ตอนที่ 181 แข่งกันทุ่มเงิน
ท่ามกลางความงุนงงราวกับยืนอยู่ท่ามกลางสายหมอก กลิ่นคาวเลือดคลุ้งตลบ สายเลือดไหลหยดตามร่างกายไป๋หลี่เหอเจ๋อเต็มไปหมด
ลูกธนูแทงเข้ากระดูกจะไม่เจ็บได้เยี่ยงไร
ไป๋หลี่เหอเจ๋อนิ่งเงียบข่มความเจ็บปวด ใช้เพียงดวงตาใสวาวจ้องมองเฟิงอู๋โยวที่อยู่ใกล้เพียงแค่ศอก
มุมปากรั้งขึ้นเล็กน้อยราวกับไม่สนใจความเจ็บปวดที่แผ่ซ่านมาจากบาดแผลที่หน้าอก “อู๋โยวสะใจหรือยัง”
เฟิงอู๋โยวที่เห็นเช่นนั้นกลับรู้สึกหวั่นใจขึ้นมา
นางรู้ว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อเป็นคนใจร้าย แต่ไม่รู้ว่าเขาจะใจร้ายกับร่างกายตัวเองแบบนี้
ดวงตาจวินมั่วหรันฉายแววไม่สบอารมณ์ เขากังวลว่าเฟิงอู๋โยวจะหวั่นไหวกับการกระทำของไป๋หลี่เหอเจ๋อ
ก็แค่กลยุทธ์ทุกข์กายเพื่อเรียกร้องความสนใจไม่ใช่หรือ…เขาก็ทำได้เหมือนกัน
“เฟิงอู๋โยว ข้าเจ็บหน้าอก” จวินมั่วหรันยกมือกุมหน้าอกและทำท่าเจ็บ
เฟิงอู๋โยวรู้สึกว่านับวันเขายิ่งเอาแต่ใจขึ้นเรื่อยๆ เพิ่งใส่ยาทำแผลไปหยกๆ แล้วยังมาเรียกร้องความสนใจอีก
แต่กระนั้น การที่จวินมั่วหรันอยู่ในสภาพเช่นนี้ก็เพราะนาง ดังนั้นนางจำเป็นต้องเป็นห่วงและใส่ใจเขา
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็แสร้งทำท่าตกใจพร้อมกับขมวดคิ้ว พูดออกมาด้วยเสียงนุ่มนวล “ที่รัก เจ้าพอทนไหวหรือไม่”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตาลุกวาวรำไร เขามองทุกอย่างที่เกิดขึ้น
ไฟอิจฉาปะทุและโหมกระพือขึ้นในใจ
ก่อนหน้านี้หกปี การสังการฆ่าแกงอันไร้ความปราณีและไร้มนุษยธรรมตอนนั้น พรากทุกอย่างในชีวิตไปจากเขา
และจวินมั่วหรันที่เป็นตัวต้นเรื่องของเหตุการณ์ทั้งหมดหลังจากนั้นก็ยังมีชีวิตลอยหน้าลอยตามาจนถึงทุกวันนี้ ซ้ำยังได้ในสิ่งที่อยากได้อีก!
สวรรค์ช่างไม่ยุติธรรม!
ต่อมา เขาหักลูกธนูที่เสียบอยู่บริเวณระหว่างขาแถวๆ เป้ากางเกงของตัวเอง ก่อนเอ่ยเสียงเย็น “เฟิงอู๋โยว ข้าทำร้ายตัวเองเพื่อขอโทษยังไม่พออีกหรือ”
“เกรงว่าจะสายเกินไป ทั้งๆ ที่เจ้าอยู่ที่ศาลเจ้าหงเย่ในคืนที่มีการสังหารหมู่และเจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ใช่ฆาตกร แต่เจ้ากลับใส่ร้ายข้าอย่างน่าไม่อาย เจ้าไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ”
“ปวดใจ”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบโดยไม่ต้องคิด
เขารู้สึกผิดกับเฟิงอู๋โยวและอยากขอโทษจริงๆ
นางไม่เคยทำอะไรเขา แต่เขากลับถ่ายทอดความเกลียดชังที่มีต่อจวินมั่วหรันไปให้กับนาง
แต่ถึงกระนั้น
ต่อให้เขาได้รับโอกาสอีกครั้ง เขาก็จะยังคงทำผิดแบบเดิมซ้ำๆ และใช้นางเป็นเหยื่อล่ออย่างไม่ลังเล
เพราะเขามีชีวิตอยู่ก็เพื่อเป็นเครื่องมือของความแค้น
การแก้แค้นเป็นเพียงเป้าหมายเดียวในชีวิตของเขา
ฉึก!
ทันใดนั้น ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็แทงลูกธนูเปื้อนเลือดหน้าอกของเขาอีกครั้ง “เฟิงอู๋โยว เจ้าพอจะหายโกรธลงบ้างหรือไม่”
เขาพูดกึ่งจริงใจกึ่งโกหก
แม้แต่เขาเองก็เกือบจะคิดว่าเขาตกอยู่ในบ่วงแห่งความรักของเฟิงอู๋โยว
เฟิงอู๋โยวชำเลืองมองหน้าอกที่เปื้อนเลือดของไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างไม่เข้าใจ
“ความโกรธของข้ามันสำคัญกับเจ้าขนาดนั้นเชียวหรือ”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบเสียงแผ่ว “อืม”
“เจ้ากลับไปล้างตัวแล้วนอนเสีย ถ้าเจ็บแผลจนนอนไม่หลับก็ใช้ก้อนอิฐทุบหัวตัวเองให้สลบ”
แม้ว่าเฟิงอู๋โยวจะไม่ชอบการกระทำที่ผ่านมาของไป๋หลี่เหอเจ๋อ แต่นางก็ไม่ได้เกลียดเขาเข้ากระดูกดำและสามารถทนดูเขาตายไปต่อหน้าต่อตาได้
อันที่จริงการที่เขาแทงเข้าใส่ตัวเองแบบนี้ มันทำให้ความโกรธของนางคลายลงได้จริงๆ
สำหรับนาง เขาไม่ได้สำคัญอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย
เป็นเพราะไม่สำคัญ นางจึงไม่ได้ใส่ใจกับแผนการที่เขากำลังดำเนินการอยู่
จวินมั่วหรันรู้สึกอารมณ์ดีเป็นยิ่งนักเมื่อเห็นความพยายามอย่างสุดความสามารถของไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่เป็นผลกับเฟิงอู๋โยว
จี้มั่วจื่อเฉินถอดชุดคลุมแหยะๆ ออกและมองไป๋หลี่เหอเจ๋อที่ตกอยู่ในสถานการณ์น่าอึดอัดใจก็อดพูดเหน็บแนมขึ้นมาไม่ได้ “ในที่สุดท่านราชครูผู้มีจิตวิญญาณสูงส่งของเราก็ร่วงหล่นลงมาจากแท่นสรวงสวรรค์ มีวิมานในอากาศอันวิจิตรหรูหราของตัวเองแท้ๆ แต่ไม่อยู่ กลับมาอยู่ที่เรือนแพทย์พยากรณ์นี้ได้ มันเป็นเพราะอะไรกัน”
สายลมเย็นพัดโชย ใบไม้ปลายยอดร่วงโกร๋น
ชุดสีอ่อนขาดวิ่นทั่วตัวไป๋หลี่เหอเจ๋อ รูปร่างสูงโปร่งคล้ายก้านดอกหญ้าที่ปลิวไปตามแรงลม ส่อแววเจ็บป่วยดูแลน่าสงสาร หากใครเดินผ่านต่างก็ต้องอยากเข้ามาปลอบประโลมดวงวิญญาณของเขาเป็นแน่
แม้จวินมั่วหรันจะไม่ชินกับสภาพของไป๋หลี่เหอเจ๋อตอนอ่อนแอจนตรอก แต่ใบหน้าของไป๋หลี่เหอเจ๋ออาจดึงดูดความสนใจของเฟิงอู๋โยวก็เป็นได้
ครั้นแล้วจึงเข้ามายืนขวางข้างหน้าไป๋หลี่เหอเจ๋อ จากนั้นก็ใช้มือข้างหนึ่งกอดเอวเฟิงอู๋โยวไว้แน่น ก่อนแสร้งพูดอย่างอ่อนแรง “ขาของข้าไม่มีแรง ขอข้าพิงหน่อย”
เฟิงอู๋โยวเอือมระอา แบบนี้เขาเรียกว่าพิงเสียที่ไหน
เห็นๆ อยู่ว่ากอด!
จุยเฟิงเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มร่าขึ้นมา มือของเขาเอื้อมไปกอดเถี่ยโถ่ว แต่ดันอื้อมไปคว้าชิงหลวนมากอดแทน “เถี่ยโส่ว เจ้าตัวบางลงตั้งแต่เมื่อไหร่ น่าสัมผัสมากกว่าเหล่าหญิงสาวที่หอนางโลมอีก”
ชิงหลวนมองจุยเฟิงอย่างตกตะลึงและว้าวุ่นใจเป็นยิ่งนัก “จุยเฟิง…”
“หะ?”
จุยเฟิงก้มหน้าดู พบว่าเป็นชิงหลวนที่กำลังสะอื้นทำท่าจะร้องไห้
เขารีบปล่อยนางออกทันที และรีบพูดขึ้นอย่างตะกุกตะกัก “ขะ ขะ ขอ ขอโทษที”
ทันทีที่เฟิงอู๋โยวได้ยินชิงหลวนร้องไห้ก็รีบผลักจวินมั่วหรันออกไป และหันไปมองค้อนใส่จุยเฟิง “เจ้าจะทำอะไร”
“แม่ทัพเฟิง อย่าเข้าใจข้าผิด ข้าไม่ได้ทำอะไรแม่หญิงชิงหลวนจริงๆ แค่ชมนางว่ารูปร่างที่เพรียวบางของนางมีเสน่ห์มากกว่าเหล่าสาวสวยที่หอนางโลมก็เท่านั้น
เมื่อเห็นชิงหลวนร้องไห้ จุยเฟิงก็อธิบายไม่ออก
“เจ้านายเป็นแบบไหน ลูกน้องเป็นแบบนั้น”
เฟิงอู๋โยวลากจวินมั่วหรันเข้ามาด่าไปด้วย
จวินมั่วหรันมองเฟิงอู๋โยวและต้องการจะอธิบายว่าตัวเองไม่ใช่คนแบบเดียวกับจุยเฟิง แต่ทันใดนั้น ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็เริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้งและสามารถดึงดูดความสนใจของเฟิงอู๋โยวได้ในทันท
“หนึ่งแสน แลกกับการรักษาให้ข้า” ไป๋หลี่เหอเจ๋อหยิบเงินกระดาษหลายใบออกมาจากแขนเสื้อก่อนยื่นให้เฟิงอู๋โยวอย่างเคร่งขรึม
“เช่นนั้นก็เชิญเข้ามาข้างในได้เลย”
เฟิงอู๋โยวรับเงินกระดาษมา แววตาลุกวาวและพูดคุยกับไป๋หลี่เหอเจ๋อด้วยรอยยิ้ม
มุมปากไป๋หลี่เหอเจ๋อเกร็งกระตุกอย่างรุนแรง กลยุทธ์ทุกข์กายก่อนหน้านี้ใช้ไม่ได้ผล แล้วทำไมเขาต้องดันทุรังทำร้ายตัวเองให้เจ็บตัวแบบเสียเปล่าไปแบบนั้นด้วย
“หนึ่งล้าน ช่วยพาข้ากลับเข้าไปที่ห้องด้านใน”
จวินมั่วหรันชำเลืองมองไป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างดูถูกเหยียดหยาม เขาพร้อมจะทุ่มเงินมากกว่าสิบเท่าเพื่อแลกกับความสะใจ
คิดจะแข่งทุ่มเงินกับเขา แล้วเขาจะยอมได้เยี่ยงไร
“สองล้าน ให้ข้าค้างคืนอยู่ที่เรือนแพทย์หนึ่งคืน” ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ยอม
“ทั้งสองท่าน เชิญเข้าไปข้างในเลยขอรับ”
เฟิงอู๋โยวลืมความทุกข์ก่อนหน้านี้ไปเสียสนิท จับมือจวินมั่วหรันด้วยมือซ้ายและดึงแขนเสื้อของไป๋หลี่เหอเจ๋อด้วยมือขวา แต่ในใจตั้งใจจะโยนทั้งสองคนเข้าไปในห้องเดียวกัน
“เฟิงอู๋โยว อย่าให้มันมากนัก!”
จวินมั่วหรันโกรธมาก เขาไม่อยากแสดงความโกรธออกมา แต่มันโจนขึ้นมาถึงคอของเขาแล้ว หากปล่อยไว้แบบนี้ เขาอกแตกตายแน่นอน
“ท่านใต้เท้ามีปัญญาแค่นี้หรือ”
ในที่สุด ใบหน้าซีดเซียวของไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ดูแลผ่อนคลายขึ้นเล็กน้อย “อีกสักครู่ ตอนที่อู๋โยวรีกษาบาดแผลทายาให้กระหม่อม ถ้าท่านใต้เท้าพอมีเวลาก็สามารถช่วยอู๋โยวได้นะขอรับ กระหม่อมยังจ่ายค่ารักษาไหว”
“ห้ามรักษาให้เขา”
ดวงตาของจวินมั่วหรันลุ่มลึกขึ้น บรรยากาศรอบตัวเขาเย็นลงฉับพลัน ขืนเฟิงอู๋โยวยอมรับคำขอของไป๋หลี่เหอเจ๋อ เรือนแพทย์พยากรณ์แห่งนี้ต้องเกิดเหตุนองเลือดแน่นอน
เฟิงอู๋โยวตัวสั่นก่อนพยักหน้าซ้ำๆ “ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับท่านใต้เท้าเลยขอรับ”
“สามล้าน รักษาบาดแผลให้ข้า” ริมฝีปากบางๆ ของไป๋หลี่เหอเจ๋อเปล่งเสียงออกมาเบาๆ อีกครั้ง