ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 237 วันหนึ่งเธออาจจะเข้าใจ

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 237 วันหนึ่งเธออาจจะเข้าใจ

หลิ่วจวินจวินกลับมาถึงห้องทำงาน มองดูฉินอี๋ที่นั่งเหม่ออยู่ตรงนั้น แล้วก็มองดูฉินเต้าเปียนที่นั่งจ้องมองฉินอี๋ด้วยสีหน้าอึมครึม

หลิ่วจวินจวินกลัวว่าสองพ่อลูกจะทะเลาะกันขึ้นมาอีก จึงรีบเดินเข้าไปคุยกับฉินเต้าเปียน “ตอนนี้ก็เอาตามนี้นี่แหละ พรุ่งนี้คุณยังต้องออกจากเมืองปู๋เชวี่ยไปหาคนอีก เมื่อคืนก็ไม่ได้พักผ่อนเลย รีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ”

ฉินเต้าเปียนลุกขึ้น เดินออกจากชุดโซฟารับแขกไป แต่จากนั้นกลับหยุดฝีเท้า หันกลับมามองฉินอี๋พลางกล่าวว่า “การไปที่ดินแดนแห่งความฝันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ ในเมื่อหลัวคังอันจะพาเขาไปด้วย แสดงว่าจะต้องมีเหตุผลในการพาเขาไป ลูกอย่าเข้าไปยุ่งเรื่องนี้จะดีที่สุด”

เขาจำต้องเตือนอย่างจริงจังสักหน่อย เพราะเขากังวลเป็นอย่างมากว่าลูกคนนี้จะแอบขัดขวางไม่ให้หลัวคังอันพาหลินยวนไปด้วย

ฉินอี๋นั่งนิ่งอยู่ตรงนั้น ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน สูบบุหรี่และพ่นควันออกมา ยังคงทอดตามองออกไปด้านนอกหน้าต่าง พลางตอบกลับเรียบๆ “คุณพ่อคิดมากไปแล้วค่ะ”

ฉินเต้าเปียนกล่าว “ก็ขอให้พ่อคิดมากไปแล้วกัน แต่ลูกต้องเข้าใจนะ แม้ว่าลูกจะไม่ถอดใจ แต่ถ้าไม่มีหอการค้าตระกูลฉินแล้ว ลูกก็ไม่ได้เป็นอะไรเลยในสายตาเขา ไม่ว่าลูกคิดจะทำอะไร ลูกก็ต้องปกป้องหอการค้าตระกูลฉินไว้ก่อน เพราะหอการค้าตระกูลฉินคือสิ่งที่ทำให้ลูกปีกกล้าขาแข็งอยู่อย่างนี้ได้ ทางที่ดีลูกควรจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร!”

ฉินอี๋มองบุหรี่ที่ติดไฟในมือ “ในสายตาของพ่อ ยังคิดว่าเขาทำเพื่อเงินอยู่อีกเหรอคะ?”

ฉินเต้าเปียนกล่าวเสียงขรึม​ “หรือว่าไม่ใช่? ถ้าอย่างนั้นเขาเข้ามาใกล้ชิดลูกในตอนนั้นเพื่ออะไร? แล้วตอนนี้เขายังไปหาผู้หญิงแซ่ลู่มาอีกคนอีก​ ลูกสาวของหอการค้าตระกูลลู่ก็มีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวยเช่นกัน หาลูกสาวของหอการค้าตระกูลฉินก่อน​ แล้วตอนนี้ก็ยังหาลูกสาวของหอการค้าตระกูลลู่มาอีก​ ลูกยังมองไม่ออกอีกเหรอว่าเขามีเจตนาอะไร? ลูกมองไม่ออกหรือไม่ยอมรับกันแน่?”

ฉินอี๋หันกลับไปมองเขา​ “หนูรู้ดีค่ะว่าควรทำยังไง​ คุณพ่อรีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ​” เธอส่งสายตาให้หลิ่วจวินจวิน​ เธอไม่อยากคุยกับเขาต่อ ที่นี่คือที่หอการค้า​ เธอไม่อยากทะเลาะกับเขาที่นี่​ มันจะดูไม่ดี

“พอแล้วค่ะ​ ไปกันเถอะ” หลิ่วจวินจวินรีบดึงแขนฉินเต้าเปียน​ ลากเขาออกไป

……

แสงอาทิตย์ยามเย็นที่แสนงดงาม ทอดยาวอยู่บนท้องฟ้า ไกลสุดลูกหูลูกตา

ฉินอี๋ยืนรับลมอยู่บนชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่หอการค้าตระกูลฉิน กระโปรงปลิวโบกตามแรงลม ในมือยังคงคีบบุหรี่ไว้มวนหนึ่ง มองดูแสงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า

ดาดฟ้าที่เธอยืนอยู่คือจุดชมวิวที่สร้างเอาไว้ชั้นบนสุดของสำนักงานใหญ่หอการค้าตระกูลฉิน เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับชมทิวทัศน์จากมุมสูงอย่างแท้จริง

ตรงประตูที่อยู่ด้านหลังมีร่างของหลินยวนปรากฏขึ้น เขายืนอยู่ที่หน้าประตู มองดูแผ่นหลังอันบอบบางของฉินอี๋ที่อยู่ท่ามกลางฉากพระอาทิตย์ตกดิน แล้วก็ยังมีกระโปรงที่พลิ่วไหวอย่างแผ่วเบาราวก้อนเมฆที่กำลังลอยเอื่อยอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเย็น เขาลังเลเล็กน้อย สุดท้ายก็ก้าวเข้าไปอย่างไม่เร่งร้อน

เดิมทีเขาจะเลิกงานแล้ว แต่จู่ๆ ก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งมารั้งเขาไว้ บอกให้เขามาหา

เมื่อเดินไปจนถึงข้างเธอ ยืนอยู่หน้าราวกั้นเคียงข้างกัน สายตาของหลินยวนก็มองไปที่บุหรี่ที่อยู่ในมือของเธอ กล่าวว่า “เมื่อคืนที่โรงงานเธอก็สูบไปไม่น้อย​ ผู้หญิงสูบบุหรี่มันดูไม่ดี​ เลิกสูบเถอะ!”

ฉินอี๋หันไปมองเขาอย่างไม่พอใจทันที​ “นายมีสิทธิ์​อะไรมายุ่งกับฉัน?” สายลมพัดเส้นผมมาปิดบังใบหน้าเธอเอาไว้ครึ่งหนึ่ง แต่กลับไม่อาจปกปิดแววตาโกรธเคืองที่อยู่ด้านหลังเส้นผมนั้นเอาไว้ได้

คำพูดเพียงประโยคเดียวทำให้บทสนทนาหยุดลง ทุกอย่างพลันตกอยู่ในความเงียบ หลงเหลือเพียงเสียงลมพัดเท่านั้น

หลังจากผ่านไปสักพัก​ หลินยวนก็เอ่ยขึ้นมา​ “ถ้าไม่มีธุระอะไรล่ะก็ ​ฉันกลับก่อนนะ”

ฉินอี๋​ “จะรีบกลับไปหาคุณลู่คนสวยของนายน่ะเหรอ?”

หลินยวน​ “เรียกฉันมาเพื่อจะพูดเรื่องนี้?”

ฉินอี๋เงียบ​ นิ้วมือคลายออก ก้นบุหรี่ที่ร่วงตกลงไปถูกลมพัดพาไป เธอเอ่ยกลับไปว่า “หลัวคังอันคุยกับนายเรื่องที่จะไปดินแดนแห่งความฝันแล้วเหรอ?”

หลินยวนตอบอืม​ “คุยแล้ว​ ฉันตกลงไปแล้ว”

ฉินอี๋​ “ถ้านายไม่อยากไป​ ฉันก็จะไม่บังคับนาย​ เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะ”

หลินยวน​ “ไม่ต้องบังคับ​หรอก​ ฉันเต็มใจไปเอง​ ไปเปิดหูเปิดตา​หน่อยก็ดีเหมือนกัน”

ฉินอี๋​ “ถึงนายไปฉันก็ไม่ได้รู้สึกขอบคุณหรอกนะ​ หลินยวน​ ฉันเกลียดนาย!”

หลินยวน​ “ฉินอี๋​ อย่าทำแบบนี้เลย​ เราสองคนต่างเลือกเส้นทางของตัวเองแล้ว​ ทางเลือกของฉัน… สักวันหนึ่งเธออาจจะเข้าใจ”

ฉินอี๋หันไปเผชิญหน้า น้ำเสียงเจือความตีโพยตีพาย “เข้าใจอะไร? ฉันรอนายมาสามร้อยปี​ นายกลับพาผู้หญิงคนอื่นมาอยู่ด้วย​ ฉันต้องหาผู้ชายมาทำแบบนี้บ้างไหม นายจะได้รู้ว่ามันรู้สึกยังไง?”

หลินยวนว่า “เพราะว่าเธอรอ แต่กลับไม่ได้อย่างใจ ก็เลยยอมรับไม่ได้เหรอ?”

ใช่เหรอ? ฉินอี๋เงียบไป เธอเองบอกไม่ถูกเหมือนกันว่ามันเป็นเพราะอะไร เธอไม่อาจคิดเรื่องนี้อย่างเป็นเหตุเป็นผลได้ มันเป็นเรื่องที่เธอเองก็ควบคุมความรู้สึกตนเองไม่ได้เช่นกัน

หลินยวนกล่าว “ตัวฉันในตอนนั้น เป็นเพราะว่าสูญเสียไป ถึงได้ตัดสินใจเลือกใหม่อีกครั้ง หลังจากนั้นฉันไม่เคยคิดด้วยซ้ำว่าเราสองคนยังจะได้มายืนอยู่ด้วยกันอย่างในวันนี้”

ฉินอี๋กล่าว “เลือกใหม่อีกครั้ง? แล้วคำสัญญาที่นายให้ฉันไว้ในตอนนั้นล่ะ? ฉันยังจำได้ขึ้นใจ นายบอกว่าทั้งชีวิตนี้นายจะรักฉันเพียงคนเดียว บอกว่าชีวิตนี้จะแต่งงานกับฉันเท่านั้น! ฉันรู้ว่าในตอนนั้นนายรู้สึกว่าตัวเองต่ำต้อย พูดออกมาโดยไม่มีความมั่นใจ แต่ฉันมองออกถึงความตั้งใจว่าสักวันจะพูดคำนี้ออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำจากในแววตาของนาย นายในตอนนั้นไม่ได้มีความซับซ้อนเลยสักนิด ฉันอ่านแววตาของนายออก ดังนั้นฉันจึงเชื่อ แล้วก็รอนายมาโดยตลอด!”

หลินยวนรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย คิดไม่ถึงว่าตอนนั้นเธอจะอ่านความคิดของตนเองออก

ฉินอี๋ส่ายหน้า “แต่ในตอนนี้ฉันไม่เข้าใจนายเลยจริงๆ นายทำให้ฉันไม่รู้เลยว่าควรจะทำยังไงดี นายทำให้ฉันไม่รู้ว่าในหลายปีมานี้ฉันทำแบบนี้ไปทำไม หลินยวน นายรู้ไหมว่าในโลกใบนี้ ‘การยืดหยัด’ มันเป็นเรื่องที่ยากที่สุด แล้วก็เป็นความจริงใจที่สุดด้วย นายเข้าใจไหม? ”

หลินยวนนิ่งเงียบ สายตาทอดมองออกไป ไกลแสนไกล พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ในบางเวลา สิ่งที่ตาเห็นก็ใช่ว่าจะเป็นความจริง ฉินอี๋ อย่าคิดมากเลย ในหลายๆ เรื่องสุดท้ายแล้วสักวันหนึ่งก็จะมีคำตอบ ความยากลำบากที่สำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือวิกฤติของหอการค้าตระกูลฉิน เรื่องที่ฉันกับหลัวคังอันจะไปดินแดนแห่งความฝันก็ถือว่าเป็นการออกแรงช่วยก็แล้วกัน! ถ้าทำสำเร็จ สิ่งที่ฉันติดค้างเธอไว้ก็ถือว่าชดใช้กันไป จะได้ไม่ต้องติดค้างอะไรเธออีก ดีไหมล่ะ?”

ฉินอี๋ “แล้วถ้าทำไม่สำเร็จ ถ้าเอาชีวิตรอดกลับมาไม่ได้ล่ะ?”

หลินยวน “อย่างนั้นทุกอย่างก็จะกลายเป็นอดีต สิ่งที่ติดค้างเธอไว้ก็ถือเสียว่าฉันชดใช้คืนด้วยชีวิตแล้วกัน” กล่าวจบก็หันหลังกลับ ก้าวอาดๆ เดินจากไป ไม่มีแม้แต่คำบอกลาใดๆ

ฉินอี๋หันกลับไปมอง ผมยาวๆ ของเธอถูกลมพัดปลิวมาปิดใบหน้า…

……

“วันนี้กลับมาค่อนข้างช้านะคะ”

ณ โรงอีหลิว ลู่หงเยียนที่เข้ามาต้อนรับหลินยวนเอ่ยขึ้น

หลินยวนยิ้ม ไม่ได้บอกว่าเป็นเพราะฉินอี๋เลยกลับมาช้า เขาจอดรถมอเตอร์ไซค์และทักทายจางเลี่ยเฉิน จากนั้นก็กลับไปที่ห้องของตัวเองเหมือนอย่างทุกที

จางเลี่ยเฉินที่นั่งเคี่ยวโจ๊กอยู่ที่ลานบ้านหันไปมองลู่หงเยียนที่เดินตามเขาต้อยๆ อดส่ายหน้าขึ้นมาเล็กน้อยไม่ได้

ลู่หงเยียนที่เข้าห้องปิดประตูเรียบร้อย เดินไปตรงหน้าหลินยวน รีบกล่าวรายงานอย่างรวดเร็ว “วันนี้ในเมืองเกิดความวุ่นวายเล็กน้อยเพคะ กำลังพลของวังพิฆาตมารได้จับกุมคนจำนวนหนึ่งภายใต้ความร่วมมือของผู้พิทักษ์เมืองเพคะ”

หลินยวน “คนที่ถูกจับไปน่าจะเป็นลูกน้องของ ‘เว่ยเต้า’ ที่หนีออกไปจากเมืองไม่ทันประตูเมืองปิดลง”

ลู่หงเยียน “คำสั่งปิดประตูเมืองถูกยกเลิกไปแล้วเพคะ เป็นเพราะไม่มีอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า ทางโรงงานสร้างข่ายพลังเป็นยังไงบ้างเพคะ?”

“ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว แต่ปัญหาของทางหอการค้าตระกูลฉินกลับยังไม่ได้แก้ไข…” หลินยวนเล่าเรื่องของทางโรงงานสร้างข่ายพลังให้ลู่หงเยียนฟังคร่าวๆ

ลู่หงเยียนขมวดคิ้ว “สภาเซียนมียาแก้แต่กลับไม่เอาออกมาช่วย ทั้งยังคิดจะฉวยโอกาสนี้ฮุบเอาเคล็ดลับสร้างข่ายพลังอีก ทางตระกูลหนานชีก็ไม่มีทางควักเงินจำนวนมากขนาดนั้นมาช่วยแน่นอน ดูท่าทางครั้งนี้หอการค้าตระกูลฉินคงจะลำบากแล้วจริงๆ เกรงว่าจะผ่านเรื่องนี้ไปได้ยากนะเพคะ”

หลินยวน “ได้แต่ต้องหาวิธีตามหาดวงตาแห่งความฝันให้เจอ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอพยายามไปรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับนางพญาหนอนแห่งความฝันมาให้ได้มากที่สุด แล้วก็ลองสอบถามทางพวกผู้อาวุโสรุ่นก่อนดูหน่อย พวกเขาคุ้นเคยกับราชวงศ์ก่อนดี ราชวงศ์ก่อนปกครองใต้หล้ามาเป็นเวลายาวนาน น่าจะรู้จักดินแดนต่างๆ ค่อนข้างดี บางทีอาจจะได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากพวกเขามาบ้างก็ได้”

ลู่หงเยียนกล่าว “หากได้รับข้อมูลอะไรมาจากพวกผู้อาวุโสรุ่นก่อนจริงๆ เราต้องบอกหอการค้าตระกูลฉินไหมเพคะ? แบบนั้นจะเผยพิรุธอะไรให้พวกเขาสงสัยหรือเปล่า?”

หลินยวน “ไม่ต้องรายงานหอการค้าตระกูลฉิน ข้อมูลทุกอย่างที่ได้มารู้แค่พวกเราก็พอ ครั้งนี้ฉันจะลงมือเอง!”

“อะไรนะเพคะ?” ลู่หงเยียนตกใจเป็นอย่างมาก “พระองค์จะไปตามหานางพญาหนอนแห่งความฝันด้วยพระองค์เองเหรอเพคะ?”

หลินยวนเดินไปนั่งข้างโต๊ะพลางพยักหน้า “รีบไปเตรียมตัวเถอะ จะออกเดินทางภายในไม่กี่วันนี้แล้ว จะได้ทำความเข้าใจข้อมูลคร่าวๆ แล้วก็จะได้เตรียมการทุกอย่างให้พร้อม”

“ไม่นะเพคะ” ลู่หงเยียนเดินไปนั่งข้างเขา “สถานการณ์ในดินแดนแห่งความฝันมันซับซ้อนมาก หลายๆ เรื่องราวในนั้นไม่สามารถแก้ไขด้วยสภาวะได้ ข้างในนั้นเป็นเหมือนความฝัน บางคนเข้าไปแล้วไม่ได้ออกมาอีกเลยตลอดชีวิตก็มี ทุกๆ ที่ในดินแดนแห่งนั้นมีอันตรายซ่อนอยู่ พระองค์จะเดินทางไปเองมันเสี่ยงเกินไปนะเพคะ ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็ให้พวกลูกน้องลงมือเถอะเพคะ ”

หลินยวนกล่าว “หอการค้าตระกูลฉินเจอเรื่องแบบนี้ ถ้าหากคนของพวกเราเคลื่อนไหวทันที เธอคิดว่ามันเหมาะสมไหม? เธอคิดว่าการเคลื่อนไหวของคนจำนวนมากจะรอดพ้นจากสายตาของสภาเซียนได้เหรอ? ก็เหมือนอย่างที่วังพิฆาตมารจับกุมคนของ ‘เว่ยเต้า’ ที่อยู่ในเมืองปู่เชวี่ยในครั้งนี้นั่นแหละ”

ลู่หงเยียนกล่าว “หอการค้าตระกูลฉินให้เงินรางวัลสามพันล้านไม่ใช่เหรอเพคะ? เราอ้างว่าไปเสี่ยงเพื่อเงินรางวัลก็ได้ไม่ใช่เหรอเพคะ”

หลินยวน “เรื่องแบบนี้ ถ้าเกิดถูกจับตามองแล้ว เธอคิดว่าอธิบายกับสภาเซียนไปแบบนี้แล้วจะขจัดความน่าสงสัยออกไปได้อย่างนั้นเหรอ?”

ลู่หงเยียนกัดฟัน พลันตัดสินใจ “อย่างนั้นหม่อมฉันจะไปกับพระองค์ด้วยเพคะ ไปด้วยกันจะได้ดูแลกันได้ พลังของหม่อมฉันสามารถสังเกตการณ์ระยะไกลได้ บางทีอาจจะใช้ประโยชน์ได้เพคะ”

หลินยวนกล่าว “หลัวคังอันพาฉันไป ถ้าฉันยังจะพาเธอไปดินแดนแห่งความฝันด้วยอีกคน คนนอกจะมองยังไง เธอไม่รู้สึกว่ามันแปลกเหรอ? เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรมากแล้ว ฉันต้องการให้เธออยู่ข้างนอกนี่ ถ้าเกิดต้องการอะไร ฉันอยากให้เธอเป็นคนคอยประสานงานให้”

เธอรู้ดีว่าเรื่องที่เขาตัดสินใจไปแล้วยากที่จะเปลี่ยนแปลงได้ ลู่หงเยียนจำต้องยอมรับอย่างเงียบๆ

……

ณ ห้องหนังสือที่มีพื้นที่ใหญ่กว่าบ้านหนึ่งหลัง ภายในห้องสมุดนั้นรายล้อมด้วยชั้นหนังสือสูงใหญ่ที่เต็มไปด้วยหนังสือเรียงราย ซึ่งทั้งหมดนั้นล้วนเป็นสิ่งที่ผู้นำตระกูลหนานชีรุ่นต่อรุ่นเก็บสะสมเอาไว้ ที่นี่คือห้องหนังสือของผู้นำตระกูล

หนานชีหรูอันเดินเข้าไปอย่างเร่งรีบ เดินไปถึงตรงหน้าหนานชีเหวินที่กำลังนั่งเปิดหนังสืออ่านอยู่ที่โต๊ะหนังสือตัวใหญ่ ก่อนจะทำความเคารพ “คุณพ่อครับ”

หนานชีเหวินเอ่ยโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง “รีบกลับมาเชียว”

หนานชีหรูอัน “ทางหอการค้าตระกลฉินเกิดเรื่องครับ ผมมารายงานสถานการณ์ให้คุณพ่อทราบ”

หนานชีเหวินกล่าวอย่างใจเย็น “ฉันรู้เรื่องหมดแล้ว”

หนานชีหรูอัน “อย่างนั้นผมไม่รายงานแล้ว ปัญหาในตอนนี้คือหอการค้าตระกูลฉินต้องการเวลาครับ เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น การส่งมอบสินค้าให้สภาเซียนคงต้องล่าช้าแน่นอน ฉินอี๋เลยขอร้องให้พวกเราช่วยหารือกับทางสภาเซียน ให้ช่วยยืดเวลาให้หอการค้าตระกูลฉินครับ”

หนานชีเหวินวางหนังสือในมือ “เรื่องนี้ได้เริ่มเตรียมการไปแล้ว”

หนานซีหรูอัน “มีโอกาสสำเร็จไหมครับ?”

หนานชีเหวิน “น่าจะไม่มีปัญหาอะไร โรงงานสร้างข่ายพลังของหอการค้าตระกูลฉินเกิดเรื่องขึ้นในขณะที่อยู่ภายใต้การดูแลของกำลังทหารของสภาเซียน ขอเพียงเราใช้ข้ออ้างนี้มาบีบสภาเซียน สภาเซียนก็ยากจะบอกปัดความรับผิดชอบได้ สุดท้ายก็ต้องยอมผ่อนปรนให้ ทหารประจำการณ์ประมาทเลินเล่อ ทำให้เกิดเรื่องขึ้นกับหอการค้าตระกูลฉิน ถ้าสภาเซียนยังจะฉวยโอกาสซ้ำเติมหอการค้าตระกูลฉินอีก ก็น่าจะไม่ใช่เรื่องที่สภาเซียนผู้สง่างามควรทำ สภาเซียนเองก็ต้องรักษาหน้า พวกเขาน่าจะใจกว้างให้เวลาหอการค้าตระกูลฉินแน่นอน”

………………………………………………………

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน