะ”
“ยังหาวอยู่อีก ว้าว ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นการยั่วยุอย่างโหดเหี้ยมต่อโรงพยาบาลจิตเวชเมานต์แมสซิฟของเรา!”
“เคลียร์เกมแล้วไปนอนเหรอ ดีมาก กำหนดเป้าหมายแล้ว วันนี้ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนคุณจนถึงเช้าเลย!”
การคุยโม้ของเฉินโม่ทำให้เกิดการเยาะเย้ยอย่างไร้ความปรานีของผู้ชม แต่เขาไม่สนใจเพราะเขาไม่สนใจที่จะอ่านคอมเมนต์จากผู้ชมที่เป็นตัวอักษรวิ่งเลย
เฉินโม่เลือกเกมใหม่ แต่ไม่เหมือนกับสตรีมเมอร์คนอื่นๆ ตรงที่อินเทอร์เฟซการเลือกความยากปรากฏขึ้นมาให้เขา
“เพราะว่าความยากธรรมดานั้นไม่น่าสนใจ ผมจึงใช้สิทธิพิเศษของนักพัฒนาเพื่อทำการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง มาเล่นความยากสุดมันส์กันเถอะ”
เฉินโม่เลือกระดับความยาก ‘บ้าคลั่ง’ และเข้าสู่เกม
คอมเมนต์แตกทันที
“อะไรวะเนี่ย ความยากระดับบ้าคลั่ง! เฉินโม่บ้าไปแล้ว!!”
“เชี่ย ความยากระดับบ้าคลั่งเหรอ ขนาดสตรีมเมอร์หลายคนไม่ต้องการเล่นเป็นครั้งที่สองหลังจากเคลียร์ความยากธรรมดา!”
“เฉินโม่เป็นผู้เชี่ยวชาญในการรนหาที่ตายจริงๆ โอเค เห็นแล้วว่าคุณกล้าหาญแค่ไหน ฉันจะไม่ไล่ตามเรื่องที่คุณเล่นตัวเมื่อกี้ ฉันจะนั่งเฉยๆ รอให้คุณได้รับบทเรียนจากมอนสเตอร์ทุกชนิด!”
‘Outlast’ มีความยากอยู่สี่ระดับได้แก่ ธรรมดา ยาก ฝันร้าย และบ้าคลั่ง ในตอนแรก ผู้เล่นเริ่มเล่นในระดับความยากธรรมดาโดยค่าเริ่มต้น และพวกเขาสามารถท้าทายความยากที่สูงกว่าได้หลังจากเคลียร์เกมแล้วเท่านั้น
ยิ่งความยากสูง กล้องวิดีโอ DV ก็สามารถบรรจุแบตเตอรี่ได้น้อยลงเท่านั้น และความเสียหายของมอนสเตอร์ก็จะยิ่งสูงขึ้นตามไปด้วย สตรีมเมอร์สดหลายคนถูกทรมานจากความยากระดับยากหลังจากที่เคลียร์ระดับความยากธรรมดาได้แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงความยากสุดบ้าคลั่งเลย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าตื่นเต้นยิ่งกว่านั้นยังมาไม่ถึง
หลังจากที่เฉินโม่เลือกระดับความยากระดับบ้าคลั่งแล้ว กล่องแชตก็เด้งขึ้นมา
“คุณบ้าหรือเปล่า โหมดบ้าคลั่งมอบประสบการณ์สุดเร้าใจให้กับคุณด้วยความยากสูงสุดและไม่มี savepoint หากคุณตาย ความก้าวหน้าทั้งหมดจะหายไป และคุณต้องเริ่มต้นใหม่ตั้งแต่ต้น คุณพร้อมที่จะถูกทารุณกรรมแล้วหรือยัง”
เฉินโม่เลือก ‘ใช่’ โดยไม่ลังเล
นอกจากนี้เขายังอธิบายอีกว่า “คำเตือนนี้มีไว้เพื่อทำให้ผู้คนหวาดกลัว จริงๆ แล้วมันไม่ได้ยากขนาดนั้น โอ้ แต่เรื่องที่ว่าความยากระดับนี้ไม่มี savepoint เป็นเรื่องจริง”
มีคอมเมนต์โจมตีอีกครั้ง ผู้ชมที่ดูการถ่ายทอดสดตกตะลึง ไม่มี savepoint เหรอ แล้วเล่นหาพระแสงอะไร!
นั่นจะไม่เหมือนกับ ‘Getting Over It’ ใช่ไหม พอถูกลาสบอสฆ่าตายต้องกลับไปเริ่มต้นใหม่เหรอ การเล่นก่อนหน้านี้ทั้งหมดสูญเปล่าสินะ
ให้ตายเถอะ เกมนี้ยังเล่นได้ขนาดนี้อีกเหรอ มันน่าตื่นเต้นเกินไปแล้ว!
…………….
—————————————-