พิธีกรอันหงปรากฏตัว
ไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมายที่อันหงปรากฏตัวในรายการเพลงของเรา
เนื่องจากอันหงประสบความสำเร็จอย่างมากในการเป็นพิธีกรรายการราชาหน้ากากนักร้อง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งมีมกลั้นขำ…
ยามนี้เมื่อใช้ทีมเดิม จะขาดพิธีกรคู่ขวัญรายการอย่างอันหงไปไม่ได้
ทันทีที่เขาขึ้นมา
อันหงคลี่ยิ้ม กล่าวว่า “นักประพันธ์เพลงและนักร้องทุกท่านครับ ต่อจากนี้ คือเวลาเลือกอย่างอิสระของนักประพันธ์เพลง นักร้องที่ถูกเลือกโปรดออกมาจากแถวครับ”
นักร้อง “…”
ความเดจาวูของฉากนี้รุนแรงเหลือเกิน
ผู้กำกับถงซูเหวินจงใจก่อเรื่องแน่ๆ !
อันหงพูดเสียงดัง “หลังจากนี้ขอเชิญนักประพันธ์เพลงนั่งลงและเลือกนักร้อง นักประพันธ์เพลงแต่ละท่านสามารถวงกลมชื่อนักร้องในใจลงบนสมุดได้เลยครับ”
นักประพันธ์เพลงทยอยกันนั่งลง
ทีมงานรายการแจกจ่ายสมุดให้กับนักประพันธ์เพลง
หน้าปกสมุดบันทึกแลดูสวยงาม บนโต๊ะมีปากกาด้ามหนึ่งวางให้พร้อมสรรพ ทุกคนเพียงแค่เขียนชื่อลงไปก็พอแล้ว
ในสมุดของหลินเยวียน มีชื่อของนักร้องห้าสิบคน
ด้านหลังชื่อนักร้องแต่ละคน แนบมาพร้อมกับข้อมูลโดยย่อ
ยกตัวอย่างเช่น ซุนเย่าหั่วด้านบนเขียนว่า
ผลงานโดดเด่น ‘กุหลาบแดง’ เคยเข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้องซีซันที่หนึ่งในฐานะปลายักษ์ และมีผลงานเข้ารอบสิบสองคนสุดท้าย…
หลังจากขบคิดอยู่สักพัก เซี่ยนอวี๋ก็วงกลมที่ชื่อชื่อหนึ่ง
ในขณะเดียวกัน
นักประพันธ์เพลงคนอื่น ต่างก็เลือกนักร้องที่ตนเองถูกใจเช่นเดียวกัน
อันหงเก็บสมุดกลับมา ก่อนจะเอ่ยอย่างร่าเริง “จากนี้ผมจะประกาศผลการเลือกของนักประพันธ์เพลงแต่ละท่านนะครับ”
สมุดนั้นปะปนกันไปหมด
อันหงสุ่มหยิบสมุดขึ้นมาเล่มหนึ่ง จากนั้นจึงเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “นี่คือตัวเลือกของอาจารย์อู่หลง นักร้องที่อาจารย์อู่หลงเลือกในท้ายที่สุดคืออาจารย์เหลียงจื่อหยวนครับ!”
เหลียงจื่อหยวนดวงตาเป็นประกาย ก้าวออกจากแถวท่ามกลางแววตาอิจฉาของนักร้องคนอื่นๆ
นักประพันธ์เพลงต่างผุดยิ้ม
คล้ายกับว่าไม่มีใครประหลาดใจกับตัวเลือกของอู๋หลง
หลินเยวียนก็ไม่แปลกใจเช่นกัน
เพราะเหลียงจื่อหยวน ก็คือหุ่นยนต์จากรายการราชาหน้ากากนักร้อง นักร้องชาวฉู่โจว!
อู่หลงก็มาจากฉู่โจว เขาเลือกเหลียงจื่อหยวนนับว่าเป็นการร่วมงานของคนบ้านเดียวกัน แนวคิดทางดนตรีของทั้งสองฝ่ายค่อนข้างใกล้เคียงกัน ดนตรีของแต่ละพื้นที่มักหลงเหลือกลิ่นอายอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง
ต่อจากนั้น
อันหงประกาศต่อไป
ยามที่อันหงประกาศถึงหยางจงหมิง บรรยากาศในหมู่นักร้องก็เริ่มตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะไม่มีการจัดอันดับนักประพันธ์เพลงอย่างเป็นทางการ ทว่าในใจของนักร้องกลับมีความกังวลเกี่ยวกับฝีมือของนักประพันธ์เพลง ในบรรดานักประพันธ์เพลงมากมายซึ่งทางรายการเชิญมา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดก็คือหยางจงหมิง!
สุดท้ายแล้ว หยางจงหมิงก็เลือกซูอวี๋!
เป็นนักร้องที่คุ้นเคยเช่นเดียวกัน เพราะซูอวี๋คือผู้เข้าแข่งขันคนหนึ่งจากราชาหน้ากากนักร้อง
หงส์ขาว!
ซูอวี๋โค้งคำนับด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะก้าวออกมาจากแถว เมื่อได้รับเลือกจากนักประพันธ์เพลงที่เก่งกาจที่สุด แน่นอนว่าเธอเองก็รู้สึกกระหยิ่มใจเช่นเดียวกัน!
ยังมีใครที่ได้รับการยอมรับว่าเหนือกว่าหยางจงหมิงอีกหรือ?
นักประพันธ์เพลงบางคนสีหน้าเปลี่ยน
เห็นได้ชัดว่า ไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่เลือกซูอวี๋
เพราะซูอวี๋สามารถรับมือกับสไตล์ดนตรีที่หลากหลาย อีกทั้งฝีมือยังโดดเด่น เพราะฉะนั้นคนที่หมายตาเธอไม่ได้มีเพียงคนเดียว
ทว่า…
ต่อให้นักประพันธ์เพลงคนอื่นเลือกซูอวี๋ ซูอวี๋ก็จะเลือกหยางจงหมิงโดยไม่ลังเลเช่นกัน
เธอถึงขั้นไม่ได้มีท่าทีเหนียมอายด้วยซ้ำไป
ถ้าหากเป็นนักร้องคนอื่นคงแสร้งทำท่าทีทุกข์ร้อน สุดท้ายแล้วก็ปฏิเสธนักประพันธ์เพลงคนอื่นๆ อย่างหนักใจ นี่คือวิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ผิดใจกับผู้อื่น แต่เธอกลับไม่ได้ทำเช่นนั้น
หงส์ขาว ยังคงเป็นตัวของตัวเอง เฉกเช่นที่ผ่านมา
นักประพันธ์เพลงซึ่งถูกปฏิเสธทำได้เพียงยิ้มแสดงความเข้าใจ
……
ในที่สุด อันหงส์ก็หยิบสมุดของหลินเยวียนขึ้นมา
“นักประพันธ์เพลงคนต่อไปที่ผมจะประกาศ คืออาจารย์เซี่ยนอวี๋…”
เกิดความกระวนกระวายขึ้นอีกครั้งในหมู่นักร้อง
เห็นได้ชัดว่าสถานะของเซี่ยนอวี๋ในใจเหล่านักร้องนั้นไม่ต่ำเลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ซุนเย่าหั่วและคนอื่นๆ ล้วนมีสีหน้าวิตกกังวล
ความผูกพันระหว่างฝูงปลาและเซี่ยนอวี๋นั้นลึกซึ้ง ดังนั้นทุกคนจึงหวังว่าจะถูกเซี่ยนอวี๋เลือก
นักประพันธ์เพลงคนอื่นต่างครุ่นคิด…
ในบรรดาแก๊งปลา ผู้ที่มีฝีมือโดดเด่นที่สุดคือเจียงขุย
ถ้าหากจำกัดขอบเขตไว้ในแก๊งปลา เจียงขุยคือทางเลือกที่ดีที่สุด เซี่ยนอวี๋จะเลือกเจียงขุยไหมนะ?
หรือจะเลือกปลาคนอื่นๆ ?
หรือว่าจะมองข้ามแก๊งปลาไป แล้วเลือกราชาราชินีเพลงที่แข็งแกร่งกว่า?
อันหงมองไปยังชื่อซึ่งถูกวงกลม สีหน้าแลดูประหลาดใจ
‘นักร้องที่อาจารย์เซี่ยนอวี๋เลือกคือ…เฉินจื้ออวี่!’
ทันทีที่คำพูดนี้ออกไป
ซุนเย่าหั่วตกตะลึง
จ้าวอิ๋งเก้อตกตะลึง
เจียงขุยและซย่าฝานก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
นี่คือตัวเลือกที่เหนือความคาดหมายของทุกคนมากที่สุด
เขาเป็นตัวเลือกในบรรดาแก๊งปลาก็จริง แต่ถ้าทุกคนจำไม่ผิด…
ในบรรดาแก๊งปลาซึ่งเข้าร่วมรายการราชาหน้ากากนักร้อง เฉินจื้ออวี๋เป็นนักร้องคนแรกที่ตกรอบ!
กลับกลายเป็นว่าเซี่ยนอวี๋ไม่ได้เลือกซุนเย่าหั่วคนโปรด ไม่ได้เลือกจ้าวอิ๋งเก้อซึ่งอยู่เคียงข้างหลานหลิงอ๋องนานที่สุด ไม่ได้เลือกซย่าฝานซึ่งสนิทสนมกันมากที่สุด และไม่ได้เลือกเจียงขุยซึ่งได้รับการยอมรับว่าเก่งที่สุดในบรรดาแก๊งปลา
แต่ดันมาเลือกเฉินจื้ออวี่ซึ่งตกรอบเป็นคนแรก!
ต้องเข้าใจว่าหลังจากรายการราชาหน้ากากนักร้องออกอากาศ บนโลกออนไลน์ก็มีการพูดคุยเกี่ยวกับฝีมือของบรรดาสมาชิกแก๊งปลา
ปรากฏว่าข้อสรุปของชาวเน็ตคือ
เฉินจื้ออวี่เคยเป็นนักร้องที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาแก๊งปลา ทว่าบัดนี้เขาได้กลายเป็นนักร้องที่อ่อนที่สุดในบรรดาแก๊งปลาไปแล้ว
เทียบกับซุนเย่าหั่วไม่ได้ด้วยซ้ำไป
ซุนเย่าหั่วยังผ่านเข้าสู่รอบสิบสองคนสุดท้ายของรายการ!
รวมไปถึงในช่วงที่มีการประกาศถ้อยแถลงเกี่ยวกับราชวงศ์ปลา เฉินจื้ออวี่ไม่ได้อยู่ในนั้น เพราะเขาตกรอบไปก่อนและไม่ได้อยู่ในห้องส่ง
เขาตกขบวน!
นั่นทำให้บางคนเกิดความสงสัยว่าเฉินจื้ออวี่เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ปลา หรือไม่
บทสนทนาเดียวเกี่ยวกับเฉินจื้ออวี่ คล้ายกับจะเหลือเพียงคำหยอกล้อเกี่ยวกับ ‘ลูกคนรองตลอดกาลรุ่นแรก’
แม้ว่าจะมีป้ายระบุตัวตนเช่นนี้ ทว่าป้ายนี้ก็ยังหายไปพร้อมกับการปรากฏตัวของเฟ่ยหยาง
เพราะฉะนั้น
ในเวลานี้ ความสงสัยลักษณะเดียวกันก็เกิดขึ้นในใจของใครหลายคน
และเฉินจื้ออวี๋ซึ่งไม่มีตัวตนในหมู่ราชาราชินีเพลงหรือแม้แต่นักร้องแถวหน้าก็ตะลึงงันไปเล็กน้อย
ดวงตาของเป็นสีแดงก่ำขึ้นมาในฉับพลัน!
“ขอบคุณครับอาจารย์เซี่ยนอวี๋!”
หลังจากเดินออกมาจากแถว เสียงของเฉินจื้ออวี่สั่นเครือราวกับคนร้องไห้
เขาพยายามกัดฟันสุดชีวิต โค้งคำนับอย่างเต็มแรง!
การถกเถียงบนโลกออนไลน์
เฉินจื้ออวี่ก็ได้อ่าน
ปลาทุกตัวล้วนเข้ารอบสิบสองคนสุดท้าย มีเพียงเฉินจื้ออวี่ที่ตกขบวน…
คิดว่าเฉินจื้ออวี่จะไม่ใส่ใจหรือ?
แน่นอนว่าเขาใส่ใจ!
น่าอายชะมัด!
ขณะที่ปลาคนอื่นๆ ไม่มีอะไรเลย เฉินจื้ออวี๋ได้เป็นนักร้องแถวหน้าที่ประสบความสำเร็จแล้ว
แต่เมื่อปลาคนอื่นๆ ทยอยกันก้าวเข้าสู่สถานะนักร้องแถวหน้า เฉินจื้ออวี่กลับยังคงย่ำอยู่ที่เดิม ถูกแซงหน้าไปทีละคนๆ จะให้เขาไม่รู้สึกอะไรเลยได้หรือ?
เขาเคยทุกข์ใจ
เขาเคยสับสน
แต่เขาทำได้เพียงกัดฟันฝึกร้องเพลง ประจบประแจงอย่างถ่อมตน พยายามเข้าสู้ครอบครัวที่เรียกว่าราชวงศ์ปลาให้ได้
เขากลัวก็แต่ว่า วันใดวันหนึ่งทุกคนจะไม่ยอมรับว่าเขาเป็นหนึ่งในสมาชิกราชวงศ์ปลา
ถึงอย่างไรเขาก็เคยร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋เพียงครั้งเดียว แถมยังเป็นเพราะข้อเสนอเข้าร่วมบริษัทระหว่างเขากับสตาร์ไลท์ เซี่ยนอวี๋ถึงเขียนเพลงให้กับตน
ราชวงศ์ปลานี้ เป็นเขาเองที่กระเสือกกระสนแทรกตัวเข้าไป
แต่ถึงกระนั้น เขายังคงรู้สึกว่าตนเองกำลังยืนอยู่นอกวงกลม
ทว่าในวันนี้!
อาจารย์เซี่ยนอวี๋ประกาศต่อหน้าทุกคน!
เฉินจื้ออวี่!
ไม่ได้ถูกถอดทิ้ง!
เขาเองก็เป็นสมาชิกคนหนึ่งของราชวงศ์ปลา!
ต่อให้เขาจะดูธรรมดาในหมู่นักร้อง ต่อให้เขาจะมีผลงานแย่ที่สุดในบรรดาแก๊งปลา!
ไม่มีใครรู้ว่า ในเวลานี้ เฉินจื้ออวี่จะตัดสินใจว่า
‘ปลา’ จะเป็นความเชื่อของเขาไปตลอดชีวิต !
ถ้าหากบอกว่าแรกเริ่มเดิมทีเขาเข้ามาในสตาร์ไลท์เพราะความคิดที่ว่าสู้ไม่ได้ก็เข้าร่วมซะเลย และพยายามเข้าสู่ราชวงศ์ปลาเพื่อเพลงของเซี่ยนอวี๋ เช่นนั้นหลังจากนี้เฉินจื้ออวี๋จะพยายามยิ่งขึ้นเพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของราชวงศ์ปลา แต่เพื่อคนเพียงคนเดียว…
ด้านหลังของเฉินจื้ออวี่
จู่ๆ ซุนเย่าหั่วซึ่งตกตะลึงไปเมื่อครู่ก็คลี่ยิ้มออกมา
เจียงขุย ซย่าฝาน และจ้าวอิ๋งเก้อก็คลี่ยิ้มเช่นเดียวกัน
ตัวเลือกนี้ สมกับเป็นเซี่ยนอวี๋จริงๆ !
แต่ก็เพราะเหตุผลนี้เอง ทุกคนถึงแน่วแน่ที่จะวนเวียนอยู่รอบตัวรุ่นน้อง
คนที่เข้าใจเฉินจื้ออวี่มากที่สุด แท้จริงแล้วคือซุนเย่าหั่ว
เพราะในตอนนั้น เขาเองก็เคยถูกรุ่นน้องเลือกอย่างแน่วแน่เช่นเดียวกัน
……
ในตำแหน่งที่นั่งของนักประพันธ์เพลง
นักประพันธ์เพลงหลายคนกล่าวกลั้วหัวเราะ “น่าสนใจจริงๆ ”
พ่อเพลงซึ่งอยู่ด้านข้างครุ่นคิด “ผมว่าผมพอจะเข้าใจนะว่าทำนักร้องที่เคยร่วมงานกับเซี่ยนอวี๋ถึงได้ซื่อสัตย์กับเขาขนาดนี้ ถึงกับตั้งราชวงศ์ปลาให้ด้วย”
พ่อเพลงผ่านการร่วมงานกับนักร้องมามากมาย
แต่ ‘ราชวงศ์ปลา’ เห็นจะมีเพียงหนึ่งเดียว
ครั้งนี้ทำให้พ่อเพลงหลายคนฉงนใจ เซี่ยนอวี๋มีเวทย์มนตร์อะไรกันแน่ ถึงทำให้นักร้องสร้างวงกลมล้อมรอบเขาได้เช่นนี้?
ทุกคนกับนักร้องมีความสัมพันธ์กันเพียงในฐานะผู้ร่วมงานไม่ใช่หรือ?
หรือว่าเพลงของเซี่ยนอวี๋ดีกว่า?
ไม่มีใครคิดเช่นนี้หรอก คนที่ได้เป็นพ่อเพลง ย่อมหยิบเพลงดีๆ ออกมาได้มากมายในเส้นทางอาชีพของพวกเขา!
แต่เมื่อเห็นตัวเลือกนี้ของเซี่ยนอวี๋ในวันนี้ ทุกคนพลันกระจ่างขึ้นมา
ในห้องส่งมีเสียงปรบมือ
เสียงปรบมือนี้ดังขึ้นเพื่อให้กำลังใจเฉินจื้ออวี่ และคล้ายกับเป็นการย่องการตัดสินใจของเซี่ยนอวี๋เช่นเดียวกัน
ขณะที่หยางจงหมิงปรบมือ เขายังหันไปหัวเราะเบาๆ พูดกับเจิ้งจิง “เด็กคนนี้รอบคอบจริงๆ ”
เจิ้งจิงพยักหน้า “ถ้าไม่ถูกเขาเลือก ฉันจินตนาการไม่ออกเลยว่าเฉินจื้ออวี่จะต้องเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับความกดดันมากแค่ไหน”
ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกของเฉินจื้ออวี่
แต่เมื่อเซี่ยนอวี๋ให้คำตอบ และเห็นปฏิกิริยาของเซี่ยนอวี๋ ทุกถึงขบคิดเพียงเล็กน้อยก็เข้าใจ
อันที่จริงเฉินจื้ออวี่แบกรับความกดดันสูงมาก
มีเพียงหลินเยวียนที่ไม่เข้าใจ…
ทำไมจู่ๆ ทุกคนถึงปรบมือ
มีอะไรผิดปกติกับการเลือกเฉินจื้ออวี่หรือเปล่า?
เพลงต่อไปของฉัน เหมาะกับสไตล์ของเฉินจื้ออวี่มากจริงๆ นะ…
เอาเถอะ
บางคนเลือกเพลงถูกแต่เลือกคนผิด
นี่เป็นความเข้าใจผิดที่งดงามเสียจริง
ดังนั้นภาพที่ปรากฏออกมาก็คือ
ทุกคนกำลังปรบมือ มีเพียงหลินเยวียนที่มีสีหน้าเคร่งขรึม
ผู้ชมมองไปยังสีหน้าขึงขังของหลินเยวียน ก็ยิ่งเกิดความรู้สึกในใจ…
อบอุ่นมากเลย!
นี่เป็นไปตามจังหวะของ ‘ราชวงศ์ปลาจะขาดใครไปไม่ได้’!
เฉินจื้ออวี่อ่อนที่สุด?
เฉินจื้ออวี่ตกรอบก่อน?
เฉินจื้ออวี่ไม่นับว่าเป็นหน่อเนื้อราชวงศ์ปลาที่แท้จริง?
ยังมีอะไรอีกที่ตอบโต้คำกล่าวนี้ได้ดีไปกว่าการกระทำของเซี่ยนอวี๋?
ขอบสนามการแข่งขัน
ผู้จัดการของเฉินจื้ออวี่ลอบปาดน้ำตา
จื้ออวี๋เอ๋ย…
ปลาตะพัดทองของคุณไม่ได้เลี้ยงเสียเปล่า
อาจารย์เซี่ยนอวี๋สัมผัสได้ถึงความจริงใจของคุณ
หลายเรื่องไม่อาจล่วงรู้ผลลัพธ์ได้จนกว่าจะถึงวินาทีสุดท้าย ไม่มีใครรู้ทิศทางของฉากจบ คนที่ทำให้นายกลายเป็นลูกคนรองตลอดกาล ท้ายที่สุดกลับกลายเป็นผู้มีพระคุณที่สุดของคุณ…