ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 73 หม่อมฉันคิดถึงพระองค์เพคะ

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 73 หม่อมฉันคิดถึงพระองค์เพคะ

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องนี้ สีหน้าของกัวฉีสวินพลันดูแย่ขึ้นมาทันที เขากล่าวตะคอกว่า “ลั่วเทียนเหอ! เรื่องเมื่อในอดีต ทางสภาเซียนได้ทำการตรวจสอบอย่างเข้มงวดและมีข้อสรุปออกมาแล้วว่าเป็นเพราะหลงกลพวกผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อน ถึงได้ลงมือสังหารไปเพราะคิดว่าเป็นสถานการณ์เร่งด่วน ภายหลังท่านสองรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก สภาเซียนเองก็ลงโทษท่านสองอย่างหนัก ทำการปลดท่านสองออกจากตำแหน่ง! ภายหลังท่านสองได้กลับมาบัญชาการวังพิฆาตมาร ก็เป็นเพราะได้รับคำสั่งจากสภาเซียนให้ทำความดีชดใช้ความผิด เรื่องที่มันได้ข้อสรุปมาตั้งหลายปีแล้ว ทำไมท่านถึงยังเอาแต่พูดถึงมัน ท่านต้องการอะไรกันแน่?”

ลั่วเทียนเหอกล่าว “นายบอกว่าฉันคิดมาก ฉันแค่ยกเอาเรื่องที่เคยเกิดขึ้นมาเป็นตัวอย่างไม่ได้เหรอ? นายจะร้อนใจทำไม? หรือว่าวังพิฆาตมารของพวกนายจะห้ามแม้กระทั่งพูด?”

กัวฉีสวินสูดหายใจลึกๆ “ได้! ไม่พูดมากแล้ว เข้าเรื่องเลยแล้วกัน ครั้งนี้ที่ผมมาก็เพราะได้รับคำสั่งให้มาตรวจสอบ รบกวนท่านเจ้าเมืองให้ความร่วมมือด้วย?”

ลั่วเทียนเหอกล่าว “รับคำสั่งมา? รับคำสั่งใคร? วังพิฆาตมารเหรอ? วังพิฆาตมารไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับเมืองของฉัน”

“ท่าน…” กัวฉีสวินสะบัดมือชี้ด้วยความโกรธ บรรยากาศภายในบริเวณนั้นตึงเครียดขึ้นมาทันที

เหิงเทาที่ยืนอยู่ข้างๆ เรียกได้ว่าตกใจเป็นอย่างมาก วันนี้ถือว่าได้เห็นถึงความแข็งกร้าวของท่านเจ้าเมืองแล้ว คิดไม่ถึงว่าท่านเจ้าเมืองจะกล้าขัดคำสั่งของแม่ทัพเทพแห่งวังพิฆาตมาร

ลั่วเทียนเหอกล่าว “ก็บอกว่าเข้าเรื่องไง? ก็เมืองปู๋เชวี่ยของฉันไม่ได้อยู่ในการควบคุมดูแลของวังพิฆาตมารจริงๆ ฉันพูดผิดตรงไหน? ถ้าพวกนายสามารถเอาคำสั่งของสภาเซียนมาได้ ฉันย่อมต้องให้ความร่วมมือแน่นอน ทำไม? อยากจะลงมือกับฉันภายในเมืองปู๋เชวี่ยของฉันเหรอ?”

ใบหน้าของกัวฉีสวินดูโกรธเกรี้ยวเป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายเขาก็พยายามสะกดอารมณ์โกรธเอาไว้ “พวกเราต่างก็มีภาระหน้าที่ ที่ผมมาก็เพื่อจะมาช่วยท่าน ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น”

ลั่วเทียนเหอกล่าว “ใครบ้างไม่มีภาระหน้าที่? ทว่าแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่เป็นของตัวเอง! ไม่มีคำสั่งจากสภาเซียน แต่มาพูดแค่คำสองคำคิดจะข้ามเส้นสอดมือเข้ามายุ่ง คิดว่าตัวเองมีอำนาจในการสอดมือเข้าไปยุ่งกับเรื่องของคนอื่น หรือว่านี่เป็นวิธีการทำงานของวังพิฆาตมาร? ถ้าปล่อยให้เห็นแบบนี้ไปเรื่อยๆ มิเท่ากับว่าทุกหน่วยงานภายในสภาเซียนต้องหวาดกลัว ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นมาโต้แย้งอะไรวังพิฆาตมารรึ!”

กัวฉีสวินขบกรามแน่น กลุ้มใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะยอมอ่อนข้อให้อีกครั้ง “พวกเราแค่ขอดูเอกสารเกี่ยวกับคดีคงจะไม่มีปัญหาใช่ไหม?”

ลั่วเทียนเหอยังคงมีท่าทีแข็งแกร่ง “ไม่ได้! ใครควรรับผิดชอบเรื่องอะไรก็จัดการเรื่องนั้น ปัญหาการรักษาความสงบภายในเมืองปู๋เชวี่ย ทางเมืองปู๋เชวี่ยจะเป็นคนตรวจสอบเอง หากจัดการไม่ได้ก็ยังมีหน่วยงานที่อยู่เหนือขึ้นไปอีกคอยรับผิดชอบ หากสืบสวนออกมาแล้วพบว่ามีความเกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อน ทางเมืองปู๋เชวี่ยย่อมต้องรายงานขึ้นไป เมื่อถึงเวลานั้นก็ย่อมต้องเป็นทางวังพิฆาตมารของพวกนายมารับผิดชอบ แต่ตอนนี้ไม่ใช่! ถ้านายคิดว่าฉันพูดผิดตรงไหนก็เชิญไปฟ้องฉันได้ แต่ฉันเองก็จะไปฟ้องพวกนายเหมือนกันว่าใช้อำนาจมิชอบ!”

กัวฉีสวินสบตากับเขา สุดท้ายก็สะบัดแขนเสื้อแล้วเดินออกไป พร้อมกับกล่าวทิ้งท้ายว่า “ขอลา!”

คนจากวังพิฆาตรมารที่ติตตามมาด้วยต่างมีสีหน้าดูแย่เช่นกัน

ลั่วเทียนเหอกล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชา “ไม่ส่ง”

เหิงเทายังคงเดินตามไป

มู่ชิงโหรวที่รออยู่ด้านนอกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอมองออกถึงความโกรธเกรี้ยวที่แผ่กระจายออกมาจากบนร่างของพวกกัวฉีสวิน

พวกกัวฉีสวินที่เดินออกมาจากในประตูบินพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ไปยืนอยู่บนร่างของหงส์เพลิงที่บินวนอยู่บนท้องฟ้า

ในที่สุดก็มีคนคนหนึ่งระงับความโกรธเอาไว้ไม่ไหว “ลั่วเทียนเหอผู้นี้อวดดีนัก เป็นแค่เจ้าเมืองธรรมดาเท่านั้น แต่กลับไม่เห็นวังพิฆาตมารอยู่ในสายตา ทำไมพวกเราต้องอดทนกับเขาเช่นนี้ด้วยครับ?”

กัวฉีสวินกล่าว “ก่อนมาท่านสองก็กังวลอยู่แล้วว่าตาแก่ผู้นี้จะคร่ำครึดื้อรั้น ท่านสองจึงกำชับมาว่าอย่าพยายามมีเรื่อง นี่เป็นคำสั่งจากท่านสอง ไม่อย่างนั้นพวกนายคิดว่าฉันจะกลัวเขาอย่างนั้นเหรอ?”

ทุกคนไม่เข้าใจ มีคนกล่าวถามว่า “ทำไมล่ะครับ?”

กัวฉีสวินกล่าว “ในอดีตเขาโต้เถียงองค์จักรพรรดิ ก็เป็นองค์จักรพรรดินีที่ออกหน้าปกป้องเขา ไม่อย่างนั้นเขาจะถูกลดตำแหน่งมาอยู่ภายใต้ความดูแลของนักเรียนตัวเองได้เหรอ ตาแก่นี่เป็นปฏิปักษ์กับท่านสองอยู่หลายครั้ง ไม่รู้ว่านี่เป็นความคิดของเขาเองหรือว่าเป็นความคิดขององค์จักรพรรดินี ท่านสองเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเหมือนกัน”

ทุกคนคล้ายกำลังครุ่นคิด แล้วก็มีคนยังคงรู้สึกโกรธเกรี้ยวอยู่ “วังพิฆาตมารของเราสละเลือดสละเนื้อเพื่อกวาดล้างผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อน เหล่าพี่น้องสละชีพเพื่อปกป้องพวกเขา แต่กลับมาถูกพวกเขากลั่นแกล้งสร้างความลำบากให้ นี่มันไม่ยุติธรรมเลย!”

“เรื่องไร้ประโยชน์พูดให้น้อยหน่อย จำคำพูดของท่านสองเอาไว้ พยายามรับผิดชอบหน้าที่ของตัวเองให้เรียบร้อยก็พอ เรื่องอื่นไม่ต้องสนใจ!” กัวฉีสวินกล่าวตักเตือนไปประโยคหนึ่ง จากนั้นโบกมือ สั่งให้หงส์เพลิงบินไปยังอุโมงค์เคลื่อนย้าย

มู่ชิงโหรวมองดูคณะแม่ทัพเทพจากไป ก่อนจะรีบก้าวเข้าไปในโถงหลักของสำนักงานเจ้าเมือง เดินไปตรงหน้าลั่วเทียนเหอ กล่าวถามว่า “ดูสีหน้าพวกเขาไม่ค่อยดีเลย เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือคะ?”

ลั่วเทียนเหอกล่าว “ไม่มีอะไร”

มู่ชิงโหรวกล่าวหยั่งเชิงว่า “หรือจะเป็นเพราะเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองปู๋เชวี่ย หรือทางวังพิฆาตมารคิดว่าเกี่ยวข้องกับผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อน?”

“จะมีผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อนเยอะแยะขนาดนั้นที่ไหนกัน คุณคิดมากไปแล้ว” ลั่วเทียนเหอเหลือบมองดูเธอเล็กน้อย จากนั้นสายตาทอดมองออกไปด้านนอกประตูอีกครั้ง ภายในใจเองก็กำลังกล่าวพึมพำ

สำหรับกัวฉีสวินแล้ว ไม่ไว้หน้ามันก็ส่วนไม่ไว้หน้า แต่คำพูดบางคำเขาก็ยังรับฟังอยู่ เพราะสิ่งที่อีกฝ่ายพูดมาค่อนข้างมีเหตุผล

อีกฝ่ายกล่าวถูกต้อง วิธีการของฆาตกรไม่ใช่สิ่งที่คนร้ายทั่วๆ ไปจะทำได้ วิธีการที่สามารถคิดได้ไม่ได้หมายความว่าจะเป็นสิ่งที่ใครจะสามารถทำได้อย่างเยือกเย็นเช่นนั้น คนที่ไม่มีประสบการณ์ไม่มีทางมีความกล้าและความช่ำชองเช่นนั้นได้ การที่สามารถกระทำความผิดท่ามกลางกองกำลังของสภาเซียนได้อย่างง่ายดาย นั่นหมายความว่าคนผู้นั้นจะต้องเป็นคนที่ต่อกรกับคนของสภาเซียนอยู่เป็นประจำ แล้วคนแบบไหนถึงจะต่อกรกับคนของสภาเซียนเป็นประจำได้?

เมฆแห่งความสงสัยก่อตัวขึ้นภายในใจเขา หรือเรื่องที่เกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าจะเป็นฝีมือของผู้สนับสนุนราชวงศ์ก่อนจริงๆ?

……

การปรากฏตัวของกัวฉีสวินทำให้หลินยวนรู้สึกไม่สบายใจ หลังไล่หลัวคังอันออกไปแล้ว เขาก็เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องพักผ่อน ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง

ในตอนที่เดินผ่านหน้าต่าง เขาเงยหน้าขึ้นไปโดยไม่ได้ตั้งใจ มองเห็นเงาร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงริมหน้าต่างของห้องที่อยู่เยื้องขึ้นไปด้านบนห้องนั้น สบตาเข้ากับฉินอี๋

หลินยวนยกมือ ดึงผ้าม่านลงมา บดบังสายตาของทั้งสองคน

ฉินอี๋กัดริมฝีปากเล็กน้อย ท่าทีดูคล้ายคับแค้นใจ

เธอหมุนตัวยกมือขึ้นกอดอก เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้องทำงานด้วยเท้าที่เปลือยเปล่า ยามที่ไม่มีคนนอกอยู่เธอชอบทำแบบนี้ แต่ว่าเท้าของเธอนั่นน่าดูจริงๆ

ไป๋หลิงหลงเคาะประตูแล้วเดินเข้ามา รีบเดินมาตรงหน้าเธอ “ฉันไปถามมาแล้ว คนที่มาคือกัวฉีสวินที่เป็นหนึ่งในแม่ทัพเทพของวังพิฆาตมาร มาเร็วไปเร็ว ตอนนี้ออกไปจากเมืองแล้ว”

“คนของท่านสองเหรอ?” ฉินอี๋ตกใจเล็กน้อย จากนั้นถึงได้พบว่าตัวเองคิดมากไปแล้ว คนแบบนี้ไม่ใช่คนที่เธอจะเข้าไปพบปะได้ ต่อให้อีกฝ่ายยังไม่ไป เกรงว่าตัวเองไปคารวะก็คงจะไม่ได้เข้าพบเช่นกัน เพราะอีกฝ่ายไม่มีทางมองคนอย่างเธออยู่ในสายตาแน่นอน เธอกล่าวถามว่า “คนสำคัญแบบนี้มาที่นี่ หรือจะเกี่ยวข้องกับคดีที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้?”

ไป๋หลิงหลงพยักหน้า “จากหน้าที่ของเขาแล้ว เกรงว่าเป็นไปได้สูง เสี่ยวอี๋ คุณนายหลิ่วพูดถูกนะ คนร้ายนั่นไม่ใช่คนที่จะไปยุ่งด้วยได้ อย่าไปตามหาจะดีกว่านะ”

ฉินอี๋กล่าวมาประโยคเดียว เป็นคำพูดที่เด็ดขาดแน่วแน่ ไม่มีความลังเลใดๆ “หาต่อไป!”

หลินยวนที่อยู่อีกห้องหนึ่งเดินมายังโซฟาแล้วนั่งลงไป เอนหลังพิงพนัก จมดิ่งอยู่ในความคิด ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร

กระทั่งก่อนเลิกงานไม่นาน โทรศัพท์มือถือที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงก็ดังขึ้นมา เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พบว่าเป็นเบอร์แปลกหน้าเบอร์หนึ่ง จึงกดวางไป

แต่ไม่นานเบอร์นั้นก็โทรมาอีกครั้ง ครั้งนี้เขาถึงได้กดรับ ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู กล่าวถามว่า “ใคร?”

ปลายสายมีเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา เป็นเสียงที่ใสกระจ่างและอ่อนหวาน ให้ความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยน “หม่อมฉันเองเพคะ”

หลินยวนฟังออกว่าเป็นใคร “ฉันเคยบอกแล้ว พยายามอย่าติดต่อฉัน”

หญิงสาวกล่าว “ขออภัยเพคะ”

หลินยวนกล่าว “มีอะไร?”

หญิงสาวกล่าว “เรื่องที่พระองค์สั่ง หม่อมฉันจัดการเรียบร้อยแล้วเพคะ ตอนนี้คนไปที่นั่นแล้ว ทันทีที่ได้รับสัญญาณจากพระองค์ เขาก็จะรับตัวคนไปทันที พระองค์วางใจได้เพคะ ล้วนเป็นนักธุรกิจธรรมดาทั่วไป ไม่รู้เรื่องอะไรเลย รับผิดชอบเพียงจัดการตามคำสั่ง พร้อมรับคำสั่งจากพระองค์ตลอดเวลาเพคะ”

หลินยวนกล่าว “เข้าใจแล้ว”

ก็ไม่ใช่เรื่องอะไร เป็นเรื่องครอบครัวของกวนเสี่ยวไป๋ เขากลัวว่าการมาถึงของเขาจะสร้างปัญหาอะไรให้กับตระกูลกวน จึงสั่งให้คนเตรียมพร้อมเอาไว้ ทันทีที่เกิดอะไรขึ้นก็ให้รับตัวคนตระกูลกวนไปยังที่ปลอดภัย

หญิงสาวกล่าว “อาการบาดเจ็บของพระองค์เป็นยังไงบ้างเพคะ?”

หลินยวนนิ่งเงียบไปเล็กน้อย ไม่ได้บอกว่าอาการบาดเจ็บของตัวเองดีขึ้นแล้ว “ไม่มีอะไรก็อย่าคุยเล่น” กล่าวจบก็เตรียมจะวางสาย

หญิงสาวคล้ายเดาได้ว่าเขาจะทำอะไร จึงรีบกล่าวว่า “เดี๋ยวเพคะ ยังมีอีกเรื่องเพคะ”

โทรศัพท์ที่เพิ่งยกออกจากหูหลินยวนถูกวางแนบกลับไปใหม่อีกครั้ง “พูดธุระ สั้นๆ หน่อย”

หญิงสาวกล่าว “หม่อมฉันได้รับข่าวมาเพคะ กัวฉีสวินไปยังเมืองที่พระองค์อยู่ แต่ว่าไม่นานก็ใช้อุโมงค์เคลื่อนย้ายกลับมายังเมืองหลวง ทำไมจู่ๆ เขาถึงไปยังเมืองที่พระองค์อยู่ล่ะเพคะ คงจะไม่ได้ไปหาพระองค์ใช่ไหมเพคะ?”

ความจริงในแง่หนึ่งแล้วก็ถือว่าเขามาเพราะหลินยวนก็ว่าได้ แต่หลินยวนไม่ได้ยอมรับ “เปล่า”

หญิงสาวกล่าวว่า “หม่อมได้รับข่าวมา หอการค้าตระกูลพานที่ใหญ่ที่สุดของเมืองเทียนกู่จ่ายเงินรางวัลก้อนใหญ่ในการช่วยเหลือลูกสาวเป็นเงินพันล้านมุก สร้างความปั่นป่วนไม่น้อย เหมือนจะมีคนจำนวนไม่น้อยกำลังมุ่งหน้าไปที่ที่พระองค์อยู่ อาการบาดเจ็บของพระองค์…หม่อมฉันเป็นห่วงพระองค์นะเพคะ”

หลินยวนครุ่นคิดเล็กน้อย “ไม่ต้องเป็นห่วง ฉันรับมือได้”

หญิงสาวกล่าว “จะให้หม่อมฉันหาคนไปช่วยไหมเพคะ? พระองค์วางใจได้ หม่อมฉันจะหาคนที่ไว้ใจได้ จะได้ให้พระองค์ใช้งานได้ในเวลาที่ต้องการเพคะ”

หลินยวนกล่าว “ฉันบอกแล้วไง เก็บตัว อย่าติดต่อกับคนอื่นอีก”

หญิงสาวกล่าว “เถ้าแก่เหมยก็ไม่ติดต่อเหรอเพคะ? พี่ใหญ่บอกว่าเถ้าแก่เหมยส่งสัญญาณติดต่อมา พี่ใหญ่ให้หม่อมฉันมาถามพระองค์ว่าคิดยังไงเพคะ”

หลินยวนกล่าว “อย่าติดต่อ ศึกนั้นฉันรู้สึกว่าเราแพ้อย่างแปลกๆ คล้ายว่าอีกฝ่ายรู้ถึงแผนการของเรา นอกจากพวกเธอแล้ว ฉันไม่เชื่อใจใครอีก ตอนนี้ให้หยุดการติดต่อกับคนอื่นทั้งหมด เก็บตัว!”

หญิงสาวตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตอนที่ท่านผู้นี้จากไปคล้ายหมดอาลัยท้อแท้ คล้ายไม่อยากจะสนใจอะไรแล้ว สั่งการเพียงเล็กน้อยก็จากไป ตอนนี้ท่านผู้นี้กลับมาสั่งการอย่างละเอียดอีกครั้ง คล้ายตื่นตัวขึ้นมา เธอรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เสียงดังขึ้นกว่าเดิมไม่น้อย “ทราบแล้วเพคะ แล้วก็พี่รองให้หม่อมฉันมาบอกพระองค์ว่าเขาได้รับรายชื่อฉบับหนึ่งมาจากผู้อาวุโสรุ่นก่อน พบว่าหนอนที่อยู่บนรายชื่อนั้นมีคนที่อยู่ในเมืองของพระองค์ด้วย แต่ว่าไม่เคยถูกใช้งานมาก่อน ตอนนี้คนผู้นี้มีตำแหน่งสถานะที่ค่อนข้างสูงอยู่ในเมืองของพระองค์ บางทีอาจจะมีประโยชน์ต่อพระองค์ได้ พี่รองจึงให้หม่อมฉันมาถามพระองค์ว่าจะใช้งานหรือไม่เพคะ?”

เดิมหลินยวนอยากตอบว่าไม่จำเป็น แต่พอได้ฟังว่ามีตำแหน่งสถานะที่ค่อนข้างสูง จึงอดใจถามไม่ไหว “ใคร?”

หญิงสาวกล่าว “หัวหน้าฝ่ายบริหารงานทั่วไป เหิงเทาเพคะ!”

เหิงเทา? หลินยวนตกตะลึงเล็กน้อย สายตาเผยให้เห็นถึงความรู้สึกสงสัยในทันที รายชื่อที่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนให้มา ทำไมถึงได้บังเอิญขนาดนี้?

แต่พอมาคิดดู รายชื่อที่ผู้อาวุโสรุ่นก่อนให้มาคล้ายจะไม่เคยมีปัญหามาก่อน บางทีอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญจริงๆ

เขาลังเลเล็กน้อย “บอกวิธีติดต่อมา แต่พวกเธออย่าไปติดต่อเอง” เขายังคงระมัดระวังตัวอยู่

หญิงสาวกล่าว “เพคะ พระองค์ถาม : ปีนี้คือปีอะไร? เขาตอบ : ที่ไหนมีขายโคมแดง? พระองค์ตอบ : บนโลกมนุษย์ อีกฝ่ายก็จะรู้ว่าหมายความว่าอะไรเพคะ”

หลินยวนจำเอาไว้เงียบๆ “เข้าใจแล้ว ถ้าระหว่างพวกเราไม่มีเรื่องสำคัญอะไรก็พยายามอย่าติดต่อมาอีก”

หญิงสาวพลันกล่าว “หม่อมฉันคิดถึงพระองค์เพคะ หม่อมฉันไปหาพระองค์ได้ไหมคะ?” จากนั้นรีบกล่าวเสริมอีกประโยคว่า “ตอนอยู่เมืองหลวงพวกเราก็ไปมาหาสู่กัน ถ้าหม่อมฉันไปก็ไม่มีอะไรน่าสงสัย แต่ถ้าหม่อมฉันไม่ถามไถ่เลย นั่นกลับจะน่าสงสัยกว่านะเพคะ”

หลินยวนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง นึกถึงคำพูดที่เคยหลอกเถาฮวาเอาไว้ จึงไม่ได้ปฏิเสธอะไร กล่าวเสียงเนิบๆ ว่า “รอฉันแจ้งไปแล้วกัน”

หญิงสาวรีบกล่าวถาม “นานเท่าไรเพคะ? พอจะบอกเวลาที่ชัดเจนได้ไหมเพคะ?”

หลินยวนกล่าว “ไม่เกินสามเดือน”

ในน้ำเสียงของหญิงสาวแฝงเอาไว้ด้วยความรู้สึกยินดี “ทราบแล้วเพคะ หม่อมฉันจะรอพระองค์แจ้งมาเพคะ”

หลินยวนวางสาย จากนั้นครุ่นคิด อีกสามเดือน เรื่องการประมูลเทพมหาวิญญาณก็น่าจะจบลงแล้วมั้ง

……………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน