ตอนที่ 189 ชุดสตรี
“เจ้า!”
เฟิงอู๋โยวหายใจแรง มือกำหมัดแน่นแล้วชกไปที่แก้มของไปป๋หลี่เหอเจ๋อ
ไป๋หลี่เหอเจ๋อหันหลังไปและปล่อยให้กำปั้นของเฟิงอู๋วโยวชกใส่ที่ท้ายทอย เขาไม่คิดจะสู้กลับแต่อย่างได้
“ข้าเอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาให้เจ้าแล้ว เจ้าห้ามแสดงกำพืดของตัวเองออกมาเมื่ออยู่ต่อหน้าข้า”
“…”
หากดวงตาสามารถฆ่าคนได้ ไป๋หลี่เหอเจ๋อคงถูกยิงด้วยสายตาอันแหลมคมของเฟิงอู๋โยวไปแล้ว หลายพันครั้ง
“ไป๋หลี่เหอเจ๋อ เจ้าไม่คิดว่าตัวเองทำตัวน่ารังเกียจเกินไปหรือ”
“หากเจ้าว่าข้าน่ารังเกียจแค่ไหน ข้าจะจัดการเจ้าตรงนี้เสีย”
เขาไม่หันกลับมาแต่อย่างใด ทันทีที่พูดจบก็รีบออกจากห้องลับนี้ไปโดยไม่หันหลังกลับมา
เฟิงอู๋โยวคิดในใจว่า ก่อนหน้านี้ไปป๋หลี่เหอเจ๋อถูกลูกธนูยิง ต่อมาถูกปาแจกันใส่ แม้ว่าเขาไม่ร้องสักคำ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกายที่บาดเจ็บของเขาจะทำงานได้ตามปกติ
ดังนั้นนางจึงไม่กังวลว่าเขาจะเล่นงานนางตามที่พูดได้
นางแค่ว้าวุ่นใจเท่านั้น
เพราะอยู่ๆ ก็ถูกเขากระชากเสื้อผ้าออกแบบนี้
หากมีโอกาสเอาคืน นางอยากระบายความโกรธโดยการจับเขาถลกหนังให้รู้แล้วรู้รอด
เอี๊ยด
ไม่นาน ประตูห้องลับก็แง้มเปิดออก
ไป๋หลี่เหอเจ๋อไม่ได้เข้ามาในห้อง เขาแค่ยื่นกองเสื้อผ้าเข้ามาก่อนปิดประตูลง
เฟิงอู๋โยวเหลือบมองชุดกระโปรงผ้าโปร่งสีชมพูอ่อนที่ประตู นางคิดว่าชุดแบบนี้เหมาะผู้หญิงอย่างจวินฝูหรือไม่ก็ฉู่อีอีมากกว่า ชุดแบบนี้ไม่มีทางขับความสวยงามแต่แข็งกร้าวของนางออกมาได้อย่างแน่นอน
แต่ในสถานการณ์เช่นนี้ มีเสื้อผ้าใส่ก็บุญหัวแล้ว ตอนนี้นางเลือกได้เสียที่ไหน
ครั้นหายใจเข้าลึกๆ หนึ่งเฮือกก็วิ่งไปที่ประตูห้องและหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาใส่
นอกห้องลับ ฟู่เย่เฉินถูมืออย่างเฝ้าลุ้น “แม้ว่าเฟิงอู๋โยวจะก้าวร้าว แต่รูปร่างหน้าตาของนางก็ช่างสวยงาม ถ้าสวมเสื้อผ้าผู้หญิง นางจะต้องสวยเหมือนนางฟ้าแน่นอน”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ตั้งตารอเช่นกัน แต่เมื่อเห็นว่าฟู่เย่เฉินหน้าแดงเพราะความตื่นเต้นเดินไปมาเขาก็แอบไม่พอใจขึ้น “อาเฉิน นางเป็นของข้า”
“เจ้าไม่เคยทำเรื่องอย่างว่ากับนางไม่ใช่หรือ ไฉนนางถึงเป็นของเจ้าได้”
ฟู่เย่เฉินเก็บอารมณ์ไม่อยู่ แววไม่พอใจซ่อนอยู่ในดวงตาของของเขา “อาเจ๋อ แตงที่ฝืนเด็ดจากต้นย่อมไม่หวาน”
“เจ้าคิดว่าตัวเองดีแค่ไหนในสายตานาง…หึ! อย่างน้อยข้าก็ไม่เคยตบตีนาง เจ้าเคยตบหน้านางไปแล้วไม่ใช่หรือ”
“การตบของข้าไม่แรงเท่าคำพูดของเจ้า เพราะคำพูดของเจ้าทำให้หญิงสาวที่แข็งแกร่งราวกับเหล็กกล้าถึงกับต้องหลั่งน้ำตาออกมา” ฟู่เย่เฉินโต้เถียงด้วยเหตุผล
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น ฟู่เย่เฉินก็นึกเสียใจขึ้นมา เพราะคิดว่าตัวเองพลาดแล้วที่พลั้งปากพูดเรื่องจริงของเฟิงอู๋โยวออกไป
ฟู่เย่เฉินผู้ที่ไม่เคยทะเลาะกับเขาเลยในช่วงหกปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้กลับเถียงคอเป็นเอ็นเพื่อแย่งชิงเฟิงอู๋โยวกับเขา
ก๊อกๆๆ
เสียงเคาะประตูอย่างเร่งรีบ ได้ทำลายบรรยากาศแปลกประหลาดระหว่างไป๋หลี่เหอเจ๋อและฟู่เย่เฉินลง
“นายท่านเจ้าคะ เซ่อเจิ้งหวางพกกระบี่บุกเข้ามาที่เรือนเจ้าค่ะ”
ได้ยินเช่นนั้น ไปป๋หลี่เหอเจ๋อกับฟู่เย่เฉินก็มองหน้ากัน
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ฟู่เย่เฉินก็เป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “เจ้าเข้าไปซ่อนในห้องลับก่อน เดี๋ยวข้าจัดการกับเขาเอง”
“อืม”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบเสียงทุ้ม ก่อนเคาะประตูห้องลับเบาๆ “เจ้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้วหรือยัง”
ฟู่เย่เฉินส่ายหัวและพูดประชด “เจ้ากระชากเสื้อผ้าของนางกับมือแท้ๆ แล้วมาเสแสร้งเป็นสุภาพบุรุษในตอนนี้เนี่ยนะ”
“มันใช่ธุระของเจ้าหรือ”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตอบอย่างเฉยเมย หัวใจของเขาเต้นรัวราวกับกลองลั่น เมื่อคิดว่าจะได้เห็นเฟิงอู๋โยวในชุดสตรี
ฟู่เย่เฉินไม่ตอบ เพียงแค่หยิบขวดแก้วออกมาจากแขนเสื้อแล้วโรยแป้งหอมไปทั่วบริเวณ
แม้ว่าห้องความลับของเขาจะมิดชิดเป็นอย่างมาก จนจวินมั่วหรันไม่มีทางค้นหามันเจอในเวลาอันสั้นแน่นอน
แต่เขาไม่อาจประเมินศัตรูต่ำไป หลังจากที่ไป๋หลี่เหอเจ๋อเข้าไปในห้องลับแล้ว เขาก็เทแป้งหอมเพื่อกำจัดกลิ่นของเฟิงอู๋โยวทันที
ในห้องลับ เฟิงอู๋โยวที่เพิ่งเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าผู้หญิงเสร็จ ยกมือกุมหน้าอกอย่างอึดอัดใจ นางจ้องมองไป๋หลี่เหอเจ๋อที่เพิ่งเข้ามาอีกครั้ง
ไป๋หลี่เหอเจ๋อจ้องมองเฟิงอู๋โยวที่สวยงามดุจดูนางฟ้า วูบหนึ่งเขารู้สึกราวกับว่าตัวเองเข้าห้องผิด
เฟิงอู๋โยวอายจนโมโหขึ้นมา ก่อนพูดออกไปด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ “ไอ้สารเลวไป๋หลี่ หยุดจ้องข้าด้วยสายตาลามกแบบนี้ได้หรือไม่”
“เอ่อ…”
เมื่อได้ยินเสียงคล้ายกระดิ่งเตือนดังขึ้น และแล้วไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ตั้งสติกลับมาตระหนักได้ว่าผู้หญิงดวงตาใสวาว ผิวขาวราวกับหิมะ ใบหน้าเจือลักยิ้มสองข้างที่แก้มคือเฟิงอู๋โยวตัวจริงๆ
นัยน์ตาของเขาค่อยๆ ลุ่มลึกลงเรื่อย ๆ แล้วเลื่อนสายลงมาจากปากเรียวบางของนาง
ด้วยรูปร่างสูงเพรียวของนาง แม้อยู่ในชุดกระโปร่งธรรมดา นางก็ยังดูสวยงามโดดเด่นเป็นที่สุด
ไป๋หลี่เหอเจ๋อก้าวไปข้างหน้าและมัดมือนางไว้ด้านหลังทันที เขาลดเสียงลงและกระซิบข้างหูนาง “เงียบๆ ถ้าไม่อยากให้จวินมั่วหรันรู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิงแท้ๆ ก็อย่าส่งเสียง”
หัวใจของเฟิงอู๋โยวเต้นเร็วขึ้นเมื่อรู้ว่าจวินมั่วหรันตามหานาง
เพียงแต่เขาจะยอมรับสภาพของนางในปัจจุบันนี้ได้หรือไม่
ภายในใจของเฟิงอู๋โยวรู้สึกปั่นป่วนเป็นที่สุด นางไม่สนใจไป๋หลี่เหอเจ๋อที่อยู่ใกล้เพียงไม่ถึงคืบ และเงี่ยหูฟังเพียงเสียงความเคลื่อนไหวด้านนอกห้องลับ
ปึ่ง!
จวินมั่วหรันเตะเปิดประตูห้องนอนของฟู่เย่เฉินเข้ามา ดวงตาอันเฉียบคมดุจเหยี่ยว จ้องไปที่ฟู่เย่เฉินที่นั่งอ่านหนังสืออยู่หน้าโต๊ะ
ฟู่เย่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แววความสนใจผุดขึ้นมาในดวงตาของเขา “ท่านใต้เท้า บุกรุกเข้าเรือนขุนนางคนสำคัญแบบนี้ ควรต้องโทษแบบไหนหรือขอรับ”
จุยเฟิงก้าวไปข้างหน้า “โปรดให้ความร่วมมือในการค้นหา”
“หาอะไร”
ฟู่เย่เฉินยืนขึ้นช้าๆ และเผชิญหน้ากับดวงตาอันเฉียบคมของจวินมั่วหรันอย่างท้าทาย
จวินมั่วหรันยื่นมือข้างหนึ่งออกไปบีบคอ น้ำเสียงเย็นชาราวกับจอมมารของขุมนรกดังขึ้น เฟิงอู๋โยวอยู่ที่ไหน”
“เขาอยู่ไหน ท่านควรถามตัวเองมากกว่าไม่ใช่หรือ”
ในห้องลับ เฟิงอู๋โยวได้ยินเสียงจวินมั่วหรัน ดวงตาของนางพลันฉายแววดีใจขึ้นทันที
นางไม่สนใจว่าตอนนี้ตัวเองกำลังสวมเสื้อผ้าของผู้หญิงอยู่ และขณะกำลังจะร้องขอความช่วยเหลือ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ยกมือขึ้นปิดปากทันที “อยากเจอเขาจนทนรอไม่ไหวเลยเช่นนั้นหรือ”
เฟิงอู๋โยวมองไปป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างเคียดแค้น มือทั้งสองข้างที่ถูกจับมัดไพล่หลังพยายามเอื้อมไปปัดแจกันลายครามข้างๆ ให้ร่วงหลนลงพื้น
ขอแค่แจกันส่งเสียงแตก ไม่ว่าห้องลับจะเก็บเสียงดีแค่ไหนก็ไม่มีทางรอดพ้นหูที่ดีกว่าคนทั่วไปของจวินมั่วหรันไปได้
เมื่อเห็นเฟิงอู๋โยวนิ่งเงียบ ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็พูดอย่างประชดประชัน “เจ้าคิดว่าเขาจะชอบเจ้าในชุดผู้หญิงหรือไม่ พูดตามตรง ผู้ชายทุกคนในโลกก็เหมือนกัน แม้ว่าเจ้าจะสวยราวกับนางฟ้ามากแค่ไหน เมื่อพบว่าเจ้าไม่สะอาด ความชอบก็จะลดลงในทันที”
เฟิงอู๋โยวมองไปป๋หลี่เหอเจ๋ออย่างแปลกใจ ทำไมเขาถึงพูดราวกับว่าผู้ชายทุกคนในโลกนี้เหมือนสัตว์ก็ไม่ปาน
การไม่ชอบใครสักคนหมายถึงการยอมทุกอย่างเกี่ยวกับคนๆ หนึ่งอย่างไม่มีข้อแม้ไม่ใช่หรือ
แม้จะไม่เห็นด้วยกับคำพูดของไป๋หลี่เหอเจ๋อ แต่ภายในใจกลับเริ่มคิดแทนในมุมของจวินมั่วหรัน
แต่ต่อให้จวินมั่วหรันจะพูดเองกับปากว่าเขาไม่สนใจอดีตของนาง แต่ลึกๆ ภายในใจของนางกลับกลัวว่าจวินมั่วหรันจะทำไม่ได้อย่างที่บอก