ตอนที่ 266 แมงมุมคุณยาย
เสียงวิ่งอันรุนแรงคืบใกล้เข้ามาเรื่อยๆ หลัวคังอันที่หลบอยู่ข้างหลังโดยมีอีกสองคนบังไว้ด้านหน้ากลับรู้สึกปลอดภัย เขารู้สึกว่าร่างกายของหลินยวนเอนมาด้างหลังเล็กน้อย เขาเข้าใจว่ามันค่อนข้างเบียด แต่ข้างหลังเขาก็ไม่มีที่ให้ถอยแล้วเช่นกัน
พื้นที่ที่สร้างขึ้นมาอย่างปุบปับมันค่อนข้างเล็ก เยี่ยนอิงที่ใช้พลังเสร็จเรียบร้อยก็รับรู้ได้ถึงความผิดปกติ เธอพบว่าแผ่นหลังของตนเองแนบชิดกับด้านหน้าของหลินยวนจนรู้สึกได้ถึงรูปร่างของหลินยวน
การอยู่แนบชิดกันแบบนี้มันไม่ดี หลินยวนจึงทำได้แค่พยายามเอนถอยไปด้านหลัง
สีหน้าของเยี่ยนอิงดูค่อนข้างกระอักกระอ่วน แก้มแดงขึ้นมาเล็กน้อย รู้สึกได้ว่าแผ่นหลังของตนไปสัมผัสถูกกับสิ่งที่ไม่ควรสัมผัสเข้าแล้ว จะอธิบายว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจก็ทำได้ลำบาก ทำเหมือนว่าไม่รู้เรื่องน่าจะเหมาะกว่า
เวลานี้เสียงโครมครามที่ฟังดูเร่งร้อนได้เคลื่อนที่ผ่านด้านหน้าไป มองเห็นกรงเล็บแหลมคมที่งอกอยู่บนร่างกายอันใหญ่โตกำลังปีนป่ายไปมาอย่างรวดเร็ว แล้วก็ยังมีเกล็ดสีดำขนาดใหญ่ประมาณกำปั้นที่ปกคลุมอยู่เต็มร่างแวบผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ตอนที่มีกรงเล็บตะปบมาตรงนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ เยี่ยนอิงยังยืนฝ่ามือเข้าไปรับเอาไว้ด้วย ทำให้กรงเล็บที่กำลังปีนป่ายได้มีพื้นที่หยิบยืมแรง เพื่อจะได้ไม่เปิดเผยร่องรอยอะไรออกไป
มีเสียงผ่านไปเสียงแล้วเสียงเล่า สัตว์ประหลาดสิบกว่าตัววิ่งผ่านหน้าโพรงที่ทั้งสามคนหลบอยู่ไปติดๆ กัน
เมื่อเงี่ยหูฟังดู ทิศทางที่พวกมันวิ่งออกมาไม่มีความเคลื่อนไหวแล้ว เสียงความเคลื่อนไหวล้วนแต่อยู่ตรงทิศทางที่พวกมันมุ่งหน้าไป เยี่ยนอิงก็ไม่กล้าลังเล รีบออกมาทันที เหลือบมองหลินยวนที่เดินออกมาเล็กน้อย ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
หลินยวนเองก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเช่นกัน เขาเองก็ไม่ได้คิดเป็นจริงเป็นจังอะไร
หลัวคังอันเดินลับๆ ล่อๆ ออกมาเป็นคนสุดท้าย มองไปทางซ้ายทีขวาที พลางกระซิบถาม “ไม่มีอะไรแล้วใช่ไหม?”
ทิศทางที่สัตว์ประหลาดวิ่งไปมีเสียงคำรามโกรธเกรี้ยวดัง ‘โฮกๆ’ ขึ้นมาไม่หยุด ไม่รู้ว่าทางนั้นเกิดอะไรขึ้น
“ไป ไปดูกัน” เยี่ยนอิงเรียก ทั้งสองตามไปทันที ตามติดอยู่ภายใต้ภาพลวงตาของเธอที่คอยเป็นเกราะกำบังให้
เข้าไปได้ไม่ลึกเท่าไร ระยะทางประมาณร้อยกว่าจั้งได้ พวกเขาพบว่าได้มาถึงโถงที่เปิดกว้างยิ่งกว่าเดิมแห่งหนึ่ง สัตว์ที่ถูกเรียกว่ามังกรเกราะเหล็กกลุ่มหนึ่งกำลังรวมตัวกัน ส่งเสียงคำรามอย่างโกรธเกรี้ยวไปในทิศทางเดียวกัน
พวกเขาเห็นอุโมงค์ที่อยู่ตรงด้านหน้านั้นถูกใยแมงมุมขนาดใหญ่ขวางกั้นเอาไว้อยู่ เป็นใยแมงมุมสีขาวจนเกือบจะโปร่งใส เส้นใยแต่ละเส้นหนาเท่านิ้วมือ ด้านหลังใยแมงมุมที่ถักทอเป็นชั้นๆ คือโถงขนาดใหญ่ มีใยแมงมุมพันธนาการมังกรเกราะเหล็กตัวน้อยห้อยเอาไว้ตัวหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าเป็นลูกของมังกรเกราะเหล็ก
มังกรเกราะเหล็กตัวน้อยที่ถูกห้อยอยู่กลางอากาศดิ้นรนหวีดร้อง แต่กลับไม่สามารถหลุดจากพันธนาการของใยแมงมุมได้ เหมือนว่ามันกำลังร้องขอความช่วยเหลืออยู่
ทว่าฝูงมังกรเกราะเหล็กที่รีบเดินทางมานั้นเอาแต่ส่งเสียงคำราม แต่กลับไม่กล้าเข้าไปใกล้ใยแมงมุมนั้นเลย คล้ายว่าหวาดกลัวใยแมงมุมสีขาวตรงหน้านั้นอย่างมาก
ทั้งสามคนยืนมองสถานการณ์อยู่ทางด้านหลังฝูงมังกรเกราะเหล็ก
หลัวคังอันสีหน้าดูแปลกใจ พลางกระซิบถาม “นี่มันอะไรกัน?”
เยี่ยนอิงกระซิบตอบ “มันคือกับดักที่แมงมุมคุณยายวางเอาไว้ ดูท่าทางแล้วคงต้องการล่อพวกมังกรเกราะเหล็กนั่นแหละ”
หลัวคังอันสงสัย “แมงมุมคุณยายมันคือตัวอะไร?”
เยี่ยนอิงกล่าว “เป็นชื่อที่ฉันตั้งให้ มันก็คือแมงมุมนี่แหละ เป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่งในโลกแห่งความฝัน มีพลังประหลาดมาแต่กำเนิด เดี๋ยวนายได้เห็นรูปร่างของมันก็จะรู้เอง” กล่าวจบก็เสริมขึ้นมาอีกประโยค “มาแล้ว”
ด้านบนทางออกที่ตรงไปยังโถงที่มีขนาดใหญ่กว่าโถงทางด้านนี้ ใยแมงมุมสั่นไหว มีขาโผล่ออกมา แมงมุมตัวหนึ่งปรากฏตัวขึ้น ไต่ไปที่ตรงกลางของใยแมงมุมชั้นในสุดอย่างไม่เร่งร้อน
คิดไม่ถึงว่าลำตัวที่อยู่ตรงกลางระหว่างขาเหล่านั้นจะดูค่อนข้างคล้ายๆ กับคน ส่วนหัวคล้ายหญิงชราที่ใบหน้าดูดุร้าย คล้ายหญิงชราที่กำลังแสยะยิ้มเย็นชาและดุร้าย บนหัวเป็นขนสีขาวยาวๆ คล้ายกับผมหงอกเต็มหัว ร่างครึ่งบนคล้ายกับคน ส่วนร่างครึ่งล่างคล้ายแมงมุม ไม่มีแขน มีเพียงขาเป็นปล้องๆ ที่พยุงร่างกายเอาไว้
เสียงคำรามของฝูงมังกรเกราะเหล็กยิ่งรุนแรงขึ้น พวกมันทั้งหมดคำรามไปทางแมงมุมคุณยาย
จู่ๆ ขาแต่ละข้างของแมงมุมคุณยายพลันขยับขึ้นมา เกี่ยวใยแมงมุมให้สั่นไหว
เสียงติ๊งตั๊งๆ ดังออกมาจากใยแมงมุมที่กำลังสั่นไหว พอประสานกันแล้วกลับกลายเป็นเสียงดนตรีที่น่าฟัง
หลินยวนกับหลัวคังอันตกตะลึง อดไม่ได้ที่จะสบตากัน หันหน้ากลับไปมองอีกที ขณะที่กำลังรู้สึกว่ามันไพเราะและกำลังจะตั้งใจฟัง จู่ๆ เยี่ยนอิงก็หันกลับมาสั่งกำชับ “นี่คือเพลงแห่งความฝันของแมงมุมคุณยาย ปิดหูไว้อย่าไปฟัง ไม่อย่างนั้นถ้าเคลิ้มไปแล้วจะถูกมันสะกดจิต และสุดท้ายตัวเราก็จะเข้าไปอยู่ในปากของมัน”
กล่าวจบเธอก็ยกสองมือขึ้น เอานิ้วกดไว้ที่หูของตนเองทั้งสองข้าง
หลินยวนกับหลัวคังอันก็ทำแบบเดียวกัน ปิดการรับฟังของตนเองไว้
จากนั้นไม่นาน ฝูงมังกรเกราะเหล็กก็ร้อนใจขึ้นมา ตัวที่เป็นหัวหน้าทนไม่ไหวกระโจนออกไป หมายจะพุ่งไปทางแมงมุมคุณยาย
แต่ด้านหน้าแมงมุมคุณยายยังมีใยแมงมุมกั้นอยู่อีก พอมังกรเกราะเหล็กตัวใหญ่กระโจนไปสัมผัสถูกใยแมงมุม ร่างของมันก็ติดอยู่บนนั้น พยายามดิ้นรน
ความเหนียวของใยแมงมุมนี้ทำให้หลินยวนกับหลัวคังอันเปิดโลกเลยจริงๆ
มังกรเกราะเหล็กที่ติดอยู่บนนั้นสะบัดทั้งหัวและหางอย่างหงุดหงิด โบกกรงเล็บไปมา อยากจะทำลายใยแมงมุม ผลก็คือความเหนียวของใยแมงมุมนั้นไม่ธรรมดา ขยับไปขยับมากลับพันแขนขาของตนเองไว้แน่น ห้อยอยู่บนใยแมงมุมดิ้นพล่านไปมา ยิ่งดิ้นก็ยิ่งพัน
กลุ่มมังกรเกราะเหล็กที่อยู่ด้านหลังเองก็ดูกระฟัดกระเฟียดขึ้นมาเป็นอย่างมาก พวกมันพากันพุ่งเข้าไป เข้าไปแล้วก็ติดหนึบอยู่บนใยตัวแล้วตัวเล่า หลังจากมังกรเกราะเหล็กสามตัวไปติดอยู่บนใยแมงมุม ใยแมงมุมก็ดูเหมือนจะแบกรับแรงไม่ไหว ถูกชนจนพังเสียหายไปครึ่งหนึ่ง มังกรเกราะเหล็กสามตัวที่ติดอยู่ในใยแมงมุมล้มลงไปบนพื้น พยายามดิ้นรนพลิกไปพลิกมา แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ดิ้นหลุดออกมาจากพันธนาการได้
มังกรเกราะเหล็กที่พุ่งไปหาใยแมงมุมชั้นที่สองก็ติดเข้ากับใยแมงมุมอีก ติดไปหนึ่งตัว สองตัว สามตัว ใยแมงมุมแถบหนึ่งพังทลายลงอีกครั้ง
มังกรเกราะเหล็กที่พุ่งเข้าไปก็ติดเข้ากับใยแมงมุมอีก เกิดเหตุการณ์แบบนี้อยู่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมา กระทั่งใยแมงมุมพังไปห้าชั้นแล้ว ในที่สุดมังกรเกราะเหล็กสองตัวที่เหลือก็พุ่งเข้าไปที่ใยแมงมุมชั้นสุดท้ายที่อยู่ตรงหน้า หมายจะเข้าไปกัดเข้าแมงมุมคุณยายที่อยู่บนใยแมงมุมนั้น
เสียงติ๊งตั๊งๆ หยุดไปแล้ว ก้นของแมงมุมคุณยายตัวนั้นกระดกขึ้น ดีดตัวออกมาจากใยแมงมุม บนก้นของมันมีใยแมงมุมห้อยอยู่เส้นหนึ่ง ใยแมงมุมเป็นเหมือนเชือกที่หดกลับ ดึงร่างของมันให้ห้อยกลับหัว แกว่งมันไปทางโถงใหญ่เหมือนแกว่งชิงช้า ขาปล้องๆ นั้นโอบเข้าหากัน ระยะห่างไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ตกลงบนร่างของลูกมังกรเกราะเหล็กที่ห้อยอยู่ตรงกลางโถงพอดี
มังกรเกราะเหล็กสองตัวที่พุ่งเข้าไปติดอยู่บนใยแมงมุมก็กำลังดิ้นรนอยู่เช่นเดียวกัน เสียงคำรามด้วยความร้อนใจดังสะท้อนไปมาอยู่ภายในถ้ำ ดังสะเทือนเลือนลั่น
หลังจากที่เสียงติ๊งตั๊งหยุดไป ดูเหมือนว่ามังกรเกราะเหล็กจะได้สติขึ้นมา ในเสียงร้องนั้นแฝงไว้ด้วยความร้อนใจและสิ้นหวัง
แมงมุมคุณยายที่ตกลงไปบนตัวของลูกมังกรเกราะเหล็กอ้าปากกว้าง ทันใดนั้นก็มีสิ่งที่มีรูปร่างคล้ายเข็มเหล็กพุ่งออกมา เสียบเข้าไปในตาของลูกมังกร ลูกมังกรร้องดิ้นทุรนทุรายด้วยความเจ็บปวด
เมื่อเห็นเยี่ยนอิงวางมือทั้งสองข้างลงแล้ว หลัวคังอันก็ปล่อยมือออกเช่นกัน กล่าวว่า “แมงมุมคุณยายนี่อันตรายน่าดูเลยนะเนี่ย เข็มเหล็กในปากนั่นเหมือนหลอดเลย”
เยี่ยนอิง “มันกำลังดูดเลือด เลือดสดๆ ของสัตว์ที่อยู่ใต้ดินคืออาหารของแมงมุมคุณยาย”
ทันทีที่เธอกล่าวจบ ที่ปากถ้ำก็มีแมงมุมคุณยายจำนวนมากปรากฏตัวขึ้น พวกมันห้อยตัวลงมาทีละตัว คิดไม่ถึงว่าจะมีแมงมุมคุณยายตัวอื่นๆ ซุ่มโจมตีอยู่ด้วย
ฝูงแมงมุมคุณยายเข้าไปพ่นใยใส่มังกรเกราะเหล็กสองตัวที่อยู่หน้าสุดก่อน หลังจากพันธนาการไว้จนแน่นหนาแล้ว มันก็เดินผ่านใยแมงมุมไปตัวแล้วตัวเล่า ไปพ่นใยใส่มังกรเกราะเหล็กตัวอื่นๆ ที่อยู่ทางด้านหลังอีก
แมงมุมคุณยายสองสามตัวต่อมังกรเกราะเหล็กหนึ่งตัว พวกมันพ่นเข็มออกมา เจาะเข้าไปในดวงตาซึ่งเป็นจุดอ่อนของมังกรเกราะเหล็กแล้วดูด ทั้งสามคนที่ยืนอยู่ทางนี้ได้ยินเสียงดูดจากทางนั้นทีทางนี้ที พวกเขาเห็นแล้วคลื่นไส้ แต่สำหรับแมงมุมคุณยายแล้ว เห็นได้ชัดว่านี่เป็นมื้ออาหารเลิศรส
ลูกมังกรเกราะเหล็กที่ห้อยอยู่กลางอากาศแน่นิ่งไปเป็นตัวแรก ร่างกายของมันเหี่ยวแห้งลงไป
แมงมุมคุณยายที่ดึงเข็มออกปล่อยเจ้าตัวเล็กไป ก่อนจะเหวี่ยงตัวเหมือนแกว่งชิงช้าลงมาตรงปากถ้ำ คล้ายว่ายังกินไม่อิ่ม ไปดูดอาหารจากมังกรเกราะเหล็กตัวโตต่อ
เยี่ยนอิงยื่นมือไปที่กำแพงหินที่อยู่ข้างๆ หลังจากใช้พลังตรวจดูแล้วก็กล่าวว่า “ยังต้องเดินหน้าไปอีก แล้วก็ต้องรีบแล้วด้วย จะรั้งอยู่ที่นี่ต่อไม่ได้แล้ว ขอเพียงเป็นสถานที่ที่แมงมุมคุณยายเคยล่าเหยื่อ อีกไม่นานมดไฟซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตที่เป็นพันธมิตรกับแมงมุมคุณยายก็จะปรากฏตัว เพื่อมาแบ่งเหยื่อที่ถูกแมงมุมคุณยายดูดเลือดจนแห้งไป”
หลัวคังอันกล่าวอย่างลังเล “ยังมีใยแมงมุมกั้นอยู่เลย ถ้าไปตอนนี้จะไปทำให้พวกมันรู้ตัวหรือเปล่า?”
เยี่ยนอิง “นายรู้ไหมว่าขนาดตัวของมดไฟมันใหญ่แค่ไหน? พวกมันมีนิสัยดุร้าย ขอแค่เกิดการปะทะกัน มันจะจำไปจนวันตาย รับรองเลยว่านายฆ่ามันยังไงก็ฆ่าไม่หมด ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกมันไม่กลัวตายด้วย นอกเสียจากว่านายจะขึ้นไปบนพื้นดิน ไม่อย่างนั้นพวกมันก็จะตามกลิ่นแล้วไล่ฆ่าพวกเราไปเรื่อยๆ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นมันก็น่ารำคาญมากๆ ”
หลินยวนพยักหน้า “ทำตามที่เธอบอก ไปกันเถอะ”
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงพูดคุยดังเกินไปโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่า จู่ๆ แมงมุมคุณยายที่วางกับดักอยู่ตรงนั้นก็เงยหน้าขึ้น เก็บหลอดเข็มที่อยู่ในปากแล้วหันมองมาทางนี้ อีกทั้งยังไต่มาทางนี้อย่างช้าๆ ด้วย เห็นได้ชัดว่ากำลังตรวจสอบอยู่
“ไฟคือสิ่งที่แมงมุมคุณยายพวกนี้หวาดกลัว!” ขณะที่พูดเยี่ยนอิงก็ได้หยิบเอายันต์เพลิงมาไว้ในมือใบหนึ่ง เธอพลิกฝ่ามือปล่อยมังกรไฟออกไปตัวหนึ่ง เปลวเพลิงของมังกรไฟขยายตัวออกไป ขณะเดียวกันก็เก็บภาพลวงตาไปด้วย
เมื่อเปลวเพลิงลุกโชนขึ้น แมงมุมคุณยายทั้งหมดที่ดูดกินอาหารอยู่ก็เงยหน้ามองมาทางนี้ทันที เห็นได้ถึงความหวาดกลัวที่ปรากฏอยู่ในดวงตาที่ดำมืดของพวกมัน พวกมันทยอยดีดตัวหลบหนี แต่กลับหนีไม่พ้นความเร็วของเปลวเพลิง
ทุกที่ที่เปลวเพลิงเคลื่อนผ่าน ใยแมงมุมจะติดไฟแล้วม้วนหงิกอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนจะติดไฟง่ายมากๆ
ฝูงแมงมุมคุณยายส่งเสียงหวีดร้องอย่างหวาดกลัว ขนสีขาวๆ บนตัวของพวกมันคล้ายจะเป็นสิ่งที่ติดไฟได้ง่ายเช่นกัน พวกมันพากันดิ้นพล่านอยู่ในทะเลเพลิง
ในชั่วพริบตาพวกมันก็ถูกเปลวเพลิงเผาขนบนตัวของพวกมันจนเกลี้ยง เปลี่ยนเป็นสีดำสนิท
แมงมุมคุณยายที่กระโดดออกไปจากทะเลเพลิงมีไฟติดไปที่ก้นด้วย ใยแมงมุมติดไฟง่ายเกินไปจริงๆ คล้ายว่าเป็นตัวเร่งการเผาไหม้ตามธรรมชาติ
แมงมุมคุณยายกลัวไฟมาก ตอนที่หลบหนีก็พ่นใยออกมาไม่หยุด เพราะอยากจะหนีให้ห่างจากเปลวไฟ แต่พอพ่นใยออกมา ไฟก็ลุกไหม้อย่างรวดเร็ว
สุดท้ายก็สลัดเปลวไฟที่ติดอยู่บนก้นทิ้งไปไม่ได้ ทำได้เพียงวิ่งหนีพลางพ่นใยไม่หยุด
หลัวคังอันหัวเราะเหอะๆ “น่าสนุก ถ้าไหม้แบบนี้ไปเรื่อยๆ แมงมุมคุณยายพวกนี้ก็จะพ่นใยไปจนตายเลยใช่ไหม?”
เพียงพริบตาแมงมุมคุณยายก็หนีไปจนหมด แสงจากเปลวเพลิงในที่นี้ดับลงไปแล้ว กลับคืนสู่ความสงบ ใยแมงมุมบนตัวของมังกรเกราะเหล็กที่อยู่บนพื้นถูกไฟเผาจนเกลี้ยง เพียงแต่มังกรเกราะเหล็กส่วนใหญ่ล้วนแต่แน่นิ่งไปหมดแล้ว มีเพียงบางตัวที่ยังมีลมหายใจรวยรินอยู่ แต่ดูท่าทางแล้วคงจะลุกขึ้นมาไม่ได้อีก
พวกเขาออกจากปากถ้ำ เข้าไปยังโถงขนาดใหญ่ที่อยู่ตรงกลาง ซากศพลูกมังกรเกราะเหล็กตัวนั้นก็ได้ไฟช่วยเหลือไว้เช่นกัน มันนอนนิ่งอยู่ที่พื้น
ที่นี่มีทางแยกสามทาง ไม่รู้ว่าจะต้องไปทางไหน ทั้งสามคนก็ไม่รู้เช่นกันว่าควรจะไปทางไหน เยี่ยนอิงยื่นมือไปตรวจสอบบนกำแพงหินอีกครั้ง จากนั้นก็ก้มหน้ามองขี้เถ้าใยแมงมุมที่ไหม้เป็นทางยาวอยู่บนพื้น “คิดไม่ถึงว่าเป็นทางเดียวกับทางหนีของพวกมัน”
เวลานี้ทั้งสามคนก็ไม่มีเส้นทางอื่นให้เลือกเช่นกัน เพราะพวกเขาต้องเดินไปตามเส้นทางของหนอนแห่งความฝันเพื่อตามหารังนางพญา จึงทำได้เพียงเดินไปตามทางหนีของแมงมุมคุณยาย
หลังทั้งสามคนเดินออกไปได้ไม่นาน บนเพดานของปากถ้ำที่พวกเขาเดินออกมา แมงมุมคุณยายตัวหนึ่งที่ขนถูกเผาจนดำเกรียมไต่ออกมาจากในรอยแตกขนาดใหญ่รอยหนึ่ง จ้องมองไปยังทิศทางที่ทั้งสามคนเดินออกไป ไต่ไปด้านบนกำแพงหิน ติดตามพวกเขาออกไป
เมื่อเดินตามอุโมงค์ที่ลาดเฉียงลงไปสักพัก จู่ๆ พวกหลินยวนพลันหยุดฝีเท้า สายตาจ้องเขม็งไปข้างหน้า ต่างคนต่างเผยสีหน้าเหมือนกำลังตั้งใจฟังอะไรบางอย่าง
ข้างหน้ามีเสียงซ่าๆ ดังยุบยับเต็มไปหมด ความเคลื่อนไหวฟังดูรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็เข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เสียงที่ฟังดูยุบยับนั้นชวนให้ขนลุกขนพอง เมื่อมองไกลออกไปก็เห็นแสงไฟวูบวาบจำนวนมากด้วย
…………………………………………………………………..