ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 62 ฆาตกรอาจจะมีแค่คนเดียว

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 62 ฆาตกรอาจจะมีแค่คนเดียว

แต่แน่นอน เขายังมาที่นี่เพื่อจะพบคนคนหนึ่งด้วย

เผิงซีรีบค้อมกายพลางกล่าว “ไม่กล้าก่อเรื่องแน่นอนครับ ท่านหัวหน้า”

เหิงเทากวาดตามองดูภายในห้องอีกครั้ง “เจ้าหยวนเฉินเพิ่งจะตายอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ร่องรอยของฆาตกรยังมีอยู่ แต่เธอกลับมาค้างคืนอยู่ที่นี่ คิดจะทำอะไรกันแน่?”

เผิงซีเงียบไปเล็กน้อย ก่อนจะกล่าวออกมาอย่างไม่เร่งร้อนว่า “อยากจะมาดูว่าฆาตกรได้ทิ้งเบาะแสอะไรเอาไว้หรือเปล่าครับ”

เหิงเทากำลังรู้สึกกลุ้มใจเพราะคดีนี้ เมื่อได้ยินเช่นนี้ ภายในใจเขาก็นึกว่าจะได้ข้อมูลอะไรบางอย่าง จึงร้องอ้อออกไปทันที “แล้วได้เบาะแสอะไรบ้างล่ะ?”

เผิงซีประสานมือ กล่าวว่า “มีเรื่องสงสัยเล็กน้อย หากท่านหัวหน้าสามารถช่วยเหลือได้ บางทีอาจจะได้เบาะแสอะไรเพิ่มเติมครับ”

เหิงเทาจ้องมองเขา “เธออยากให้ฉันช่วยอะไร?”

“เชิญครับ” เผิงซีโค้งกายผายมือเพื่อเชิญเหิงเทา จากนั้นหมุนตัวเดินไปตรงหน้าแผนที่ที่อยู่บนโต๊ะ หยิบเอาปากกาด้ามหนึ่งขึ้นมาวาดเป็นวงกลมไปบนแผนที่

เหิงเทาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไร จึงเดินเข้าไปมอง พบว่าเขากำลังทำสัญลักษณ์อะไรบางอย่างไปบนแผนที่ภายในเมืองปู๋เชวี่ย

พานหลิงอวิ๋นยังรู้สึกหวาดกลัวเหิงเทาอยู่ แต่เธอก็อดใจเอาไว้ไม่ไหวจริงๆ ขยับเข้าไปดูด้วยเช่นกัน

ไม่นานเหิงเทาก็มองออกว่าเผิงซีกำลังจะสื่ออะไร ตำแหน่งที่เขาวงกลมเอาไว้คือรังของเฉาลู่ผิงและผีหง แล้วก็มีหออวิ้นเสียที่ทุกคนยืนอยู่ในเวลานี้ จึงเหลียวหน้าไปมองเผิงซี ไม่รู้ว่าเจ้านี่หมายความว่าอย่างไร

พานหลิงอวิ๋นเองก็ไม่เข้าใจ มองไม่ออกว่าเผิงซีกำลังทำอะไร

เผิงซีดึงปากกากลับมาแล้วชี้ไปยังสถานที่ทั้งสามที่ทำสัญลักษณ์วงกลมเอาไว้ “ได้ยินว่าสามที่นี้เป็นสถานที่เกิดเหตุสังหารในคืนนั้น กระผมอยากถามท่านหัวหน้าเหิงว่ากระผมทำสัญลักษณ์ถูกต้องไหมครับ?”

เหิงเทาบ่นพึมพำอยู่ในใจ แต่ปากกลับส่งเสียงอืม “ถูกต้อง สามที่นี้แหละ”

เผิงซีเหลียวหน้ากลับไปดูรอยเลือดบนพื้น “กระผมเพิ่งจะมาถึงที่นี่เมื่อวานนี้ เวลาเกิดเหตุได้ผ่านมานานแล้ว กระผมจึงไม่สามารถทำการวิเคราะห์ร่องรอยบางอย่างในสถานที่เกิดเหตุได้อย่างแม่นยำ แต่ผู้พิทักษ์เมืองมาถึงสถานที่เกิดเหตุทั้งสามแทบจะในทันที จากระดับการแข็งตัวของรอยเลือดในที่เกิดเหตุแล้ว ไม่ทราบว่าพอจะวิเคราะห์ลำดับของสถานที่เกิดเหตุได้เป็นอย่างไรบ้าง ท่านหัวหน้าเหิงพอจะบอกได้ไหมครับ?”

เหิงเทาครุ่นคิดเล็กน้อย พบว่าบอกเรื่องนี้ไปก็คล้ายไม่มีอะไร จึงชี้ไปยังสถานที่ทั้งสามแล้วบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่ผู้พิทักษ์เมืองทำการตรวจสอบสถานที่ทั้งสามออกมา

“พูดอีกอย่างก็คือที่พักของผีหงคือสถานที่เกิดเหตุที่แรก ที่พักของเฉาลู่ผิงคือสถานที่เกิดเหตุแห่งที่สอง หออวิ้นเสียคือแห่งที่สาม” เผิงซีเขียนเลขหนึ่งสามสามลงไปบนแผนที่ตามคำบอกเล่าของอีกฝ่าย

ความจริงเขาทราบถึงลำดับของสถานที่เกิดเหตุจากการอ่านข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีอยู่แต่แรกแล้ว ที่เขาหยิบเอาแผนที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็เพื่อจะทำสัญลักษณ์ เพียงแต่ถูกพานหลิงอวิ๋นเข้ามาขัดจังหวะเท่านั้น

ที่เขาถามเหิงเทาในเวลานี้ หนึ่งในเหตุผลก็เพื่อจะปกปิดเรื่องที่ตัวเองรู้เบาะแสนี้ก็เท่านั้น

เหิงเทาอยู่ในสถานะที่ต้องตอบคำถามอีกฝ่าย “ถูกต้อง เป็นอย่างที่เธอว่า”

เผิงซีขอคำชี้แนะต่อว่า “ได้ยินว่าผีหงกับภรรยาของเขาตายอยู่ที่ด้านนอกบ้านของเฉาลู่ผิงใช่ไหมครับ?”

เหิงเทาส่งเสียงอืม ไม่ได้ปฏิเสธ แต่ภายในใจกลับบ่นพึมพำ เจ้าพวกนี้รู้เรื่องเร็วจริงๆ

“ที่อยู่ของผีหงคือสถานที่เกิดเหตุที่แรก บ้านของเฉาลู่ผิงคือสถานที่เกิดเหตุแห่งที่สอง ผีหงสองสามีภรรยาตายอยู่ใกล้ๆ บ้านเฉาลู่ผิง เมื่อวิเคราะห์จากช่วงเวลาระหว่างสถานที่เกิดเหตุทั้งสองที่แล้ว สามารถอนุมานได้ว่าเป็นผีหงสองสามีภรรยาที่พาฆาตกรไปยังบ้านเฉาลู่ผิง” เผิงซีกล่าวสอบถามอย่างรวดเร็ว

ทางผู้พิทักษ์เมืองวิเคราะห์ออกมาได้ตั้งนานแล้ว เหิงเทาที่รู้อยู่แก่ใจดีส่งเสียงอืมออกมาอีกครั้ง

เผิงซีลากเส้นตรงขึ้นมาอีกสองเส้น เส้นหนึ่งลากจากบ้านผีหงไปยังบ้านของเฉาลู่ผิง อีกเส้นหนึ่งลากจากบ้านเฉาลู่ผิงไปยังหออวิ้นเสีย ทั้งสองเส้นเชื่อมต่อกัน แต่กลับเกิดเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่มีขนาดความยาวของเส้นไม่เท่ากัน “เส้นทางการเดินทางและลำดับการเดินทางของฆาตกรน่าจะเป็นเช่นนี้”

เหิงเทาส่งเสียงอืม

เผิงซีลากเส้นประเชื่อมระหว่างปลายทั้งสองด้านของเส้นตรงเมื่อครู่นี้ขึ้นมาอีกเส้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นชี้ไปที่เส้นประ หรือก็คือชี้ไปที่ระยะทางระหว่างที่พักของผีหงกับหออวิ้นเสีย “การสังหารหยุดลงที่หออวิ้นเสีย หรือพูดอีกอย่างก็คือจุดหมายสุดท้ายของฆาตกรอยู่ที่หออวิ้นเสีย แต่ฆาตกรไม่ได้เดินทางตรงมาที่หออวิ้นเสีย แต่กลับยอมเดินทางอ้อมไปยังบ้านของเฉาลู่ผิง ในอีกแง่หนึ่งนี่ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าจุดหมายปลายทางของฆาตกรคือหออวิ้นเสีย หรือก็คือญาติผู้พี่ของกระผม”

“ผีหงและภรรยาพาคนไปที่บ้านเฉาลู่ผิง ฆาตกรฆ่าล้างบ้านเฉาลู่ผิงแล้วไปที่หออวิ้นเสีย นี่แสดงให้เห็นถึงอะไร?”

“นี่แสดงให้เห็นว่าฆาตกรไม่ใช่คนในพื้นที่ แล้วก็ไม่ใช่คนของหอการค้าตระกูลโจวกับหอการค้าตระกูลพาน ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเดินอ้อมเป็นวงอย่างนี้ถึงจะหาจุดหมายปลายทางพบแน่ หากแต่เป็นกลุ่มบุคคลที่สามที่ก่อคดีนี้ขึ้นมา”

เขาทำท่าเหมือนกำลังให้ข้อสรุปสุดท้ายออกมา

แต่เหิงเทามิได้มีทีท่าตกตะลึงแม้แต่น้อย เขาเหลือบมองด้วยสายตาเย็นชา ภายในใจกล่าวอย่างดูแคลนว่า ‘เหลวไหล เรื่องนี้ต้องให้เธอมานั่งวิเคราะห์เหรอ คิดว่าคนของผู้พิทักษ์เมืองโง่หรือยังไง? ประเด็นสำคัญคือกลุ่มบุคคลที่สามนั้นคือใครต่างหาก!

หลังจากที่ผู้พิทักษ์เมืองได้ข้อมูลเกี่ยวกับคดีมา หน่วยงานภายในก็ทำการพูดคุยจนได้ข้อสรุปนี้ออกมา

แต่จะว่าไปแล้ว ผู้พิทักษ์หลายคนต้องปรึกษาหารือกันอยู่หลายวันกว่าจะได้ข้อสรุปเช่นนี้ออกมา แต่คนผู้นี้เพิ่งจะมายังเมืองปู๋เชวี่ยได้ไม่นาน ตัวเขาเพิ่งจะให้ข้อมูลไปเพียงเล็กน้อยก็สามารถคิดข้อสรุปเช่นนี้ออกมาได้อย่างรวดเร็วด้วยตัวคนเดียว ถือว่ามันสมองไม่เลวเลยจริงๆ

เผิงซีสังเกตดูอากัปกิริยา รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็น่าจะทำการวิเคราะห์ตามข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับคดีมาได้ถึงตรงนี้เช่นกัน

พานหลิงอวิ๋นเองก็มีลอบขบขันอยู่ในใจ ทำท่าเหมือนจะมีอะไร หลงนึกว่าเผิงซีจะพูดอะไรที่เธอไม่รู้ออกมา ที่แท้ก็แค่นี้?

เหิงเทาส่งเสียงอืม กล่าวว่า “การวิเคราะห์ที่เธอเสนอมามีค่าอย่างมาก ถ้าพบเบาะแสอะไรเพิ่มเติมก็แจ้งทางผู้พิทักษ์เมืองได้ทันทีนะ”

“ครับ!” เผิงซีประสานมือรับคำสั่ง

เหิงเทาไม่รั้งอยู่ที่นี่อีก หมุนตัวเดินออกไป แต่ขณะที่เพิ่งเดินไปได้ไม่กี่ก้าว จู่ๆ เขาพลันหยุดฝีเท้า จ้องมองชายชุดเทาผมเผ้าแผ่กระจายที่นั่งอยู่ตรงมุมคนนั้น กล่าวถามว่า “นายคือเชอมั่ว?”

ชายชุดเทาค่อยๆ ลุกขึ้นยืน กล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ผมเอง”

เชอมั่วที่เป็นเซียนกระบี่ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในหมู่จอมยุทธ์พเนจรน่ะเหรอ? พานหลิงอวิ๋นและโกวซิงลอบตกใจ คิดไม่ถึงว่าข้างกายเผิงซีจะมียอดฝีมือเช่นนี้คอยคุ้มครองอยู่

ได้ยินว่าพลังของเชอมั่วผู้นี้อยู่ในระดับสูงสุดของสภาวะขั้นเซียนทองแล้ว อีกไม่นานก็จะก้าวเข้าสู่ระดับขั้นโอบสวรรค์อันเป็นสภาวะย่อยของสภาวะใหญ่ขั้นเซียนสวรรค์

จอมยุทธ์พเนจรที่ว่าไม่ใช่ว่าจะไม่หวั่นไหวกับเงินทองทรัพย์สมบัติไปเสียทุกคน คนเราเกิดมามักจะมีสิ่งที่ต้องการอยู่เสมอ แต่คนที่ก้าวขึ้นมาอยู่ในจุดเดียวกับเชอมั่วแบบนี้ พวกเขาย่อมต้องมีความปรารถนาที่แตกต่างไปจากคนส่วนใหญ่ ส่วนมากแล้วจะอุทิศตนให้กับการบำเพ็ญเพียร โดยมุ่งหมายว่าจะก้าวขึ้นไปสู่มรรคาอันเป็นนิรันดร์ที่ทำให้ผู้คนต่างรู้สึกอิจฉา แล้วเขาจะถูกเผิงซีดึงเข้ามาทำงานด้วยได้อย่างไร?

เผิงซีเองก็ลอบตกใจ แม้นสภาเซียนอาจจะไม่สามารถล่วงรู้ในทุกๆ รายละเอียดที่เกิดขึ้นในดินแดนเซียนได้ แต่ข้อมูลที่มีอยู่ในมือส่วนใหญ่นั้นก็ไม่ธรรมดาอย่างที่คิดเอาไว้เลย เขาไม่ได้ป่าวประกาศเรื่องที่เชอมั่วมาอยู่ข้างกายออกไปเลย แต่เหิงเทากลับทราบเรื่องนี้แล้ว

จากคำพูดของเหิงเทาประโยคนั้นก็ทำให้รู้ว่าก่อนหน้านี้เหิงเทาไม่รู้จักเชอมั่ว

เขาพอจะรู้ถึงสาเหตุที่เหิงเทามาที่นี่แล้ว ไม่ใช่จะมาแค่เพื่อตักเตือนอย่างที่ว่าเอาไว้

เหิงเทาจ้องมองเชอมั่ว “ถึงแม้เมืองปู๋เชวี่ยจะไม่ใช่พื้นที่หวงห้ามอะไร แต่ก็ไม่ใช่ที่ที่ใครจะมาก่อความวุ่นวายได้ อย่ามาก่อเรื่องที่นี่จะดีที่สุด”

เชอมั่วมองเขา ค่อยๆ พยักหน้าอย่างช้าๆ

เหิงเทาถูกสายตาของเขาจ้องมองจนรู้สึกไม่ค่อยสบาย จึงเดินนำลูกน้องก้าวอาดๆ ออกไป แล้วก็ไม่มีท่าทีว่าจะให้ใครออกมาส่ง หลังเดินออกมาจากอาคารก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้า

เผิงซีและพานหลิงอวิ๋นที่เดินออกมาส่งเขาด้วยท่าทีนอบน้อมสบตากัน

มุมปากพานหลิงอวิ๋นมีรอยยิ้มเยาะเย้ยปรากฏขึ้นมา “หวังว่าเบาะแสที่นายให้ไปจะเป็นประโยชน์ต่อเขานะ”

เผิงซีกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “บางทีฆาตกรอาจจะไม่ใช่คนจากข้างนอก”

พานหลิงอวิ๋นงุนงง “หมายความว่ายังไง?”

เผิงซีกล่าว “ที่ฉันไม่ได้บอกเขา หรือคุณหนูพานไม่รู้ว่าเพราะอะไร?”

