ตอนที่ 102 เป็นโอกาสดีที่จะลงมือ
ไป๋หลิงหลงที่อยู่ด้านหลังเธอก็ดวงตาเบิกโพลงเช่นเดียวกัน สีหน้าตกตะลึง เธอคิดไม่ถึง คิดไม่ถึงเลยว่าเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินจะมีปัญหาตั้งแต่เริ่ม
เธอย่อมต้องรู้ว่าหอการค้าตระกูลฉินลงทุนไปมากเท่าไรเพื่อการประมูลครั้งนี้ หอการค้าตระกูลฉินทุ่มหมดหน้าตัก แต่กลับล้มเหลวตั้งแต่เริ่ม นี่ก็หมายความว่ากลยุทธ์ของฉินอี๋ผิดพลาด นี่จะส่งผลกระทบด้านลบต่อการบริหารหอการค้าของฉินอี๋อย่างมาก เพราะว่ามันเกี่ยวพันไปถึงปากท้องของคนจำนวนมาก
โจวหม่านเชาที่นั่งอยู่ไม่ไกลเหลือบมองไปยังฉินอี๋ที่ลุกขึ้นยืนด้วยใบหน้าขาวซีด กล่าวด้วยน้ำเสียงเฉยชาว่า “ดูท่าทางแล้ว เหมือนข่ายพลังภายในเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินจะเกิดปัญหานะ”
พานชิ่งกล่าวทับถมด้วยเสียงที่ค่อนข้างดังว่า “ข่ายพลังภายในเทพมหาวิญญาณมีปัญหาตั้งแต่เริ่มแบบนี้ยังคิดจะมาเข้าร่วมการประมูลอีก ไม่เจียมตัวเลย”
เหล่าประธานหอการค้าที่นั่งอยู่ต่างมองหน้ากัน แล้วก็มีท่าทีสะใจที่เห็นเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินมีปัญหา
ลั่วเทียนเหอกลับมายังที่นั่งแล้ว ดึงสายตากลับมาจากบนฉากแสง มองไปทางฉินอี๋ที่สีหน้าเต็มไปด้วยความอ้างว้างเศร้าสร้อย เขาส่ายศีรษะเล็กน้อย ภายในใจลอบถอนใจ
“ทำไมเหรอคะ?” ฉิงชุ่ยสังเกตเห็นฉินอี๋ที่มีท่าทีแปลกๆ จึงเหลียวหน้าไปกระซิบถามหนานชีหรูอัน
หนานชีหรูอันดึงสายตากลับมาจากฉินอี๋ ส่ายศีรษะเล็กน้อย ไม่พูดอะไร
เผิงซีย่อมต้องรู้ว่ากับดักที่ทางนี้วางเอาไว้ทำงานขึ้นมาแล้ว เขามองดูฉินอี๋ที่ดูเศร้าสร้อยคล้ายไม่มีที่พึ่งพา ก่อนจะก้มศีรษะมองดูฝ่ามือของตัวเอง ภายในใจนิ่งดุจน้ำ คล้ายกำลังมีคลื่นก่อตัว
……
ณ สำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลฉิน ฉินเต้าเปียนที่นั่งดูฉากแสงอยู่ด้านหลังโต๊ะทำงานลุกพรวดขึ้นมาทันที ใบหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกปวดใจและอับอาย
หลิ่วจวินจวินเบือนหน้ามองออกไปด้านนอกหน้าต่าง ทนดูต่อไปไม่ไหว
……
แม้นจะถึงเวลาเลิกงานแล้ว แต่พนักงานในสำนักงานใหญ่ของหอการค้าตระกูลก็ยังไม่กลับบ้าน มาจับกลุ่มกันอยู่ตรงหน้าฉากแสง ภายในโถงใหญ่ของหอการค้ามีพนักงานยืนเบียดเสียดเงยหน้ามองดูฉากแสง แต่ละคนต่างรู้สึกปวดใจ
……
จูเก่อม่านที่นั่งอยู่ภายในห้องผู้จัดการมองดูภาพเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินกำลังพุ่งตกลงไปที่พื้น มือทั้งสองข้างยกขึ้นมาปิดปากตัวเองเอาไว้
……
ภายในโรงอีหลิว จางเลี่ยเฉินที่นอนโบกพัดดูการถ่ายทอดสดอยู่บนเก้าอี้นอนพลันหรี่ตาเล็กน้อย พัดในมือยังคงโบกไปมาอย่างช้าๆ
……
ภายในโรงรับซื้อของเก่าของตระกูลกวน กวนเสี่ยวไป๋ที่จ้องมองฉากแสงกำมือแน่นขึ้นมา
……
หลัวคังอันที่หมุนควงไปมารับรู้ได้ถึงอันตราย เขาเคลื่อนตัวเข้าไปในตำแหน่งควบคุมเทพมหาวิญญาณอีกครั้ง ถ่ายพลังเชื่อมต่อเข้ากับเทพมหาวิญญาณอีกครั้งหนึ่ง
เทพมหาวิญญาณพยายามจะบินขึ้นมาอีกครั้ง แต่มันก็สายไปเสียแล้ว ร่างของเทพมหาวิญญาณตกลงไปในเชือกสีขาวจำนวนนับไม่ถ้วนที่ถักทอเข้าด้วยกัน
ในขณะที่กระแทกลงไปในเชือกสีขาว บนผิวภายนอกของเทพมหาวิญญาณก็มีอักขระพลังงานที่ทำหน้าที่เป็นเกราะป้องกันปรากฏขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง
เชือกสีขาวมีความเหนียวเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก สามารถหยุดเทพมหาวิญญาณที่จะตกลงไปยังพื้นด้านล่างเอาไว้ได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีเสียง ‘ตู้ม’ ดังขึ้นมาอยู่ดี พื้นดินสั่นสะเทือน ภูเขาโยกไหว ฝุ่นควันคละคลุ้ง ย้อมเชือกสีขาวจนเปลี่ยนสี
เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินเหมือนตกลงไปในตาข่าย แรงที่ร่วงตกลงไปรั้งให้ตาข่ายสีขาวห่อหุ้มเทพมหาวิญญาณเอาไว้ข้างใน บนเชือกสีขาวเหล่านั้นมีความเหนียวหนืดเป็นอย่างมาก ทันทีที่ตาข่ายห่อหุ้มเทพมหาวิญญาณเอาไว้ก็ไม่ยอมหลุดออกอีก
ภายในห้องควบคุมรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือนที่เกิดจากเทพมหาวิญญาณกระแทกไปบนพื้นด้านล่าง หลินยวนที่นั่งอยู่ในที่นั่งผู้ช่วยมีสีหน้าคร่ำเคร่ง ร่างกายโยกไหวอย่างรุนแรงไปตามเทพมหาวิญญาณ แต่เขายังคงจับตามองดูท่าทีของหลัวคังอันอยู่
หลัวคังอันพยายามดิ้นรน รู้สึกว่ายิ่งดิ้นก็ยิ่งถูกรัดแน่น จึงสบถขึ้นมาว่า “ใยแมงมุมสวรรค์พวกนี้นี่ทั้งเหนียวแล้วก็แข็งแรงจริงๆ ” ขณะเดียวกันก็พยายามขยับไหล่ซ้ายไม่หยุด แต่กลับถูกระบบถ่ายโอนพลังงานของเทพมหาวิญญาณดีดกลับมา “แขนซ้ายขยับไม่ได้แล้ว ไอพนักงานซ่อมบำรุงพวกนั้นมันทำงานยังไงของมันวะเนี่ย”
หลินยวนตะคอกเสียงคร่ำเคร่ง “หนีเร็ว!”
หลัวคังอันรีบฝืนถ่ายพลังเข้าไปทันที อักขระที่อยู่บนผิวด้านนอกของเทพมหาวิญญาณพลันขยายตัว ดันตาข่ายยักษ์ที่รัดร่างเทพมหาวิญญาณให้ขยายออกไป ก่อนจะตวัดทวนออกไปด้วยแขนข้างเดียว
ประกายอันเยียบเย็นตัดตาข่ายยักษ์จนขาด เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินแหวกตาข่ายออกมา พุ่งทะยานออกมาจากฝุ่นควันที่คละคลุ้ง
เทพมหาวิญญาณที่ไหล่ข้างซ้ายมีประกายแสงสีขาวและสีแดงแลบแปลบปลาบบินขึ้นมาอีกครั้ง ฉินอี๋ที่จ้องมองฉากแสงเพิ่งจะรู้สึกโล่งใจ จากนั้นจู่ๆ พลันรู้สึกตกใจขึ้นมาอีกครั้ง การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดเกิดขึ้นในพริบตา
ภายในภูเขาที่อยู่รอบๆ มีเงาร่างสีแดงและเงาร่างสีดำแห่กันวิ่งออกมา แมงมุมสวรรค์พุ่งออกมาเป็นฝูงจากในภูเขา ห้อตะบึงเข้ามาอย่างไม่คิดชีวิต แมงมุมสวรรค์สีแดงที่มีรูปร่างเล็กมีขนาดประมาณสองสามจั้ง แมงมุมสวรรค์สีดำที่มีขนาดใหญ่มีขนาดประมาณเจ็ดแปดจั้ง
แมงมุมสวรรค์ตัวแล้วตัวเล่ากระโดดออกมา กางขากระโจนเข้าใส่เทพมหาวิญญาณที่พุ่งออกมาจากตาข่าย
หลัวคังอันเพิ่งจะเหวี่ยงทวนฟาดแมงมุมสวรรค์ไปได้ตัวหนึ่ง แมงมุมสวรรค์ที่อยู่รอบๆ ก็กระโจนเข้าใส่เหมือนดั่งห่าฝนอันคลุ้มคลั่ง ซ้อนทับกันเป็นชั้นๆ จนเทพมหาวิญญาณที่เพิ่งจะพุ่งออกมาถูกทับจนล้มกลับลงไปในภูเขา
แมงมุมสวรรค์จำนวนมหาศาลที่ซ้อนทับกันจนกลายเป็นเนินขนาดย่อมๆ กระเด็นกระดอนออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้านในมีเสียงครืนๆ ดังขึ้นไม่หยุด แต่แมงมุมสวรรค์ที่แห่กันมาจากทุกทิศทุกทางก็หาได้หวาดกลัวไม่ ไม่ว่าพวกเดียวกันจะกระเด็นกระดอนออกมาเป็นชิ้นๆ หรือไม่ พวกมันยังคงกระโจนเข้าไปหาอย่างไม่หวาดกลัวต่อความตาย
แมงมุมสวรรค์ที่มีขนาดเล็กพ่นใยสีขาวเป็นก้อนๆ เข้าใส่ฝูงแมงมุมสวรรค์ที่กำลังกระเด้งกระดอนออกมา ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง
ส่วนแมงมุมสวรรค์ที่มีขนาดใหญ่ก็พ่นใยแมงมุมที่มีขนาดใหญ่เหมือนเชือกสีขาว ถักทอเป็นตาข่ายปกคลุมเอาไว้บนร่างที่กำลังขยับเคลื่อนไหวไปมาอย่างรุนแรง
พ่นใยไม่หยุด กระโจนเข้าใส่ไม่หยุด ทับกันเป็นชั้นๆ ไม่นานก็กลายเป็นเหมือนภูเขาที่ขยับเขยื้อนคืบคลานได้ ภายในภูเขาคือแมงมุมสวรรค์ที่ไม่กลัวตายฝูงหนึ่งที่กำลังเกาะเทพมหาวิญญาณที่พยายามโจมตีกลับเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ถึงแม้จะมองเห็นพวกเดียวกันถูกฟันจนกลายเป็นชิ้นๆ แต่พวกมันก็ยังกระโจนเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง เกาะเทพมหาวิญญาณเอาไว้ กัดขย้ำอย่างบ้าคลั่ง แต่กัดยังไงก็กัดไม่เข้า
“กัดไม่เข้าก็ยังจะกัดอีก” หลัวคังอันหงุดหงิดรำคาญ รับรู้ได้ถึงแมงมุมสวรรค์จำนวนนับไม่ถ้วนที่กำลังเกาะแกะพัวพัน ร่างกายบิดหมุน เหวี่ยงแขนเหวี่ยงขาสังหารแมงมุมอย่างบ้าคลั่ง
เนื่องเพราะเสียงอึกทึกครึกโครมทางด้านนี้ สัตว์ประหลาดเขี้ยวแหลมคมที่มีรูปร่างภายนอกคล้ายหมาป่า ครึ่งร่างมีเกาะแข็งๆ งอกออกมาตัวหนึ่งวิ่งห้อตะบึงออกมา พุ่งเข้าไปยังจุดที่มีเสียงอึกทึกครึกโครม
แต่ทันทีที่มันพุ่งเข้าไปในอาณาเขตของแมงมุมสวรรค์ มันก็เหมือนจมลงไปในดินโคลนทันที ร่างกายถูกใยแมงมุมพันเอาไว้ ไม่นานก็มีแมงมุมสวรรค์ฝูงหนึ่งปรากฏขึ้นมา พุ่งกระโจนเข้าใส่สัตว์ประหลาดตัวนั้น
ไม่นานนัก แมงมุมสวรรค์ที่ปกคลุมสัตว์ประหลาดตัวนั้นก็กระจายตัวออก เหลือเพียงโครงกระดูกกองหนึ่ง ยังคงมีแมงมุมตัวเล็กๆ ที่ยังกัดแทะอยู่บนกระดูก
เทพมหาวิญญาณที่เข้าร่วมประมูลทั้งยี่สิบสองตัวลอยอยู่กลางอากาศ มองดูเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินที่ถูกแมงมุมสวรรค์ห่อหุ้มจนเหมือนภูเขาที่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้ทางด้านล่างด้วยสายตาเย็นชา
เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลอู๋ที่พุ่งลงไปด้านล่างได้บินขึ้นมาบนอากาศอีกครั้ง ลอยอยู่กลางอากาศในละแวกใกล้ๆ อย่างโดดเดี่ยว ทั้งมองดูฝูงแมงมุมสวรรค์ที่กำลังกลุ้มรุมโจมตีอยู่เบื้องล่าง และคอยสังเกตดูเทพมหาวิญญาณทั้งยี่สิบสองตัวด้วย
โดรนวิเศษนับร้อยตัวก็บินอยู่บนฟ้าเช่นเดียวกัน ถ่ายทุกความเคลื่อนไหวส่งไปยังโลกภายนอก
ทั่วทั้งดินแดนเซียนในเวลานี้ ไม่รู้ว่ามีดวงตาจำนวนมากน้อยเท่าไรกำลังจ้องมองดูภาพเหตุการณ์ที่เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินถูกแมงมุมสวรรค์กลุ้มรุมอยู่ สำหรับคนจำนวนมากแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้เห็นถึงความน่ากลัวของแมงมุมสวรรค์ที่โจมตีกันเป็นฝูง
จากภาพที่อยู่บนฉากแสงจะเห็นได้ว่าทั่วทั้งแดนแมงมุมสวรรค์เป็นเหมือนดินแดนแห่งความตาย ทุกที่ล้วนเต็มไปด้วยกระดูกสีขาวโพลน บนต้นไม้ที่สูงเสียดฟ้ามีใยแมงมุมสีขาวพลิ้วไหวคล้ายผ้าขาวไว้ทุกข์ ยิ่งเป็นการตอกย้ำถึงความน่ากลัวของแดนแมงมุมสวรรค์
“ถูกตรึงไว้แล้ว” ผู้ช่วยที่อยู่ในเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉวี่กล่าวอย่างยินดี “ดูเหมือนพวกเราจะไม่ต้องลงมือแล้ว”
ขุยชิวที่เป็นผู้ควบคุมหลักกล่าวว่า “ด้วยพลังป้องกันอันแข็งแกร่งของเทพมหาวิญญาณ แมงมุมสวรรค์พวกนี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก อย่างมากก็แค่ถ่วงพวกเขาเอาไว้พักหนึ่ง”
“ความหมายของนายคือ?” ผู้ช่วยมองออกว่าเขามีความคิดจะลงมือ “ทุกคนกำลังจับตาดูอยู่ กรรมการที่อยู่ด้านนอกก็มองดูอยู่ หากเราลงมือเลยมันจะไม่ค่อยเหมาะหรือเปล่า? ไม่สู้ปล่อยให้พลังงานของเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินหมดไปเอง แบบนั้นไม่ง่ายกว่าเหรอ?”
ขุยชิวกล่าวว่า “ด่านแรกของการประมูลคือการเอาตานแมงมุมสวรรค์ แมงมุมสวรรค์มารวมตัวกันตั้งเยอะตั้งแยะแบบนี้…เป็นโอกาสเหมาะที่จะลงมือพอดี” กล่าวจบก็ส่งสัญญาณมือ ควบคุมเทพมหาวิญญาณให้พุ่งลงไป
เมื่อเห็นสัญญาณมือ เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลเซวียน หอการค้าตระกูเมิ่งและหอการค้าตระกูลหลานก็พุ่งตามลงไปเช่นกัน
หอการค้าทั้งสี่ดูคล้ายต่างคนต่างมาเข้าร่วมประมูล แต่ความจริงเบื้องหลังของหอการค้าทั้งสี่นั้นคือตระกูลใหญ่ตระกูลเดียวกัน โดยมีหอการค้าตระกูลฉวี่เป็นหลัก ส่วนหอการค้าอีกสามแห่งเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือ
และในบรรดาผู้เข้าร่วมประมูลทั้งยี่สิบสี่แห่ง หอการค้าตระกูลฉวี่ หอการค้าตระกูลอูและหอการค้าตระกูลเผยก็คือผู้ที่มีผลประโยชน์อยู่แต่เดิมก่อนที่จะมีการประมูลในครั้งนี้ ข่ายพลังเชื่อมต่อของข้อต่อเทพมหาวิญญาณเป็นธุรกิจของหอการค้าทั้งสามแห่งนี้มาเป็นเวลานานแล้ว
ในการประมูลครั้งนี้ หอการค้าทั้งสามแห่งไม่ได้มีการปรับปรุงข่ายพลังใดๆ ทั้งสิ้น แต่ถ้าหากปล่อยให้คนอื่นเอาชนะการประมูลในครั้งนี้ไปได้ นั่นจะกลายเป็นการตัดหนทางทำมาหากินของพวกเขา หอการค้าทั้งสามแห่งจึงมาเข้าร่วมการประมูลเพื่อขัดขวางคนที่คิดจะยื่นมือเข้ามาแย่งผลประโยชน์ของพวกเขา
ภายในงานเลี้ยงของหนานชีหรูอันก่อนหน้านี้ คำพูดที่พานชิ่งได้กล่าวเปิดโปงหอการค้าตระกูลฉินได้ทำให้หอการค้าต่างๆ พุ่งความสนใจไปที่หอการค้าตระกูลฉิน และหลังจากที่ฉินอี๋ได้ส่งจดหมายไปให้เจ้าแคว้นหนานหรูและถูกเรียกออกมาต่อหน้าทุกคน ทุกคนต่างก็มองออกถึงความทะเยอทะยานที่หอการค้าตระกูลฉินแอบซ่อนเอาไว้ หอการค้าตระกูลฉวี่ย้อมต้องพยายามทำลายทุกความเป็นไปได้ของหอการค้าตระกูลฉิน
ฉวี่ซานจวีผู้ซึ่งเป็นประธานของหอการค้าตระกูลฉวี่จ้องมองดูฉากแสง มุมปากมีรอยยิ้มแปลกประหลาดปรากฏขึ้นมา รู้ว่าคนของตัวเองกำลังจะลงมือแล้ว
หวงอวี่ที่ควบคุมเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลอู๋ตกใจ รู้ว่าสถานการณ์ไม่ดีแล้ว หลังลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็พุ่งตัวตามลงไปเช่นกัน
ในสถานการณ์แบบนี้ เขาไม่อยากไปเลย แต่เขาก็ไม่มีทางเลือก ประธานของหอการค้าตระกูลอู๋ได้เคยบอกเขาเอาไว้ว่าการช่วยหอการค้าตระกูลฉินเป็นคำสั่งของตระกูลหนานชี หากเห็นหอการค้าตระกูลฉินเกิดเรื่องแล้วไม่ยอมช่วย ความโกรธเกรี้ยวของตระกูลหนานชีไม่ใช่สิ่งที่เขาจะแบกรับได้ จึงทำได้เพียงลุยลงไป
ในเวลานี้เอง คนจำนวนมากในโลกด้านนอกยังคงมองไม่ออกว่าที่หอการค้าตระกูลอู๋พุ่งตามลงไปด้านล่างด้วยมันหมายความว่าอย่างไร
เทพมหาวิญญาณจะทำการเชื่อมต่อกับพลังของผู้ควบคุมหลัก ความรู้สึกและสัมผัสจะมีการเชื่อมต่อกันในระดับสูง ความสามารถในการรับรู้ที่เทพมหาวิญญาณมีต่อโลกภายนอกก็คือความสามารถในการรับรู้ที่ผู้ควบคุมมีต่อโลกภายนอก
หลัวคังอันที่ถูกแมงมุมสวรรค์พัวพันสัมผัสได้ถึงความเคลื่อนไหวที่พุ่งเข้ามาจากทุกทิศทุกทาง ประกายเยียบเย็นสายหนึ่งแหวกผ่านร่างแมงมุมสวรรค์ตัวหนึ่งลงมา ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดชะงัก ดาบอันแหลมคมที่อยู่ในมือเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉวี่ฟันลงมาอย่างคลุ้มคลั่ง
หลังคังอันที่กำลังตกใจเป็นอย่างมากรีบเหวี่ยงทวนไปขวางเอาไว้ เขาคิดอยากจะป้องกันโดยใช้สองมือ แต่ในตอนที่ทำการป้องกันถึงได้นึกขึ้นมาได้ว่าแขนซ้ายขยับไม่ได้
ภายใต้ความเร่งรีบทำอะไรไม่ถูกจึงได้แต่ต้องใช้แขนข้างเดียวเหวี่ยงทวนออกไปป้องกัน เสียงตู้มดังขึ้น ด้ามทวนถูกกระแทกกลับมา กระแทกลงบนหน้าอกของเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉิน คมดาบที่กดลงมาฟันเข้าใส่อักขระพลังงานที่ป้องกันร่างเทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินจนแตก คมดาบฟันลงไปบนแขนของเทพมหาวิญญาณหอการค้าตระกูลฉินจนเป็นร่องลึกเส้นหนึ่ง
เทพมหาวิญญาณของหอการค้าตระกูลฉินถูกฟันจนกระเด็นถอยหลัง หลัวคังอันถูกพลังตีกลับ กระอักโลหิตสดๆ ออกมาคำหนึ่ง ล้มลงไปทันที
หลินยวนที่นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้ช่วยมองดูด้วยสายตาเยือกเย็น จู่ๆ เขาพลันพลิกมือฟาดไปบนกำแพงที่อยู่ข้างกาย พลังสายหนึ่งพุ่งออกไปตามกำแพง ภายในกล้องวงจรปิดที่ผ่านการแปลงโฉมที่จูลี่นำมาติดตั้งไว้มีเสียง ‘โพละ’ ดังขึ้นมา ใช้การไม่ได้แล้ว
ฟึบ! หลินยวนที่อยู่ในที่นั่งผู้ช่วยหายไปแล้ว
เงาร่างหนึ่งวูบไหวผ่านไป หลัวคังอันที่อยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุมหลักกระเด็นลอยออกไป กระแทกเข้ากับกำแพงแล้วร่วงลงไปที่พื้น
เงาร่างหนึ่งพุ่งเข้าไปประจำอยู่ในตำแหน่งผู้ควบคุมหลัก เป็นหลินยวน ทวนยาวที่อยู่ในมือหลัวคังอันได้มาอยู่ในมือหลินยวนแล้ว
……………………………………………………….