ตอนที่ 182 การคุกคามจากราชครู
นางไม่อยากรักษาบาดแผลให้ไป๋หลี่เหอเจ๋อ แต่นางก็อยากได้เงินด้วยเช่นกัน
หลังจากไตรตรองถี่ถ้วน นางก็ลังเล คิดว่าควรโรยยาสลบผงใส่จวินมั่วหรันเพื่อทำให้เขาหมดสติไปชั่วขณะดีหรือไม่
หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บของไป๋หลี่เหอเจ๋อเสร็จและได้รับเงินสามล้านแล้ว นางค่อยแสร้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
อืม ตกลงแบบนี้แล้วกัน!
จี้มั่วจื่อเฉินที่อยู่ด้านหลัง มองพวกเขาทั้งสามคนร่วมวงพูดคุยกันก็โมโหขึ้น
ถ้าเขาตัวไม่เหม็นก็คงเข้าไปร่วมวงด้วยและกระแทกไป๋หลี่เหอเจ๋อให้ออกจากวงสนทนา
ภายในเรือนแพทย์
กลิ่นหอมจางๆ จากธูปหอมเจือในอากาศ เฟิงอู๋โยวยืนยิ้มร่าคั่นกลางระหว่างไป๋หลี่เหอเจ๋อกับจวินมั่วหรัน
สองคนไม่ใช่คนพูดจาว่านอนสอนง่าย
แต่มีจุดหนึ่งที่ทำเอานางพอใจเป็นอย่างมาก ซึ่งก็คือพวกเขาพร้อมจะทุ่มเงินสุดตัว!
ในเวลาสั้นๆ นางได้เงินจากไป๋หลี่เหอเจ๋อมาห้าล้านตำลึงเงิน สองล้านสำหรับที่พักและสามล้านสำหรับการรักษา
จวินมั่วหรันจ่ายน้อยกว่าก็จริง แต่การพาเขากลับตำหนักไม่ใช่งานที่เหนื่อยอะไร แค่พาไปส่งเฉยๆ แล้วได้เงินหนึ่งล้านตำลึงเงินมาอย่างไม่ลำบาก
“ฮ่าๆๆ อีกไม่นานข้าก็จะลืมตาอ้าปากได้แล้ว จากนั้นก็จะมีนางบำเรอรอบกาย”
ในหัวของเฟิงอู๋โยวตอนนี้เต็มไปด้วยภาพตัวนางที่กำลังยืนหัวเราะอย่างมีความสุขอยู่ท่ามกลางกองเงินกองทอง และนางมีความสุขมากจนยิ้มปากฉีกแทบจะถึงหู
แต่ใบหน้าของจวินมั่วหรันกลับมืดมนลงทันที เขาจินตนาการภาพที่เฟิงอู๋โยวมีนางบำเรอรายล้อมไม่ออก
ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่สนใจเพราะเขารู้อยู่แล้วว่าเฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิง ดังนั้น ไม่ว่านางจะพูดจาไร้สาระแค่ไหน เขาก็แค่แกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน
“เฟิงอู๋โยว ห้ามรักษาบาดแผลให้มัน”
จวินมั่วหรันเกลี้ยกล่อมนางด้วยน้ำเสียงอ่อนนุ่ม “เชื่อข้า ไม่ว่าเขาจะให้เจ้าเท่าไหร่ ข้าจะให้เจ้าเป็นสองเท่า”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบอย่างรวดเร็ว “ข้าให้สี่เท่า”
เฟิงอู๋โยวดูพวกเขาทั้งสองทำสงครามโดยการทุ่มถุงเงินใส่กันอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ปากที่ยิ้มอยู่ก็ถึงกับเกร็งกระตุก
นี่คือตัวอย่างของคำว่า นกปากซ่อมสู้กับหอย เฒ่าประมงได้ประโยชน์[1]
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดขึ้นเรื่อยๆ ถ้าทั้งคู่ไม่บาดเจ็บสาหัส พวกเขาคงไม่ใช้แค่วิธีนี้สู้กันเพียงวิธีเดียวแน่
ไม่นาน ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ตระหนักว่าอาการบาดเจ็บของตัวไม่สามารถปล่อยไว้แบบนี้ต่อไปได้ ครั้นแล้วจึงพูดแทรกขึ้นมาอย่างเด็ดขาด “เฟิงอู๋โยว ข้าจะเข้าไปรอเจ้าอยู่ในห้องรักษา”
“เขาไม่ตามเจ้าไปหรอก”
จวินมั่วหรันปฏิเสธคำขออันไร้เหตุผลของไป๋หลี่เหอเจ๋อแทนเฟิงอู๋โยวทันที
ไป๋หลี่เหอเจ๋อยืนอยู่ที่ประตู เขาเหลือบมองเฟิงอู๋โยวที่อยู่ข้างๆ จวินมั่วหรัน
“จะมาหรือไม่มาเจ้าตัดสินใจเอง แต่ขอเตือนเอาไว้ก่อน ถ้าเจ้าไม่มา เจ้าจะรับผลที่ตามมาหลังจากนี้ไม่ไหวแน่นอน”
เมื่อเฟิงอู๋โยวได้ยินเช่นนั้นเปลือกตาก็กระตุกอย่างแรง นางลังเลเป็นยิ่งนัก
นางกลัวว่าครั้งนี้ไป๋หลี่เหอเจ๋อจะวางแผนชั่วเล่นงานนางกับจวินมั่วหรันอีกครั้ง ดังนั้นนางจึงกัดฟันควักเงินออกมาอย่างไม่เต็มใจและคืนให้ไป๋หลี่เหอเจ๋อไป “ก็แค่สูญเสียเงินห้าล้าน ข้าคิดว่าข้ายอมรับได้”
เนื่องจากไป๋หลี่เหอเจ๋อเสียเลือดมาก อารมณ์ของเขาจึงไม่คงที่
ทันใดนั้น แววตาของเขาฉายแววเหี้ยมโหดขึ้นมา เขากัดฟันพูดขึ้น “ข้าลืมบอกเจ้าอย่างหนึ่ง ข้าพบสมบัติล้ำค่าของเจ้าชิ้นหนึ่งในวันที่ข้านำเจ้ากลับไปที่เรือนจื่อหยาง หากเจ้าไม่รับเงินก้อนนี้ ข้าก็ยินดีที่จะแสดงสมบัติล้ำค่าของเจ้าชิ้นนั้นให้ประชาชนทั่วทั้งห้าแคว้นได้เห็น”
เมื่อสัมผัสได้ว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อกำลังขู่คุกคามขึ้นอีกครั้ง เฟิงอู๋โยวก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
แต่เมื่อดวงตาอันเฉียบคมของนางสบเข้ากับดวงตาของไป๋หลี่เหอเจ๋อ ความโกรธในใจก็ถูกแทนที่ด้วยความกลัวทันที
หรือว่าหลังจากที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อทำให้นางหมดสติไปในวันนั้น เขาได้กระทำบางอย่างกับนาง บางอย่างที่ไม่สามารถพูดในที่แจ้งได้
เนื่องจากตอนนั้นนางหมดสติไปทำให้ไม่รู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ห้วงความทรงจำที่ขาดหายไปท่อนนี้ทำให้นางไม่สบายใจเป็นที่สุด
จวินมั่วหรันมองเฟิงอู๋โยวด้วยสายตาลุ่มลึกพร้อมกับถามเสียงขรึม “เกิดอะไรขึ้น”
“ไม่มีอะไร”
เฟิงอู๋โยวตอบกลับในทันใด อยู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีก้อนหินขนาดใหญ่ทับหน้าอกอยู่ ทำเอานางอึดอัดจนแทบหายใจไม่ออก
เมื่อไป๋หลี่เหอเจ๋อเดินออกไปนางก็มองไปที่จวินมั่วหรันด้วยแววตาเสียใจ จากนั้นก็สะบัดชายแขนเสื้อพร้อมโปรยผงยาสลบที่อยู่ใต้แขนเสื้อใส่บริเวณใบหน้าของเขา
รูม่านตาของจวินมั่วหรันหดตัวลงเล็กน้อย ความขุ่นเคืองปรากฏขึ้นในดวงตา
เขาเชื่อนางอย่างหมดใจ แต่นางกลับทำให้เขาผิดหวังเป็นอย่างมาก!
“ให้กระหม่อมช่วยพยุงท่านไปนอนพักผ่อนที่เตียงสักพักเป็นเยี่ยงไร”
รอยยิ้มขมขื่นปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟิงอู๋โยว นางพยายามพยุงร่างที่หมดสติของจวินมั่วหรันไปวางลงบนเตียง เมื่อจัดแจงเสร็จก็รีบตามไปห้องข้างๆ ทันที
นางใจร้อนอยากรู้ว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อทำอะไรกับนางในวันนั้น
ก๊อกๆๆ
ทันทีที่เฟิงอู๋โยวเคาะประตูห้องข้างๆ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็รีบลากนางเข้าไปในห้องทันที
ปึ้ง!
เขาปิดประตูใส่กลอน ดวงตาสีดำกวาดมองเฟิงอู๋โยว
ดูเหมือนนางกำลังหวาดกลัว
แต่นี่ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายสำหรับเขา
รอยยิ้มชั่วร้ายปรากฏขึ้นบนใบหน้าขาวซีดของไป๋หลี่เหอเจ๋อ “บอกข้าที เจ้าขึ้นเป็นผู้บัญชาการทหารระดับสามของกองทัพเป่ยหลีได้เยี่ยงไร”
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว วันนั้นเจ้าทำอะไรกับข้าไปบ้าง”
เฟิงอู๋โยวจ้องมองเขาอย่างระวังตัว สองมือพลันกำหมัดแน่น
“เจ้าอยากรู้อย่างนั้นหรือ”
“ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด”
เฟิงอู๋โยวกระวนกระวายใจยิ่งนัก ขณะกำลังจะหันหลังกลับและรีบออกไป ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็เข้ามาขวางที่ประตู
“จะไปไหน ยังไม่ได้รักษาให้ข้าก็จะไปแล้วหรือ” รอยยิ้มของไป๋หลี่เหอเจ๋อฉายแววนึกสนุกขึ้นที่มุมปากทันที
[1] นกปากซ่อมสู้กับหอย เฒ่าประมงได้ประโยชน์ หมายถึงสองฝ่ายที่ต่อสู้กันต่างไม่ได้รับผลประโยชน์ แต่กลับให้ฝ่ายที่สามกอบโกยผลประโยชน์ไป