การเรียกขานของเขาถือว่าค่อนข้างไพเราะ ไม่เหมือนกับเจ้าหยวนเฉินที่เรียกเธอตรงๆ ว่านังทอม

พานหลิงอวิ๋นตกใจเล็กน้อย กล่าวว่า “นายสงสัยว่าจะเป็นฝีมือของพวกเหิงเทาเองอย่างนั้นเหรอ?”

เผิงซีกล่าวว่า “เธอลืมเรื่องที่เธอถูกเขาจับตัวไปแล้วเหรอ? กระทั่งตัวเธอก็ยังรู้ว่าตัวเองติดกับฉินอี๋ แล้วมีหรือที่พวกลั่วเทียนเหอจะไม่รู้? แต่ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นลั่วเทียนเหอก็ยังลงโทษเธอ สำหรับผู้หญิงแล้ว ใบหน้ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก การลงโทษนี้นับว่าไม่เบาเลย หลังจากนี้อีกหนึ่งปีเธอก็จะเห็นผลของการลงโทษนี้แล้ว และเมื่อดูจากเรื่องนี้ ก็พอจะทำให้รู้ว่าลั่วเทียนเหอนั้นมีท่าทีปกป้องหอการค้าตระกูลฉินอยู่ เกรงว่าถ้าตระกูลฉันกับตระกูลเธอทำอะไรกับตระกูลฉินที่นี่ หรือพูดอีกอย่างคือถ้าหากเราก่อเรื่องอะไรขึ้นมาอีก ลั่วเทียนเหออาจจะลงมือข่มขู่พวกเราอีกก็เป็นได้”

“จัดการเธอก่อน แล้วค่อยฆ่าพี่หยวนเฉินของฉัน เธอคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เหรอ? ทั้งเธอและฉันต่างรู้ดีว่าตระกูลโจวกับตระกูลพานไม่ได้เป็นคนทำเรื่องนี้ ตระกูลฉินเองก็ไม่มีทางหาเรื่องให้ตัวเอง ฆ่าล้างสามที่ในคืนเดียวอย่างเงียบๆ ทั้งยังกล้าฆ่าผู้พิทักษ์เมืองด้วย ภายในเมืองปู๋เชวี่ยแห่งนี้ เธอคิดว่าใครจะมีความสามารถทำแบบนั้นได้?”

พานหลิงอวิ๋นทั้งตกตะลึงระคนสงสัยทันที หรือว่าจะเป็นฝีมือของพวกลั่วเทียนเหอจริงๆ? เมื่อคิดตามการวิเคราะห์ของอีกฝ่ายดูแล้ว มันก็คล้ายจะสมเหตุสมผลอยู่ทีเดียว

หลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง เธอก็เก็บเรื่องนี้เอาไว้ในใจ เหลียวหน้ามาพูดประเด็นหลักที่เธอมาในวันนี้ “ได้ยินว่านายไปโรงอีหลิวมาเหรอ?”

เผิงซีพยักหน้า “ใช่”

พานหลิงอวิ๋นกล่าวว่า “หลินยวนที่อยู่โรงอีหลิวเหมือนจะมีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดากับหอการค้าตระกูลฉิน ก่อนที่ฉันจะออกไปจากเมืองครั้งล่าสุดได้สั่งให้เจ้าหยวนเฉินไปสืบหลินยวนที่อยู่โรงอีหลิวคนนั้นมา นายสืบได้อะไรมาบ้าง?”

หัวคิ้วของเผิงซีกระตุกขึ้นมาเล็กน้อย กล่าวถามว่า “พี่หยวนเฉินกำลังสืบหลินยวนอยู่?”

พานหลิงอวิ๋นกล่าว “ไม่รู้ว่าเขาเริ่มสืบแล้วหรือยัง แต่ในเมื่อนายเป็นตัวแทนของหอการค้าตระกูลโจว อย่างนั้นเรื่องนี้ก็ต้องให้นายเป็นคนรับผิดชอบต่อ มีอะไรก็ติดต่อฉันได้ทุกเมื่อ” กล่าวจบก็ขอตัวลา

“เดี๋ยวๆ” เผิงซีตะโกนเรียกเธอ

พานหลิงอวิ๋นชะงักฝีเท้าพลางหมุนตัวกลับมามองดูเขา รอให้เขาพูดต่อ

เผิงซีกล่าวว่า “ถ้าฆาตกรเป็นเหมือนอย่างที่ฉันคาดเดาเอาไว้เมื่อครู่ เธอก็ต้องระวังตัวหน่อยล่ะ” ก่อนจะพยักเพยิดหน้าไปยังอาคารที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “อย่างไรซะที่นี่ก็ยังมีที่ว่างอยู่ ฉันแนะนำให้เธอย้ายมาที่นี่จะดีกว่า พวกเราอยู่ด้วยกัน จะได้คอยดูแลซึ่งกันและกันได้”

พานหลิงอวิ๋นแสดงความสงสัย “นายใจดีขนาดนี้เลยเหรอ?”

เผิงซีกล่าวว่า “ถ้าจัดการเรื่องหอการค้าตระกูลฉินเรียบร้อยแล้ว ฉันย่อมไม่ใจดีแบบนี้อีก ที่ฉันทำแบบนี้ก็เพื่อตัวเอง ถ้ามีคนเยอะ อีกฝ่ายก็จะลงมือได้ลำบากหน่อย”

พานหลิงอวิ๋นครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้ามองท้องฟ้าที่กำลังจะมืดลง สายตาจ้องมองไปยังเชอมั่วที่ยืนอยู่ด้านหลังเผิงซี สุดท้ายจึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ได้ เดี๋ยวฉันไปเก็บของแล้วจะมาที่นี่”

เผิงซีกล่าว “ฉันไม่ช่วยพวกเธอเก็บห้องก็แล้วกัน เดี๋ยวพวกเธอมาจัดการตามสบายเลย”

พานหลิงอวิ๋นส่งเสียงเหอะออกมา ก่อนจะเดินนำลูกน้องออกไป

ทันทีที่เธอออกไป เผิงซีเองก็หมุนตัวเดินกลับขึ้นไปยังชั้นบน กลับมายืนจ้องมองอยู่ตรงหน้าแผนที่

ชิงจั๋วค่อยๆ เดินมาข้างกายเขา “ก่อนหน้านี้คล้ายคุณชายจะไม่ได้พูดสิ่งที่คิดอยู่ในใจทั้งหมดออกไป”

ติดตามเผิงซีมาหลายปี จะมากจะน้อยเขาก็พอจะรู้ว่าเผิงซีเป็นคนอย่างไร

“คำพูดถ้าพูดออกไปหมดมันไม่ดี” เผิงซีส่ายศีรษะเล็กน้อย นิ้วมือเคาะไปบนแผนที่ “ถ้าฉันเดาไม่ผิดล่ะก็ เป็นไปได้สูงที่ฆาตกรจะมีแค่คนเดียว!”

“คนเดียว?” ชิงจั๋วตกใจ ในเวลานี้เขาถึงได้รู้ว่าคำพูดที่คุณชายพูดกับพานหลิงอวิ๋นนั้นเป็นคำพูดโกหก แล้วก็ไม่รู้ว่าเขาลากพานหลิงอวิ๋นมาที่หออวิ้นเสียทำไม

ไม่ใช่แค่เขา กระทั่งเชอมั่วที่ถอยกลับไปอยู่ที่มุมห้องก็ยังจ้องมองมาด้วยสายตาที่เป็นประกาย คล้ายกำลังสงสัยในการวิเคราะห์ของเผิงซี คนคนเดียวสังหารคนจำนวนมากขนาดนี้อย่างนั้นหรือ?

ชิงจั๋วกล่าวอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า “คนเดียว? สังหารคนทั้งสามที่ ทั้งสามที่ล้วนมีการป้องกันที่แน่นหนา คนคนเดียวจะฆ่าคนจำนวนมากขนาดนี้อย่างเงียบๆ ได้ยังไง? ฝีมือของผู้คุ้มกันที่อยู่ข้างกายคุณชายเจ้าก็ไม่ธรรมดานะครับ!”

……………………………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน