ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 180 เจรจาลับ

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 180 เจรจาลับ

“ฉวี่ซานจวี จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”

เผยหยวนจี้ผู้เป็นประธานของหอการค้าตระกูลเผยที่ถูกค้นตัวจ้องมองฉวี่ซานจวีผู้เป็นประธานหอการค้าตระกูลฉวี่ที่ออกมาต้อนรับด้วยสายตาเย็นชาพร้อมเอ่ยถาม

ด้านข้างยังมีอีกคนหนึ่งที่ถูกค้นตัวเช่นเดียวกัน นั่นคืออูฉิงเทียนผู้เป็นประธานหอการค้าตระกูลอู เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาเช่นเดียวกันว่า “เรียกพวกเรามาทำเรื่องแบบนี้ ฉวี่ซยง ฉันไม่เคยต้อนรับนายแบบนี้หรือเปล่า?”

ฉวี่ซานจวีเดินลงมาจากบันได หัวเราะฮ่าๆ พลางประสานมือเอ่ยขอโทษ “เผยซยง อูซยง ขอโทษด้วยที่ล่วงเกิน ไม่จำเป็นต้องคิดมาก อีกเดี๋ยวพวกนายสองคนก็รู้เองว่าทำไมต้องทำแบบนี้ ฉันเองก็ต้องถูกค้นตัวเหมือนกัน เดี๋ยวพวกนายสองคนก็ต้องให้คนมาค้นตัวฉันด้วย” กล่าวพลางกางแขนทั้งสองข้างออก ทำท่าพร้อมยอมรับการค้นตัว

เผยหยวนจี้กับอูฉิงเทียนสบตากัน ตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงโบกมือส่งสัญญาณทันที ให้คนที่ไว้ใจได้ในบรรดาผู้ติดตามของตัวเองไปค้นตัวฉวี่ซานจวี

ทั้งสามคนถูกค้นตัว หลังมั่นใจแล้วว่าบนตัวไม่ได้แอบพกพาอะไรที่ผิดปกติมาด้วย ฉวี่ซานจวีจึงบอกให้ทั้งสองคนส่งคนไปตรวจดูห้องที่จะทำการประชุมด้วย

ทั้งสองคนก็ไม่เกรงใจ สั่งให้คนไปตรวจค้นอย่างละเอียดทันที

กระทั่งคนที่เข้าไปตรวจค้นเดินออกมา เมื่อมั่นใจแล้วว่าด้านในไม่มีปัญหาอะไร ฉวี่ซานจวีถึงจะผายมือพร้อมเอ่ยเชิญ “เผยซยง อูซยง ขออภัยด้วยที่ต้อนรับได้ไม่ดี เชิญด้านใน”

ถูกบอกให้ทำโน่นทำนี่จนเริ่มหงุดหงิดขึ้นมา แขกผู้มาเยือนทั้งสองคนเองก็ไม่เกรงใจเช่นเดียวกัน ก้าวอาดๆ ขึ้นบันไดไปอย่างรวดเร็ว

หลังเจ้าบ้านและแขกผู้มาเยือนเข้ามานั่งอยู่ภายในห้องเรียบร้อยแล้ว ฉวี่ซานจวีก็เชิญทั้งสองดื่มชา

อูฉิงเทียนเปิดฝาที่ปิดถ้วยชาออกแล้ววางไว้เบื้องหน้า เอ่ยว่า “ชาเอาไว้ค่อยๆ ดื่มได้ คุยธุระก่อนเถอะ นายเรียกพวกเราสองคนมาพร้อมกันแบบนี้ มีเรื่องอะไร?”

ฉวี่ซานจวีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “มาถึงขนาดนี้แล้ว ฉันไม่เชิญคนอื่น แต่เชิญพวกนายสองคนมา ทุกคนต่างก็รู้ดีว่าเพราะอะไร ยังจำเป็นต้องแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกเหรอ?”

อูฉิงเทียนเลิกคิ้วพลางกล่าว “หอการค้าตระกูลฉิน?”

เผยหยวนจี้ยิ้มเยาะพลางเอ่ยว่า “ชามข้าวถูกทุบแตกไปหมดแล้ว ยังต้องอ้อมค้อมอีกเหรอ?”

ฉวี่ซานจวีเอ่ย “หรือว่าสองตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกนายสองคนจะอยู่เฉยๆ โดยไม่ทำอะไรแบบนี้?”

เมื่อพูดถึงตระกูลที่อยู่เบื้องหลัง อูฉิงเทียนก็ถอนใจออกมา “ตอนที่ได้ประโยชน์ก็ดูกระตือรือร้นช่วยเหลือดี พอจะให้ออกแรงจริงๆ…เหอะ!”

เผยหยวนจี้กล่าว “พอๆ กัน แต่ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังฉันไม่อยากจะนั่งมองเฉยๆ ใครมันจะยอมนั่งมองเฉยๆ ล่ะ? แต่ในตระกูลพวกเขามีธุรกิจใหญ่โตมากมาย ต้องคิดถึงอะไรหลายๆ อย่าง สิ่งที่พวกเขามองคือภาพรวม สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญไม่ได้มีแค่หอการค้าตระกูลเผยของฉันเพียงแห่งเดียวเท่านั้น พวกเราล้วนแต่เป็นคนนอก สุดท้ายสิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญที่สุดยังคงเป็นธุรกิจของตระกูลตัวเอง”

“ฉันบอกไปแล้วว่าพวกเราทนรับการกระแทกหมื่นครั้งในด่านหล่อหลอมกายาเหมือนอย่างหอการค้าตระกูลฉินไม่ไหว ให้ชิงลงมือก่อนได้เปรียบ ผลสุดท้ายตอนที่เตรียมจะลงมือก็เกิดกลัวขึ้นมาอีก”

“พอลั่วเทียนเหอจับโจวหม่านเชากับพานชิ่งไป พวกเขาก็เริ่มลังเลขึ้นมา กลัวนั่นกลัวนี่ บอกว่าลั่วเทียนเหอไปเอาความกล้าเช่นนี้มาจากไหน นึกสงสัยว่าผู้หญิงที่อยู่เบื้องหลังลั่วเทียนเหอคนนั้นจะทำอะไร แล้วยังมาบอกฉันว่าอย่าทำอะไรวู่วามอีก”

“แล้วดูสิ มัวแต่ยึกยักรีรอ ลั่วเทียนเหอปล่อยโจวหม่านเชากับพานชิ่งออกมาแล้ว ต่อให้อยากจะลงมืออีกมันก็สายไปแล้ว กองทัพเข้ามามีส่วนร่วมกับเรื่องนี้แล้ว ทางสภาเซียนส่งกำลังพลเข้าไปประจำการ แล้วยังให้ทวารบาลแห่งดินแดนหมิงที่ถูกลดขั้นคนนั้นไปบัญชาการด้วยตัวเองอีก แล้วเป็นไง พวกเขาก็เลยยิ่งไม่กล้าทำอะไรวู่วามเข้าไปใหญ่ กลัวว่าถ้าทำอะไรไม่ระวังจะทำให้ทั้งตระกูลพังพินาศได้ มัวแต่ยึกยำไม่ทำอะไรให้เด็ดขาดแบบนี้ ฉันเองก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว”

เรียกได้ว่าคำพูดพร่ำบ่นกำลังพรั่งพรูออกมา จะเห็นได้ว่าภายในใจพวกเขามีความรู้สึกไม่พอใจ แล้วก็เป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้ได้ตรวจสอบที่นี่อย่างละเอียดแล้ว ไม่อย่างนั้นคำพูดบางอย่างคงไม่กล้าเอ่ยออกมา

“เฮ้อ!” ฉวี่ซานจวีกับอูฉิงเทียนได้ยินเช่นนี้ก็พากันถอนใจออกมาเช่นเดียวกัน เห็นได้ว่าสถานการณ์ของทั้งคู่ก็ไม่ต่างกันเท่าไรนัก ฉวี่ซานจวีถอนใจพลางกล่าวว่า “เผยซยงพูดถูกเรื่องหนึ่ง ในสายตาของพวกเขา พวกเราล้วนแต่เป็นคนนอก ขอเพียงไม่เสียหายไปถึงรากฐานของพวกเขา หากไม่มีความจำเป็นล่ะก็ คนนอกอย่างพวกเราล้วนแต่สามารถสลัดทิ้งได้ทุกเมื่อ”

อูฉิงเทียนกล่าว “ทั้งสองท่าน เกรงว่าสถานการณ์จะไม่ค่อยดีสักเท่าไร ถ้าเสียแต่ชามข้าวไปก็ว่าไปอย่าง อาศัยทรัพย์สินที่พวกเราสะสมเอาไว้ อย่างน้อยก็พอให้พวกเราใช้ชีวิตเป็นเศรษฐีอยู่ในดินแดนเซียนได้ ลูกหลานไม่ต้องกังวลเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ แต่เงินทองที่พวกเราหามาอย่างยากลำบาก ในสายตาของพวกเขากลับเหมือนเป็นสิ่งที่พวกเขาทำทานให้พวกเราอย่างนั้นแหละ ทันทีที่พวกเราไม่มีประโยชน์ ไม่สามารถสร้างผลประโยชน์ให้พวกเขาได้แล้ว เกรงว่าทรัพย์สมบัติของพวกเราคงจะกลายเป็นสิ่งมีค่าสิ่งสุดท้ายในสายตาของพวกเขา”

ปัง! เผยหยวนจี้ตบมือลงบนโต๊ะ “เลวจริงๆ! ของฉันนี่ยังมีการมาพูดหยั่งเชิงด้วยนะ ทำนองว่าเตรียมเรื่องอื่นให้ฉันไปทำแล้ว เดี๋ยวทางหอการค้าตระกูลเผยพวกเขาจะส่งคนมารับช่วงต่อเอง เรื่องหอการค้าตระกูลฉินเดี๋ยวพวกเขาจัดการต่อเอง”

ฉวี่ซานจวีรีบโบกมือพลางกล่าวว่า “เผยซยง จะให้หอการค้าตระกูลเผยไปไม่ได้นะ!”

เผยหยวนจี้ “ให้ก็บ้าแล้ว! คิดว่าฉันโง่เหรอ? ถ้าฉันยกหอการค้าตระกูลเผยให้พวกเขาไป ตัวฉันก็จะไม่มีค่าอะไรอีก ทันทีที่ยกทรัพย์สินของหอการค้าตระกูลเผยให้พวกเขาไป พวกเขาก็จะสามารถกลืนทุกอย่างจนไม่เหลือแม้แต่กระดูกได้ทุกเมื่อ แล้วก็สามารถเฉดหัวฉันออกไปได้ทุกเมื่อ แล้วฉันจะยกให้พวกเขาไปได้ยังไง ถ้ามีปัญญาก็มาแย่งเอาไปสิ อย่างมากก็แค่สู้ตาย! ฉันยังทะเลาะกับพวกเขาไปเพราะเรื่องนี้ด้วย ผลก็เป็นเหมือนอย่างที่อูซยงว่ามา เหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างของหอการค้าตระกูลเผยเป็นพวกเขาที่ทำทานให้พวกเรา บอกว่าถ้าไม่มีตระกูลของพวกเขา หอการค้าตระกูลเผยก็คงไม่มีทางทำธุรกิจเกี่ยวกับข่ายพลังของเทพมหาวิญญาณมานานขนาดนี้ได้!”

อูฉิงเทียนว่า “ที่พวกเขาว่ามามันก็ใช่ ถ้าไม่มีพวกเขา พวกเราก็คงกินเนื้อก้อนนี้มาไม่ได้นานขนาดนี้ แต่มันจะคิดแบบนี้ไม่ได้ เพราะพวกเขาก็ไม่ได้ช่วยพวกเราเปล่าๆ ผลประโยชน์ที่ควรได้ก็ได้ไปแล้ว พวกเราที่ทำงานให้พวกเขามาเป็นเวลานานก็ควรจะได้ค่าเหนื่อยหรือเปล่า? ตอนนี้เนื้อก้อนนั้นไม่มีแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่เพราะว่าพวกเราไร้ความสามารถเสียหน่อย แล้วทำไมถึงยังต้องมาเอาเงินจากกระเป๋าของพวกเราด้วย? โลกนี้มีใครทำกันแบบนี้ด้วยเหรอ? นี่มันใช้กำลังรังแกกันชัดๆ!”

“เฮ้อ!” ฉวี่ซานจวีถอนหายใจออกมาอีกครั้ง “หลายปีมานี้พวกเขากุมจุดอ่อนของพวกเราเอาไว้เยอะเกินไป รู้ว่าจะเล่นงานพวกเรายังไง”

“ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว” เผยหยวนจี้ว่า ก่อนจะเอ่ยถามว่า “นายเรียกพวกเราสองคนมา คงจะไม่ใช่แค่อยากจะฟังพวกเราบ่นหรอกใช่ไหม?”

ฉวี่ซานจวีมองออกไปด้านนอกประตู ลดเสียงให้ต่ำลงแล้วเอ่ยถามว่า “โจวหม่านเชากับพานชิ่งติดต่อพวกนายมาไหม?”

อูฉิงเทียนพยักหน้าเพื่อบอกว่ามี

เผยหยวนจี้มองดูท่าทีของทั้งสองคน “ทั้งสองคนนั้นอยากจะร่วมมือกับพวกเราแก้แค้นหอการค้าตระกูลฉิน พวกเขาติดต่อมาแล้ว แต่ฉันไม่ได้สนใจพวกเขา พวกเขาอยากทำอะไรก็ทำไป มาบอกว่าอยากร่วมมือกันจัดการหอการค้าตระกูลฉิน คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าสถานการณ์ของพวกเขาเป็นยังไง? เงินทุนไม่มีแล้ว อีกทั้งสถานการณ์ก็ยากคาดเดาได้ หอการค้าอื่นๆ ที่เคยทำการค้าร่วมกันอยู่แต่เดิมก็ไม่กล้าส่งสินค้าให้อีก ถ้าไม่ขายทรัพย์สินออกมาส่วนหนึ่งล่ะก็ เกรงว่ากระทั่งเงินเดือนพนักงานก็อาจจะจ่ายไม่ไหวด้วยซ้ำ ยังจะมาพูดเรื่องจับมือกันอะไรนั่นอีก กลัวว่าหอการค้าตระกูลฉินจะยิ่งสร้างปัญหาให้พวกเขามากเข้าไปอีกน่ะสิ นี่คงคิดจะดึงพวกเราออกมาแล้วค่อยผลักพวกเราออกไปเป็นเป้าสายตาหอการค้าตระกูลฉินมากกว่า”

อูฉิงเทียนกล่าวว่า “ตอนนี้พวกเขาสองคนก็นับว่าลำบากจริงๆ ได้ยินว่าไปขอยืมเงินจากตระกูลเซียงหลัวกับตระกูลกงหู่ แต่สองตระกูลนั้นกลับไม่ให้ ท่าทีของสองตระกูลนั้นก็เหมือนกับตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเรานั่นแหละ ตอนนี้ใครยังจะกล้าวู่วามไปทำอะไรหอการค้าตระกูลฉินได้ สองตระกูลนั้นไม่มีความมั่นใจว่าจะล้มหอการค้าตระกูลฉินได้ กลัวว่าจะโยนเงินทุนก้อนใหญ่ทิ้งไปเปล่าๆ”

เผยหยวนจี้จ้องมองฉวี่ซานจวี “นายเรียกพวกฉันมา คงไม่ใช่ว่าอยากจะให้พวกฉันสองคนตอบตกลงร่วมมือกับหอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลโจวใช่ไหม?”

ฉวี่ซานจวีกล่าว “เข้าใจผิดแล้ว ปัญหาสำคัญคือต่อให้ตอบตกลงไปก็ไม่มีประโยชน์ ต่อให้ร่วมมือกันไปก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี ถ้าคนที่หอการค้าตระกูลฉินต้องส่งสินค้าให้เป็นหอการค้าอื่นๆ ล่ะก็ พวกเราก็ยังพอจะร่วมมือกันกดดันหอการค้าเหล่านั้นได้ แต่คนที่หอการค้าตระกูลฉินต้องส่งสินค้าให้ในตอนนี้คือกองทัพของสภาเซียน ทางกองทัพพอใจในข่ายพลังของหอการค้าตระกูลฉิน หรือพวกเราจะร่วมมือกันกดดันกองทัพได้? ต่อให้เป็นตระกูลทั้งสามที่อยู่เบื้องหลังพวกเราก็ทำได้เพียงต้องรอหาจังหวะเล่นงานเท่านั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้เลย”

เผยหยวนจี้เอ่ยเหน็บแนม “นี่นายเรียกพวกเรามาดื่มชาจริงๆ อย่างนั้นเหรอเนี่ย?”

ฉวี่ซานจวีกล่าว “ถ้าสามารถแก้ไขปัญหาได้ล่ะก็ จะดื่มอะไรก็ได้ทั้งนั้น สรุปแล้วคือพวกเราไม่สามารถนั่งรอความตายอยู่เฉยๆ ได้ เราต้องคิดหาวิธีแก้ไขปัญหา! ขอเพียงหอการค้าตระกูลฉินส่งมอบข่ายพลังไม่ได้ สภาเซียนก็ต้องใช้พวกเราเหมือนอย่างเมื่อก่อน ปัญหาทุกอย่างมันก็จะคลี่คลายไม่ใช่เหรอไง”

อูฉิงเทียนกล่าว “ทำยังไงถึงจะทำให้หอการค้าตระกูลฉินส่งมอบข่ายพลังไม่ได้? ส่งคนไปฆ่าฉินอี๋ที่หอการค้าตระกูลฉินเหรอ? ส่วนใหญ่ผู้หญิงคนนั้นจะหดหัวอยู่แต่ในเมืองปู๋เชวี่ย ข้างกายมียอดฝีมือคอยคุ้มกันอยู่เป็นจำนวนมาก ได้ยินว่าตระกูลหนานชียังส่งตาแก่สองคนที่อยู่ในขั้นเซียนเทพไปคอยคุ้มครองฉินอี๋ด้วย ถ้าอยากจะไปจัดการเธอที่เมืองปู๋เชวี่ย อย่างนั้นก็ต้องระดมกำลังเป็นจำนวนเท่าไรถึงจะจัดการได้? ถ้าเกิดทำอย่างนั้นจริงๆ มันจะต้องวุ่นวายอย่างมากแน่นอน จะสำเร็จหรือเปล่านั้นยังไม่ต้องไปพูดถึง แต่นายจะมั่นใจได้ยังไงว่าทุกคนจะรอดไปจากเรื่องนี้ได้? ขอเพียงมีคนปากเปราะซักคน พวกเราได้จบเห่กันหมดแน่”

ฉวี่ซานจวีส่ายศีรษะ “แค่ฆ่าฉินอี๋คนเดียวไม่มีประโยชน์ หากระบบส่งมอบสินค้าของหอการค้าตระกูลฉินสร้างขึ้นมาเรียบร้อยแล้ว ต่อให้ฉินอี๋ตายไปพวกเขาก็หาคนมาแทนที่ได้ มีแค่ทำหรือไม่ทำเท่านั้น ถ้าจะทำ ก็ต้องทำให้มันเด็ดขาด ไม่ใช่แค่ฉินอี๋เท่านั้น แต่ยังมีเจออู๋จื่อคนนั้น แล้วก็ระบบส่งมอบสินค้าของหอการค้าตระกูลฉินอีก ต้องทำลายให้สิ้นซากทั้งหมด!”

เผยหยวนจี้เบิกตาโต เอ่ยว่า “นายกำลังเพ้อเจ้ออะไร? นายคงจะไม่คิดโจมตีโรงงานสร้างข่ายพลังของหอการค้าตระกูลฉินที่มีกองทัพของเว่ยผิงกงคอยเฝ้าอยู่หรอกใช่ไหม?”

“ที่นี่ไม่มีคนนอก!” ฉวี่ซานจวีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของโต๊ะชะโงกหน้าเข้ามาใกล้ทั้งสองคน เอ่ยเสียงเบาว่า “ตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ตัดสินความเป็นความตายของพวกเราสามคนแล้ว ยังมีอะไรที่ทำไม่ได้อีก? หรือว่าพวกเราสามคนต้องเอาอย่างเผิงซีกับสวีเฉียน หอบเงินหนีไป ชั่วชีวิตต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ? ครอบครัวพวกเรามีคนตั้งเยอะตั้งแยะ ไม่เหมือนพวกเขาสองคนที่แทบจะไม่มีใคร แล้วเราจะหนียังไง?”

จะเอาอย่างนี้จริงๆ เหรอ? เผยหยวนจี้กับอูฉิงเทียนสบตากัน ต่างสูดหายใจด้วยความตกใจ

อูฉิงเทียนเอ่ยเสียงเบาว่า “นายบ้าไปแล้วเหรอ? ตรงนั้นมันเป็นสถานที่ที่มีกองกำลังนับหมื่นของสภาเซียนประจำการอยู่นะ ได้ยินว่ายังมีเทพมหาวิญญาณอีกเป็นร้อยตนคอยเฝ้าอยู่ด้วย แล้วก็ยังมีเว่ยผิงกงคนนั้นอีก ก่อนจะถูกลดตำแหน่งเขาเป็นถึงหนึ่งในจอมพลที่อยู่หน้าตำแหน่งจักรพรรดิยวนหมิงเชียวนะ ไม่ใช่ธรรมดาเลย ต่อให้พวกเราสามตระกูลร่วมมือกันไม่มีทางทำอะไรเขาได้!”

ฉวี่ซานจวีเอ่ยเสียงเรียบเฉย “มีกองกำลังนับหมื่นแล้วยังไง? มีเทพมหาวิญญาณเป็นร้อยตนแล้วยังไง? มีเว่ยผิงกงแล้วยังไง?”

เผยหยวนจี้เอ่ย “ฉวี่ซานจวี นายเพ้อเจ้ออะไรของนาย กินยาผิดหรือเปล่า? ถ้ามันจัดการได้ง่ายๆ แบบนั้นจริงๆ ล่ะก็ ตระกูลที่อยู่เบื้องหลังพวกเรายังจะลังเลแบบนี้เหรอ? ไม่ต้องพวกเราหรอก เกรงว่าสองตระกูลที่อยู่เบื้องหลังหอการค้าตระกูลพานกับหอการค้าตระกูลโจวก็คงจะลงมือไปแล้ว”

ฉวี่ซานจวี “พวกเขามีธุรกิจมากมาย ไม่แปลกอะไรที่พวกเขาจะคอยกังวลเรื่องนั้นเรื่องนี้”

อูฉิงเทียนโบกมือ “ไม่ได้! เรื่องนี้ทำไม่ได้ ต่อให้พวกเรามีความสามารถที่จะทำแบบนั้นได้ พวกเราก็ทำไม่ได้อยู่ดี ขอเพียงพวกเราลงมือ ต่อให้ทำได้แนบเนียนสักแค่ไหน แต่เรื่องบางเรื่องมันไม่จำเป็นต้องมีหลักฐาน ทางสภาเซียนจะต้องสงสัยว่าเป็นฝีมือพวกเราอย่างแน่นอน ต่อให้เราจะทำสำเร็จ ต่อให้ไม่มีหลักฐานอะไรให้เอาผิดพวกเราได้ พวกเราสามตระกูลก็เลิกคิดเรื่องที่จะส่งสินค้าให้สภาเซียนต่อได้เลย สภาเซียนไม่มีทางยอมให้พวกเราได้หาเงินอีกแน่ รอจบเห่ได้เลย!”

เผยหยวนจี้พยักหน้า “จริงอยู่ที่ฉวี่ซยงใจกล้า แต่เรื่องนี้ไม่คุ้มที่จะลอง ฉันคิดเหมือนกับอูซยง เราไม่จำเป็นต้องเสี่ยงทำแบบนี้”

ฝ่ามือของฉวี่ซานจวีตบไปบนโต๊ะเบาๆ “แล้วถ้าเป็นฝีมือพวกเศษเดนจากราชวงศ์ก่อนล่ะ?”

……………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน