ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 260 ผลดำขาว

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 260 ผลดำขาว

“ของดี…” หลัวคังอันตะลึงไปเล็กน้อย ของที่ถูกคนที่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเทพเรียกว่าของดีได้น่าจะไม่ธรรมดา จึงรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ก้าวอาดๆ ไปยังปากทางลงบันได มองซ้ายมองขวาลงไปยังด้านล่าง ก่อนจะอันหน้ากลับมาถามอย่างกระตือรือร้นว่า “ของล้ำค้าอะไรเหรอ?”

เยี่ยนอิงไม่ได้อธิบาย พลิกมือหยิบยันต์เพลิงขึ้นมาแผ่นหนึ่ง ยันต์เพลิงที่ลอยออกไปพลันลุกไหม้เปล่งแสงออกมา ก่อนจะถูกพลังควบคุมให้ลอยนำทางอยู่เบื้องหน้าอย่างช้าๆ หลินยวนกับหลัวคังอันเองก็เดินตามเธอลงไปด้านล่าง

เมื่อเดินลงบันไดที่ทอดตัวเฉียงๆ ไปประมาณยี่สิบกว่าจั้ง พวกเขาก็มาถึงโถงกว้างที่เปิดโล่งและหนาวเย็นแห่งหนึ่ง

มีน้ำไหลซึมออกมาจากรอยแยกที่บ้างเล็กบ้างใหญ่บนผนังหิน ไหลไปรวมกันที่แอ่งน้ำแห่งหนึ่ง น้ำในแอ่งไม่เคยเต็ม แสดงว่าจะต้องมีจุดที่น้ำรั่วไหลออกไปอยู่เป็นแน่ เพียงดูก็รู้ว่านี่เป็นแหล่งน้ำที่ภายในวังเทพแห่งนี้เอาไว้ใช้

ฟุบ! จู่ๆ ยันต์เพลิงที่กำลังลุกไหม้ก็ถูกเยี่ยนอิงสะบัดแขนเสื้อดับไป

ภายในโถงพลันมืดลง มืดลงอย่างกะทันหัน หลินยวนและหลัวคังอันพลันตื่นตัวระแวดระวังขึ้นมา ทันใดนั้นสายตาพลันหยุดชะงัก ร่างที่หยุดนิ่งไม่ไหวติงของเยี่ยนอิงหันไปยังผนังด้านหนึ่ง บนผนังหินตรงนั้นมีวัตถุบางอย่างที่เปล่งประกายระยิบระยับเหมือนดวงดาว

เยี่ยนอิงเปล่งเสียงออกมาในความมืด “ยังดี พวกคนที่เคยมาที่นี่ไม่รู้จักของดี ยังไม่ถูกทำลาย ของยังอยู่ งอกออกมาแล้ว” กล่าวจบก็ค่อยๆ เดินย่ำลงไปในน้ำ

ภายในห้องพลันสว่างไสวขึ้นมา สว่างจนค่อนข้างแสบตา หลัวคังอันพลิกมือหยิบเอาไฟฉายออกมาอันหนึ่ง ลำแสงที่กวัดแกว่งไปมาสาดส่องไปรอบด้าน ปากเอ่ยพึมพำว่า “ของถูกๆ มีไม่ใช้ ยันต์เพลิงราคาตั้งเท่าไรล่ะนั่น”

เขาเองก็ตามหลินยวนเดินย่ำลงไปในน้ำ เดินไปถึงตรงหน้าผนังหินที่มีน้ำไหลซึมออกมา

ตรงตำแหน่งที่แสงสว่างส่องไป บนผนังหินที่มีน้ำไหลซึมออกมามีพืชสีเขียวคล้ำเลื้อยพันอยู่เต็มไปหมด ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสัมผัสกับน้ำจนชุ่มชื้นหรือเปล่า มันถึงได้มีสีสันเช่นนั้น เมื่ออยู่ภายใต้แสงสว่าง ทำให้มันดูดำจนแวววาว ที่น่าแปลกก็คือบนกิ่งก้านที่เขียวคล้ำนั้นมีผลไม้สีขาวขนาดประมาณลูกองุ่นงอกออกมา ขาวจนโปร่งใส ดูคล้ายเปลือกแคปซูล อีกทั้งยังขาวจนดูแวววาว ประกายระยิบระยับที่ดูเหมือนดวงดาวที่มองเห็นก่อนหน้านี้ก็คือประกายที่สะท้อนออกมาจากผลไม้นี้

ก่อนหน้านี้หลินยวนและหลัวคังอันนึกว่าความรู้สึกสดชื่นที่อยู่ในอากาศนั้นมาจากสายน้ำที่อยู่ในโถงแห่งนี้ ตอนนี้เมื่อเข้าไปใกล้จึงยิ่งสัมผัสได้ถึงความรู้สึกที่โปร่งสบาย พวกเขาถึงได้รู้ว่าที่แท้ความรู้สึกสดชื่นนั้นแผ่กระจายมาจากผลไม้นี้

เยี่ยนอิงยื่นมือไปเด็ดผลไม้นั้นมาลูกหนึ่ง ค่อยๆ เอาใส่ปากแล้วเคี้ยว ก่อนจะค่อยๆ กลืนลงไปอย่างช้าๆ จากนั้นถึงจะพยักหน้าพลางกล่าวว่า “เด็ดมาแค่ครึ่งเดียวก็พอ ผลไม้พวกนี้เก็บไว้ได้ไม่นาน เด็ดเยอะไปก็เปลืองเปล่าๆ แค่ครึ่งเดียวก็น่าจะพอให้พวกเราใช้ตอนอยู่ในดินแดนแห่งความฝันแล้ว”

หลินยวนเอ่ยถาม “นี่มันคืออะไร?”

เยี่ยนอิงกล่าวว่า “นี่ก็คือของดีที่ฉันบอกค่ะ”

หลัวคังอันยื่นมือไปเด็ดมา แต่เมื่อออกแรงบิดมัน กลับพบว่าเด็ดออกมาไม่ได้ สุดท้ายต้องใช้พลังถึงจะเด็ดออกมาได้ จากนั้นเอามาจ่อตรงจมูกแล้วสูดดมเบาๆ “ของดีอย่างนั้นเหรอ? ขอโทษที่ผมความรู้ตื้นเขินนะครับ แต่มันคือผลไม้เซียนอะไรเหรอครับ?”

เยี่ยนอิงกล่าวว่า “ฉันเองก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ไม่เคยได้ยินตำนานหรือว่าบันทึกไหนๆ กล่าวถึงเลย เห็นว่ามันมีสีดำสีขาวแบ่งชัดเจน อีกทั้งยังสามารถทำลายภาพลวงตาได้ ฉันจึงเอาลักษณะของมันที่ดำขาวแบ่งแยกชัดเจน จริงเท็จไม่ปะปนมาตั้งเป็นชื่อของมัน เรียกมันว่าผลดำขาว”

“ผลดำขาว?” หลินยวนเอ่ยพึมพำ เด็ดมันออกมาผลหนึ่งเช่นกัน สูดดมดูเล็กน้อย

หลัวคังอันเอ่ยถามอย่างอยากรู้อยากเห็น “ที่คุณสร้างวังเทพเอาไว้ที่นี่ เพราะว่าที่นี่มันมีต้นไม้นี้งอกอยู่เหรอครับ?”

เยี่ยนอิงเหลือบมองเขาเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงเฉยชา “นี่เป็นต้นที่ฉันย้ายมาทีนี่ในภายหลัง จะว่าไปแล้ว ที่ฉันเจอต้นไม้นี้ได้ก็เป็นเพราะอาจารย์ของนาย”

“เอ่อ…” หลัวคังอันมึนงงไปเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัยอีกว่า “ไหนคุณบอกว่าไม่เคยได้ยินตำนานหรือว่าบันทึกกล่าวถึงไง ทำไมอาจารย์ของผมถึงรู้ได้?”

เยี่ยนอิงกล่าวว่า “นายคิดว่าอาจารย์ของนายจะความรู้ตื้นเขินเหมือนายหรือไง? อย่างน้อยเขาก็ยังรอบรู้อยู่บ้าง มีครั้งหนึ่งฉันไปหาเขา พูดถึงความลำบากเวลาที่อยู่ที่นี่ ตอนที่กำลังจะกลับ เขาให้คำแนะนำฉันมาประโยคหนึ่ง บอกว่าสรรพสิ่งล้วนมีเหตุผลของมันอยู่ สิ่งหนึ่งเกิด ย่อมต้องมีอีกสิ่งหนึ่งที่สะกดมันได้”

เขาบอกให้ฉันลองสังเกตดูในดินแดนแห่งความฝัน บอกว่าในดินแดนแห่งความฝันน่าจะมีสิ่งที่ทำให้ฉันสามารถทำลายภาพลวงตาและใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้อย่างสะดวก แล้วก็บอกว่าดีร้ายอิงแอบอาศัยกัน การอยู่ที่นี่ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องร้าย การที่ฉันสามารถฝึกวิชาภาพลวงตาในตอนนี้ได้สำเร็จ ก็เป็นเพราะได้รับคำชี้แนะจากเขา ฉันศึกษาการเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งอยู่ที่นี่ ถึงได้สามารถฝึกวิชาภาพลวงตาได้สำเร็จ”

“ฉันทำตามที่เขาบอก สังเกตดูสรรพสิ่งของที่นี่อย่างละเอียด จนพบความผิดปกติบางอย่าง ฉันพบว่าบางครั้งสัตว์บางชนิดสามารถทำลายภาพลวงตาที่อยู่ในดินแดนแห่งความฝันได้ แต่บางครั้งก็ไม่ได้ จึงคิดว่ามันจะต้องมีเหตุผลอย่างแน่นอน จึงเฝ้าดูและติดตามอย่างยากลำบากอยู่นาน ถึงได้ค้นพบความจริงนั้น นั่นเป็นเพราะสัตว์เหล่านั้นกินผลดำขาวนี่ลงไป”

“ตอนนั้นฉันเด็ดผลดำขาวกลับมาจำนวนหนึ่ง ผลสุดท้ายพบว่าพวกมันเก็บเอาไว้ได้ไม่นาน อีกทั้งพบว่าสัตว์ที่อยู่ที่นี่ก็เด็ดผลของมันไปเก็บไว้เอง ฉันเลยสังเกตดูลักษณะการเจริญเติบโตของมัน แล้วก็สร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเอาไว้ในถ้ำที่ฉันอยู่ แล้วก็ย้ายมันมาปลูกไว้ที่นี่”

“ส่วนมันต้องใช้เวลาเท่าไรถึงจะผลิดอกออกผล อันนี้ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันรู้เพียงแต่ว่าในช่วงเวลาแปดร้อยปีเต็มตั้งแต่ฉันย้ายมันมาปลูกไว้ที่นี่ จนกระทั่งฉันออกไปจากดินแดนแห่งความฝัน ฉันไม่เคยเห็นมันออกดอกมาก่อน ครั้งนี้ที่มาก็แค่อยากจะลองดูเท่านั้น คิดไม่ถึงว่ามันจะออกผลสุกงอมแล้ว ถือว่าแรงที่ลงไปได้รับผลตอบแทนกลับมาแล้วล่ะ”

“ผลนี้เก็บรักษาได้อย่างมากแค่ครึ่งปีเท่านั้น เมื่อเลยช่วงเวลานั้นไปแล้ว ไม่ว่าจะเก็บรักษายังไง มันก็จะเน่าเปื่อยไปหมด น่ามหัศจรรย์เป็นอย่างมาก”

หลัวคังอันมองดูผลขาวดำที่อยู่บนมือ ก่อนจะยื่นมือไปลูบคลำใบไม้ที่เปียกชุ่มบนผนังหิน คิดไม่ถึงว่าการมีอยู่ของเจ้าสิ่งนี้จะเกี่ยวข้องกับอาจารย์ผู้ล่วงลับไปแล้วของตนด้วย

หลินยวนกวาดตามองดูจำนวนของผลดำขาวที่อยู่บนผนังหิน ลองนับดูคร่าวๆ น่าจะมีอยู่ประมาณสามร้อยกว่าลูก ก่อนจะนึกถึงคำพูดที่เธอบอกว่าให้เด็ดไปครึ่งหนึ่ง จึงเอ่ยถามว่า “ลูกหนึ่งมีฤทธิ์อยู่หนึ่งวันเหรอ?”

เยี่ยนอิงกล่าวว่า “แค่ครึ่งวันค่ะ หกชั่วยาม แล้วก็ไม่จำเป็นต้องใช้ตลอดเวลา หนึ่งคนแค่ห้าสิบลูกก็พอแล้วค่ะ”

หลินยวนกล่าว “หลังกินไปแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรไหม?”

เยี่ยนอิงกล่าว “ตอนนี้ยังไม่เห็นว่ามีผลข้างเคียงอะไรค่ะ”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินยวนจึงยื่นมือไปเด็ดผลดำขาวมาใส่ปากเช่นเดียวกัน ก่อนจะเคี้ยวเปลือกมันจนแตก ไม่มีรสชาติอะไร มีแค่สัมผัสเท่านั้น แล้วก็มีความรู้สึกเย็นสบาย เวลากลืนลงไปเหมือนกลืนน้ำเย็นอย่างไรอย่างนั้น ความรู้สึกเย็นสบายสายหนึ่งแผ่ซ่านไปในอวัยวะภายในและศีรษะ เมื่อทำการรวบรวมพลังปราณ ดวงตาทั้งสองข้างเรียกได้ว่าสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนในพริบตา ภายใต้พลังปราณที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง คิดไม่ถึงว่าแม้นจะไม่ใช่ตาทิพย์ แต่ดวงตาก็ค่อยๆ มองเห็นสภาพแวดล้อมที่ดำมืดทางด้านนอกแสงไฟได้อย่างชัดเจน จึงอดเอ่ยชมขึ้นมาไม่ได้ “ยอดมาก คิดไม่ถึงว่าจะมองในความมืดได้ด้วย!”

ในตอนที่สายตาเหลือบมองไปยังเยี่ยนอิง เขาก็ต้องหยุดชะงักไปอีกครั้ง

พอได้ยินว่าสามารถมองในที่มืดได้ด้วย หลัวคังอันจึงมีท่าทีเหมือนอดรนทนไม่ไหว รีบเอาผลดำขาวใส่ปากแล้วเคี้ยวลงไปเช่นกัน

หลังรับรู้ได้ถึงฤทธิ์ของผลดำขาว เขาก็ปิดไฟฉายที่อยู่ในมือ กวาดมองไปรอบๆ เอ่ยถามด้วยความรู้สึกแปลกใจ “เอ๋ เป็นของดีจริงๆ ด้วย นับว่าเป็นของหายากจริงๆ คิดไม่ถึงว่าในดินแดนแห่งความฝันจะมีของดีแบบนี้อยู่ด้วย”

เขายิ้มพลางหันหน้ากลับมา สายตาไปสบเข้ากับเยี่ยนอิง ตกตะลึงไปเช่นกัน

ระหว่างทางเยี่ยนอิงแทบจะใช้วิชาภาพลวงตาปกปิดใบหน้าที่แท้จริงเอาไว้ตลอดเวลา แต่เยี่ยนอิงที่เขามองเห็นในเวลานี้คือเยี่ยนอิงที่เผยโฉมหน้าอันงดงามที่แท้จริงของเธอออกมา

เขาลองเอ่ยถามไปว่า “คุณหยุดใช้วิชาภาพลวงตาหรือว่า…” กล่าวพลางชี้นิ้วไปยังผลดำขาวที่อยู่บนกำแพง

เยี่ยนอิงเข้าใจความหมายของเขา กล่าวว่า “ฉันบอกแล้ว ถ้ากินผลดำขาวนี้ลงไปแล้วจะสามารถทำลายภาพลวงตาได้ ฤทธิ์ของมันไม่ได้ต่างอะไรกับเนตรแห่งปัญญาที่ฝึกฝนออกมาได้จากการรวมสัมผัสทั้งหกให้เป็นหนึ่ง วิชาภาพลวงตาของฉันเองก็ใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้ามัน”

เป็นของดีจริงๆ ด้วย! หลัวคังอันรู้สึกดีใจขึ้นมา ก่อนจะกล่าวว่า “อย่างนั้นคุณจะให้ท่านสองแห่งวังพิฆาตมารเจอคุณไม่ได้นะ เหมือนเขาจะมีอิทธิฤทธิ์อย่างที่คุณว่า ฝึกเนตรแห่งปัญญาจากการรวมสัมผัสทั้งหกให้เป็นหนึ่งได้”

เยี่ยนอิงกล่าวว่า “ฉันไม่จำเป็นต้องไปปรากฏตัวตรงหน้าเขา ถ้าเขาเจอฉันก็ไม่แน่ว่าจะรู้จักฉันเช่นกัน อยู่ดีๆ เขาไม่เอาเนตรแห่งปัญญามาจำแนกแยกแยะใบหน้าที่แท้จริงของฉันหรอก” กล่าวจบก็สะบัดแขนเสื้อไปบนผนังถ้ำ เกิดเสียงผัวะๆๆ ดังขึ้นมา

ผลดำขาวจำนวนร้อยกว่าลูกถูกเด็ดไปพร้อมกัน

เธอสะบัดฝ่ามือเบาๆ ผลดำขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศแยกออกเป็นสามส่วน ลอยไปหาแต่ละคน ตัวเองเก็บเอาไว้ส่วนหนึ่ง

หลินยวนกับหลัวคังอันย่อมไม่ปฏิเสธ หลัวคังอันเก็บส่วนของตัวเองไว้ ก่อนจะถามอีกว่า “คุณอยู่ในดินแดนแห่งความฝันมานานขนาดนี้ ฝึกวิชาภาพลวงตาแบบนี้จนสำเร็จ คุณยังต้องใช้ของแบบนี้อยู่อีกเหรอ?”

เยี่ยนอิงกล่าว “ก็เพียงแค่สามารถแยกแยะภาพลวงตาได้ดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น ภาพลวงตาที่คนสร้างขึ้นมาน่าจะหลอกฉันได้ยาก แต่มันไม่มีวิชาอะไรที่จะสมบูรณ์ ภาพลวงตาบางอย่างฉันสามารถมองออกได้ แต่บางอย่างก็ไม่สามารถมองออกได้ ไม่อย่างนั้นฉันก็คงจะไม่ถูกเถาลวงตาหลอกเอาได้”

หลินยวนกลับสงสัยในอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมา “นอกจากที่นี่แล้ว ยังมีที่อื่นที่มีผลดำขาวงอกอยู่อีกหรือเปล่า?”

เยี่ยนอิงส่ายหน้าขึ้นมาอย่างลังเล “ต้นที่ฉันค้นพบต้นนั้นถูกฉันย้ายมาปลูกไว้ที่นี่แล้ว ที่อื่นยังจะมีอยู่อีกหรือเปล่า ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกัน”

หลินยวนกล่าว “สาวใช้สองคนของเธอรู้หรือเปล่าว่าที่นี่มีผลดำขาว?”

เยี่ยนอิง “รู้ค่ะ ตอนที่ปลูกก็เป็นฉันที่คอยสั่งกำชับอยู่ข้างๆ พวกเธอสองคนเป็นคนลงมือค่ะ”

หลินยวนกล่าว “พูดอีกอย่างก็คือยังมีคนที่สามารถมาหาผลดำขาวได้อยู่ ยังมีคนที่สามารถมองวิชาภาพลวงตาของเธอออก และสามารถมองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธอได้”

เยี่ยนอิงขมวดคิ้ว “ท่านสงสัยว่าพวกเธอสองคนจะหักหลังฉันหรือคะ? จะคิดมากเกินไปหรือเปล่าคะ ต่อให้พวกเธอสองคนยังอยู่ อยู่ดีๆ พวกเธอก็ไม่มีความจำเป็นต้องมาที่ดินแดนแห่งความฝันหรือเปล่าคะ”

หลินยวนกล่าว “ตัวตนของเธอจะเปิดเผยออกไปไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหายุ่งยากอย่างมากได้ เรื่องบางเรื่องปลอดภัยไว้ก่อนจะดีกว่า” เขาหันหน้าไปมองดูผลดำขาวที่เหลืออยู่บนกำแพง เผยสีหน้าที่กำลังใช้ความคิด

แต่หลัวคังอันกลับเข้าใจขึ้นมาทันที “ใช่ๆๆ ปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า เก็บไปหมดเลยแล้วกัน”

หลังจากถูกเตือน เขาก็รู้สึกกลัวขึ้นมาเล็กน้อย ถ้าเกิดตัวตนของเทพแห่งความฝันเปิดเผยออกไป เรื่องที่เขาอยู่กับเศษเดนราชวงศ์ก่อนก็จะเปิดเผยตามไปด้วย แบบนั้นเขายังจะหนีได้อีกเหรอ ความปลอดภัยย่อมต้องมาก่อน

เขาจึงใช้พลังทันที คิดจะเด็ดเอาผลดำขาวทั้งหมดลงมา

แต่ใครจะไปรู้ว่าหลินยวนที่อยู่ข้างๆ กลับยื่นมือออกมา กดแขนของเขาเอาไว้ “ช่างเถอะ เก็บเอาไว้ก่อน ต่อไปอาจจะมีโอกาสได้ใช้อีก”

หลัวคังอันมึนงง ไม่รู้ว่าคนผู้นี้หมายความว่าอย่างไร คนที่ต้องการจะเด็ดผลดำขาวทั้งหมดเพื่อความปลอดภัยก็คือเขา คนที่จะให้เก็บเอาไว้ก็คือเขาอีก จึงเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความสงสัยว่า “ยังจะมีประโยชน์อะไรอีก? ครั้งนี้ขอเพียงออกไปอย่างปลอดภัยได้ก็พอแล้ว นายยังคิดจะกลับมาที่นี่อีกเหรอ?”

หลินยวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “อย่าลืมตัวตนของแกในตอนนี้”

“ตัวตนของฉันตอนนี้?” หลัวคังอันไม่เข้าใจ “ตัวตนของฉันมันทำไมเหรอ?”

หลินยวนกล่าว “ตรงทะเลหนามมีความลับที่เกี่ยวกับการสร้างเทพมหาวิญญาณรุ่นที่แปดแอบซ่อนอยู่ ครั้งนี้ถ้าสืบไม่ได้อะไร หลังจากนี้เรายังต้องหาโอกาสกลับเข้ามาอีกแน่นอน”

ทะเลหนาม ฐานที่มั่นของกองทัพสภาเซียนในตอนนี้ หรือก็คือพื้นที่หวงห้าม แล้วก็เป็นสถานที่ที่ได้รับแจ้งเอาไว้ตั้งแต่ตอนที่ถูกตรวจสอบตัวตนแล้วว่าห้ามเข้าใกล้โดยพลการ ไม่อย่างนั้นฆ่าได้ไม่เว้น!

“….” หลัวคังอันพูดไม่ออกไปพักใหญ่ จากนั้นร้อนใจขึ้นมาเล็กน้อย “ฉันว่านะเถ้าแก่ ไม่สิ น้องหลิน พวกเรามาหาดวงตาแห่งความฝันนะ แค่หาดวงตาแห่งความฝันได้ก็ดีมากแล้ว นายหมายความว่ายังไงเนี่ย ยังจะต้องไปที่ทะเลหนามอีกเหรอ?”

…………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน