ตอนที่ 78 อาเจียนราดตัวเขา / ตอนที่ 79 ยังกล้าหลบอีกหรือ
ตอนที่ 78 อาเจียนราดตัวเขา
“เฟิงอู๋โยว เลิกแสดงได้แล้ว”
จวินมั่วหรันโอบกอดเฟิงอู๋โยวที่เปียกโชนไปทั่วทั้งร่าง คิ้วขมวดแน่น
เขาแค่อยากแกล้งนางเล่น ไร้ซึ่งเจตนาที่จะทำให้นางเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่นึกไม่ถึงว่า คนที่ดูกระปรี้กระเปร่าเป็นปกติอย่างนางจะอ่อนแอจนทนการกลั่นแกล้งครั้งนี้ไม่ไหว
จุยเฟิงร้องตกใจหลังจากเห็นเฟิงอู๋โยวที่สภาพอ่อนปวกเปียกภายในอ้อมกอดจวินมั่วหรัน เขาพูดขึ้นไม่หยุด “ท่านใต้เท้า แม่ทัพเฟิงในสภาพนี้น่าจะไม่ได้แสดงละครตบตานะขอรับ”
“เจ้าคิดว่าข้าตาบอดหรือ คิดว่าข้ามองไม่ออกด้วยตัวเองหรือ”
จวินมั่วหรันพูดเสียงสูงเพื่อพยายามกลบเกลื่อนความตึงเครียดที่ผุดขึ้นมาอย่างไม่เคยมีมาก่อน
จุยเฟิงหุบปากเงียบอย่างรู้งาน เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังที่รีบร้อนจากไปของจวินมั่วหรัน รอยยิ้มขื่นๆ พลันปรากฏขึ้น
ก่อนหน้านี้ เขาคิดว่าสักวันท่านใต้เท้าของตัวเองคงหนีไม่พ้นกับดักเสน่ห์ของเฟิงอู๋โยว
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดไว้ไม่ผิด จวินมั่วหรันกำลังตกลงไปในกับดักนั้นอย่างช้าๆ และไม่รู้ตัว!
จวินมั่วหรันอุ้มเฟิงอู๋โยวที่เปียกโชกกลับมาที่เรือนมั่วหรัน
“อ่อนแอสิ้นดี! แค่สำลักสุราเพียงไม่กี่อึกเองไม่ใช่หรือ”
ดวงตาดำสนิทของเขาเจือแววหงุดหงิด ก่อนเริ่มนึกสงสัยในตัวเองว่าทำเกินไปหรือไม่
“แค่กๆ”
ทันใดนั้น เฟิงอู๋โยวไอขึ้นมาอย่างหนักหน่วง ก่อนอาเจียนราดบนหน้าอกของจวินมั่วหรันอย่างไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
“อยากตายนักหรือ!”
จวินมั่วหรันหลุบมองน้ำสุราที่เปียกชุ่มบนเสื้อคลุมของตัวเอง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือก ก่อนใช้เท้าถีบบานประตูไม้แกะสลักเรือนมั่วหรัน เข้าไปและโยนนางลงบนพื้น
ตุบ!
เฟิงอู๋โยวเพิ่งจะลืมตาขึ้นมาก็เห็นจวินมั่วหรันขึ้นคร่อมบนตัว
“อ๊าย!”
นางกรีดร้องเสียงหลง มือสองข้างกอดอกแน่น สายตามองขาทั้งสองข้างของจวินมั่วหรันที่กางออกและคร่อมอยู่ตรงเอวตัวเองอย่างหวาดระแวง จากนั้นก็มองใบหน้าเด๋อด๋าของจวินมั่วหรัน “สารเลว! คิดจะลวนลามกระหม่อมอีกแล้วหรือ!”
“หุบปาก!”
จวินมั่วหรันหน้าเกร็งกระตุก นานๆ ทีเขาจะแสดงความอ่อนโยนออกมา เดิมทีคิดจะช่วยนางเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด แต่คิดไม่ถึงว่านางจะโต้ตอบอย่างตื่นตระหนกเช่นนี้
เฟิงอู๋โยวบุ้ยปากก่อนทุบเข้าไปที่หน้าอกของจวินมั่วหรันอย่างเต็มแรง “ท่านใต้เท้าลามกป่าเถื่อน ไฉนถึงชอบลวนลามกระหม่อมนัก!”
“พอได้แล้ว!”
จวินมั่วหรันปลดเข็มขัดที่เอวนางอย่างรวดเร็ว แต่กระนั้นก็คว้ามือที่อยู่ไม่สุขของนางมาตรึงไว้ “เฟิงอู๋โยว เจ้ากล้าดีมาจากไหนถึงกล้าตีกล้าเตะข้า”
“พูดมั่วๆ! เห็นๆ อยู่ว่าเท้าของกระหม่อมถูกท่านทับอยู่ แล้วจะเตะท่านได้เยี่ยงไร”
ตอนนี้ จวินมั่วหรันเพิ่งรู้สึกตัวว่าท่าทางของตัวเองดูแปลกจริงๆ ครั้นแล้วจึงลุกขึ้นและถอยหลังกลับ
เขาไอกระแอมเพื่อกลบเกลื่อนความเคอะเขิน จากนั้นก็หันไปเรียกจุยเฟิง “พาเขาไปล้างทำความสะอาดร่างกายด้วย”
จุยเฟิงมองจวินมั่วหรันอย่างประหลาดใจอยู่นานและไม่ยอมขานรับสักที
เฟิงอู๋โยวเป็นผู้ชายที่จวินมั่วหรันสนใจ แล้วตัวเขาจะกล้าแตะต้องได้เยี่ยงไร อย่าว่าแต่พานางไปอาบน้ำเลย ลำพังแค่อยู่สองต่อสองจุยเฟิงก็ไม่กล้า
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักใหญ่ จุยเฟิงแกล้งพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงรีบร้อน “ท่านใต้เท้าขอรับ ข้าน้อยขอไปทำธุระหนักเบาก่อนได้หรือไม่ขอรับ”
“รีบไป”
ถึงแม้จวินมั่วหรันจะแปลกใจกับท่าทางพิลึกๆ ของจุยเฟิง แต่เขาที่ถูกเฟิงอู๋โยวไล่ต้อนอยู่ตอนนี้ไม่มีเวลาไปคิดว่าจุยเฟิงจะไม่เข้าห้องน้ำจริงๆ หรือไม่
อีกอย่าง ตัวเขาก็ถูกเฟิงอู๋โยวอาเจียดราดทั้งตัวเช่นกัน เขาต้องการจะไปเปลี่ยนชุดสะอาดให้เร็วที่สุด
ส่วนเรื่องที่ว่าทำไมตัวเขาถึงปล่อยให้เฟิงอู๋โยวได้ใจจนกำเริบเสิบสานแบบนี้ ตัวเขาเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน
อาจเป็นเพราะเฟิงอู๋โยวเป็นคนดื้อรั้นปากแข็ง พอได้เล่นสนุกด้วยก็รู้สึกสนุกกว่าพวกข้ารับใช้ที่ก้มหน้าก้มตาทำตามคำสั่ง
หรืออาจเป็นเพราะว่านางเป็นพวกถึกทน ก็เลยทำให้เขากล้าเล่นแรงด้วย
จวินมั่วหรันถอนหายใจยาวๆ หนึ่งเฮือก จากนั้นก็หันมาด้านหน้าเฟิงอู๋โยวก่อนค่อยๆ ปลดเสื้อออกอย่างไม่คิดอะไร
เฟิงอู๋โยวที่นั่งแน่นิ่งอยู่บนพื้นจ้องมองนิ้วมือเรียวสวยที่กำลังปลดเสื้อออก ภายในใจนึกใคร่อยากขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ช่วงเสี้ยวนาทีนั้น ขณะที่จวินมั่วหรันกำลังปลดเสื้อผ้าออกอย่างเย้ายวน เฟิงอู๋โยวอาศัยจังหวะนี้พุ่งเข้าไปข้างหน้าเขาอย่างรวดเร็วสุดสายฟ้า จากนั้นก็กัดเข้าไปที่มือเขาอย่างเต็มแรง
ตอนที่ 79 ยังกล้าหลบอีกหรือ
“เฟิง อู๋ โยว!”
จวินมั่วหรันเดือดดาลเป็นที่สุด เสียงตวาดถูกเค้นออกมาจากทรวงอกและระเบิดออกมาดังลั่น
เขาหลุบตามองมือที่ถูกนางกัดจนน้ำลายเปียกชุ่มและรีบชักมือกลับมา เขาแทบอยากจะตัดมือของตัวเองทิ้งไปทันที
“ง่ำๆ”
เฟิงอู๋โยวงึมงำราวกับยังหวนนึกถึงสัมผัสจากมือของเขาอยู่
แต่โชคไม่ดีนัก เพราะเสียงงึมงำเล็กๆ บางๆ ของนางทำให้จวินมั่วหรันเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเสียงครวญครางยามร่วมเพศเสพสุข!
ทันใดนั้น รังสีชั่วร้ายพลันแผ่ซ่านออกมาจากรอบตัวเขา ชายแขนเสื้อพัดกระพือ กระบวนท่าฝ่ามือวายุระดมพุ่งเข้าใส่เฟิงอู๋โยวหลายระลอก
เฟิงอู๋โยวอาศัยทักษะของนักฆ่ากระโดดหลบฝ่ามือวายุที่อัดแน่นไปด้วยจิตสังหารของจวินมั่วหรันอย่างว่องไว
“ยังกล้าหลบอีกหรือ”
จวินมั่วหรันเห็นนางหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย ภายในใจก็นึกสงสัย
ทั้งที่อยู่ภายใต้สถานการณ์อันตรายขนาดนี้ นางยังสามารถใช้การเคลื่อนไหวฝีเท้าที่แปลกประหลาดนี้หลบเลี่ยงการโจมตีอันรุนแรงของเขาได้อีก
ถ้าเป็นคนทั่วไปที่ต้องเผชิญกับภัยอันตราย ก็ควรจะรวบรวมพลังปราณและเค้นกำลังภายในออกมาโจมตีสวนกลับไม่ใช่หรือ
หรือว่านางไม่มีกำลังภายใน…
สายตาเฉียบคมดุจคมมีดของจวินมั่วหรันจับจ้องเฟิงอู๋โยวที่กำลังน้ำลายไหลโดยที่ไม่รู้ชะตาร้ายดีของตัวเอง แต่สังเกตดูอยู่พักใหญ่ก็มองไม่ออก
สำหรับเขาแล้ว นางเป็นเหมือนปริศนาที่แก้ยาก
ต่อให้จะมีชื่อเสียงเกรียงไกรเป็นเครื่องยืนยันว่านางเป็นถึงแม่ทัพอายุน้อยที่เจนศึกสงครามแห่งแคว้นเป่ยหลี แต่จวินมั่วหรันกลับรู้สึกว่านางซ่อนความลับบางอย่างเอาไว้
หรือว่าการที่นางจงใจเข้าใกล้เขาแบบนี้ เป็นเพราะมีใครบางคนบงการอยู่เบื้องหลัง
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เขาก็ค่อยๆ ผ่อนรังสีสังหารลงและคอยสังเกตนางอยู่เงียบๆ
สายตาของเฟิงอู๋โยวยังคงจับจ้องมาที่นิ้วมือเรียวยาวได้รูปของจวินมั่วหรันอยู่ ถึงแม้ดูๆ แล้วนางจะเหมือนตอนปกติ แต่สุราที่สำลักไปหลายอึกก่อนหน้านี้กลับคืบคลานเข้ายึดครองสติของนางอีกครั้ง ทำเอานางเริ่มประสาทหลอน
ตอนนี้ นางมองมือที่ถูกกัดจนเปียกชุ่มของจวินมั่วหรันเป็นเหมือนเล็บมือนางทรงเครื่อง เป็นเหตุให้น้ำลายก็ไหลออกมาอีกระลอก
“ว่ากันว่าพวกสัตว์ชอบเลียนแบบแค่ท่าทางของมนุษย์ไม่ใช่หรือ แล้วนี่ไฉนเล็บมือนางถึงมีขางอกออกมาเป็นของตัวเองได้”
เฟิงอู๋โยวสูดน้ำลายที่ไหลออกมาจากมุมปาก ดวงตาเป็นประกาย โก่งตัวตั้งท่า จากนั้นก็พุ่งเข้าใส่จวินมั่วหรันที่กำลังหน้านิ่มคิ้วขมวดอยู่
“เมาอีกแล้วหรือ”
จวินมั่วหรันตระหนักได้ว่าเฟิงอู๋โยวอาจจะเมา เขาก็ไม่อยากทำร้ายนางอีก จึงได้แค่ยกแขนขึ้นป้องกันตัวจากการโจมตีพิลึกๆ ของนาง
แต่เฟิงอู๋โยวเป็นพวกได้คืบจะเอาศอก เมื่อนางเห็นว่าจวินมั่วหรันไม่มีทีท่าตอบโต้กลับ นางก็ยิ่งเหลิงใจขึ้นอีกเป็นเท่าตัว ตอนนี้นางเหมือนหมาป่าหิวกระหายก็ไม่ปาน เท้าทั้งสองข้างถูไปมาบนพรมสีทองราวกับกำลังรอจังหวะ ครั้นแล้วนางก็พุ่งเข้าไปหาเขาอีกครั้ง
จวินมั่วหรันคิดว่าเป้าหมายของนางคือมือของตัวเอง จึงไม่ได้ป้องกันส่วนอื่น เขาทำแค่เพียงยกแขนขึ้นมาด้านหน้าเท่านั้น
แต่ใครจะไปคิดว่าเฟิงอู๋โยวจะเปลี่ยนทีท่าอย่างฉับพลัน นางประกบใบหน้าอันร้อนผ่าวของตัวเองทาบกับฝ่ามืออันเย็นเฉียบของเขา จากนั้นก็ถูแก้มไปมาอย่างน่าไม่อาย
“ซืด…”
จวินมั่วหรันซี๊ดปาก ร่างกายของเขาราวกับมีเปลวไฟเร่าร้อนโหมกระพือขึ้น
เขาอึ้งตะลึงอยู่กับที่ สายตาค่อยๆ หลุบมองต่ำ พบว่าร่างกายของตัวเองกลับมีปฏิกิริยากับเฟิงอู๋โยว…
“ให้ตายเถิด!”
ความหงุดหงิดแปรเปลี่ยนเป็นโมโห จวินมั่วหรันไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะมีอารมณ์กับผู้ชายเหมือนกัน
โชคดีที่เฟิงอู๋โยวเมาจนสติเลอะเลือน ไม่เช่นนั้น หากนางรู้เรื่องนี้เข้า เขาคงมีแต่ต้องฆ่าปิดปากนางเท่านั้น
“เย็นจัง สบ๊ายสบาย!”
เฟิงอู๋โยวทาบใบหน้าบนฝ่ามือของจวินมั่วหรัน นางถูแก้มไปมาพลางส่งเสียงครวญครางอย่างมีความสุข
จวินมั่วหรันพยายามระงับความคิดอยากอุ้มนางขึ้นเตียงลง ครั้นแล้วจึงใช้มืออีกข้างผลักนางออกไป
“อย่าขยับ! ขอข้าใช้คลายร้อนหน่อย”
เฟิงอู๋โยวบ่นอย่างไม่พอใจ มืออันนุ่มนิ่มราวกับไร้กระดูกของนางเลื้อยเข้ามาโอบรัดแขนอันกำยำของจวินมั่วหรันราวกับเถาวัลย์
หลังจากนั้น นางก็ออกแรงเกาะแขนเขา เขย่งเท้าทั้งสองข้างและเปลี่ยนไปกอดไหล่อันหนากว้างของเขา
และที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้นก็คือชุดคลุมเปียกแนบเนื้อของนางกลับยิ่งกระตุ้นอารมณ์บางอย่างยิ่งขึ้นไปอีก ทำเอาลูกกระเดือกของเขากระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด!
“เฟิงอู๋โยว เจ้าตายแน่!”
เส้นเลือดเขียวปูดนูนขึ้นบนหน้าผากของจวินมั่วหรัน น้ำเสียงพร่าแหบเล็กน้อยเจือแววความใคร่อยากอย่างไม่อาจปิดบัง