ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 265 คลาดกัน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 265 คลาดกัน

ความเร็วในการบินเริ่มช้าลง ทั้งสามคนร่อนลงที่ปากถ้ำอย่างแผ่วเบา

ทันใดนั้น หนอนแห่งความฝันที่อยู่รอบๆ ปากถ้ำก็ตื่นตัวขึ้นมา แต่ละตัวจ้องมองมาตรงจุดที่พวกเขาทั้งสามคนร่อนลงไปด้วยสายตาแปลกประหลาด เห็นได้ชัดเลยว่าพวกมันรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวบางอย่าง

หนอนแห่งความฝันยากจะทำอะไรผู้บำเพ็ญเพียรอย่างพวกเขาได้ แต่ถึงกระนั้นก็ยังทำให้พวกเขารู้สึกหวาดเสียวอยู่

เยี่ยนอิงยกมือเป็นการบอกให้เงียบ ทั้งสามคนยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ไม่ส่งเสียงใดๆ ออกมา

เมื่อเห็นซากศพถูกลากเข้าไปแล้ว เยี่ยนอิงก็โบกมือส่งสัญญาณบอกให้ไปอีกครั้ง ไม่สนใจหนอนแห่งความฝันพวกนั้น เธอลอยตัวขึ้นเบาๆ ลอยเข้าไปในถ้ำ

หลินยวนกับหลัวคังอันเห็นเธอทำอะไรก็ทำตาม พวกเขาลอยตัวตามไป ไม่กล้าทิ้งระยะห่างจากเธอมากนัก

เมื่อหันกลับไปมองอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวของพื้นดินใต้ฝ่าเท้าตอนที่ทั้งสามคนลอยขึ้นทำให้พวกหนอนแห่งความฝันจำนวนนับไม่ถ้วนคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะคลานวนไปวนมา แต่ก็ไม่พบอะไร จึงทำได้เพียงทิ้งตัวลงอย่างเกียจคร้านอีกครั้ง

เมื่อเห็นทุกอย่างสงบลงแล้ว หลัวคังอันจึงถอนหายใจโล่งอก

ทั้งสามคนยืนลงบนพื้นภายในถ้ำ พื้นที่ภายในถ้ำไม่นับว่าใหญ่เท่าไหร่ ในตอนที่เข้ามาส่วนสูงของเยี่ยนอิงนั้นค่อนข้างพอดี แต่หลัวคังอันกับหลินยวนกลับต้องก้มตัวลงเล็กน้อย

เยี่ยนอิงค่อยๆ ก้าวตามฝูงหนอนแห่งความฝันที่กำลังลากเหยื่ออยู่ด้านหน้า อีกสองคนด้านหลังก็ตามเธอมาทันที พวกเขาต้องก้มตัวเดินไปข้างหน้า บางครั้งเจอหนอนแห่งความฝันห้อยตัวลงมาจากเพดานถ้ำ ทั้งสามคนก็ต้องเดินเบี่ยงหลบ

กลิ่นภายในถ้ำไม่ค่อยน่าอภิรมย์สักเท่าไหร่ มันเป็นกลิ่นเหม็นเปรี้ยว ยิ่งเข้าไปลึกกลิ่นก็ยิ่งแรงขึ้น ยิ่งเข้าไปก็ยิ่งมืดขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีแสงสว่างเลยแม้แต่น้อย

เวลานี้ หลินยวนกับหลัวคังอันยิ่งตระหนักถึงข้อดีของผลดำขาวมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว เมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีแสงเลยแม้แต่น้อย สายตาก็ยากที่จะมองเห็นอะไรได้ชัด ประสิทธิภาพของผลดำขาวที่ช่วยให้มองเห็นในเวลากลางคืนได้มันช่างน่าอัศจรรย์จริงๆ มิน่าล่ะก่อนหน้านี้เยี่ยนอิงถึงต้องไปที่วังเทพแห่งความฝันก่อนให้ได้

หากไม่เข้าไปหาผลดำขาวที่วังเทพแห่งความฝัน เกรงว่าเมื่อมาที่นี่คงจะยุ่งยากอย่างมาก เพราะถ้าเปิดไฟก็จะทำให้พวกมันรุมเข้ามาโจมตีอย่างแน่นอน

ไม่รู้ว่าเส้นทางนี้ถูกขุดขึ้นมาได้อย่างไร มันเป็นเส้นทางคดเคี้ยวไปมา โดยรวมแล้วเส้นทางมีแนวโน้มที่จะทอดตัวลึกลงไปเบื้องล่าง ตรงจุดที่มีความสูงชัน พวกหนอนแห่งความฝันก็จะลากซากศพเหยื่อแล้วโยนลงไปด้านล่าง

เมื่อพบกับพื้นที่ที่มีการติดขัดเล็กน้อย ซากศพใหญ่เกินกว่าจะลากผ่านไปได้ มีหนอนแห่งความฝันอ้าปากใช้เขี้ยวของมันกัดแทะทันที ใช้เขี้ยวอันแหลมคมเปิดเส้นทางอย่างรวดเร็ว

เมื่อมีเสียงลากเหยื่อดังครืดๆ และมีกลิ่นอายของเหยื่อมาปกคลุมตัวเอาไว้ อีกทั้งฝีเท้าของทั้งสามคนก็แผ่วเบาเป็นอย่างมาก ไม่มีเสียงผิดปกติใดๆ เมื่อเดินตามอยู่ด้านหลังกลับไม่ทำให้พวกหนอนแห่งความฝันรู้สึกสงสัยแม้แต่น้อย ทุกอย่างราบรื่นดี

ภายใต้กลิ่นเหม็นเปรี้ยวที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ พอเคยชินกับมันก็ไม่เป็นปัญหาอะไรแล้ว

เมื่อเดินลึกเข้าไป ตอนที่ประเมินว่าน่าจะอยู่ลึกลงไปใต้ดินประมาณห้าหกร้อยจั้ง พวกเขาก็ยังไม่เห็นวี่แววของรังนางพญาเลย หลินยวนกับหลัวคังอันแอบรู้สึกตกใจ คิดไม่ถึงว่านางพญาหนอนแห่งความฝันจะซ่อนตัวอยู่ลึกขนาดนี้

ทั้งสามเดินตามไปอย่างเงียบๆ จู่ๆ ก็มีเสียงฟึบๆ ดังขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงหวีดแหลมของหนอนแห่งความฝัน สายตาของทั้งสามคนมองไป เห็นสิ่งที่ดูคล้ายเชือกนุ่มๆ สองเส้นพลันยื่นลงมาจากรูที่อยู่ด้านบน กวาดไปกวาดมาสะเปะสะปะ ม้วนหนอนแห่งความฝันหลายตัวเอาไว้แล้วลากขึ้นไป

เสียงหวีดดังมาจากหนอนแห่งความฝันที่ถูกจับตัวไป หนอนตัวอื่นๆ ไม่มีความสนใจใดๆ ยังคงลากซากศพไปข้างหน้าต่อ ไม่สนใจความเป็นความตายของพวกเดียวกันเลย ราวกับว่าไม่มีอุปสรรคความยากลำบากอะไรที่จะมาขัดขวางพวกมันในการเอาอาหารกลับไปที่รังนางพญาได้

ส่วนสิ่งที่ยื่นสะเปะสะปะลงมาจากรูด้านบนนั้นยังคงกวาดไปมาอยู่ พื้นที่ในอุโมงค์ใต้ดินมีอยู่จำกัด ทำให้ทั้งสามคนไม่สะดวกที่จะผ่านไป

แต่เยี่ยนอิงกลับไม่ได้ลดความเร็วลง เธอสะบัดมือหยิบมีดสั้นออกมาเล่มหนึ่ง ฟันมีดสั้นซ้ายขวา ตัดเชือกที่บิดม้วนไปมาแต่ละเส้นอย่างรวดเร็ว

เชือกที่บิดม้วนไปมาได้รับความเจ็บปวด รีบหดกลับไปอย่างรวดเร็ว มีเลือดไหลหยดลงมา ขณะเดียวกันก็มีเสียงร้อง “วี๊ดๆ” ด้วยความเจ็บปวดดังมาจากด้านบนรู แล้วก็มีเสียงอะไรบางอย่างกำลังดีดดิ้นไปมาอยู่ด้านบน

หลินยวนกับหลัวคังอันที่เดินผ่านตามเยี่ยนอิงไปถึงได้รู้ว่ามันคือลิ้นของตัวอะไรบางอย่างที่เจาะรูลงมาเพื่อล่าหนอนแห่งความฝันเป็นอาหาร แล้วก็น่าจะเป็นเสียงลากเหยื่อของหนอนแห่งความฝันที่ทำให้สัตว์อื่นๆ ที่อยู่ใต้ดินรู้ตัว

หลังจากนั้นก็มีเสียงลากเหยื่อดังครืดๆ อีกครั้ง พบเจอทางแยกบ้างเป็นระยะ หากมิใช่เป็นเพราะมีหนอนแห่งความฝันนำทางอยู่ก็คงยากที่จะหาเจอได้

แต่แน่นอน โชคดีที่เยี่ยนอิงมีประสบการณ์ทางด้านนี้ด้วย ไม่อย่างนั้นใครล่ะถึงจะรู้เรื่องพวกนี้ได้

ตอนที่ลงลึกไปใต้ดินประมาณพันจั้ง เยี่ยนอิงหันกลับมาส่งสัญญาณมือให้อีกสองคน เป็นการบอกว่าลงมาถึงความลึกประมาณนี้แล้ว ต่อให้มีความผิดปกติอะไรเกิดขึ้น ขอเพียงไม่ได้รุนแรงจนเกินไป พวกทหารของสภาเซียนที่อยู่บนพื้นดินก็คงจะรับรู้ไม่ได้ง่ายๆ

ทั้งสองคนพยักหน้า แต่ไม่นานทั้งสามคนก็หยุดลง อีกทั้งสายตายังมึนงงด้วย พวกเขาพบว่าข้างหน้าเป็นทางตันแล้ว ไม่มีทางที่จะเดินต่อไปได้อีก มีเพียงโพรงเล็กๆ จำนวนหนึ่งเท่านั้น

หรือว่ามาถึงแล้ว? ทั้งสามคนมองสำรวจไปทั่ว แต่กลับไม่เห็นนางพญาหนอนแห่งความฝันเลย

ส่วนหนอนแห่งความฝันก็หยุดลงเช่นกัน กำลังกัดกินซากศพกันอยู่

หลัวคังอันโบกมือไปมาทันที คล้ายกำลังถามว่าหรือหนอนแห่งความฝันพวกนี้กำลังใช้อำนาจหน้าที่หาผลประโยชน์ใส่ตัว แอบเอาเหยื่อมากินตรงนี้?

เยี่ยนอิงกลอกตาใส่ ส่ายหน้าเล็กน้อย ชี้ไปที่หัวใจของหลัวคังอัน พลางกล่าวเสียงเบาๆ ว่า “หนอนแห่งความฝันไม่ได้มีความคิดอะไรมากเหมือนอย่างมนุษย์ ตอนที่อาหารไม่พอมันสามารถเอาตัวเองให้นางพญาหนอนกินเป็นอาหารได้ด้วยซ้ำ ไม่มีทางที่พวกมันจะไม่สนใจนางพญาหนอน”

หลังจากนั้น ทั้งสามคนถึงได้เข้าใจว่าหนอนแห่งความฝันเหล่านั้นกำลังทำอะไร ที่แท้พวกมันกำลังกัดฉีกเหยื่อให้เป็นชิ้นเล็กๆ อยู่นั่นเอง

หลังจากที่กัดฉีกเสร็จเรียบร้อย หนอนแห่งความฝันแต่ละตัวก็ลากเอาชิ้นส่วนเหยื่อเข้าไปในโพรงเล็กๆ กระทั่งเครื่องในของสัตว์ก็ไม่เว้น เหลือทิ้งไว้เพียงเลือดและคราบสกปรก ยิ่งทำให้กลิ่นภายในถ้ำนี้ยิ่งเหม็นขึ้นไปอีก

เรื่องกลิ่นเหม็นไม่เท่าไหร่ ประเด็นสำคัญก็คือหนอนแห่งความฝันเหล่านั้นลากเอาชิ้นเนื้อเล็กๆ เข้าไปในโพรงเล็กๆ นั้นจดหมดแล้ว โพรงพวกนั้นมีขนาดเล็กอย่างมาก พวกเขาสามคนไม่สามารถตามเข้าไปต่อได้

ที่แห่งนี้กลับเงียบสงัดลง มีเพียงแค่ด้านในโพรงเล็กๆ ที่ยังพอจะมีเสียงลากเบาๆ อยู่

รอบด้านไม่มีหนอนแห่งความฝันอยู่แล้ว หลัวคังอันกระซิบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ข้างหลังรูนี้คือรังเก่าของพวกมันเหรอ?”

“รังนางพญาไม่น่าจะอยู่ใกล้พื้นดินขนาดนี้ ตอนที่ฉันจับนางพญาหนอนในตอนนั้น มันอยู่ลึกกว่านี้มาก” เยี่ยนอิงกล่าวด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ รีบก้าวไปตรงหน้าโพรงนั้น ฝ่ามือข้างหนึ่งของเธอดันที่ผนังนั้น ใช้พลังตรวจสอบก่อนจะส่ายหน้าช้าๆ “ยังไม่สุดทางจริงๆ ด้วย”

หลัวคังอัน “ถ้าอย่างนั้นนี่มันหมายความว่าอะไร?”

เยี่ยนอิงลังเล “ตอนที่ฉันจับนางพญาหนอนในตอนนั้น พวกมันไม่ได้กลัวว่าจะถูกคนพบเข้า แม้ว่าระหว่างทางจะพบเจอเรื่องไม่คาดคิดบ้าง แต่ฉันก็ตามพวกมันไปแบบนี้เรื่อยๆ จนถึงรังนางพญา ไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่กัดฉีกเนื้อเป็นชิ้นๆ แล้วลากเข้าไปแบบนี้เลย นี่มันเกิดอะไรขึ้นนะ?”

หลินยวนกล่าว “ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดไหน ต่อให้ไม่มีสมองยังไง พวกมันก็มีสันชาตญาณระวังภัยทั้งนั้น นางพญาหนอนหกตัวถูกจับไป นี่อาจจะทำให้พวกมันได้รับบทเรียนมาบ้าง” เขาเองก็ก้าวไปข้างหน้าใช้ฝ่ามือข้างหนึ่งตรวจสอบดูเช่นกัน พลังแผ่เข้าไปในโพรงนั้น รู้สึกได้ว่าภายในเป็นโพรงว่างเปล่าที่ทอดยาวออกไป พลังของเขาไม่สามารถแผ่ลึกไปถึงสุดทางได้

หลัวคังอันกล่าว “แล้วอย่างนี้จะทำยังไง? ฝืนเปิดทางเข้าไปเลยไหม?”

เยี่ยนอิงกล่าวอย่างดูแคลน “นายโง่หรือเปล่า? อยู่ใต้ดินลึกขนาดนี้แล้ว จะฝืนเปิดทางอย่างนั้นเหรอ? แล้วจะเอาอะไรมากันพวกสัตว์อื่นๆ นายลองเปิดทางให้ฉันดูสิ ถ้าโพรงถ้ำที่ติดตามหนอนแห่งความฝันเกิดถล่มขึ้นมา อยากจะหาเส้นทางเป้าหมายอีกครั้งมันก็ยากแล้ว”

หลินยวนที่เพิ่งใช้พลังตรวจสอบดูกล่าวขึ้นมา “ฝืนเปิดทางไม่ได้ เพราะข้างหน้าโพรงนั้นมีชั้นดินที่แข็งกว่าปกติอยู่จำนวนมาก” เขาหันไปถามเยี่ยนอิง “ไม่มีวิธีอื่นเหรอ?”

เยี่ยนอิงเงียบไปเล็กน้อย จู่ๆ ก็พลิกนิ้วมือคีบยาหอมเม็ดหนึ่งออกมา สะบัดนิ้วดีดยาเข้าไปในรูนั้น ขณะเดียวกันก็พลิกฝ่ามือข้างหนึ่งดันออกไป พร้อมกับหลับตาควบคุมพลัง

เม็ดยาหอมโค้งวนไปมาในโพรงพักหนึ่ง ตามหนอนแห่งความฝันที่ลากอาหารไป จากนั้นเกิดเสียงฟุบ ยาเม็ดนั้นพุ่งเข้าไปในอาหาร

หลังจัดการเสร็จเรียบร้อยเธอก็ลืมตาขึ้นพลางกล่าว “ฉันใส่ยาหอมเข้าไปในอาหารพวกมันแล้ว เราสามารถตามกลิ่นไปจนถึงรังนางพญาได้”

หลัวคังอันมึนงงพลางกล่าว “เราเข้าไปในรูนี้ไม่ได้ แล้วจะตามไปยังไง?”

เยี่ยนอิง “ฉันเคยบอกแล้วว่าใต้ดินนี้เป็นโลกกว้างใหญ่อีกโลกหนึ่ง สิ่งมีชีวิตจำนวนมากที่มองไม่เห็นบนพื้นดินล้วนใช้ชีวิตอยู่ใต้ดินกัน แม้ว่าหนอนแห่งความฝันจะมีความระมัดระวัง แต่พวกมันก็ไม่ได้มีสติปัญญาสูงขนาดนั้นหรอก ไม่ทำรูไว้ตรงที่อื่น แต่มาทำรูไว้ตรงนี้ มีความเป็นไปได้สูงว่าพวกมันอาจจะกำลังเลี่ยงเขตที่อยู่อาศัยของสัตว์อื่นอยู่ ลองดูด้านหลังผนังที่อยู่รอบๆ ว่ายังมีพื้นที่ว่างอื่นๆ หรือเปล่า”

เธอหันหลังกลับไปเป็นคนแรก เอาฝ่ามือกดลงไปบนผนังถ้ำ ถ่ายพลังตรวจสอบเข้าไปภายในผนังถ้ำ

หลินยวนทำตามทันที เอาฝ่ามือกดที่เพดานถ้ำที่อยู่ด้านบนแล้วใช้พลังตรวจสอบ

เห้อ! หลัวคังอันลอบถอนใจ ทำได้เพียงยื่นมือไปอีกด้านแล้วใช้พลังตรวจสอบ เขาเพิ่งจะกดฝ่ามือไปเพียงครู่ก็ต้องตะลึงไปเล็กน้อย หันกลับมากล่าวว่า “ด้านหลังผนังหินทางฉันมีพื้นที่ว่าง”

เยี่ยนอิงกับหลินยวนชักมือกลับทันที ก่อนจะยื่นมือไปกดตรงผนังถ้ำที่เขากดอยู่

แล้วก็เป็นอย่างที่ว่าจริงๆ ด้านหลังผนังที่หนาไม่ถึงหนึ่งจั้งมีโถงถ้ำอยู่จริงๆ ทั้งยังเป็นโถงที่ใหญ่กว่าทางด้านนี้อย่างเห็นได้ชัดด้วย

หลินยวนพลันสะบัดฝ่ามือ คิดจะฟาดฝ่ามือทลายออกไป

แต่เยี่ยนอิงยกมือขึ้นห้ามเขาไว้ พลางกล่าวเตือน “โถงที่อยู่ทางด้านนั้นไม่ใช่เล็กๆ ”

หลินยวนขมวดคิ้ว

เมื่อเห็นทั้งสองคนดูลังเล หลัวคังอันจึงเอ่ยถามอย่างไม่เข้าใจว่า “หมายความว่ายังไง?”

หลินยวนกล่าวอย่างช้าๆ “หมายความว่าขนาดตัวของสัตว์ที่เข้าออกเส้นทางนั้นค่อนข้างใหญ่ อาจจะค่อนข้างอันตราย”

“ไม่รู้ว่ามันคือตัวอะไร ถ้าเป็นไปได้ก็พยายามอย่าทำให้มันรู้ตัวจะดีกว่า” เยี่ยนอิงกล่าวอธิบาย ก่อนจะใช้ฝ่ามือกดไปที่บนผนังหินอีกครั้ง จู่ๆ พลันโคจรพลังอันรุนแรงขึ้นมา ถ่ายพลังเข้าไปในผนัง จากนั้นค่อยๆ ผลักเข้าไปด้วยฝ่ามือข้างเดียว บนผนังปรากฏช่องว่างขึ้นมาช่องหนึ่ง คิดไม่ถึงว่าผนังแข็งๆ นั้นจะถูกเธอดันจนยุบตัวเข้าไปอย่างช้าๆ

พอทำแบบนั้นแล้ว ก็มีแค่เสียงครืดๆ ซ่าๆ ไม่ได้มีเสียงอึกทึกอะไรมากนัก

ช่องว่างปรากฏขึ้นมา เยี่ยนอิงเดินไปพลางดันไปพลาง ส่วนอีกสองคนก็เดินตาม

จากนั้นไม่นาน อุโมงค์ทรงกระบอกแห่งหนึ่งก็ถูกเปิดออก เยี่ยนอิงสะบัดฝ่ามือ ผนังหินทรงกระบอกที่ถูกดันออกไปค่อยๆ ล้มลงไปบนพื้น ไม่มีเสียงใดๆ

ทั้งสามคนที่เดินออกมาจากช่องวางพลางมองไปรอบๆ มันคืออุโมงค์ที่มีขนาดไม่เล็กเลยจริงๆ มีความกว้างหนึ่งจั้งกว่า ความสูงก็ไม่ถือว่าต่ำเท่าไหร่ แต่ผนังถ้ำแข็งๆ ที่ขรุขระนั้นกลับถูกเสียดสีจนค่อนข้างเรียบ ดูท่าทางจะมีตัวอะไรบางอย่างเดินผ่านอยู่บ่อยๆ

เยี่ยนอิงสังเกตดู จมูกของเธอขยับดมฟุดฟิด พลางกล่าวเตือน “นี่เป็นทางผ่านของมังกรเกราะเหล็กค่ะ”

หลัวคังอันเอ่ยถามอย่างสงสัย “มังกรเกราะเหล็กคืออะไร?”

เยี่ยนอิง “เป็นชื่อที่ฉันตั้งให้มัน มันคือสัตว์ประหลาดใต้ดินชนิดหนึ่ง คล้ายตัวเงินตัวทอง ร่างกายมีเกล็ดแข็ง อาวุธต่างๆ ยากจะแทงเข้าได้ ด้วยสภาวะของนาย หากใช้อาวุธแล้วไม่ใช้สภาวะออกมามากกว่าสามส่วน เกรงว่าคงยากจะแทงทะลุเกล็ดของมันได้ กรงเล็บมันก็มีความแหลมคม พละกำลังมหาศาล พลังป้องกันตัวของนายต้านการโจมตีของมันไม่ได้หรอก จุดอ่อนของมันอยู่ที่ภายใน ตอนมันอ้าปากให้โจมตีเข้าไปข้างในตัวมัน อย่าให้มันพ่นน้ำลายมาถูกตัวได้” เธอชี้ไปยังรูเล็กๆ บนพื้น “น้ำลายมันมีฤทธิ์กัดกร่อนรุนแรง มีพิษร้ายแรงด้วย โดยทั่วไปแล้วพิษในดินแดนแห่งความฝันจะทำให้เกิดอาการประสาทหลอน หากถูกพิษแล้วจะต้องขูดเอาเนื้อออกทันทีเพื่อสกัดกั้นพิษของมัน”

หลังจากพูดจบ เธอก็ไม่รอช้า เดินตามไปในทิศทางที่หนอนแห่งความฝันมุ่งหน้าไปสองสามก้าว จากนั้นก็นาบฝ่ามือบนกำแพงหินและปล่อยพลังเข้าไป ตรวจสอบทิศทางที่หนอนแห่งความฝันมุ่งหน้าไป จากนั้นถึงจะหันไปบอกกับอีกสองคนว่า “ไปกันเถอะ ตอนนี้เดินไปตามทิศทางของโพรงเส้นนี้ก่อน”

ทั้งสามคนจึงเดินหน้าไปตามเส้นทางนี้ ขณะเดียวกันก็ใช้พลังตรวจสอบทิศทางของหนอนแห่งความฝันข้างในกำแพงหินไปด้วย เพื่อไม่ให้ถูกทางแยกอื่นๆ ในถ้ำทำให้ไขว้เขว

ในตอนที่เดินไปได้ไม่ถึงร้อยจั้ง จู่ๆ ข้างหน้าก็มีการสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงขึ้นมา ตามมาด้วยเสียงคำราม “โฮกๆ” ที่ดังสะท้อนไปมาภายในถ้ำ

ยังไม่ทันที่ทั้งสามคนจะได้หยุดฝีเท้าไตร่ตรองว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทางแยกด้านหลังที่เพิ่งเดินผ่านมาก่อนหน้านี้ก็มีเสียงเสียดสีอย่างรุนแรงดังขึ้นมา คล้ายมีวัตถุขนาดมหึมาบางอย่างกำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางด้านนี้อย่างรวดเร็ว

เยี่ยนอิงเอาฝ่ามือทาบลงไปบนกำแพงทันที ดันจนเกิดเป็นหลุมยุบเข้าไป ก่อนจะรีบโบกมือส่งสัญญาณอย่างรวดเร็ว ท่าทีของหลัวคังอันในเวลานี้ดูลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมาก เขากระโดดเข้าไปหลบด้านในเป็นคนแรก จากนั้นเป็นหลินยวน เยี่ยนอิงตามเข้าไปเป็นคนสุดท้ายพร้อมทั้งใช้พลัง ไม่มีความเสียงใดๆ เห็นได้ชัดว่าใช้พลังสร้างภาพลวงตาขึ้นมาบดบังเอาไว้

…………………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท