เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 150 องครักษ์พิทักษ์ฝูจวิน ตอนที่ 151 เขาโกรธจัด

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 150 องครักษ์พิทักษ์ฝูจวิน / ตอนที่ 151 เขาโกรธจัด

ตอนที่ 150 องครักษ์พิทักษ์ฝูจวิน

ก๊อกๆๆ!

“ท่านหญิงเจ้าคะ ท่านใต้เท้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ!”

ทันใดนั้น เสียงหรงชุ่ยก็ดังมาจากนอกเรือน

มือที่ตวัดพู่กันอยู่ของเฟิงอู๋โยวหยุดชะงัก ภายในใจเกิดลนลานขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

“ยังไม่รีบเข้ามาช่วยข้าอีก!”

จวินฝูทั้งโมโหทั้งเศร้า นางตะโกนพูดกับหรงชุ่ยที่อยู่ด้านนอก

หรงชุ่ยหุบยิ้มและรีบผลักประตูเข้ามา

เมื่อนางเห็นสภาพสะบักสะบอมของจวินฝูก็ตกใจตะโกนร้องเสียงสูง “ท่านหญิง ไฉนแม่ทัพเฟิงยังไม่สลบอีกหรือเจ้าคะ”

อันที่จริง หรงชุ่ยรู้ดีว่าจวินฝูถูกทรมานมานานแค่ไหนแล้ว เพราะก่อนหน้านี้ นางอยู่ในละแวกนี้ตลอด ว่ากันว่าหัวใจคนเราก็คือก้อนเนื้อที่มีความรู้สึก หากจวินฝูปฏิบัติกับหรงชุ่ยดีกว่านี้ หรงชุ่ยคงไม่เกลียดจวินฝูถึงขนาดนี้หรอก

แต่น่าเสียดาย คนที่โง่เหมือนหมูอย่างจวินฝู จนกระทั่งทุกวันนี้ก็มองความเกลียดชังของหรงชุ่ยที่มีต่อนางไม่ออก

เดิมทีจวินฝูต้องการสั่งให้หรงชุ่ยไปตามทหารรักษาการในตำหนักมาเล่นงานเฟิงอู๋โยว

นางคิดว่าหากจวินมั่วหรันเข้ามาเห็นสภาพเช่นนี้จะต้องโกรธเป็นฟืนเป็นไฟแน่นอนและมีโอกาสที่จะบีบคอเฟิงอู๋โยวให้ตายคามือ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ ดวงตาของจวินฝูก็ลุ่มลึกขึ้น นางส่งสายตาให้หรงชุ่ยเอาตะเกียงธูปกำหนัดออกไป

หรงชุ่ยพยักหน้าอย่างรู้งานและเก็บตะเกียงธูปไปทันที จากนั้นก็ไปตะโกนเรียกคนเสียงดังที่หน้าประตู “ใครก็ได้ช่วยด้วย! ท่านหญิงถูกแม่ทัพเฟิงรังแก!”

เฟิงอู๋โยวนั่งลงบนตัวจวินฝูเพื่อรอดูละครที่จวินฝูกำลังกำกับจัดฉาก

จวินฝูโมโหเป็นที่สุด นางถลึงตาใส่หรงชุ่ยพลางกัดฟันพูด “นังโง่! ใครใช้ให้เจ้าตะโกนแหกปากแบบนี้ คิดจะทำลายชื่อเสียงหน้าตาข้าหรือ รีบไปตามท่านพี่มาด้วยตัวเอง และจำใส่กะโหลกเอาไว้ เคลื่อนไหวเงียบๆ ห้ามเอิกเกริก”

“เจ้าค่ะ”

หรงชุ่ยแสร้งขานรับอย่างเคารพ ก่อนวิ่งออกจากเรือนฟางฮว๋าไป

เฟิงอู๋โยวเหลือบมองไฟแสงด้านนอกเรือนฟางฮว๋าที่ค่อยๆ หรี่ลง เปลือกตาพลันกระตุกไม่หยุด

จิตใต้สำนึกของนางรู้ดีว่า ถึงแม้จวินมั่วหรันจะไม่ลำเอียงเข้าข้างจวินฝู แต่ถึงอย่างไรจวินฝูก็เป็นคนในครอบครัวที่เหลืออยู่เพียงคนเดียวบนโลกของเขา

ต่อให้จวินมั่วหรันจะรู้ว่าจวินฝูเป็นฝ่ายลงมือเล่นงานนางก่อน แต่ถ้าเขาเห็นรอยแดงช้ำเต็มตัวของจวินฝูแล้ว มีความเป็นไปได้อย่างสูงว่านางจะถูกเขาหั่นเป็นชิ้นๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขึ้นมาทันที

“เฟิงอู๋โยว แกตายแน่!”

จวินฝูอาศัยจังหวะนี้ข่มขู่ เพราะหลังจากที่นางรู้ว่าจวินมั่วหรันกลับตำหนักมาแล้ว ความมั่นใจของนางก็เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณ

เฟิงอู๋โยวกำซองจดหมายที่จวินมั่วหรันเขียนให้นางด้วยตัวเองเมื่อเช้า แม้นางจะรู้ดีว่าตัวเองไม่ควรทำกับจวินฝูถึงขนาดนี้ แต่นางคิดจะเดิมพันดูอีกสักตั้ง แม้ความน่าจะเป็นจะมีเพียงน้อยนิดก็ตาม

ครั้นเท้าของจวินมั่วหรันก้าวเข้าเรือนก็รีบมองหาเฟิงอู๋โยว “จุยเฟิง เฟิงอู๋โยวอยู่ไหน”

จุยเฟิงมองหารอบๆ เช่นนั้น ก่อนจะส่ายหน้าตอบกลับ “วันนี้ช่วงกลางวันเกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่ตำหนักขอรับ กระหม่อมได้กำชับแม่ทัพเฟิงว่าให้รอกระหม่อมอยู่ตรงนี้อย่าไปไหน จากนั้นก็กระหม่อมก็พาคนไปดับไฟ บางทีแม่ทัพเฟิงอาจรีบร้อนกลับเรือนแพทย์ ไปก่อนก็เป็นได้ขอรับ”

“ไฟไหม้?”

จวินมั่วหรันขมวดคิ้วแน่น พลางถามเสียงขรึม “มีใครบาดเจ็บหรือไม่”

“ไม่มีขอรับ”

จุยเฟิงเงียบลงไปสักพักก่อนพูดขึ้นด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “แม่ทัพเฟิงได้สันนิษฐานไว้อย่างมีเหตุผลว่า วันนี้ไม่มีลม ดังนั้นเป็นเรื่องยากที่ไฟจะลามไหม้ไปทั่วตำหนักแบบนี้ ซึ่งภายในตำหนักมีเพียงที่เดียวที่ไฟไม่ไหม้ ซึ่งก็คือเรือนฟางฮว๋าขอรับ ส่วนเรือนอื่นๆ ล้วนมีไฟไหม้หมด”

จวินมั่วหรันใจเต้นแรง เขารีบเดินไปที่เรือนฟางฮว๋าทันที

เพิ่งจะก้าวเท้าเข้าเรือนฟางฮว๋าก็เห็นหรงชุ่ยวิ่งออกมาด้วยสีหน้าแตกตื่น

“ท่านใต้เท้า แย่แล้วเจ้าค่ะ! ท่านหญิงถูกแม่ทัพเฟิงรังแก”

จุยเฟิงที่ตามมาตกใจเป็นยิ่งนัก ครั้นแล้วจึงเอ่ยปากพูดอย่างกลุ้มใจ “แม่ทัพเฟิงมาที่ เรือนฟางฮว๋าได้เยี่ยงไร ทั้งที่ข้าเป็นคนกำชับเขาว่าห้ามออกห่างจากเรือนมั่วหรัน”

“ไปดูกัน”

จวินมั่วหรันในชุดว่าราชกิจรีบเดินเข้าไปในเรือนฟางฮว๋าทันที

แต่เมื่อจุยเฟิงกำลังจะเดินตามเข้าไป หรงชุ่ยกลับเข้ามาขวาง “ท่านชายจุยเฟิงได้โปรดรออยู่ตรงนี้ด้วยเจ้าค่ะ”

ช่วงนี้หรงชุ่ยถูกจวินฝูรังแกกดขี่บ่อยครั้งจนเข้าใจความรู้สึกของคนที่โดนลูกหลงเป็นอย่างดี

นางกลัวว่าจุยเฟิงจะพลอยโดนลูกหลงถูกลงโทษเนื่องจากเห็นสภาพอันน่าอับอายของจวินฝู ดังนั้นนางจึงรวบรวมความกล้าเข้ามาขวางเขาเอาไว้

จุยเฟิงเข้าใจขึ้นมาทันที ครั้นแล้วจึงกล่าวขอบคุณหรงชุ่ยอย่างอ่อนโยน

ท่ามกลางเรือนฟางฮว๋า จวินฝูร้องไห้สะอึกสะอื้นซุกอยู่คาอ้อมกอดของแม่นมหวางในสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ยไม่เป็นระเบียบ

ส่วนเฟิงอู๋โยวกลั นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะอย่างสบายใจ นางไม่มีทีท่าจะหนี สายตาจ้องมองจวินมั่วหรันที่เดินย้อนแสงแดดเข้ามาอย่างน่าเกรงขาม

ตอนที่ 151 เขาโกรธจัด

จวินมั่วหรันยืนแน่นิ่งไม่ขยับอยู่ด้านหน้าประตู ดวงตาเยือกเย็นดุจคมมีดอันไร้ความปราณี

เขาเหลือบมองจวินฝูในสภาพเสื้อผ้าหลุดรุ่ยและร้องไห้ไม่หยุด มวลความหงุดหงิดพลันปะทุขึ้นเข้มข้นกว่าเดิม

ไฟโทสะโหมกระพือขึ้นราวกับอุกกาบาต

“ก่อกวนจนพอใจหรือยัง”

เขาพยายามสะกดเส้นเลือดเขียวที่ปูดโปนขึ้นมาบนขมับ น้ำเสียงเย็นวาบฉับพลัน ในทุกๆ ท่วงท่าการเคลื่อนไหวสะท้อนแววน่าเกรงขามเยี่ยงราชาสวรรค์มาจุติ

จวินฝูร้องไห้สะอึกสะอื้น นางวิ่งออกมาจากอ้อมกอดแม่นมหวางไปสู่อ้อมกอดของจวินมั่วหรัน “ท่านพี่ต้องจัดการให้จวินฝูนะเจ้าคะ”

จวินมั่วหรันนิ่งเงียบ สายตาเฉียบคมเหลือบไปมองจวินฝูอยู่ครู่หนึ่งก่อนย้ายไปมองเฟิงอู๋โยวที่นั่งไขว่ห้างอยู่บนโต๊ะอย่างสบายใจ

เฟิงอู๋โยวถูกจวินมั่วหรันมองจนตัวแข็งทื่อ จากนั้นก็ค่อยๆ ลงจากโต๊ะอย่างสำรวม

เมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอันหนาวเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากตัวจวินมั่วหรัน จวินฝูก็ยิ่งได้ใจและราดน้ำมันใส่กองไฟเข้าไปอีก

นางรีบปลดผ้าคลุมไหล่ออกทันที จากนั้นก็ชี้นิ้วไปที่หมึกที่เฟิงอู๋โยวเขียนกลอนทิ้งไว้ทั่วร่างกาย นางพูดขึ้นพร้อมน้ำตา “ท่านพี่เจ้าคะ วันนี้เกิดเหตไฟไหม้ที่ตำหนัก เฟิงอู๋โยวอาศัยจังหวะนั้นบุกเข้าเรือนฟางฮว๋าและคิดจะกระทำชำเราฝูเอ๋อร์ ช่างน่ากลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ”

จวินมั่วหรันมองคำว่า ‘กินรากบัว’ ที่เขียนอยู่บนใบหน้าจวินฝู ภายในใจคิดว่านางในสภาพนี้ก็ดูขี้เหร่สมกับคำนี้จริงๆ

จากนั้นก็หลุบตาลงไปมองบริเวณหน้าอกที่ดำเป็นพรืด ก่อนละสายตาออกไปอย่างเงียบๆ

ดูเหมือนว่าน้องสาวคนนี้ของเขา นับวันจะยิ่งทำตัวหน้าไม่อายขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

“ใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อยเสีย”

“ท่านพี่ไม่สนใจความเป็นความตายของฝูเอ๋อร์จริงๆ หรือเจ้าคะ ท่านพี่รู้หรือไม่ว่าเฟิงอู๋โยวทำเรื่องเลวร้ายกับฝูเอ๋อร์แค่ไหน”

จวินฝูน้ำตาไหลพรากอาบใบหน้า นางไม่นึกว่าจวินมั่วหรันจะเย็นชาจนถึงขั้นนี้

จวินมั่วหรันเม้มปากไม่พูดอะไร สีหน้าเย็นเฉียบดั่งน้ำแข็ง ภายในใจนึกหงุดหงิด…ไฉนจวินฝูถึงไม่เป็นโล้เป็นพายได้ถึงขนาดนี้

“ท่านพี่ ดูนี่!”

นางหันหลังพลางรวบผมมาไว้ข้างหน้า เพื่อให้จวินมั่วหรันได้เห็นรอยแดงช้ำที่ถูกทุบตี

จวินมั่วหรันหรี่ตาลง ความสนใจทั้งหมดหาได้จดจ่ออยู่ที่รอยแดงช้ำบนแผ่นหลังนางไม่ แต่กลับจดจ้องอ่านกับบทกลอนที่เขียนอยู่ทั่วทั้งตัวนาง

สมควรตาย! เฟิงอู๋โยวช่างกล้าเขียนกลอนลงบนตัวสตรีลับหลังเขาแบบนี้

เขาโกรธจัดจนผลักจวินฝูออกไปให้พ้นทาง จากนั้นก็เดินมาด้านหน้าเฟิงอู๋โยว

เฟิงอู๋โยวจ้องมองไม่พูดอะไร สองมือประสานเข้าหากัน

นางรู้แล้วว่าจวินมั่วหรันเป็นคนที่มีนิสัยปปกป้องคนรักก่อนเป็นอันดับแรก ดังนั้นเขาจะต้องเข้าข้างจวินฝูแน่นอน

นางไม่ควรเดิมพันกับความน่าจะเป็นอันน้อยนิดแบบนี้

“ท่านใต้เท้า กระหม่อมคิดว่ากระหม่อมไม่ผิด แต่รอยแดงช้ำบนตัวของนางเกิดขึ้นจากฝีมือของกระหม่อมจริงๆ ทว่าเรื่องนี้กระหม่อมไม่ผิด”

เฟิงอู๋โยวก้มหน้าคล้ายเด็กสำนึกผิดพลางพูดอู้อี้ในลำคอ “ถ้าท่านหญิงจวินฝูไม่สั่งคนให้วางเพลิงในตำหนักแล้วล่อลวงกระหม่อมเข้ามาในเรือนฟางฮว๋า ซ้ำยังคิดจะรมควันธูปกำหนัดและต้องการจะใส่ร้ายป้ายสีให้กระหม่อม ไม่เช่นนั้นคงไม่มีเหตุผลอันใดที่จะทำให้กระกม่อมลงมือกับท่านหญิงเช่นนี้”

จวินฝูที่ได้ยินเช่นนั้นกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที

นางคุกเข่าลงแทบเท้าจวินมั่วหรัน สองมือเกาะชายเสื้อของเขาแน่น น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความหวาดกลัว “ท่านพี่อย่าไปเชื่อคำพูดเหลวไหลของเขานะเจ้าคะ เห็นๆ อยู่ว่าเขาอาศัยช่วงที่ไฟไหม้บุกเข้ามาเรือนฟางฮว๋าเพื่อรังแกฝูเอ๋อร์”

ตอนนี้กลิ่นธูปกำหนัดในเรือนฟางฮว๋าถูกกลิ่นธูปหอมชนิดอื่นกลับไปหมดแล้ว แต่เนื่องจากจวินมั่วหรันเป็นคนจมูกดี ดังนั้นเขาจึงยังได้กลิ่นอยู่

เขามองเฟิงอู๋โยวที่ดวงตาอัดแน่นไปด้วยความโกรธแค้นก่อนถามขึ้นเสียงขรึม “บาดเจ็บหรือไม่”

“บาดเจ็บทั้งตัวเลยเจ้าค่ะ! ฝูเอ๋อร์เจ็บเหลือเกิน!”

จวินฝูคิดว่าจวินมั่วหรันถามนาง ครั้นแล้วจึงได้ใจและพูดเสริมขึ้น “ท่านพี่เจ้าคะ เฟิงอู๋โยวคนนี้ไร้ประโยชน์! ตอนที่เขาเป็นแม่ทัพอยู่แคว้นเป่ยหลีก็คิดวางแผนลวนลามองค์หญิงหลีอินไปแล้วรอบหนึ่ง และวันนี้เขายังบังอาจใช้แผนการรูปแบบเดิมกับฝูเอ๋อร์อีก หากท่านพี่ไม่คิดจะทวงคืนความเป็นธรรมให้ฝูเอ๋อร์ เช่นนั้นฝูเอ๋อร์ขอตายเสียดีกว่า”

แม่นมหวางเห็นเช่นนั้นจึงรีบคุกเข่าอ้อนวอนลงต่อหน้าจวินมั่วหรันทันที

ร่างกายอ้วนท้วนของนางสั่นเทิ้มจากหลากหลายความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมา

“ขอท่านใต้เท้าโปรดเมตตาทวงคืนความเป็นธรรมให้แก่ท่านหญิงด้วยเจ้าค่ะ! เฟิงอู๋โยวบังอาจบุกเข้าเรือนฟางฮว๋าเพื่อกระทำการมิดีมิชอบกับท่านหญิงอย่างเอิกเกริกเช่นนี้ สมควรต้องโทษประหารเป็นอย่างยิ่งเจ้าค่ะ”

แม่นมหวางพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงยำเกรง จากนั้นก็คว้าจวินฝูเข้ามากอด ก่อนพูดขึ้นพร้อมน้ำตา “ท่านหญิงจวินฝูผู้น่าสงสารที่กำพร้าพ่อแม่ตั้งแต่วัยเยาว์ ไร้ที่พึ่งพิงยามทุกข์ยาก บัดนี้เคราะห์ซ้ำกรรมซัดยังมาถูกคนไร้หัวนอนปลายเท้ากระทำชำเราอีก โชคชะตาช่างเล่นตลกเหลือเกิน สวรรค์ช่างไร้ความเที่ยงธรรมกระไรเช่นนี้!”

คิ้วของจวินมั่วหรันร่นเข้าหากันเล็กน้อย เขาแทบอยากจะตบแม่นมหวางให้ตายคามือ ทำไมคนที่ เขาสนใจต้องถูกคนใกล้ตัวมุ่งร้ายแบบนี้ด้วย

เขามองเฟิงอู๋โยวที่ยืนอารมณ์เสียอยู่ เดิมทีเขาคิดอยากจะฆ่าแม่นมหวางแทนนางเสียตรงนี้

แต่ก็พอฉุกคิดได้ว่าไม่อยากให้เฟิงอู๋โยวกลัวตัวเองไปมากกว่านี้ และไม่อยากให้นางมีภาพจำตอนตัวเองลงมือฆ่าใครอย่างกระหายเลือด

หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง จวินมั่วหรันก็ปรับอารมณ์เป็นปกติ ก่อนเอ่ยถามอย่างอดทน “เฟิงอู๋โยว เจ้ามีอะไรจะพูดกับข้าหรือไม่”

ความหมายที่จวินมั่วหรันต้องการจะสื่อก็คือ…หากเจ้าอึดอัดทุกข์ใจเรื่องอะไร จงพูดออกมาให้หมด แล้วตัวเขาจะทวงคืนความเป็นธรรมให้นางเอง

แต่เฟิงอู๋โยวเข้าใจผิดคิดว่าจวินมั่วหรันจะลงมือฆ่าตัวนางและเปิดโอกาสให้นางได้ ‘สั่งเสีย’

นางกัดฟันกรอดพลางควักซองจดหมายสีชมพูออกมา จากนั้นก็ฉีกมันจนแหลกละเอียดต่อหน้าต่อตาจวินมั่วหรันทันที

“เมื่อเช้ายังบอกกับข้าว่า ‘จักไม่ทำให้ผิดหวัง ด้วยสัตย์ใจจริง ขอเจ้าจงมองเห็น’ แต่มาตอนนี้กลับไม่คิดจะถามที่มาที่ไป แล้งยังคิดจะเอาชีวิตข้าอีก…จวินมั่วหรัน เจ้ามันช่างน่าผิดหวังเสียจริง”

“…”

จวินมั่วหรันงงเป็นไก่ตาแตก เขามองซองจดหมายที่ตัวเองอุตส่าห์ใช้เวลาตั้งใจเขียนขอโทษนางด้วยมือตัวเองถูกฉีกไปต่อหน้าต่อตา แต่กระนั้นก็ไม่คิดจะดุด่าว่ากล่าวนางแต่อย่างใด

แต่กลับกัน ไม่คิดว่าเฟิงอู๋โยวจะกล้าแสดงอารมณ์เช่นนี้ออกมาต่อหน้าเขา

“ท่านพี่เจ้าคะ จัดการมันให้ฝูเอ๋อร์เลยเจ้าค่ะ!”

“ท่านใต้เท้าได้โปรดจัดการเขาเพื่อท่านหญิงจวินฝูด้วยเจ้าค่ะ! สตรีเลอโฉมล้ำค่าเช่นนี้จะถูกคนไม่มีหัวนอนปลายเท้ากลั่นแกล้งได้เยี่ยงไรเจ้าคะ”

จวินฝูกับแม่นมหวางพากันอาศัยจังหวะนี้ราดน้ำมันใส่กองไฟ

“ไสหัวไป”

จวินมั่วหรันมองจวินฝูในสภาพเสื้อผ้าหละหลวมไม่มิดชิด กับแม่นมหวางที่ปั้นหน้าเล่นละครอย่างน่ารังเกียจ ภายในใจยิ่งรู้สึกเห็นใจเฟิงอู๋โยวมากขึ้นกว่าเดิม

เฟิงอู๋โยวเข้าใจผิดอีกครั้ง คิดว่าจวินมั่วหรันกำลังไล่ตัวเองออกไป

นางก้มหน้าคอตกอย่างผิดหวัง ภายในใจรู้สึกรวดร้าวขึ้นมาอย่างแปลกประหลาด

แต่พอนึกขึ้นได้ว่าการที่จวินมั่วหรันไม่ฆ่านางให้ตายไปตรงนี้ก็ถือว่าเป็นบุญโขแล้ว

ครั้นแล้วนางจึงข่มความผิดหวังเศร้าสร้อยลงจากดวงตาของตัวเองก่อนขานรับ “เช่นนั้นข้าจะไสหัวออกไปเอง และข้าจะไม่สอนจุยเฟิงแล้ว ท่านใต้เท้าเตรียมเชิญอาจารย์คนอื่นมาสอนได้เลย”

“เฟิงอู๋โยว พอใจหรือยัง”

จวินมั่วหรันคว้าจับแขนเฟิงอู๋โยวอย่างหมดความอดทน น้ำเสียงปีศาจพราวเสน่ห์ดังขึ้น “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกรังแก แต่เจ้าช่วยคิดในมุมของข้าได้หรือไม่ ข้ารู้ว่าจวินฝูทำผิดครั้งใหญ่และข้าก็ไม่ได้พูดว่าจะไม่ลงโทษนาง เพียงแต่ข้าลงมืออย่างเหี้ยมโหดกับคนในครอบครัวตัวเองไม่ได้จริงๆ”

เฟิงอู๋โยวสมองดับลงทันที นางเหม่อลอยไม่ได้สติอยู่นาน

เขากำลังบอกว่า…เขาเข้าข้างข้างอย่างนั้นหรือ?!

เฟิงอู๋โยวกะพริบตาปริบๆ ก่อนพูดขึ้นเสียงอู้อี้ “ก็ท่านใต้เท้าเอาแต่ทำหน้าดุ กระหม่อมจะรู้ได้เยี่ยงไรว่าท่านคิดอไรอยู่ ท่านเกือบทำกระหม่อมกลัวเข้าให้จริงๆ แล้ว”

ตัวเขาดุอย่างนั้นหรือ

ตอนนี้จวินมั่วหรันไม่รู้ว่าตัวเองควรจะทำสีหน้าหรือวางตัวแบบไหนถึงจะทำให้เจ้าคนขี้น้อยใจคนนี้เชื่อว่าตัวเองไม่มีเจตนาทำร้ายนางตั้งแต่แรก

หัวใจของจวินฝูร่วงไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที นางมองเห็นความรู้สึกของจวินมั่วหรันที่มีต่อเฟิงอู๋โยวออกอย่างชัดเจน

แม่นมหวางส่งสายตาให้จวินฝู พลางขยับปากพูดไร้เสียง “ทุบหม้อข้าวจมเรือ[1] ตัดสินผลแพ้ชนะในคราวเดียว”

จวินฝูกำหมัดแน่นจนเล็บจิกเข้าเนื้อกลางฝ่ามือ ผ่านไปสักหนึ่งจึงตัดสินใจลงมือขึ้นอีกครั้ง

จวินฝูลุกขึ้นยืดตัวพลางจ้องมองเฟิงอู๋โยวที่ตัวสูงกว่านาง น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยขึ้น “เฟิงอู๋โยว แกกล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับอย่างนั้นหรือ”

เฟิงอู๋โยวไม่เข้าใจ เพราะนางเอ่ยปากยอมรับตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นคนลงมือทุบตีจวินฝู

แต่ไม่คิดไม่ฝันว่าจวินฝูว่าจะกระทำบางอย่างอย่างน่าไม่อายต่อหน้าเฟิงอู๋โยวและจวินมั่วหรันแบบนี้ นางถกกระโปรงที่เปรอะเปื้อนของตัวเองขึ้นมาและชี้นิ้วไปที่คราบเลือดสีแดงที่ไหลลงมาตามน่องขาด้านใน “เฟิงอู๋โยว แกยังเป็นลูกผู้ชายอยู่หรือไม่ กล้าทำแต่ไม่กล้ายอมรับอย่างนั้นหรือ ข้าไม่ใช่อีตัวตามหอนางโลมนะ! ในเมื่อแกกล้ากระทำการชั่วช้ากับข้าผู้นี้ ก็ต้องชดใช้ด้วยชีวิตแกท่านั้น”

จวินมั่วหรันคิดในใจ ต่อให้จวินฝูจะคลุ้มคลั่งสติหลุด แต่ก็ไม่น่าจะล้อเล่นกับเรื่องพรหมจรรย์ของตัวเอง ครั้นแล้วจึงเริ่มลังเลขึ้นมาเล็กน้อย

หรือว่าเฟิงอู๋โยวจะวางแผนเล่นงานจวินฝูจริงๆ

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินมั่วหรันก็ยิ่งอารมณ์ไม่ดีขึ้นเรื่อยๆ

เขาไม่ได้ปวดใจแทนจวินฝู เพราะเขามองออกมาว่าน้องสาวแท้ของตัวเองมีมารยาสาไถยแค่ไหน

เขาโกรธและผิดหวังในตัวเฟิงอู๋โยว

นับวันเจ้าหมอนี่เริ่มเหิมเกริมไร้การควบคุมขึ้นเรื่อยๆ

ขีดเขียนบนร่างกายสตรียังไม่พอ…ไม่คิดว่าจะกล้าลงมือทำถึงขนาดนี้จริงๆ!

จวินมั่วหรันพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นอีกครั้ง “เฟิงอู๋โยว เจ้าคิดจะอธิบายหรือไม่”

เฟิงอู๋โยวมองจวินฝูอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง จากนั้นก็เอ่ยขึ้นเสียงแผ่ว “ต้องทำถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันคุ้มค่าขนาดนั้นเชียวหรือ เพื่อใส่ร้ายเล่นงานข้า ถึงกับไม่สนใจพรหมจรรย์ของตัวเองเลยอย่างนั้นหรือ”

“หยุดปากมากได้แล้ว”

จวินฝูหน้าซีด เม็ดเหงื่อผุดเต็มหน้าผาก ท่าทางดูอิดโรยเป็นยิ่งนัก

เฟิงอู๋โยวแสยะยิ้มอย่างเย็นชา “ท่านหญิงลองอธิบายมาอย่างละเอียดได้หรือไม่ว่าข้ากระทำชำเราท่านด้วยวิธีไหน ข้าใช้ไม้กระบอง ใช่มือ หรือว่าใช้…เจ้านี่”

จวินฝูเหลือบมองไปตามนิ้วชี้ของเฟิงอู๋โยวก่อนจะละสายตาออกมาทันที “น่าไม่อาย”

“ท่านใต้เท้าจงเบิกตาดูให้ดีๆ! สภาพแบบนี้ของกระหม่อมจะกระทำชำเราท่านหญิงได้อย่างนั้นหรือ”

มืออันขาวนวลของเฟิงอู๋โยวยกขึ้นมาเลิกเสื้อของตัวเองขึ้น และยืนนิ่งต่อหน้าเขาอย่างไม่เกรงกลัวอีกต่อไป

[1] ทุบหม้อข้าวจมเรือ หมายถึงการตัดสินใจลงมือทำอะไรบางอย่างอย่างเด็ดขาด เมื่อตัดสินใจทำแล้ว ก็ต้องทำต่อไปให้ถึงที่สุด

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน