ตอนที่ 194 ความช่วยเหลือ
ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน ฟู่เย่เฉินในสภาพสะลึมสะลือผมเผ้ายุ่งเหยิงก็เข้ามาได้ทันเวลาพอดี
“อาเจ๋อ เจ้าอย่าได้ทำเกินเหตุเกินไป! อู๋โยวยังเด็ก ดื้อซนเป็นบางครั้ง เจ้าก็อย่าได้ถือสาไปเลย” ฟู่เย่เฉินเข้ามาขว้างด้านหน้าไป๋หลี่เหอเจ๋อ และกระชากแขนอันกำยำของเขาที่บีบคอเฟิงอู๋โยวอยู่
“ไปให้พ้น”
ฟู่เย่เฉินไม่สนใจความโกรธของไป๋หลี่เหอเจ๋อแม้แต่น้อย เขานั่งลงข้างๆ ไป๋หลี่เหอเจ๋อใบหน้ายิ้มแย้มและพูดเตือนเขาด้วยความหวังดี “บุรุษย่อมกระทำสิ่งที่พึงกระทำและย่อมเลี่ยงสิ่งไม่พึงกระทำ แม้จะโกรธก็ไม่ควรระบายอารมณ์ใส่ผู้หญิง เจ้าจงเบิกตาให้กว้างและมองที่คอของอู๋โยวให้ดี ถูกเจ้าบีบจนเป็นรอยแดงช้ำหมดแล้ว อย่าลืมเหลือบไปมองที่ข้อมือนางด้วย ช้ำเขียวเช่นกัน! เจ้ามักจะทำร้ายนางตอนที่ควบคุมตัวเอง คิดว่านางจะรู้สึกดีกับเจ้าอย่างนั้นหรือ”
เฟิงอู๋โยวพยักหน้าตาม นางคิดไม่ถึงว่าฟู่เย่เฉินจะคิดแทนนางในช่วงเวลาแบบนี้
ก่อนหน้านี้ ฟู่เย่เฉินเพิ่งจะลงมือกับนางไปเองแท้ๆ ตบหน้านางอย่างหนักจนแก้มแทบหลุด
นึกไม่ถึงว่าท่าทีของฟู่เย่เฉินที่มีต่อนางจะเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้
เมื่อไป๋หลี่เหอเจ๋อเห็นว่าฟู่เย่เฉินพยายามพูดเอาใจเฟิงอู๋โยวอย่างหนัก ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาจนพูดไม่ออก
หากรู้ว่าฟู่เย่เฉินเป็นพวกเห็นผู้หญิงดีกว่ามิตรภาพตั้งแต่แรก เขาไม่มีทางปากพล่อยเผลอบอกความจริงกับฟู่เย่เฉินว่าเฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิงแน่นอน
“อาเจ๋อ ถือว่าเห็นแก่ข้า หยุดรังแกนางได้แล้ว”
“ข้ารังแกนางตอนไหน”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตระหนักได้ว่าฟู่เย่เฉินกำลังวางแผนที่จะแย่งเฟิงอู๋โยวไป เขาจึงโกรธมากจนอยากจะพาตัวนางหนีไปต่อหน้าต่อหน้าฟู่เย่เฉินให้รู้แล้วรู้รอด ดูสิว่าฟู่เย่เฉินจะทำเยี่ยงไร
เมื่อฟู่เย่เฉินเห็นเช่นนั้นก็คลี่ยิ้มออกมาและเปลี่ยนเรื่องคุยอย่างชาญฉลาด “การที่เจ้าและข้าอยู่ในสงครามกัน มีแต่จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ยืนดูเท่านั้น จากข้อมูลที่สายสืบของข้ารายงานมา ดูเหมือนจวินมั่วหรันจะใช้เงินจำนวนมากจ้างนักฆ่าอันดับต้นๆ ทั่วใต้หล้ามา และทั้งเมืองตอนนี้ก็มีเหล่านักฆ่ามืออาชีพกำลังค้นหาร่องรอยของเฟิงอู๋โยวอยู่เต็มไปหมด บางทีอีกไม่กี่ชั่วยาม พวกเขาคงตามมาถึงที่นี่อีกครั้ง”
ทันทีที่ฟู่เย่เฉินบอกว่าจวินมั่วหรันใช้เงินจำนวนมากเพื่อตามหานาง เฟิงอู๋โยวก็ขมวดคิ้วขึ้นมาอย่างรู้สึกปวดใจ
จวินมั่วหรันช่างโง่เขลา ทำไมเขาถึงใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้!
เขาไม่รู้หรือว่าการหาเงินไม่ใช่เรื่องง่าย และควรประหยัดและเก็บมันไว้เพื่อยามไม่มี
ไป๋หลี่เหอเจ๋อตระหนักถึงความอันตรายได้ทันที เขาลุกขึ้นยืนและเอ่ยเสียงเย็นชา “ข้าจะไปพบกับเจ้าสำนักนักฆ่าเดี๋ยวนี้”
“ไปสิ”
ฟู่เย่เฉินโบกมือไล่เขาก่อนพูดขึ้นเสริม “ไม่ต้องกังวลเรื่องเฟิงอู๋โยว มีข้าอยู่ทั้งคน”
ไป๋หลี่เหอเจ๋อจนปัญญา เป็นเพราะปีศาจจอมเจ้าเล่ห์อย่างฟู่เย่เฉินอยู่ข้างๆ เฟิงอู๋โยวแบบนี้ เขาถึงต้องยิ่งกังวลว่าเฟิงอู๋โยวจะถูกฟู่เย่เฉินหลอกเข้า
นิ่งขรึมลงไปครู่หนึ่ง ไป๋หลี่เหอเจ๋อก็ค่อยๆ พูดขึ้น “เฟิงอู๋โยว ข้าจะให้เวลาเจ้าสามวันเพื่อเตรียมตัว หลังจากนั้นข้าจะแต่งเจ้าเข้าเรือน”
“…”
เฟิงอู๋โยวถึงกับนิ่งอึ้ง นี่ไป๋หลี่เหอเจ๋อเป็นบ้าไปแล้วหรือ
ไม่นานก่อนหน้านี้ ข้ายังจะบีบคอนางให้ตายอยู่เลย
ตอนนี้กลับจะมาแต่งงานเข้าเรือน!
“ไม่ต้องกลัว หากเจ้าไม่อยากแต่ง เขาก็บังคับเจ้าไม่ได้อยู่ดี” ฟู่เย่เฉินพูดปลอบเฟิงอู๋โยว
หลังจากเขารู้ว่าเฟิงอู๋โยวเป็นผู้หญิง ใจเขาก็อ่อนลงไปมาก
เฟิงอู๋โยวยกมือขึ้นจับแก้มทั้งสองข้างของตัวเอง สีหน้าซีดขาวราวกับหิมะทันที
เมื่อรู้ว่าจวินมั่วหรันเสียเงินตามหานางเป็นจำนวนเงินมหาศาล นางก็โกรธจนตัวสั่น
ทำไมเขาช่างไม่รู้จักประหยัดถึงขนาดนี้ แค่เสียเงินเลี้ยงสุนัขสักสองสามตัวก็ได้ไม่ใช่หรือ ทำไมต้องเสียเงินไปกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง
ถ้าเหล่านักฆ่าจากสำนักนักฆ่าชื่อดังตามหานางเจอ แบบนี้จวินมั่วหรันจะไม่กลายเป็นยาจกอย่างนั้นหรือ
ถึงตอนนั้น ดีไม่ดีนางอาจจะต้องเป็นฝ่ายเลี้ยงดูเขา!
“ฟู่เย่เฉิน นักฆ่าฝีมือดีพวกนั้นเก่งหรือไม่”
เฟิงอู๋โยวหันหน้าไปถามฟู่เย่เฉินเสียงแผ่ว
“อืม สำนักนักฆ่านี้มือ ชื่อว่าสำนักหนึ่งอนันต์ เป็นสำนักนักฆ่าอันดับหนึ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในใต้หล้านี้ โดยมีสำนักหลักตั้งแอยู่ที่แคว้นตงหลิน ส่วนอีกสี่แคว้นที่เหลือเป็นเพียงสำนักย่อย”
ฟู่เย่เฉินอธิบายพลางถามนาง “เฟิงอู๋โยว เจ้าความจำเสื่อมใช่หรือไม่ ไฉนถึงไม่รู้จักสำนักหนึ่งอนันต์”
“ข้าไม่ชอบจำเรื่องที่ไม่สำคัญ”
ฟู่เย่เฉินได้ยินเช่นนั้นก็เชื่อคำพูดของนางอย่างไม่สงสัย
เขาพยักหน้าอย่างหนักแน่นก่อนพูดเสริม “เจ้าสำนักหนึ่งอนันต์นั้นลึกลับมาก ไม่เคยมีใครเคยเห็นหน้าเขามาก่อน แต่เป็นที่รู้กันไปทั่วว่าเจ้าสำนักหนึ่งอนันต์เป็นผู้หญิง”
ผู้หญิง?
เฟิงอู๋โยวได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกหวาดระแวงขึ้นมาทันที
ถึงว่า มีที่ไหนที่จวินมั่วหรันจะยอมเสียเงินจำนวนมหาศาลเพื่อตามหานางขนาดนั้น!
ไม่แน่เขาอาจจะไม่ได้เสียเงินสักแดงก็เป็นได้ ก็แค่หลับนอนกับเจ้าสำนักหนึ่งอนันต์นั้นก็เป็นอันบรรลุเป้าหมายแล้ว!
“น่าโมโหชะมัด เจ้าหมา!”
เฟิงอู๋โยวตบเข้าไปที่หน้าขาฟู่เย่เฉินทันที ทำเอาเขาเจ็บจนต้องกัดฟันข่ม
“เป็นอะไร”
“ไม่มีอะไร”
“ให้ข้าดื่มสุราเป็นเพื่อนเจ้าดีหรือไม่ ถือเป็นการระบายอารมณ์” ฟู่เย่เฉินเอ่ยถามเสียงอ่อนโยน
เฟิงอู๋โยวอยากดื่มก็จริง แต่เมื่อนึกถึงสภาพตัวเองตอนเมา นางจะกล้าดื่มกับฟู่เย่เฉินได้เยี่ยงไร
นางส่ายหน้าตอบเสียงเรียบ “ไม่ดื่ม”
“เช่นนั้นก็ดื่มชาแทน แล้วอยู่พูดคุยเป็นเพื่อนเจ้า เป็นเยี่ยงไร” เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้ม เขาช้ากว่าไป๋หลี่เหอเจ๋อและจวินมั่วหรันไปหนึ่งก้าว หากไม่รีบกระชับมิตรกับเฟิงอู๋โยวให้เร็วกว่านี้ แล้วเฟิงอู๋โยวจะสนใจเขาได้เยี่ยงไร
“ได้”
กว่าเฟิงอู๋โยวจะยอมอ่อนข้อให้ การที่ถูกขังอยู่ในห้องลับแบบนี้คงไม่มีใครอารมณ์ดีแน่นอน ดังนั้นการที่มีใครอยู่พูดคุยเป็นเพื่อน ดูเหมือนเป็นแผนการที่ไม่เลวเลยจริงๆ
ไม่นานฟู่เย่เฉินก็ออกจากห้องลับไปและกลับเข้ามาใหม่
เขาเปลี่ยนเป็นชุดที่ไม่เหมาะสมกับขนาดตัว แขนเสื้อกับชายเสื้อใหญ่กว่าขนาดตัว แลดูหละหลวมและหลุดออกง่ายยิ่งนัก