ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน – ตอนที่ 283 ฉันทำงานให้พวกนาย

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ตอนที่ 283 ฉันทำงานให้พวกนาย

เหยาเซียนกงยิ้มเจ้าเล่ห์

เกาผู่ดึงแขนเขาไว้ข้างหนึ่งแล้วยิ้มแห้ง “หลัวซยง ล้อเล่นน่า นายคงไม่ได้ตกใจจริงๆ หรอกใช่ไหม?”

อินเย่าหมิงที่อยู่ข้างหลังเอาสองมือแตะที่ไหล่ของหลัวคังอัน “พวกเราแค่จะขู่นายเล่นๆ นายคิดเป็นจริงเป็นจังเลยเหรอ?”

พลิกลิ้นไวยิ่งกว่าพลิกหน้าหนังสืออีก ถูกต้อง พวกเขาแค่จะขู่หลัวคังอันเท่านั้นจริงๆ เพราะว่ายังไม่อาจสะกดความรู้สึกโมโหภายในใจนั้นลงไปได้

ถ้าหลัวคังอันลงเอยกับหลิวซิงเอ๋อร์จริงๆ พวกเขาก็ทำได้เพียงยอมรับ เกรงว่าคงต้องกลั้นใจยินดีด้วย ไม่อย่างนั้นจะทำยังไงได้ล่ะ?

ต่อให้เป็นเช่นนั้นจริงๆ พวกเขาจะกล้าฆ่าหลัวคังอันที่นี่เหรอ? ตอนนี้ก็ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ดีในการฆ่าปิดปากด้วย นอกเสียจากจะไม่มีคนรู้ว่าพวกเขามาตามหาหลัวคังอัน ไม่อย่างนั้นถ้าหลัวคังอันหายตัวไป พวกเขาก็หนีไม่รอดเช่นกัน

หลัวคังอันกระหยิ่มยิ้มย่อง สะบัดแขนสะบัดขาจนทั้งสามคนที่เกาะเกี่ยวอยู่กระเด็นออกไป “ไสหัวไปให้หมดเลย ฉันไม่รู้จักพวกนาย ไปตายไกลๆ ไป”

“ดูสิ โกรธจริงๆ ด้วย”

“หลัวซยง คุณหลัว ท่านหลัว นายท่านหลัว…”

ทั้งสามคนทำหน้าทะเล้นเข้ามาเกาะเกี่ยวเขาอีกครั้ง

หลัวคังอันสู้แรงคนเยอะไม่ไหว จึงถูกทั้งสามคนผลักกลับไปที่หน้าเตาปิ้งย่าง มีคนส่งอาหารที่ย่างร้อนๆ ให้ มีคนช่วยรินเหล้าให้

เหยาเซียนกงยืนอยู่ข้างหลังหลัวคังอัน คอยช่วยบีบไหล่ให้เขา “อย่างอนไปเลยน่า เรื่องนี้มันสำคัญกับชีวิตพวกเรานะ รีบบอกมาเร็วเข้า หลิวซิงเอ๋อร์ชอบใครเหรอ?”

หลัวคังอัน “บ้าหรือเปล่า? ฉันก็บอกไปแล้วว่าฉันไม่รู้ ยังจะถามอีก? ถ้าจะโทษก็ต้องโทษพวกนายเองนั่นแหละ ถ้าพวกนายโผล่มาช้าอีกหน่อย ฉันอาจจะรู้ไปแล้วก็ได้ แต่…” กล่าวถึงตรงนี้ เขาก็เหลียวซ้ายแลขวาอีกที มองทั้งสามคนอยู่พักหนึ่ง

ทั้งสามคนถูกเขาทำให้รู้สึกสงสัยใคร่รู้ ต่างพะเน้าพะนอหลัวคังอันราวกับเขาเป็นเจ้านาย เอ่ยถามว่า “เป็นยังไง?”

มือซ้ายของหลัวคังอันรับอาหารที่ย่างร้อนๆ มากัดหนึ่งคำแล้วส่งกลับไป มีคนช่วยเขาถือไว้ มือขวาถือแก้วเหล้าดื่มไปหนึ่งอึกแล้วส่งกลับ ก็มีคนรับเอาไว้อีกเช่นกัน มองเขากินดื่มด้วยสีหน้ารอคอย

หลัวคังอันกลืนอาหารที่อยู่ในปาก ท่าทางคล้ายกำลังครุ่นคิดอยู่ กล่าวว่า “พวกนายคิดดูนะ เธอไปสืบกับใครก็ได้ ทำไมถึงต้องมาสืบกับฉันด้วย นั่นเป็นเพราะว่าฉันไม่ใช่คนที่นี่ แล้วก็ยังค่อนข้างสนิทกับพวกนายสามคนด้วยหรือเปล่า?”

พอกล่าวคำนี้ออกมา สามคนที่อยู่รอบตัวเขาก็มองหน้ากัน รู้สึกทันทีว่ามันเป็นไปได้มากๆ เลือดลมพุ่งพล่านขึ้นมาทันที

พวกเขาไม่ได้ฉุกคิดเลยว่าหลิวซิงเอ๋อร์รู้ได้อย่างไรว่าหลัวคังอันค่อนข้างสนิทกับพวกเขา ครั้งที่แล้วตอนที่เจอกันก็มีคนกลุ่มใหญ่ที่อยู่กับหลัวคังอัน สรุปแล้วต่างคนต่างก็กำลังดันทุรังคิดว่าเป็นตนเอง ต่างคิดกันไปในทางนั้น ก็ช่วยไม่ได้เช่นกัน หลัวคังอันอยากจะพูดยังไงก็ได้

เวลานี้ทั้งสามคนแทบจะกราบบูชาหลัวคังอันเหมือนเป็นบรรพบุรุษแล้ว

เกาผู่ “อย่างนั้นนายคิดว่าใครจะมีโอกาสมากกว่า?”

หลัวคังอันกล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? นายถามฉัน ฉันจะไปถามใคร ตาเล็กๆ อย่างนาย คิดว่าเธอจะชอบนายไหม?”

เกาผู่ไม่พอใจทันที “ตาเล็กแล้วมันยังไง?”

เหยาเซียนกงส่งเสียงเหอะ “เดิมทีนายก็ตาเล็กอยู่แล้ว”

เกาผู่โต้กลับทันที “ตัวใหญ่อย่างกับควายอย่างนายมันน่าชอบนักเหรอ?”

“ตัวใหญ่แล้วไม่ดีหรือไง?”

“ดีกับผีสิ ไอ้ยักษ์ทึ่มเอ๊ย!”

ทั้งสามคนโต้กันไปมา ยิ่งตะโกนใส่กันดังขึ้นเรื่อยๆ ทะเลาะกันขึ้นมาแล้ว เถียงกันจนหน้าแดงคอเป็นเอ็น เกือบจะลงไม้ลงมือกันแล้ว

หลัวคังอันนั่งยิ้มเยาะ กลับหวังจะให้สามคนนั้นตีกันให้เลือดตกยางออก แต่เห็นได้ชัดว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ จึงหัวเราะหึหึพลางกล่าว “อย่าได้ใจกันเร็วนักเลย มีฉันอยู่ อย่าได้ฝันเชียว ถ้าเจอกับหลิวซิงเอ๋อร์อีกครั้ง ถ้าเป็นหนึ่งในพวกนายจริงๆ ล่ะก็ เหอะ เรื่องเสียๆ ของพวกนายตอนที่อยู่ในค่ายผู้พิทักษ์เทพของเมืองหลวงฉันก็รู้เยอะอยู่นะ ใครที่เคยมีช่วงเวลาดีๆ กับแม่หม้ายคนไหนบ้าง ฉันจะนับนิ้วบอกหลิวซิงเอ๋อร์ให้หมดเลย”

สีหน้าทั้งสามคนแข็งทื่อไป หันไปให้ความสนใจกับเขาทันที พากันพูดจาพะเน้าพะนอ

ท่ามกลางการเอาใจนั้น หลัวคังอันตะโกนขึ้นมาว่า “ไม่ต้องมาพูดอะไรที่ไม่มีประโยชน์ ถ้าฉันช่วยพวกนายแล้วฉันจะได้อะไร?”

ทั้งสามคนต่างก็พล่ามผลประโยชน์ต่างๆ นาๆ ออกมาทันที พูดออกไปราวกับไม่ต้องการเงิน

ในที่สุดหลัวคังอันที่ถูกทั้งสามคนประจบเอาใจจนสบายใจแล้วก็ตบต้นขา “เอาล่ะ เห็นแก่ที่เป็นพี่น้องกันมาหลายปี ฉันจะไปหาหลิวซิงเอ๋อร์อีกครั้ง จะพยายามไปถามมาให้ได้ ถ้าเป็นหนึ่งในพวกนายสามคนจริงๆ ฉันจะพูดอวยเรื่องดีๆ ของพวกนายให้แน่นอน”

“ดูสิ สมกับที่เป็นพี่น้องกัน” เกาผู่ตบบ่าของเขา ทั้งสามคนยิ้มหน้าบาน

เหยาเซียนกงกล่าวเสริม “เอ่อ ถ้าเป็นคนอื่น หลัวซยง นายน่าจะรู้ว่าควรทำยังไงใช่ไหม?” เขาขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่สบายใจ

หลัวคังอันหันไปมอง “รู้สิ! เรือล่มในหนองทองจะไปไหนไง ใครได้เป็นลูกเขยท่านเจ้าเมืองหลิว ต่อไปถ้าไปเมืองเว่ยไห่ ฉันจะได้รับการต้อนรับอย่างดีใช่ไหม?”

“นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”

“ใช่ เรือล่มในหนองทองจะไปไหน พูดได้ดี”

ทั้งสามคนมีความสุขมาก แต่ละคนพากันหัวเราะอย่างเจ้าเล่ห์

หลังจากสบายใจในเรื่องนี้แล้ว ทั้งสามคนก็ไม่ลืมอีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องที่พวกเขาค่อนข้างกังวลใจเช่นกัน เหยาเซียนกงเอ่ยถามอย่างจริงจัง “หลัวซยง นายจะออกไปตามหาดวงตาแห่งความฝันอีกจริงเหรอ?”

หลัวคังอันทอดถอนใจพลางกล่าว “ฉันได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย บำเพ็ญเพียรอีกสักสองวันก็น่าดีขึ้นแล้ว ทางหอการค้าตระกูลฉินรีรอไม่ได้แล้ว ควรจะออกเดินทางได้แล้วด้วย”

ทั้งสามคนมองหน้ากัน สีหน้าดูคร่ำเคร่ง อินเย่าหมิงกระซิบกล่าว “ที่นี่ก็ไม่ได้มีคนนอก พวกเราขอพูดกับนายตรงๆ เลยแล้วกัน สภาเซียนไม่มีทางให้หอการค้าตระกูลฉินเอาดวงตาแห่งความฝันกลับไปหรอก ทำไมต้องเอาชีวิตไปเสี่ยงทำเรื่องที่ไร้ประโยชน์แบบนั้นด้วย ในเมื่อท่านเทพให้ความเมตตา ตกลงให้นายอยู่ที่นี่ไปก่อน อย่างนั้นนายก็อยู่ที่นี่เถอะ รอให้เรื่องของหอการค้าตระกูลฉินจบแล้วค่อยออกไปจะได้ปลอดภัย”

เกาผู่ก็กล่าวเช่นกัน “ใช่ อะไรที่ควรพูดพวกเราก็พูดไปหมดแล้ว คนเราน่ะ บางครั้งก็ต้องเผชิญหน้ากับความจริง ตอนที่ควรอยู่กับความจริงก็ต้องอยู่กับความจริง นายทำงานหาเงินเลี้ยงชีพ ทำไมต้องไปเสี่ยงทำอะไรแบบนั้นด้วยล่ะ? ถ้าเป็นความเสี่ยงเล็กๆ พวกเราก็คงไม่พูดหรอก แต่นี่…เรื่องที่ทำไม่ได้ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องไปทำเลย!”

หลัวคังอันเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า “ก่อนที่จะเข้ามา ฉันก็รู้ว่ามันเสี่ยง แต่ฉันก็เข้ามา ทุกคน หอการค้าตระกูลฉินดูแลฉันเป็นอย่างดี คนเรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ ควรทำในสิ่งที่ควรทำและเลี่ยงสิ่งที่ไม่ควรทำ อย่างมากก็แค่ตายเท่านั้น ฉันตัดสินใจแล้ว ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมอีก” แต่ในใจกลับคร่ำครวญ ฉันไม่มีทางเลือกต่างหากล่ะ ต่อให้ตาย ก็ต้องทิ้งภาพลักษณ์ที่งดงามยิ่งใหญ่เอาไว้ ถ้าให้คนอื่นรู้ว่าตายอย่างไร้ความสามารถ แบบนั้นมันไม่คุ้มค่า

ทั้งสามคนต่างมองเขาอย่างตื้นตันใจ ที่แท้หลัวคังอันก็เป็นคนแบบนี้นี่เอง ทั้งสามคนพบว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเขาดูแคลนคนคนนี้กันจริงๆ

“เฮ้อ!” ทั้งสามคนต่างก็ทอดถอนใจ ในเมื่อเกลี้ยกล่อมไม่ได้ พวกเขาสามคนก็ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรแล้ว

หลัวคังอันหันกลับไปมองทั้งสามคนอีกครั้ง พลางกล่าว “ถ้าฉันพบเจออันตราย แล้วต้องหาสถานที่หลบภัย ฉันจะกลับมาหาพวกนายอีกครั้งนะ”

เหยาเซียนกงพยักหน้า “ได้ ทางนี้พวกเราจะช่วยจัดการที่ทางไว้ให้ ถ้าไปเจออันตรายอะไรที่หลบหลีกไม่ไหวก็มาได้ทันทีเลย”

หลัวคังอันสายตาวูบไหว “ฉันมาที่นี่จากทางอื่นก็ได้เหรอ?”

อินเย่าหมิงลังเลพลางกล่าว “อันนี้เกรงว่าจะไม่เหมาะ ทะเลหนามมีพื้นที่กว้างใหญ่อย่างมาก จำเป็นต้องพลังงานจำนวนมหาศาลในการวางข่ายพลังพลังป้องกัน เพราะเหตุนี้จึงไม่ได้เปิดใช้งานข่ายพลังอยู่ตลอดเวลา…”

หลัวคังอันฟังอย่างตั้งใจ เรื่องที่หลินยวนมอบหมายมาเขาไม่ได้ลืม ขอแค่หาโอกาสได้ก็จะใช้โอกาสนั้นสืบข่าว

หลังจากซักถามรายละเอียดโดยพยายามไม่ให้อีกฝ่ายสงสัย เรื่องบางเรื่องเขาก็พอจะเข้าใจแล้ว

จากนั้นเขาก็เกิดความคิดที่ชั่วร้ายขึ้นมาอีกครั้ง กระแอมไอพลางกล่าว “จริงสิ เรื่องของพวกนาย ฉันจะพยายามหาโอกาสไปหาหลิวซิงเอ๋อร์อีกครั้ง เพื่อช่วยพวกนายสืบให้กระจ่างก่อนที่ฉันจะไป”

เหยาเซียนกงตบบ่าเขา “เยี่ยม ต้องแบบนี้สิ!”

หลัวคังอัน “นายดีใจบ้าอะไร จะให้ฉันไปถามลูกสาวต่อหน้าแม่ของเธอก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ แบบนั้นติงหลานจะเอาคนอย่างพวกนายไปเป็นลูกเขยไหม? พวกนายอยู่ที่นี่มานาน ทั้งยังหมายตาหลิวซิงเอ๋อร์มาตลอดอีก น่าจะคุ้นเคยกันแล้ว พวกนายคิดว่าฉันไปหาหลิวซิงเอ๋อร์เมื่อไหร่ถึงจะเหมาะ?”

“เรื่องนี้พวกฉันต้องรู้อยู่แล้ว” เกาผู่จับข้อมือเขาทันที ชี้เวลาบนนาฬิกาข้อมือของเขาพลางกล่าว “เวลานี้ของทุกเช้าติงหลานจะไปเข้าร่วมประชุมกับทางค่ายใหญ่เป็นประจำ อย่างน้อยๆ ก็ใช้เวลาอยู่ที่นั่นประมาณหนึ่งชั่วยาม น่าจะพอให้นายไปสืบข้อมูลนะ”

อินเย่าหมิงก็พยักหน้า “ใช่ ไปเวลานี้เหมาะสมที่สุดแล้ว”

หลัวคังอันหัวเราะเหอะๆ มองซ้ายมองขวา “พวกนายนี่ใช้ได้นะเนี่ย รู้ดีจริงๆ!”

ทั้งสามคนหัวเราะเหอะๆ เหยาเซียนกงกล่าวว่า “ไม่ใช่แค่พวกเราหรอก ขอเพียงเป็นคนที่คิดจะจีบหลิวซิงเอ๋อร์ ก็น่าจะรู้ข้อมูลพวกนี้เหมือนกัน”

หลัวคังอันขมวดคิ้ว กล่าวว่า “ฟังจากที่พวกนายบอกแล้ว คงจะไม่มีคนที่คิดแบบเดียวกันกับพวกนายไปหาเธอในเวลานั้นใช่ไหม?”

สามคนมองหน้ากันเลิกลั่ก อันนี้บอกไม่ได้เช่นกัน

หลัวคังอันว่า “เรื่องแบบนี้ ถ้ามีคนมารบกวน จะให้ผู้หญิงเอ่ยปากอย่างสบายใจได้ยังไง? ก็เหมือนกับเมื่อกี้นี้ที่พอพวกนายมา เธอก็หนีไปเลย เอาอย่างนี้แล้วกัน พวกนายฟังฉันนะ พรุ่งนี้ในบรรดาพวกนาย ไม่ว่าใครจะต้องไปเข้าเวร ให้ลาหรือแลกเวรมาหาฉันหน่อย ไปจับตามองที่หน้าบ้านเธอ ถ้าเห็นว่าติงหลานออกไปแล้วก็ให้มาบอกฉัน แล้วฉันจะไปทันที ถ้ามีคนมารบกวน ก็ให้พวกนายขวางเอาไว้ อย่าให้ใครมารบกวน ให้เวลาฉันได้อยู่ตามลำพังกับหลิวซิงเอ๋อร์หน่อย ภายในสองวันนี้ฉันอาจจะต้องไปแล้ว ฉันจะใช้เวลานี้ พยายามช่วยให้พวกนายสืบเรื่องนี้มาให้ได้”

ทั้งสามคนพยักหน้า อินเย่าหมิงกล่าว “ในเมื่อนายว่ามาแบบนี้แล้ว พวกฉันยังจะพูดอะไรได้อีก วางใจเถอะ พรุ่งนี้พวกเราจะลามาช่วยเป็นกำลังหนุนให้นายเอง!”

หลัวคังอันเบิกตา “มาช่วยเป็นกำลังหนุนอะไร? นี่ฉันทำงานให้พวกนายไม่ใช่หรือไง? เรื่องของพวกนายเอง จะให้ฉันเอาแต่วิ่งหัวหมุนอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ใช่ไหมล่ะ? พวกนายไม่สนใจได้เหรอ?”

“ใช่ๆๆ ฉันพูดผิดไปแล้ว” อินเย่าหมิงตบปากตนเองเบาๆ ทันทีเป็นการขอโทษ

หลัวคังอันยื่นมือไปตบไหล่คนนั้นทีคนนี้ที “วางใจได้ ฉันรู้ดีว่าต้องทำยังไง ถ้าเป็นหนึ่งในพวกนาย ฉันจะต้องพยายามพูดอวยเรื่องดีๆ ให้ แต่ถ้าเป็นคนอื่น ฉันจะพูดใส่ร้ายเรื่องไม่ดีให้เขาแน่นอน สุดท้ายก็นั่นแหละ เรือล่มในหนองทองจะไปไหน ถ้าพวกเราพี่น้องไม่ได้ คนอื่นก็อย่าหวังจะได้ไป!”

“เยี่ยม ต้องแบบนี้สิ!”

“ดีมาก พี่น้องกันมันต้องแบบนี้!”

ทั้งสามคนชกกำปั้น โอบไหล่ ทุบหน้าอก ท่าทางดูตื่นเต้นมาก ในที่สุดก็จะได้รู้แล้วว่าผู้หญิงที่พวกเขาตามจีบกันคนนั้นชอบใคร

หลัวคังอันแทบจะถูกพวกคนที่ตื่นเต้นพวกนี้ทุบจนร่างแยกออกจากกัน เกือบจะบาดเจ็บภายใน แต่ปากยังคงเอ่ยไปว่า “ถ้าใครได้เป็นลูกเขยท่านเจ้าเมืองหลิวแล้วในอนาคตไม่ดูแลฉันนะ ฉันจะแช่งให้ไม่มีลูกหลานไปเลย!”

“ไม่มีทางแน่นอนอยู่แล้ว อย่าว่าแต่ไม่มีลูกหลานเลย ขอให้ฟ้าผ่าตายไปเลย”

“ใช่ ขอให้มันไม่ตายดี”

“มา ดื่มหมดแก้วนี้”

………………………………………………………………….

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

ชะตาฟ้าหาญกล้าท้ายอดคน

Status: Ongoing
อดีตแมงดาหวนคืนสู่มาตุภูมิในรอบ 300 ปี หวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่าง แต่กลับต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูลเทพมหาวิญญาณและการชิงอำนาจจนเสี่ยงจะถูกเปิดเผยตัวตน?!อีก 1 ผลงานใหม่จากนักเขียนระดับแพลตตินัมของ Qidian ‘เยวี่ยเชียนโฉว’ผู้เขียนเรื่อง < พิชิตสวรรค์ ทะยานฟ้า > และ < ราชันพิชิตหล้า หนึ่งมรรคาสยบฟ้า >ณ แดนเซียนในยุคปัจจุบัน‘หลินยวน’ อดีตแมงดา เดินทางกลับมายังมาตุภูมิพร้อมกับตัวตนใหม่ด้วยหวังจะใช้ชีวิตอย่างสงบเพื่อหลบเลี่ยงเรื่องบางอย่างแต่ด้วยความจำเป็น เขาจึงต้องเข้าไปทำงานในบริษัทของคนรักเก่าที่เขาเคยหลอกใช้ในฐานะผู้ช่วยของ ‘หลัวคังอัน’ จอมลวงโลกที่โกหกว่าตัวเองคือผู้ทำให้ ‘ป้าหวัง’ 1 ใน 13 มารสวรรค์บาดเจ็บสาหัสและนั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลินยวนต้องเข้าไปพัวพันกับการประมูล ‘เทพมหาวิญญาณ’ซึ่งเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์จำนวนมหาศาลและการชิงอำนาจระหว่างตระกูลจนเสี่ยงต่อการถูกเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง?!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน