ตอนที่ 199 เสนอให้นางสองทางเลือก
ณ เมืองหลวงแคว้นตงหลิน
ตกดึก ทหารเฝ้าประตูเมืองลั่นฆ้อง ไฟวาบๆ ตามบ้านหลายพันหลังทยอยดับลงทีละหลัง
ชายบ้านนอกเมาสุราเดินโซเซคนเดียวตามทางเปล่าเปลี่ยว แต่ไม่นานก็ถูกทหารเฝ้าประตูเมืองสกัดไว้ไม่ให้เข้าไป
เมื่อใกล้ตำหนักเซ่อเจิ้งหวาง จวินหงหรันหยุดกะทันหัน
ดวงตาประกายแสงสีแดงอันน่าหลงใหลของเขาเต็มไปด้วยความกำหนัด ริมฝีปากบางๆ ของเขาขยับเล็กน้อย “เฟิงอู๋โยว ข้ามีทางเลือกให้เจ้าแค่สองทาง”
น้ำเสียงที่ไพเราะและแฝงด้วยแรงดึงดูดใจของเขาแหบแห้งในทันที คล้ายในน้ำเสียงเจือเจตจำนงอันยิ่งใหญ่ของราชาผู้บุกเบิก ราวกับว่าเขาสามารถกลืนกินและทำลายทุกสรรพสิ่งในโลกได้ในทันที
เฟิงอู๋โยวสังเกตเห็นท่าทีแปลกประหลาดของเขา ดังนั้นนางจึงไม่กล้าต่อต้านอะไรมาก ได้แต่ยอมโดนแบกอย่างเงียบๆ และถามเสียงเบา “ทางเลือกใดบ้าง”
“หนึ่ง เจ้าจงเป็นยาถอนพิษให้ข้า สอง หาผู้หญิงให้ข้าสักสองสามคน”
ทันทีที่จวินหงหรันพูดเช่นนี้ออกมา ในที่สุดเฟิงอู๋โยวก็ฮึดรวบรวมแรงและสลัดจนหลุดจากพันธนาการของเขา “เจ้ารอก่อน ข้าจะไปหาหญิงสาวหน้าตาสวยที่หอนางโลมให้เจ้า”
ขณะที่นางหันกลับมา เขากลับหลับตาลง
พริบตาต่อมา แขนอันแข็งแรงของเขาก็ดึงเฟิงอู๋โยวที่กำลังจะหลุดไปเข้ามาไว้ในอ้อมแขน “เฟิงอู๋โยว เจ้าไม่สนใจข้าเลยหรือ”
“เจ้าเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอหญิงสาวสองสามคนเอง ข้ารับไม่ไหวหรอก”
“…”
จวินหงหรันเริ่มหงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ “ข้าผู้นี้จะพยายามอ่อนโยน”
เมื่อครู่นี้จวินหงหรันกับจวินมั่วหรันได้ทำการเดิมพันกัน
จวินหงหรันมั่นใจว่าเฟิงอู๋โยวจะผลักเขาไปในอ้อมแขนของผู้หญิงอื่น
แต่จวินมั่วหรันเดิมพันว่าเฟิงอู๋โยวจะเต็มใจเป็นยาถอนพิษให้เขา
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจวินหงหรันจะมองสถานการณ์ขาด
ในใจของเฟิงอู๋โยวไม่มีที่สำหรับเขาเลย
“จงเป็นยาถอนพิษให้ข้าเสีย”
เขาคว้านางเข้ามากอดไว้ในอ้อมแขนด้วยแรงที่ไม่ว่านางจะพยายามมากแค่ไหนก็สลัดเขาไม่ออก
“ไหนบอกว่าจะไม่บังคับข้าอีก”
“นั่นเป็นเหตุผลที่เจ้าผลักไสข้าไปให้ผู้หญิงอื่นอย่างไร้เยื่อใยกระนั้นหรือ”
“แล้วทำไมเจ้าไม่ลองช่วยตัวเองดูก่อน”
เฟิงอู๋โยวไม่อยากให้จวินมั่วหรันถูกตัวคนอื่น แต่นางในตอนนี้ยังไม่พร้อมก็เท่านั้น
นางรู้สึกดีกับจวินมั่วหรัน แต่ยังไม่ถึงขั้นยอมเสียตัวให้
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเพิ่งพูดว่า “หาผู้หญิงให้เขาสักสองสามคน” แค่นี้ก็แสดงให้เห็นว่าเขาคงไม่สงวนตัวเพื่อเก็บไว้ให้คนเพียงคนเดียว
จวินมั่วหรันรู้สึกเศร้าใจอย่างมาก แต่กระนั้นก็โต้แย้งข้อเสนอนางออกไป “ถ้าการช่วยตัวเองใช้ได้ผล แล้วยังต้องการผู้หญิงเพิ่มอีกทำไม”
เฟิงอู๋โยวเงียบนิ่ง นางลดสายตาลงเล็กน้อย บิดนิ้วพันกันไปมายุ่งเหยิง “เช่นนั้นก็ได้ แต่กระหม่อม…กระหม่อมมีเงื่อนไข”
“ไหน บอกมา”
“ไม่ว่ากระหม่อมจะมีเงื่อนไขอะไร ท่านห้ามฆ่ากระหม่อมเด็ดขาด”
“ไฉนข้าต้องฆ่าเจ้า”
“เช่นนั้น หมายความว่าท่านรับปาก?” เฟิงอู๋โยวเงยหน้าขึ้นทันที แววกลัวผุดซ่อนอยู่ในดวงตาใสแจ๋วของนาง แต่ที่มากกว่านั้นก็คือความกล้าที่จะเผชิญหน้า
จวินมั่วหรันมองด้วยสายตาลึกซึ้ง มุมปากพลันปรากฏรอยยิ้มขึ้นเล็กน้อย “ตกลง”
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็อุ้มนางขึ้นบ่าอีกครั้ง
ระหว่างทาง เฟิงอู๋โยวร้อนรนใจเป็นอย่างมากจนหน้าซีดเซียว มือของนางกำแขนเสื้อแน่นพลางพูดพึมพำ “ท่านจะไม่ฆ่ากระหม่อมจริงๆ ใช่หรือไม่”
“อืม”
จวินมั่วหรันรู้สึกงงเล็กน้อย ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้ขู่อะไรนาง แต่ทำไมนางต้องกลัวเขาขนาดนี้
“ท่านใต้เท้า ท่านจะต้องรู้ขอบเขตนะ”
“อืม”
ท่านใต้เท้า ไม่ไหว! กระหม่อมไม่ไหว กระหม่อม…”
เมื่อจวินมั่วหรันหามเฟิงอู๋โยวกลับมาที่เรือนมั่วหรัน หลังจากกวาดมองห้องที่มีเพียงแสงสลัว นางก็กลืนน้ำลายข่มใจ หัวใจเต้นแรงขึ้นทันที
จวินมั่วหรันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เขาใกล้จะหมดความอดทนเต็มที
มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าเขาพยายามข่มกลั้นความอยากของตัวเองแค่ไหน! ถึงแม้ว่าเขาจะมีโอกาสเอาชนะฤทธิ์ธูปกำหนัดนี้ได้
แต่ในสายตาเขาตอนนี้มองเห็นเฟิงอู๋โยวเป็นยาปลุกกำหนัดขนานแรงมากกว่า ยิ่งเข้าใกล้ยิ่งเกิดกำหนัดยากควบคุม
อีกอย่างฤทธิ์ยานี้ยังรุนแรงและอันตรายเกินกว่าจะแบกรับไหว
หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง เขาก็นั่งคุกเข่าลงด้านหน้าเฟิงอู๋โยวและพูดอย่างจริงใจ “ข้าสัญญากับเจ้าว่าข้าจะไม่รับนางบำเรอเข้าเรือนไปตลอดกาล”
“ไม่รับนางบำเรอ แต่ท่านก็ยังอยากรับสนมเข้าเรือนอยู่ใช่หรือไม่”
“เจ้าโง่ ข้าไม่มองใครอื่นนอกจากเจ้า”
จวินมั่วหรันปิดปากที่พูดพล่อยๆ ของเฟิงอู๋โยว”ข้าชอบเจ้า มันคือความหลงใหลแรกพบ และจะเป็นเช่นนี้ไปตลอด”
“ถึงกระหม่อมเป็นผู้ชาย ท่านก็ไม่สน ใช่หรือไม่”
“สน แต่ทำเยี่ยงไรได้ ก็ข้ามีความรู้สึกดีกับเจ้าไปแล้ว”
“จวินมั่วหรัน ถ้าเจ้ากลับคำพูดอีกรอบ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ แน่นอน” เฟิงอู๋โยวเข้าไปโอบคอเขาและพูดเตือนด้วยรอยยิ้ม
จวินมั่วหรันตกตะลึงเล็กน้อย เขาคิดว่าตัวเองแสดงเป็นจวินหงหรันได้ดีแล้วเสียอีก แต่ไม่คิดว่าจะถูกนางจับได้
“เจ้ารู้ได้เยี่ยงไรว่าเป็นข้า”
“จวินหงหรันไม่มีทางถามความคิดเห็นของกระหม่อม จวินหลานหรันก็เช่นกัน มีเพียงจวินมั่วหรันเท่านั้นที่ถาม”
เมื่อจวินมั่วหรันได้ยินคำพูดนั้น มุมปากของเขาก็รั้งขึ้นอย่างชื่นใจ เขาก็วางนางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล เสียงของเขาทุ้มนุ่ม มันมีเสน่ห์มากกว่าท้องฟ้ายามราตรีด้านนอกเสียอีก
“เฟิงอู๋โยว ข้าคนนี้จะปกป้องเจ้าเอง”
“ไฉนท่านถึงพูดมากเช่นนั้น ยิ่งท่านพูด ข้าก็ยิ่งกลัว เร็วกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ”
ร่างกายของเฟิงอู๋โยวสั่นอย่างรุนแรง หากไม่ใช่เพราะยาปลุกกำหนัดนี้ที่อาจอันตรายถึงชีวิต นางคงไม่ยอมทำถึงขั้นนี้
นางไม่รู้จะทำเยี่ยงไรจริงๆ
นางไม่รู้ว่าความรู้สึกของนางที่มีต่อจวินมั่วหรันนั้นแท้จริงแค่ไหน และไม่รู้ว่าความชอบของจวินมั่วหรันที่มีต่อนางนั้นจริงแท้เพียงใด
“อืม เป็นความผิดของข้าเอง”
จวินมั่วหรันยิ้มกระหยิ่มและโน้มตัวไปหาเฟิงอู๋โยวที่อยู่บนเตียงอย่างช้าๆ
ตอนนี้ เขามั่นใจเลยว่าอดีตของเฟิงอู๋โยวไม่ได้เสเพลอย่างที่นางเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้
ตอนนี้ นางทั้งดูไร้เดียงสาและเขินอายเหมือนเด็กสาวไร้เดียงสาที่จะไม่เคยผ่านเรื่องแบบนั้นมาก่อน