ตอนที่ 63 ห้ามแตะต้องนาง / ตอนที่ 64 แม่ทัพเฟิงเมาแล้ว
ตอนที่ 63 ห้ามแตะต้องนาง
จี้มั่วจื่อเฉินคลี่ยิ้มอย่างชั่วร้าย ดวงตาฉายแววนึกสนุก “อาหรัน เขาเป็นแค่เหยื่อจริงๆ หรือ หากเป็นเช่นนี้จริงๆ เอาไว้เจ้าเล่นจนหนำใจแล้ว ค่อยส่งต่อให้สหายน้องอย่างข้าลูบคลำเล่นๆ ต่อได้หรือไม่”
จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้เป็นเพราะอะไร เขามักจะทนฟังคนอื่นพูดถึงเฟิงอู๋โยวไม่ได้
ไฉนต้อง ‘ลูบคลำเล่น’ เฟิงอู๋โยวไม่ใช่หุ่นเชิดที่ใครจะเอาไปเล่นสนุกได้ตามอำเภอใจ!
นอกเหนือจากนี้ ห้ามใครหน้าไหนมาเล่นสนุกกับเหยื่อของเขาทั้งนั้น!
จวินมั่วหรันมองจี้มั่วจื่อเฉินที่ยิ้มร่าอย่างตื่นเต้นด้วยสายตาเยือกเย็น พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ “ห้ามแตะต้องเขา”
“อาหรัน เจ้าคงไม่ได้สนใจในตัวเขาใช่หรือไม่”
จี้มั่วจื่อเฉินขยับเข้ามาด้านหน้าจวินมั่วหรัน กดเสียงต่ำพูดกับเขา “ต้องบอกเลยว่าสายตาของเจ้าไม่เลวทีเดียว เจ้าหนูเฟิงอู๋โยวนั่นมีรูปโฉมที่จัดได้ว่าเป็นสมบัติชั้นเลิศ บอกตามตรง ถ้าเจ้าไม่ใสใจในตัวเขาก็ส่งเขามาให้ข้าดีกว่า”
ฟุบ!
ทันทีที่น้ำเสียงของจี้มั่วจื่อเฉินสิ้นสุดลง ตะเกียบสีทองข้างหนึ่งก็พุ่งแสกอากาศไปปักเข้ากับทรงผมยกสูงโด่บนศีรษะเขาทันที
“โห! มีฝีมือไม่เบา!”
จี้มั่วจื่อเฉินยกมือสัมผัสตะเกียบสีทองบนกอผมของตัวเองเบาๆ จากนั้นก็หันถลึงตาใส่เฟิงอู๋โยวที่กำลังอมยิ้มอยู่
เฟิงอู๋โยวไม่อยากลงมือกับจี้มั่วจื่อเฉิน แต่นางไม่ชอบได้ยินคำดูถูกเหยียดหยาม ได้ยินทีไร ก็อดลงมือไม่ได้
นางคิดว่าจวินมั่วหรันจะจัดการนางที่ทำแบบนั้นกับจี้มั่วจื่อเฉิน เพราะตอนแรกดูเหมือนเขาจะโต้ตอบ
แต่ที่เหนือความคาดหมายก็คือ จวินมั่วหรันไม่คิดจะตำหนินางแม้แต่น้อย ซ้ำยังนั่งดื่มชาอย่างสบายใจเฉิบ
แบบนี้ก็ดี นางจะได้ไม่เสียแรงอะไรมาก
เฟิงอู๋โยวถอดหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็นั่งกลับไปที่เดิมและฟังเพลงอย่างสำราญใจ
สถานที่เสพกามตัณหามันก็แบบนี้ เสียงเพลงขับขานมักกลบเหตุวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้เสมอ
อาจเป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับตัวเอง บรรดาคนที่อยู่รอบๆ จึงลืมเฟิงอู๋โยวที่น่ากลัวและกระหายเลือดคนเมื่อครู่ไป พวกเขาหันกลับไปดื่มสุราเสพสำราญของตัวเองต่อ
แต่ชุนหงที่อยู่ใกล้เฟิงอู๋โยวที่สุดยังคงหน้าซีดเผือดและตัวสั่นไม่หยุด
นางค่อยๆ รินสุราให้เฟิงอู๋โยวอย่างระมัดระวังพลางพูดติดๆ ขัดๆ “เชิญ ท่าน ท่านชาย ดื่มเจ้าค่ะ”
“ถอยไป”
เฟิงอู๋โยวพูดใส่ชุนหงอย่างไม่ได้ตั้งใจ จากนั้นก็ลุกขึ้นและกวักนิ้วเรียกเถี่ยโส่วที่ยืนนิ่งอยู่ที่มุมๆ หนึ่ง “มานี่ มาดื่มเป็นเพื่อนข้า”
เดิมทีทีท่าทางของเถี่ยโส่วค่อนข้างเคร่งขรึม แต่พอเห็นเฟิงอู๋โยวเซื่องซึมลง เขาก็เริ่มมีความรู้สึกอยากปกป้องอย่างอธิบายไม่ถูก
เขารู้ดีว่าที่เฟิงอู๋โยวเป็นแบบนี้ก็เพราะคำพูดไม่ให้เกียรติเมื่อครู่ ด้วยเหตุนี้จึงเดินเข้าไปนั่งข้างๆ เฟิงอู๋โยวและกอดนางไว้ในอ้อมแขน “แม่ทัพเฟิงอย่าเศร้าไปเลย อย่าเก็บคำพูดของพวกสวะพวกนั้นมาใส่ใจเลย”
“อืม”
เฟิงอู๋โยวตอบกลับเสียงขรึม อาจเป็นเพราะจอกสุรามันเล็กเกินไป จึงวางมันลงและหยิบโหลสุราข้างๆ มา เชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยก่อนกระดกเข้าไปอึกใหญ่ราวกับกำลังใช้สุรากลบความหงุดหงิดในใจ
“แม่ แม่ทัพเฟิง…”
เถี่ยโส่วมองเฟิงอู๋โยวในท่วงท่าน่าหลงใหลอย่างประหลาดใจ พลางกลืนน้ำลายไม่หยุด
ในห้องสำราญบนชั้นสอง จี้มั่วจื่อเฉินขยี้ตาตัวเองพร้อมกับชะโงกตัวออกไปนอกหน้าต่างครึ่งตัว ความสนใจของเขาทั้งหมดพุ่งตรงไปที่เฟิงอู๋โยวที่กำลังเงยหน้าดื่มสุราอย่างสำราญใจ
ดวงตาทรงกลีบดอกท้อของนางหรี่ลงภายใต้แผงขนตาอันงอนยาว เป็นความงดงามที่น่าหลงใหลยิ่งนัก
“น่าเสียดาย! รูปโฉมอย่างแม่ทัพเฟิงสามารถเป็นนายบำเรอได้เลย!”
อยู่ๆ จี้มั่วจื่อเฉินก็กระหายขึ้นมา จึงหยิบกาน้ำชามายกดื่ม เขายังคงคิดไม่ดีอยู่
ในหัวของเขาตอนนี้มีแต่ภาพใบหน้าแดงเรื่อจากฤทธิ์สุราของเฟิงอู๋โยว ภายใต้บรรยากาศอันน่าลุ่มหลงมอมเมาเคล้ากลิ่นสุรา นางดูงดงามจับใจดุจธิดาเซียนในภาพวาดก็ไม่ปาน
แม้เสื้อผ้าที่เฟิงอู๋โยวสวมใส่จะเป็นสีพื้นๆ แต่กลับโดดเด่นที่สุดในสถานเสพสำราญแห่งนี้ ต่อให้เป็นหญิงสาวในชุดกระโปรงสีฟ้านวล ก็ไม่อาจเทียบเท่าชุดสีขาวนวลพื้นๆ ของนางได้
ตอนที่ 64 แม่ทัพเฟิงเมาแล้ว
“แม่ทัพเฟิง เจ้าสวยงามเหลือเกิน”
เถี่ยโส่วมองเฟิงอู๋โยวอย่างหลงใหลด้วยใบหน้าแดงก่ำ
ก่อนหน้านี้ จุยเฟิงพร่ำบอกว่าเฟิงอู๋โยวกับจวินมั่วหรันเหมาะสมกัน แต่เขากลับไม่คิดแบบนั้น
แต่มาวันนี้ พอได้เห็นใบหน้าอันงดงามของเฟิงอู๋โยวใกล้ๆ แบบนี้ ก็เริ่มเห็นด้วยว่านางกับจวินมั่วหรันช่างเหมาะสมกันอย่างไม่มีข้อกังขา
เมื่อเฟิงอู๋โยวกระดกดื่มจนหมดโหล นิสัยอันบ้าบิ่นของนางก็ทวีคูณขึ้นมากกว่าเดิมไปโดยปริยาย
นางฟาดมือลงไปที่ท้ายทอยของเถี่ยโส่วอย่างไม่หนักไม่เบา ดวงตาทรงกลีบดอกท้อที่กำลังเมามายเป็นประกายแพรวพราว
นางเมาจนได้ที่ สติเริ่มเลือนราง แต่กระนั้นปากเล็กๆ ก็ยังขยับพูดไม่หยุด “นี่ เถี่ยโส่ว เจ้านี่พูดจามั่วซั่วจริงๆ! คำว่า ‘สวยงาม’ ใช้สำหรับชมผู้หญิง ข้าไม่ชอบฟัง ข้าเป็นถึงผู้ชายอกสามศอก เจ้าโลกใหญ่โต มาดงามสง่าไม่แพ้ผู้ใด มีหญิงสาวรู้ใจเข้าหามากมาย”
“แม่ทัพเฟิง เจ้าเมาแล้วใช่หรือไม่”
เถี่ยโส่วแอบปาดเหงื่อ เขาพูดไปตามความจริง แต่ไฉนเฟิงอู๋โยวต้องจริงจังขนาดนี้ด้วย
“ข้าไม่เมา!”
เฟิงอู๋โยวทำหน้าบึ้งพลางผลักเถี่ยโส่วล้มลงไปที่พื้น จากนั้นก็พยายามลุกขึ้นอย่างโซเซ
นางยกมือเท้าสะเอว ยกเท้าหนึ่งข้างเหยียบบนเก้าอี้ ก่อนพูดขึ้น “เฟิ่งจือหลิน แกมันก็แค่หมาไร้น้ำยา!”
“เอาไว้ข้าสยบแคว้นเป่ยหลีได้เมื่อใด เมื่อนั้นแกจะต้องคุกเข่าวิงวอนต่อหน้าข้าแน่นอน”
“นางหลีอินแห่งแคว้นเป่ยหลี แกสูงส่งมาจากไหน! เท่าที่ข้าเห็น ชุนหงยังสวยกว่าแกตั้งหลายเท่า!”
…
หลังจากนั้นสักพัก อยู่ๆ เฟิงอู๋โยวก็นั่งยองๆ ลงที่พื้น ก่อนกดเสียงต่ำบ่นพึมพำอย่างโศกเศร้า “เกิดเป็นข้านี่ช่างลำบากเหลือเกิน ข้ายอมรับชะตากรรมที่ต้องเกิดในตระกูลแบบนี้ แต่ไฉนต้องไปมีเรื่องกับเจ้าราชาปีศาจแห่งชาติภพนี้ด้วย เขาทั้งดุร้าย และอารมณ์ก็ไม่ปกติ ทั้งบนทั้งล่าง ภายนอกภายใน ล้วนถูกลวนลามทั่วร่างโดยใช้โอสถทาเป็นข้ออ้าง ศักดิ์ศรีของข้าถูกเขาย่ำยีจนย่อยยับไม่เหลือชิ้นดี…”
แม่ทัพเฟิง เจ้าเมาแล้วจริงๆ ด้วย”
เถี่ยโส่วถูกเฟิงอู๋โยวผลักจนเจ็บระบม ทำเอาลุกไม่ขึ้นไปพักหนึ่ง
เฟิงอู๋โยวมองเถี่ยโส่วที่นั่งนิ่งอยู่ที่พื้นด้วยสายตาเยือกเย็น แล้วอยู่ๆ ก็ตกใจ กระโดดถอยหลังทิ้งห่างราวสามคืบ “เจ้าอย่าคิดเอาคืนเชียวนะ! ข้าไม่ตั้งใจจะผลักเจ้า ข้าแค่ผลักความอ้างว้างออกไป เท่านั้น”
จวินมั่วหรันยืนอยู่ข้างๆ หน้าต่าง แอบฟังเฟิงอู๋โยวที่เริ่มพูดลิ้นพันกันเป็นระยะๆ ประเดี๋ยวก็ใช้เสียงเล็กๆ พูดจาน่าสงสาร ประเดี๋ยวก็พูดจาวางมาดอวดเบ่ง
ในระหว่างนั้น ดวงตาอันลุ่มลึกของเขาก็เคลือบไปด้วยแววสับสนขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ไฉนเขาถึงจำเรื่องที่ออกมาจากปากของเฟิงอู๋โยวไม่ได้แม้แต่น้อย
อีกอย่าง เขาเป็นคนรักความสะอาดและดูแลตัวเองมาตลอด แล้วเขาจะใช้โอสถทาเป็นข้ออ้างลวนลามย่ำยีศักดิ์ศรีนางได้เยี่ยงไร
นอกเสียจากวันนั้นที่อาการป่วยทางจิตของเขากำเริบ…
พอนึกได้ว่าตัวเองอาจทำไม่ดีไม่ชอบกับเฟิงอู๋โยวอย่างไม่ตั้งใจไปคืนนั้น จวินมั่วหรันก็หยิบผ้าเช็ดมือมาเช็ดมือสะอาดๆ ของตัวเองอย่างเงอะงะ
“ให้ตายเถิด!”
เขาเช็ดมือตัวเองซ้ำไปซ้ำมา แต่ก็ราวกับว่าปลายนิ้วยังคงมีกลิ่นไอของเฟิงอู๋โยวติดอยู่
จี้มั่วจื่อเฉินมองจวินมั่วหรันที่อยู่ไม่สุขอย่างอึ้งงัน เขาถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ “อาหรัน เจ้าคงไม่ได้ใช้มือเช็ดแทนกระดาษหลังทำธุระหนักที่ห้องน้ำเสร็จใช่หรือไม่”
โชคดีที่ตอนนี้จมกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองอยู่อย่างยากจะถอน ไม่เช่นนั้น หากเขาได้ยินคำพูดเช่นนี้ จี้มั่วจื่อเฉินจะต้องถูกเขาต่อยจนน่วมแน่ๆ
“ทั้งบนทั้งล่าง?”
“ภายในภายนอก!”
จวินมั่วหรันพูดทวนคำพูดของเฟิงอู๋โยวพึมพำ แต่กระนั้นเขาก็ยังยอมรับที่ตัวเองเนื้อแนบเนื้อกับผู้ชายด้วยกันไม่ได้
ยิ่งไปกว่านั้น ดูเหมือนว่าเขาจะสำรวจท่อนบนท่อนล่าง ภายนอกภายในไป
เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินมั่วหรันก็รู้สึกทั้งร้อนทั้งคันที่ปลายนิ้วขึ้นมาทันที ในเวลาเดียวกัน มวลอันร้อนรุ่มก็ปะทุขึ้นกลางอกและแผ่ซ่านไปทั่วทุกอณูร่างกาย
“สกปรก!”
เขาสะบัดแขนเสื้ออย่างรังเกียจ ความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นโมโห ความคิดที่อยากจับเฟิงอู๋โยวตอนและส่งไปเป็นขันทีพลันผุดขึ้นอย่างไม่มีที่มาที่ไปในบัดดล