เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 70 เอากุญแจกลับไปสำนึกผิดด้วยตัวเอง ตอนที่ 7

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 70 เอากุญแจกลับไปสำนึกผิดด้วยตัวเอง / ตอนที่ 71 หรือว่าข้าโอ๋เจ้ามากไป

ตอนที่ 70 เอากุญแจกลับไปสำนึกผิดด้วยตัวเอง

ซือมิ่งสังเกตท่าทางลับๆ ล่อๆ ของเฟิงอู๋โยว เขารู้สึกว่าสืบข้อมูลที่ตัวเองสืบมาได้ไม่ถูกต้อง

ตามรายงานของสายลับที่แฝงตัวอยู่ในแคว้นเป่ยหลี เฟิงอู๋โยวเป็นคนพูดน้อย สุขุม ไม่พูดจาล้อเล่น เป็นบุคคลที่เป็นที่รู้จักกันดี

แต่เฟิงอู๋โยวคนที่ซือมิ่งเห็น กลับช่างพูดช่างจา ปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดเก่ง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนก็ดูไม่เหมือนคนที่มีนิสัยเงียบสุขุม

ครุ่นคิดอยู่พักใหญ่ ในที่สุดซือมิ่งก็อดถามขึ้นไม่ได้ “แม่ทัพเฟิง เจ้าเป็นคนอารมณ์ดีแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้วอย่างนั้นหรือ”

“หลังจากเจอกับเจ้าเส้นเลือดน้อย ความสุขของข้าก็ค่อยๆ หายไปแล้ว”

เฟิงอู๋โยวคิดว่าซือมิ่งสายตาไม่ค่อยดี จึงเขย่งเท้าโน้มตัวไปด้านหน้าเขา หมายให้เห็นรอยช้ำบนใบหน้าตัวเองให้ชัดเจนกว่านี้

ซือมิ่งถอยหลังกลับเพื่อเลี่ยงใบหน้าอันสวยงามน่าดึงดูดของเฟิงอู๋โยวทันที

ในเวลาเดียวกัน สายตาอันเฉียบคมดุจมีดของจวินมั่วหรันก็มองทะลุผ่านบรรยากาศอันหอมหวนรอบๆ มาที่เฟิงอู๋โยว

จุยเฟิงกับซือมิ่งรู้สึกเสียวสันหลังวาบ จึงปล่อยมือออกจากแขนเฟิงอู๋โยวพร้อมกัน จากนั้นก็คลานพื้นตามนางเข้าไปหาจวินมั่วหรัน

“ถูกกระแทกจนจมูกเกือบเบี้ยวแล้ว”

นางบ่นอย่างไม่พอใจพลางนวดจมูกที่แดงก่ำของตัวเอง

“เงยหน้าขึ้นมา”

จวินมั่วหรันมองจมูกแดงๆ ของนางจากด้านบน น้ำเสียงที่นางใช้พูดอยู่ในขณะนี้เล็กบางน่าสงสาร

แต่พอนึกถึงกริยาอันหยาบโลนของนางตอนอยู่ที่ห้องน้ำ จวินมั่วหรันก็อยากจะเหยียบนางให้จมดินและกระทืบแรงๆ ซ้ำอีกสักรอบ

เฟิงอู๋โยวได้ยินเช่นนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา

ภาพที่กระทบสู่ม่านตาของนางคือจวินมั่วหรันในเสื้อคลุมเปิดอก

เลื่อนสายตามองขึ้นไปเห็นเป็นลูกกระเดือกที่กำลังกระเพื่อมขึ้นลง ใบหน้าอันหล่อเหลาไร้ที่ติราวกับถูกปั้นขึ้นมาอย่างวิจิตรบรรจง บนใบหน้าเต็มไปด้วยแรงดึงดูดอันทรงพลัง เสน่ห์เย้ายวนชนิดที่เห็นแล้วต้องเกิดกำหนัด

นางตะลึงงันเล็กน้อย ภายในใจแอบบ่นว่าพระเจ้าไม่ยุติธรรม!

เห็นๆ อยู่ว่าจวินมั่วหรันมีอำนาจยิ่งใหญ่และยศฐาที่สูงส่ง แต่ไฉนต้องเกิดมางดงามเช่นนี้! ทุกส่วนบนเรือนร่างของเขาประหนึ่งผลงานศิลปะที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาอย่างประณีตบรรจง

และสิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดก็คือ รังสีหน่ายอารมณ์ที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวเขาพร้อมกับกลิ่นเครื่องร่ำหอมเบาบางทำเอาสติของนางเกือบจะเลือนหาย

นางกลืนน้ำลายอย่างสุดจะฝืน ก่อนชี้ไปที่แผงอกที่น้อยครั้งจะได้เห็นของเขา “ท่านใต้เท้าหนาวหรือไม่ขอรับ ต้องการมือหนาใหญ่นุ่มนวลอบอุ่นของกระหม่อมบดบังความหนาวให้แก่ท่านหรือไม่ขอรับ”

จวินมั่วหรันเหลือบมองเฟิงอู๋โยวที่นั่งหมอบอยู่ที่ข้างเท้า ลดมือของตนเองไปลูบศีรษะของนางอย่างบางเบา

“สร่างเมาแล้วอย่างนั้นหรือ”

สายตาเยือกเย็นดุจมีดของเขาเจือแววนึกสนุก ริมฝีปากปริยิ้มเป็นเส้นโค้งผุดแววไร้ความปราณี

เฟิงอู๋โยวกะพริบตาปริบๆ ครั้นนึกถึงอาการป่วยทางจิตของจวินมั่วหรันที่เคยกำเริบขึ้นมาก่อนหน้านี้ นางก็ยิ่งระวังตัวมากว่าเดิม

หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง นางก็ตอบกลับด้วยเสียงทุ้มต่ำ “หายแล้วขอรับ ขอท่านใต้เท้าอย่าได้ถือสา”

“อืม เอากุญแจกลับไปสำนึกผิดด้วยตัวเอง”

น้ำเสียงทุ่มต่ำทรงเสน่ห์ของเขาสอดแทรกแววชั่วร้าย กลบสำเสียงหน่ายอารมณ์ของเขาไปอย่างสิ้นเชิง

จี้มั่วจื่อเฉินยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบคาง ดวงตาวาวประกายของเขาจ้องมองใบหน้าที่ยังแดงเรื่อของเฟิงอู๋โยว ยิ่งมองก็ยิ่งเป็นสุข

ถ้าจวินมั่วหรันไม่อยู่ ป่านนี้เขากระทำมิดีมิชอบกับเฟิงอู๋โยวไปตั้งนานแล้ว

ในสายตาของจี้มั่วจื่อเฉิน ทุกสรรพสิ่งในใต้หล้ามีแค่สิ่งที่สวยงามกับอัปลักษณ์เท่านั้น สำหรับเขาแล้ว ความแตกต่างเรื่องบุรุษกับสตรีไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เขาชอบทั้งบุรุษและก็ชอบทั้งสตรีด้วย

เฟิงอู๋โยวเหลือบมองลูกกุญแจที่จวินมั่วหรันโยนมาด้านหน้า แต่ไม่ยอมหยิบขึ้นมา

นางเหยียดเท้าออกไปเขี่ยลูกกุญแจไปทางที่มือเอื้อมไม่ถึง จากนั้นก็ถามขึ้นอย่างไม่เกรงกลัว “ขออนุญาตล่วงเกินท่านใต้เท้าขอรับ ไม่ทราบว่ากระหม่อมทำผิดเรื่องใด กระหม่อมไม่ได้เจตนาก่อเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องน้ำขณะที่ท่านกำลังทำธุระแม้แต่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น ท่านปิดตรงนั้นไว้อย่างมิดชิด กระหม่อมเพียงแค่มองผ่านๆ และไม่เห็นอะไรทั้งนั้นขอรับ”

ตอนที่ 71 หรือว่าข้าโอ๋เจ้ามากไป

“แค่กๆ”

จี้มั่วจื่อเฉินที่ได้ยินเช่นนั้นก็เกือบสำลักน้ำออกมา เขาพูดขึ้นอย่างตกใจ “อาหรัน เขาสุ่มมองเรือนร่างของเจ้าในห้องน้ำอย่างนั้นหรือ”

จวินมั่วหรันพยายามสะกดเส้นเลือดที่ปูดขึ้นมาบริเวณขมับ ก่อนเอ่ยขึ้นเสียงเย็น “ซือมิ่ง ส่งแขก”

“องค์ชายเฉิน เชิญขอรับ”

ซือมิ่งผายมือเป็นเชิง “เชิญ” ให้จี้มั่วจื่อเฉิน โดยไม่พูดอะไรมาก

“อาหรัน ที่นี่มันหอนางโลม ไม่ใช่ตำหนักเซ่อเจิ้งหวางของเจ้า เจ้าจะมาวางมาดข่มเหงแบบนี้ไม่ได้”

จี้มั่วจื่อเฉินที่กำลังลนลานอยู่นั้น อดไม่ได้ที่จะมองไปหาเฟิงอู๋โยวอีกครั้ง เขายังไม่อยากกลับ

“ซือมิ่ง โยน” จวินมั่วหรันหรี่ตาพลางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงอำมหิต

“ขอรับ”

ซือมิ่งยิ้มเหยเก ภายในใจคิดว่าจี้มั่วจื่อเฉินมีตาหามีแววไม่เหมือนเถี่ยโส่วไม่มีผิด

ใครๆ ก็รู้ว่าหากจวินมั่วหรันโมโหขึ้นมา แม้แต่จี้มั่วอิ้นเหรินก็ไม่เว้น แล้วนับประสาอะไรกับองค์ชายเฉินที่ไร้อำนาจ วันๆ เอาแต่เล่นเพลงมวยที่สวยแต่กระบวนท่า[1]

“อาหรัน เจ้ามันไร้ความปราณี!” จี้มั่วจื่อเฉินบุ้ยปากและทำท่าทางไม่พอใจใส่จวินมั่วหรัน

แต่ขณะที่น้ำเสียงของเขายังไม่ทันสิ้นสุดลง ก็ถูกซือมิ่งผลักออกไปนอกหน้าต่าง

“…”

เฟิงอู๋โยวมองจี้มั่วจื่อเฉินที่ถูกโยนออกไปนอกหน้าตาอย่างเงียบๆ ในเวลาเดียวกันก็รู้สึกหวั่นเกรงจวินมั่วหรันมากกว่าเดิม

ก่อนหน้านี้รู้แค่ว่าจวินมั่วหรันชอบข่มเหงรังแกคนจนติดเป็นนิสัย แต่ไม่คิดเขาจะกล้าลงมือกับตระกูลเชื้อพระวงศ์แห่งแคว้นแบบนี้!

ครั้นจวินมั่วหรัน ‘จัดการ’ จี้มั่วจื่อเฉินเสร็จ ก็พุ่งความสนใจมาที่เฟิงอู๋โยวที่หัวหดเป็นกระต่ายน้อยอยู่แทบเท้าเขาอีกครั้ง

เขาเชิดคางของเฟิงอู๋โยวขึ้นมา บังคับให้นางเงยหน้าสบสายตาที่เปี่ยมไปด้วยอำนาจของผู้เป็นใหญ่ “อย่าให้ข้าพูดเป็นรอบที่สาม ในเมื่อสร่างเมาแล้วก็กลับไปยอมรับโทษด้วยตัวเองเสีย”

“ลำนำบทหนึ่งกล่าวไว้ว่า ‘เสียงปักๆ เข้าออก เข้าๆ ออกๆ ถึงมีคุณค่า[2]’! ท่านใต้เท้าขอรับ เป็นผู้ชายเหมือนกัน ไฉนต้องกลั่นแกล้งกันแบบนี้ กระหม่อมไม่อาจถูกตอนตรงนั้นทิ้งได้”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่า หากตัวเองมีเจ้าสิ่งนั้นจริงๆ อยากตอนก็ตอนไป แต่ประเด็นก็คือ นางมีเจ้าสิ่งนั้นเสียที่ไหนกันเล่า!

ถ้าคิดจะจับตอนจริงๆ ความลับคงถูกเปิดเผยแน่ๆ!

และเมื่อความลับถูกเปิดเผย ชีวิตของนางคงไม่เหลือ!

“เจ้าหมายความว่าอะไร”

จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย ถึงแม้เขาไม่เข้าใจความหมายที่เฟิงอู๋โยวต้องการจะสื่อ แต่ลำนำที่ว่า ‘เสียงปักๆ เข้าออก’ เหมือนจะมีความหมายแฝงที่นอกเหนือจากนั้น

สรุปก็คือ สิ่งที่นางพูดออกมา ไม่น่าจะมีความหมายในแง่ดีทั้งนั้น

เฟิงอู๋โยวเห็นท่าทางของจวินมั่วหรันที่เริ่มหงุดหงิดก็ตระหนักได้ว่าจวินมั่วหรันตีความประโยค ‘เสียงปักๆ เข้าออก’ ไปอีกแง่หนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ความหมายอันละเมียดที่นางอยากจะสื่อ

ครั้นแล้วนางจึงขอพูดภาษาที่ควายเข้าใจได้ ดีกว่าสีซอให้ควายฟัง

เมื่อนึกได้เช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็ใช้นิ้วข้างหนึ่งแตะไปยังมือของจวินมั่วหรันที่จับคางนางเชิดขึ้น “ท่านใต้เท้าขอรับ รบกวนช่วยเก็บมืออันเรียวสวยของท่านไปก่อนได้หรือไม่ขอรับ คางของกระหม่อนถูกบีบจนเกือบจะหลุดอยู่แล้ว”

“เฟิงอู๋โยว ข้าโอ๋เจ้าเกินไปหรือไม่”

จวินมั่วหรันไม่มีทีท่าของชักมือกลับ ในทางตรงกันข้าม เขากลับบีบคางของนางแรงกว่าเดิม

ดวงตาดำสนิทของเขาจ้องมองผิวพรรณขาวอมชมพูของนาง ภายในใจพลันหงุดหงิดขึ้น แต่ก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ได้กลั่นแกล้งคนอ่อนแอ!

เฟิงอู๋โยวแคะหูซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพราะคิดว่าตัวเองหูฝาดอย่างรุนแรง จวินมั่วหรันเป็นคนเยี่ยงไร ตัวเองรู้ดีกว่าใคร เขาเป็นคนที่คิดกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่ตลอดเวลา แล้วยังมีหน้ามาถามนางว่าตัวเขาโอ๋มากเกินไปหรือไม่!

“วิธีที่ท่านใต้เท้าโอ๋กระหม่อมดูผิดแปลกเหลือเกินขอรับ”

เฟิงอู๋โยวเบิกตามองผู้ชายไร้ความปราณีด้านหน้าพลางกัดฟันพูด

จุยเฟิงรู้สึกว่าจวินมั่วหรันใจดีและไม่ถือสาเฟิงอู๋โยว ถ้าเป็นคนอื่นที่ท้าทายความอดทนของจวินมั่วหรันซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ ต่อให้จะมีสักกี่ชีวิตก็ชดใช้ไม่พอ

“ไม่ยอม?”

จวินมั่วหรันสัมผัสได้ถึงความแข็งข้อของเฟิงอู๋โยว จึงเอ่ยถามอย่างดุดัน

“ยอมขอรับ! ยอมท่านแต่เพียงผู้เดียว” เฟิงอู๋โยวยิ้มอย่างประจบและรีบตอบกลับอย่างเอาใจ

[1] เพลงมวยที่สวยแต่กระบวน หมายถึงสิ่งที่ดูภายนอกแล้วดูสวยงามดูดีแต่ใช้การไม่ได้จริง

[2] เสียงปักๆ เข้าออกถึงมีคุณค่า เป็นประโยคท่อนหนึ่งในลำนำมู่หลาน ซึ่งประโยคของท่อนนี้ก็คือ เสียงปักๆ เข้าออก มู่หลานทอผ้าหน้าประตู เป็นประโยคที่สะท้อนสิ่งที่สตรีพึ่งกระทำในยุคนั้น เมื่อทำเช่นนั้นย่อมเป็นสตรีที่เปี่ยมด้วยคุณค่า

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท