เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 61 มาเพื่อนาง ตอนที่ 62 ปีศาจคลั่งอวดฝีมือประห

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 61 มาเพื่อนาง / ตอนที่ 62 ปีศาจคลั่งอวดฝีมือประหนึ่งปกป้องภรรยา

ตอนที่ 61 มาเพื่อนาง

หลังจากเฟิงอู๋โยวขู่เสร็จก็รู้สึกสบายใจขึ้นมาน้อย

เท่าที่นางรู้ ตระกูลจวินเหลือผู้สืบทอดอยู่เพียงคนเดียว ทุกคนในตำหนักเซ่อเจิ้งหวางต่างพากันวาดฝันให้จวินมั่วหรันแตกเนื้อหนุ่มเร็วๆ จะได้มีลูกๆ เต็มเรือน

ด้วยเหตุนี้ นางจึงคิดว่าต่อให้จวินมั่วหรันจะเหี้ยมโหดบ้าคลั่งแค่ไหน ก็ไม่มีทางล้อเล่นกันคำขู่ ‘ขอให้สิ้นสุดทายาท’

“ท่านใต้เท้า เช่นนั้นกระหม่อมขอตัวไปตามจับสตรีหัวขโมย ขอท่านโปรดรออย่างสบายใจ”

เฟิงอู๋โยวปรับน้ำเสียงให้ผ่อนคลายลง จากนั้นก็ยัดเงินกระดาษเข้าไปในถุงเท้าสาน

จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย เพียงแวบเดียวก็มองออกว่าเฟิงอู๋โยวมีแผนการบางอย่างอยู่

นางกลัวว่าเขาจะแย่งเงินกระดาษกลับไปขนาดนั้นเชียวหรือ

ทุกคนรู้ดี หากคนอย่างจวินมั่วหรันคิดจะกลับคำพูดจริงๆ กับอีแค่เรื่องแค่นี้มีอะไรต้องกลัว!

ก็แค่จุดไฟเผาไปทั้งเงินทั้งคนก็สิ้นเรื่อง

เมื่อคิดว่าได้เก็บเงินจำนวนมากนี้ไว้อย่าง ‘ปลอดภัย’ แล้ว ก็จึงให้ทหารองครักษ์เงาแห่งตำหนักเซ่อเจิ้งหวางนำออกไปอย่างฮึกเหิมและมุ่งหน้าไปยังสถานเริงรมย์เสพสุข

เถี่ยโส่วที่เดินตามเฟิงอู๋โยวติดๆ อยู่ด้านหลังรีบถามขึ้น “แม่ทัพเฟิง ท่านใต้เท้าสั่งให้เจ้าไปตามจับสตรีหัวขโมยไม่ใช่หรือ หรือว่าสตรีหัวขโมยนั่นหลบซ่อนการตามจับอยู่ที่หอนางโลมและทำตัวกลมกลืนกับผู้คนที่นั่น”

จุยเฟิงที่คิดว่าตัวเองมองทุกอย่างออกหมดรีบพูดอธิบายแทนเฟิงอู๋โยว “เสพตัณหาย่อมใจเป็นสุข จิตใจ มนุษย์ยากแท้หยั่งถึง หอนางโลมเปรียบเหมือนสถานที่ส่องจิตใจคน ผู้คนที่นั่นย่อมรู้อะไรบางอย่าง เท่านี้ภารกิจก็สำเร็จเกินครึ่ง”

“โห จุยเฟิง เจ้ารู้เยอะจัง! แต่ว่าพวกเราไปหอนางโลมเพื่อส่องคนที่มีจิตใจแบบไหนกัน”

“เจ้าโง่! สตรีหัวขโมยกล้าหาญบ้าบิ่นคนนั้นก็ไม่ต่างจากผู้คนที่มาหอนางโลม ทั้งนี้ก็เพื่อคำว่า ‘เสพสุข’” จุยเฟิงพูดอธิบายขึ้นก่อนหันไปถามเฟิงอู๋โยวอย่างเกรงใจ “พลหารเฟิงคิดว่าข้าพูดถูกหรือไม่”

“สหายจุยเฟิงช่างเป็นคนฉลาดหลักแหลม ข้านับถือยิ่งนัก!”

เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้มพลางพูดชื่นชมจุยเฟิง บางทีจุยเฟิงอาจจะโง่เขลากว่าเถี่ยโส่วก็เป็นได้ ไม่นึกว่าเขาจะตีความความตั้งใจของนางเป็นภารกิจที่จริงจังขนาดนั้น ทั้งที่นางแค่ต้องการไปเที่ยวสนุกก็เท่านั้น

หลังจากเงียบขรึมลงไปครู่หนึ่ง เถี่ยโส่วก็ตะโกนร้องอย่างตกใจ “จุยเฟิง เจ้าหมายความว่าสตรีหัวขโมยที่ลักลอบเข้าตำหนักเซ่อเจิ้งหวางคนนั้นเป็นคนของที่นั่น ซึ่งหมายความว่าสตรีที่ล่วงละเมิดท่านใต้เท้าคนนั้นเป็นโสเภณีอย่างนั้นหรือ”

“หุบปาก! นี่เจ้าต้องการจะฆ่าข้าหรือไร”

จุยเฟิงรีบเอามือปิดปากเถี่ยโส่วอย่างลนลาน ก่อนกดเสียงต่ำกระซิบกระซาบอย่างจริงจัง “ข้าพูดจาหยาบโลนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อใด ข้าหมายความว่าสตรีหัวขโมยคนนั้นเจ้าเล่ห์ไร้ที่มา การที่มาสังเกตการณ์ตามหาเบาะแสจากผู้คนที่มาเสพตัณหาที่หอนางโลม ย่อมดีกว่าการที่พวกเราหลับหูหลับตาตามหาอย่างไม่มีจุดหมาย อีกทั้งยังเป็นการประเมินว่าสตรีหัวขโมยมีแนวโน้มเป็นคนแบบไหน”

สีหน้าของเฟิงอู๋โยวถึงกับเกร็งกระตุก อยู่ๆ นางก็รู้สึกเอ็นดูจุยเฟิงขึ้นมาทันที

และรู้สึกเห็นใจจวินมั่วหรันที่มีคนประหลาดอย่างจุยเฟิงกับเถี่ยโส่วคอยทำให้ปวดหัวอยู่ทุกวัน

แต่จะว่าไป ก็จริงอย่างที่เถี่ยโส่วพูด

วันนั้น นางได้กระทำมิดีมิร้ายกับจวินมั่วหรันไปจริงๆ

พูดด้วยคำพูดบ้านๆ หน่อยก็ไม่ต่างอะไรไปจากโสเภณี

พูดให้สุภาพหน่อยก็ไม่ต่างอะไรไปจากนางบำเรอ

“เห้อ เรื่องเล็กๆ น้อยๆ! ทำเอาข้าเหนื่อยจนหืดขึ้นคอ” เฟิงอู๋โยวอุทานขึ้นพลางโอบกอดสตรีสะสวยที่ต้อนรับอยู่หน้าประตูหอนางโลม

จุยเฟิงที่คลี่ยิ้มเดินตามเฟิงอู๋โยวอยู่ด้านหลังก็พลอยถูกเหล่าสตรีในหอนางโลมเข้ามาสวมกอดต้อนรับไปด้วย

มีเพียงเถี่ยโส่วที่ดูเหมือนจะแตกต่างจากบรรดาทหารองครักษ์เงาคนไหนๆ

เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก เพราะกลัวไปสัมผัสสตรีบอบบางในหอนางโลมแห่งนี้

เฟิงอู๋โยวโอบกอดสตรีสองคนไว้ในอ้อมแขนและพามานั่งลงบนเก้าอี้ยาวตัวหนึ่ง นางยกขาพาดโต๊ะอย่างวางมาด

เถี่ยโส่วอยากจะนั่งลงข้างๆ นาง แต่กลัวไปเบียดกับสตรีในอ้อมกอดเฟิงอู๋โยว ทำให้เขาได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อรักษาระยะห่างจากเฟิงอู๋โยว

“เฟิงอู๋โยว ไฉนไม่ไปห้องสำราญ” เถี่ยโส่วมองสตรีในอ้อมกอดเฟิงอู๋โยวที่พยายามเล่นหูเล่นตาใส่เขา ใบหน้าของเขาก็พลันแดงเรื่อขึ้นมาทันที

“เจ้าโง่! ห้องสำราญไม่สามารถมองทะลุจิตใจคนได้อย่างปรุโปร่ง” จุยเฟิงยกเหยือกสุราขึ้นมารินให้เฟิงอู๋โยวพลางตอบเถี่ยโส่วอย่างไม่สบอารมณ์

เฟิงอู๋โยวได้แต่คลี่ยิ้มไม่พูดจา นางหูดีกว่าใครในที่นี้ นางสามารถแยกแยะเสียงของผู้คนได้และสามารถได้ยินเสียงของผู้คนส่วนใหญ่ในหอนางโลมแห่งนี้

นางยกจอกสุราขึ้นจรดที่ปากของสตรีในอ้อมกอด “เสี่ยวเถาหง ให้ข้าป้อนเจ้าเอง”

“ให้ตายเถอะเจ้าค่ะ ข้าน้อยไม่ได้ชื่อเสี่ยวเถาหงเสียหน่อย ข้าน้อยชื่อชุนหงนะเจ้าคะ”

“ชุนหงหรือ เป็นชื่อที่ดีจริงๆ! สายลมวสันต์แสนงดงาม แก้มขาวนวลของน้องนางแดงเรื่อใต้ผ้าห่ม” เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้มมุมปากพลางพูดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ

เมื่อเหล่าทหารองครักษ์เห็นเช่นนั้น แม้พวกเขาไม่ได้ปลดปล่อยตัวเองเหมือนเฟิงอู๋โยว แต่ภายใต้การชี้นำของนาง พวกเขาก็พากันปลดปล่อยในแบบของตัวเองและกินดื่มกันอย่างสุขสำราญ

ภายในห้องสำราญที่ชั้นสองของหอนางโลม จี้มั่วจื่อเฉินตกใจตาเหลือกจนแทบจะชะโงกหัวออกไปนอกหน้าต่าง

“อาหรัน เจ้าเชิญข้ามาดื่มชาชั้นเลิศที่หอนางโลมนี่ อย่าบอกนะว่าเป็นเพราะเจ้าบุรุษหยาบโลนคนนี้” ดวงตาจี้มั่วจื่อเฉินหดเกร็ง เขาชี้ไปที่เฟิงอู๋โยวที่กำลังเสพสำราญอยู่ที่ห้องโถงของหอนางโลมพลางถามจวินมั่วหรันอย่างแปลกใจ

ตอนที่ 62 ปีศาจคลั่งอวดฝีมือประหนึ่งปกป้องภรรยา

“บุรุษหยาบโลนอย่างนั้นหรือ แต่ชื่อเสียงของเขาเหมือนจะโด่งดังกว่าของเจ้า”

น้ำเสียงทุ้มต่ำสอดแทรกด้วยแรงดึงดูด และเจือด้วยอำนาจบารมีในแบบของผู้สูงส่ง ชนิดที่ใครได้ยินก็ต่างก้มหัวให้

เขาไม่ได้ปฏิเสธว่ามาที่นี่ก็เพราะเฟิงอู๋โยว แต่เขากลบเกลื่อนความเป็นห่วงของตัวเองด้วยเหตุผลที่ว่า ตัวเองมาที่นี่เพื่อรู้สึกสนใจในเหยื่อของตัวเอง

จี้มั่วจื่อเฉินไม่ยอม ครั้นแล้วลุกขึ้นพรวดก่อนตบโต๊ะดังปึ้ง “อาหรัน นี่เจ้าเปรียบเทียบบุรุษหยาบโลนไร้ชื่อเสียงกับข้าอย่างนั้นหรือ!”

“เมื่อเทียบกับข้าแล้ว เจ้าต่างหากที่เป็นบุรุษหยาบโลนไร้ชื่อเสียง”

จวินมั่วหรันแสยะยิ้ม ในดวงตาดำสนิทคู่นั้นแฝงแววนึกสนุก

ครั้นแล้วข้ารับใช้ที่อยู่ข้างๆ จวินมั่วหรันจึงพูดเสริมขึ้น “องค์ชายเฉินอาจไม่ทราบ แต่แม่ทัพเฟิงที่กำลังเสพสำราญอยู่ในห้องโถงคนนั้นเป็นถึงแม่ทัพฝีมือดีแห่งแคว้นเป่ยหลีที่มีชื่อเสียงเกรียงไกร พ่อของเขาเป็นถึงแม่ทัพอารักขาแคว้นเป่ยหลีชั้นสูง นามว่าเฟิงจือหลิน ก่อนหน้านี้สามปี เฟิงจือหลินนำทัพออกศึกที่แคว้นซีเยว่แต่ถูกซุ่มโจมตี แม่ทัพเฟิงในวัยใกล้จะสิบสี่ปีมีปัญญาล้ำเลิศ เขาได้วางกลยุทธ์ช่วยเหลือกองทัพแห่งแคว้นเฟ่ยหลีร่วมแสนนายที่ถูกตรึงกำลังอยู่ที่หุบเขาออกมาได้ ทำให้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วแคว้นเป่ยหลี”

เมื่อจี้มั่วจื่อเฉินได้ยินเช่นนี้จึงค่อยๆ นั่งลง “นึกไม่ถึงเลยว่าคนเสเพลน่าไม่อายอย่างเจ้านี่จะเป็นผู้เป็นคนแบบนี้!”

จวินมั่วหรันไม่มีทีท่าโต้ตอบใดๆ เขายกถ้วยชาขึ้นมาและจิบอย่างไม่คิดอะไร สายตาของเขาได้แต่จ้องมองไปยังเฟิงอู๋โยวที่วางอำนาจบาตรใหญ่อยู่ที่ห้องโถง

ในเวลาเดียวกัน ประสาทสัมผัสอันฉับไวของเฟิงอู๋โยวก็รับรู้ได้ถึงสายตาของจวินมั่วหรัน นางจึงรีบเงยหน้าขึ้นไปมองดวงตาดำสนิทของจวินมั่วหรันด้วยสายตาอันเฉียบคม

ขณะที่สายตาทั้งสองคู่สบตากัน เฟิงอู๋โยวก็อมยิ้มขึ้นมา ก่อนปล่อยชุนหงผู้อ่อยช้อยงดงามในอ้อมกอดออก จากนั้นก็ยกจอกสุราพลางพยักหน้าให้จวินมั่วหรัน

จวินมั่วหรันเมินเฉยใส่เฟิงอู๋โยว มือเรียวยาวของเขาควงถ้วยชาเล็กน้อย ก่อนจิบชาและคลี่ยิ้มอย่างมีนัยยะ

“ทำตัวเป็นเจ้ากรรมนายเวรตามหลอกหลอนอยู่ได้!”

ขณะเฟิงอู๋โยวก้มหน้าลง สีหน้าของนางก็อึมครึมลงทันที

การที่นางพาเหล่าทหารองครักษ์เงามาเสพสุขที่หอนางโลมแห่งนี้ ก็เพราะในสถานที่แห่งนี้ย่อมมีผู้คนหลากหลายประเภท ซ้ำยังเป็นแหล่งข่าวชั้นดีเพื่อให้นางได้ฟังข้อมูลในเรื่องต่างๆ

แต่พอจวินมั่วหรันมาที่นี่ นางก็ไม่ไม่มีสมาธิแยกแยะแอบฟังเรื่องของผู้คนในหอนางโลม

แต่ก็ช่างบังเอิญ

เพราะบุรุษอ้วนผู้ที่นั่งกางขาที่โต๊ะข้างๆ นางกำลังดื่มได้ที่และพูดจาเสียงดัง

พอเงี่ยหูฟังดีๆ ก็รู้ว่าเขากำลังพูดถึงนางอยู่

“รู้หรือยัง แม่ทัพเฟิงผู้กล้าหาญแห่งแคว้นเป่ยหลีถูกสั่งเก็บ”

“เท่าที่รู้มา เขาทำร้ายจิตใจสาวงามอย่างองค์หญิงหลีอินแห่งแคว้นเป่ยหลี”

“ว่ากันว่าพ่อของเขาตัดลูกตัดพ่อกับเขาเลยทีเดียว ตอนนี้แม่ทัพเฟิงมีสภาพไม่ต่างจากหนูข้างถนน ที่ใครๆ ก็จ้องเล่นงาน”

“แต่จะว่าไป แม่ทัพเฟิงหน้าตางดงามสะสวยยิ่งนัก และขึ้นชื่อว่าเป็นบุรุษหน้าสวยที่สุดในแคว้นเป่ยหลี ถ้าข้ามีโอกาสได้ใกล้ชิดเขา ข้าจะจับเขามัดแล้วขึ้นคร่อมเล่นสนุกกับเขาดูสักครั้ง! ไม่ใช้ข้าคนเดียวที่คิดแบบนี้ บุรุษที่รักสนุกทุกคนต่างก็…”

เมื่อเฟิงอู๋โยวได้ยินว่าตัวเองถูกคำสั่งตามฆ่า ภายในใจก็โกรธแค้นขึ้นมาทันที

นางสร้างคุณประโยชน์ออกรบเพื่อแคว้นเป่ยหลีมามากมาย แต่กลับถูกองค์หญิงน่าไม่อายแห่งแคว้นเป่ยหลีทำลายจนย่อยยับ

แต่ว่าเฟิงอู๋โยวไม่ใช่ปลาที่ขึ้นเขียงรอโดนเชือด ในเมื่อนางมีโอกาสได้เข้ามาสิงสถิตอยู่ในร่างนี้ทั้งที ก็ถือว่าเรื่องทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับร่างนี้ก็เกี่ยวข้องกับตัวนางไปโดยปริยาย

“ท่านชาย เป็นอะไรหรือเปล่าเจ้าคะ”

ชุนหงที่อยู่ในอ้อมกอดของเฟิงอู๋โยวแนบแก้มอันนุ่มนวลของนางเข้าไปที่หน้าอก

เฟิงอู๋โยวรีบจับข้อมือชุนหงและแผ่จิตสังหารออกมาทันที

“ท่าน ท่านชาย ชุนหงทำอะไรผิดไปหรือเจ้าคะ”

ใบหน้าของชุนหงซีดลง น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นในดวงตา ช่างดูเปราะบางเสียไม่มี

“อย่าขยับ”

เฟิงอู๋โยวพูดขึ้นอย่างเย็นชา จากนั้นใช้นิ้วเรียวยาวของนางคีบตะเกียบสีทองลงบนโต๊ะขึ้นมาทันที ก่อนพุ่งไปที่โต๊ะข้างๆ ที่กำลังพูดเรื่องไร้สาระ ปลายตะเกียบพลันจ่อที่ดวงตาทั้งสองข้างอย่างแม่นยำ

ในเวลาเดียวกัน ก็มีตะเกียบหยกข้างหนึ่งพุ่งเข้ามาเสียบเข้าไปที่ดวงตาข้างหนึ่งของชายอ้วนทันที

“อ้าก”

ชายอ้วนร้องตกใจเสียงหลง เขานึกไม่ถึงว่าตัวเองจะต้องมาเจอเรื่องแย่ๆ ที่หอนางโลมแห่งนี้

เขาเลือดอาบเต็มหน้า ก่อนคลำตรวจสอบดวงตาที่บาดเจ็บของตัวเองพร้อมกับร้องครวญคราง “ช่วยด้วย ช่วยด้วย!”

ทันใดนั้น ทั่วทั้งหอนางโลมก็พากันแตกตื่นเป็นผึ้งแตกรัง

เฟิงอู๋โยวยื่นตระหง่านอยู่กลางห้องโถงใหญ่ ในเวลาเดียวกันเหลือบไปมองทางจวินมั่วหรัน หลังจากละสายตาออกมาก็หันไปยื่นมือให้ชุนหงที่ตกใจกลัวจนตัวแข็งทื่อ “ส่งผ้าเช็ดหน้ามาให้ข้า”

“ท่านชาย โปรดไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเจ้าค่ะ!”

ชุนหงยื่นผ้าส่งให้เฟิงอู๋โยวด้วยมือที่สั่นระริก เหงื่อกาฬแตกพลั่กเต็มตัว

เฟิงอู๋โยวใช้ผ้าเช็ดเลือดบนใบหน้าของชายอ้วนพลางคลี่ยิ้มที่อัดแน่นไปด้วยไฟโทสะ “ต้องการให้ข้าเล่นสนุกเป็นเพื่อนเจ้าหรือไม่”

ชายอ้วนหวาดกลัวสุดขีด เข่าทั้งสองข้างพลันทรุดลงไปที่พื้นพร้อมกับพูดขึ้นอย่างติดๆ ขัดๆ “เจ้าเป็นใคร ข้า ข้ากับเจ้าไม่มีความแค้นต่อกัน ไฉนเจ้าต้องมาทำร้ายข้า!”

“อะไรกัน เมื่อครู่ยังบอกว่าอยากจับข้ามัดแล้วขึ้นคร่อม แต่เพียงเสี้ยวพริบตากลับไม่รู้จักข้าเสียแล้ว” เฟิงอู๋โยวเหยียบแผ่นหลังเขา แววตากระหายเลือดของนางทำเอาบรรดาสาวสวยในหอนางโลมหน้าถอดสีไปตามๆ กัน

ณ ห้องสำราญบนชั้นสอง จี้มั่วจื่อเฉินมองจวินมั่วหรันอย่างสนใจ “อาหรัน เจ้าแปลกไป!”

“ข้าควรปล่อยให้เหยื่อของข้าถูกคนอื่นกลั่นแกล้งเหยียดหยามอย่างนั้นหรือ”

จวินมั่วหรันควงตะเกียบหยกที่เหลืออยู่อีกข้างเล่นในมือ ภายในใจรู้สึกพอใจกับท่าทางอวดเบ่งของเฟิงอู๋โยวยิ่งนัก

มองดูแล้ว เขากับเฟิงอู๋โยวช่างคล้ายกันอยู่รำไร

เด็ดขาดเหี้ยมโหดเหมือนกัน คลุ้มคลั่งยามเสียสติเหมือนกัน!

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท