เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 201 ตำหนิ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 201 ตำหนิ

ตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ขนาด”

จวินมั่วหรันไม่คิดไม่ฝันว่าเหตุผลที่ปฏิเสธเขานั้นจะไร้สาระมากขนาดนี้

ดวงตาสีดำจับจ้องใบหน้าจริงจังของเฟิงอู๋โยว “เจ้าไม่ได้ล้อเล่นอยู่ใช่หรือไม่”

“กระหม่อมไม่คิดจะล้อเล่นกับชีวิตของตัวเองหรอก ท่านใต้เท้าไม่คิดว่าพวกเราเข้ากันไม่ได้กระนั้นหรือ” เฟิงอู๋โยวถามกลับ

“ทนไม่ไหวหรือ”

“น่าจะทนไม่ได้” เฟิงอู๋โยวตอบอย่างตรงไปตรงมา

จวินมั่วหรันรู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก เรือนร่างที่เขาเคยภาคภูมิใจ ตอนนี้กลายเป็นอุปสรรคใหญ่ที่สุดระหว่างเขากับเฟิงอู๋โยว

ไม่ได้…เขาต้องคิดหาวิธีโน้มน้าวเฟิงอู๋โยวให้เชื่อว่าขนาดที่ใหญ่ไม่ได้ทำให้ถึงตายอย่างที่นางคิด

“อาหรัน อย่าทำให้อู๋โยวลำบากเลย อย่าว่าแต่อู๋โยวเลย ลำพังแค่ข้าเห็นก็รู้สึกหวั่นใจแทนแล้ว” จี้มั่วจื่อเฉินนั่งยองๆ ลงข้างๆ บ่อน้ำพุ จากนั้นก็ถูหลังของจวินมั่วหรันเช่นกัน

จวินมั่วหรันจนปัญญา ก่อนหันไปตวาดไล่จี้มั่วจื่อเฉินที่กำลังพูดกับตัวเองเสียงเย็นชา “ไปให้พ้น”

“เจ้าต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรอู๋โยวก่อน”

จี้มั่วจื่อเฉินชำเลืองมองเฟิงอู๋โยวอย่างเป็นกังวล เขาแน่ใจว่าร่างกายเล็กๆ ของเฟิงอู๋โยวไม่สามารถรองรับจวินมั่วหรันได้แน่นอน

“ข้าจะทำอะไรจำเป็นต้องรายงานเจ้าด้วยกระนั้นหรือ”

เมื่อจวินมั่วหรันเห็นว่าจวินมั่วหรันเป็นห่วงเป็นพิเศษ เขาก็ยิ่งอารมณ์เสีย

อันที่จริง ถ้าเขาใช้กำลัง ป่านนี้เฟิงอู๋โยวตกอยู่ในกำมือของเขาแล้ว

เมื่อจี้มั่วจื่อเฉินเห็นจวินมั่วหรันกำลังโกรธ เขาจึงผลักจวินมั่วหรันไปด้านหน้าอย่างไม่พอใจ “มีอย่างที่ไหน ได้ใหม่แล้วลืมเก่า”

ทันใดนั้น อยู่ๆ แม่นมหวางก็วิ่งลุกลี้ลุกลนเข้ามาที่บ่อน้ำพุอาบแสงจันทร์ด้วยความตื่นตระหนก

นางคุกเข่าอยู่หน้าโขดหินที่อยู่ไม่ไกล ก้มหัวลงมาเอ่ยพร้อมกับน้ำตาไหล “ท่านใต้เท้าเจ้าคะ ตอนนี้ท่านหญิงมีอาการชักและชีวิตของท่านหญิงกำลังตกอยู่ในอันตรายเจ้าค่ะ! ขอเรียนเชิญท่านไปดูท่านหญิงหน่อยนะเจ้าคะ”

เหลือบมองแม่นมหวางที่กำลังร้องไห้น้ำตาอาบหน้าอยู่อย่างเย็นชา นางลุกขึ้นพรวดและเดินจ้ำเข้าไปด้านหน้าแม่นมหวางทันที “ท่านใต้เท้าบาดเจ็บอยู่ ดังนั้นข้าจะไปแทนท่านใต้เท้าเอง”

แม่นมหวางเงยหน้าขึ้นและมองเฟิงอู๋โยวในชุดสีแดงอย่างลังเล “แบบนี้…มันไม่เหมาะสมหรอกกระมัง”

“กู่หนานเฟิง เจ้าไปกับเขาด้วยแล้วกัน”

จวินมั่วหรันหลับตาลง จากนั้นก็พยายามระงับฤทธิ์ยาปลุกกำหนัดอันรุนแรงภายในร่างกายลง

เมื่อเห็นเช่นนั้น แม่นมหวางก็ไม่กล้าพูดอะไรไปมากกว่านี้ ดังนั้นนางจึงต้องพาเฟิงอู๋โยวและกู่หนานเฟิงไปที่เรือนฟางฮว๋า

ก่อนที่พวกเขาจะไปถึงเรือนฟางฮว๋า ก็ได้ยินเสียงโหยหวนของจวินฝู บางครั้งก็ยังสอดแทรกไปด้วยเสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง

กู่หนานเฟิงขยี้หูด้วยความไม่พอใจ ก่อนถามแม่นมหวางขึ้นด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “เส้นเสียงก็ยังปกติดี แค่ฟังก็รู้แล้วว่ากระปรี้กระเปร่า เจ้ามั่นใจใช่หรือไม่ว่าสุขภาพของนางมีบางอย่างผิดปกติ”

ยิ้มแต่ไม่พูดอะไร นางไม่มีวันลืมเนื้อหาในจดหมายส่วนตัวของจวินฝูที่ส่งถึงฟู่เย่เฉิน

เนื่องจากจวินฝูคิดจะเล่นงานนางจริงๆ นางไม่ทางให้อภัยได้ง่ายๆ แน่นอน

เคล้ง!

ทันทีที่ก้าวเข้าไปในเรือนฟางฮว๋า จวินฝูก็หยิบกาน้ำชาลายครามสีน้ำเงินและสีขาวบนโต๊ะอาหารขว้างใส่ทันที

“ท่านหญิงของข้าโกรธมาก! ไม่นึกว่าผู้ชายอย่างฟู่เย่เฉินจะต้มพวกเราเสียเปื่อยได้แบบนี้”

จวินฝูถือแส้ยาวในมือและใช้มันเฆี่ยนตีสาวใช้ที่ขดตัวอยู่ที่มุมห้องอย่างหวาดกลัว

เมื่อแม่นมหวางเข้ามาก็รีบวิ่งแจ้นไปหาจวินฝู “แผลที่ปลายนิ้วของท่านหญิงยังไม่หายดี อย่าขยับมากสิเจ้าคะ”

“ท่านพี่อยู่ที่ไหน” จวินฝูหันกลับมามองและถามแม่นมหวางด้วยน้ำเสียงเย็นชา

แม่นมหวางขยุ้มริมฝีปากของนางไปที่ประตูทางเข้าเรือนฟางฮว๋า ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ “ดูเหมือนท่านเท้าใต้จะรับบาดเจ็บสาหัสและกำลังพักฟื้นให้เลือดลมปราณไหลเวียนในร่างการเป็นปกติอยู่ที่บ่อน้ำพุอาบแสงจันทร์ ซึ่งเฟิงอู๋โยวก็อยู่ตรงนั้นพอดี เลยอาสามาดูอาการให้ท่านหญิงแทน และท่านใต้เท้าก็เห็นด้วย หม่อมฉันจึงขัดอะไรไม่ได้”

“เฟิง อู๋ โยว!”

จวินฝูตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ มือสองข้างกำหมัดแน่น บาดแผลที่ปลายนิ้วจากการถอนเล็บตัวเองถูกบีบอัดจนเลือดไหลออกมา

เฟิงอู๋โยวเอนตัวพิงบานประตู ในมือถือกาน้ำชาลายครามสีน้ำเงินและสีขาวที่จวินฝูเผลอปาออกมาและยกดื่มชาอย่างสบายใจ “ชาดี”

จวินฝูถือแส้พุ่งเข้ามาหาเฟิงอู๋โยวทันที ตาเหลือกคิ้วตั้งและพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงดุดัน “เฟิงอู๋โยว เป็นแกใช่หรือไม่ที่เขียนจดหมายฉบับนั้น”

“ถูกต้อง ถือว่าท่านหญิงมีพรสวรรค์ด้านการใช้ภาษาที่ยอดเยี่ยม ตอนนั้นข้ากำลังคันไม้คันมืออยู่พอดี ก็เลยถือวิสาสะเขียนตอบ”

ริมฝีปากของเฟิงอู๋โยวรั้งขึ้น ดวงตาทรงกลีบดอกท้อหรี่มองที่ปลายนิ้วที่มีเลือดไหลออกของจวินฝูอย่างสบายใจ ก่อนแสร้งพูดเสียงสูงเหมือนตกใจ “ไม่คิดเลยจริงๆ ว่าท่านหญิงจะเชื่อและทำตามจริงๆ ข้าแค่พูดเล่นๆ เฉยๆ คิดว่าถ้าได้เล็บของท่านหญิงมาสักสองสามเล็บ มาตากแห้งและต้มเป็นชาสักหน่อย แต่ไม่คิดว่าท่านหญิงจะมีหัวใจที่เด็ดเดี่ยวถอนเล็บออกทุกนิ้วเช่นนี้”

“ข้าจะฆ่าแก!”

จวินฝูอดทนไม่ไหวอีกต่อไป นางฟาดแส้ยาวในมือ ในพริบตา ปลายแส้พลันเหวี่ยงเข้าไปที่ใบหน้าของเฟิงอู๋โยวทันที

เฟิงอู๋โยวยกมือขึ้นและจับปลายแส้อย่างสบายๆ ก่อนออกแรงกระชากจวินฝูเข้ามาในอ้อมแขนของนาง

นางลดเสียงลงและกระซิบข้างหูของจวินฝู “ไฉนท่านหญิงถึงโกรธนัก นี่ข้ามาหาท่านหญิงตามสัญญาแล้วไม่ใช่หรือ”

“เฟิงอู๋โยว แกมันไร้ยางอาย!”

จวินฝูโกรธจนหน้าแดงก่ำ นางพยายามยกเท้าเพื่อเตะผ่าหมากเฟิงอู๋โยว

“จวินฝู เหล้าดีไม่ดื่ม ดื่มเหล้าเฝื่อน เหตุผลที่ข้าไม่อยากฆ่าเจ้าในวันนี้ไม่ใช่เพราะเจ้ายิ่งใหญ่มาจากไหน แต่เพราะเจ้าเป็นน้องสาวของจวินมั่วหรัน”

“แหม! แค่เจ้ากล้าแตะเส้นผมของข้าคนนี้แม้แต่ปลายนิ้วล่ะก็ ค่อยดูกันว่าท่านพี่จะจัดการเจ้าเยี่ยงไร”

กู่หนานเฟิงไม่อาจทนต่อเสียงแหลมๆ ของ จวินฝูได้อีกต่อไป ครั้นแล้วเขาจึงลากเฟิงอู๋โยวไปข้างหลัง และโรยผงคันใส่ใบหน้าของจวินฝูทันที “ผ่านมาก็หลายปีแล้ว ไฉนเจ้าถึงไม่โตขึ้นบ้างเลย”

“กู่หนานเฟิง เจ้ากล้าโรยผงคันใส่ข้าผู้นี้ได้เยี่ยงไร”

จวินฝูกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง นางจ้องกู่หนานเฟิงอย่างขุ่นเคือง

หลายปีก่อน นางไม่พอใจกู่หนานเฟิงที่เคยตำหนิจวินมั่วหรันเที่เสียสละช่วยชีวิตนางทางอ้อม

ดังนั้นนางจึงไม่ชอบขี้หน้ากู่หนานเฟิงเป็นทุนเดิม

เพี้ยะ!

เพี้ยะ!

ทันใดนั้นเฟิงอู๋โยวก็ผลักกู่หนานเฟิงที่ยืนอยู่ตรงหน้านางออกไปและตบหน้าจวินฝูเข้าไปอย่างแรงสองครั้ง

“เฟิงอู๋โยว แกกล้าตบข้าได้เยี่ยงไร”

ดวงตาของจวินฝูเบิกกว้าง นางไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเฟิงอู๋โยวจะกล้าโจมตีนางในเรือนฟางฮว๋าแบบนี้

เพี้ยะๆๆ!

เฟิงอู๋โยวทำเป็นหูดับเหมือนไม่ได้ยิน จากนั้นก็ยกมือขึ้นตบหน้าซีดๆ ของจวินฝูอีกหลายครั้งอย่างไม่ยั้งมือ

“จวินฝู ข้าบอกว่าจะไม่ฆ่าเจ้าก็จริง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะปล่อยให้เจ้าทำตัวโอหังอวดดีแบบนี้”

“ทหาร เข้ามาจับเจ้าเฟิงอู๋โยวคนป่าเถื่อนคนนี้ไป แล้วฆ่ามันทิ้งเร็วเข้า!”

ดวงตาของจวินฝูฉายแววประหวั่น แต่กระนั้นก็ยังออกคำสั่งกับทหารรักษาการณ์นอกเรือนฟางฮว๋าอย่างหยิ่งยโส

“ใครบังอาจกล้าแตะต้องเขา?”

ท่ามกลางแสงไฟและม่านหมอกขุ่นมัว จวินมั่วหรันรีบตามมาทั้งที่ยังอยู่ในสภาพเปียกปอน

แม้เขาจะรู้ว่าจวินฝูไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฟิงอู๋โยว แต่เมื่อเขานึกถึงตอนที่ต้องพรากจากเฟิงอู๋โยวไปโดยบังเอิญตอนอยู่ที่เรือนจื่อหยาง หัวใจของเขาก็พลันอึดอัดขึ้นมา หน้าอกแน่นขัดราวกับหายใจไม่ออก ครั้นแล้วจึงรีบตรงมาที่เรือนฟางฮว๋าทันที

จวินฝูหันกลับไปเห็นจวินมั่วหรันที่กำลังพุ่งเข้ามาราวกับพายุที่มาพร้อมกับวิญญาณชั่วร้าย ครั้นแล้วก็ปั้นหน้าขึ้นมาทันที

“ฮือๆๆ ท่านพี่ ฝูเอ๋อร์เจ็บแก้มเหลือเกินเจ้าค่ะ!”

“จวินฝู ข้าจะเตือนเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเจ้าขืนทำร้ายตีเฟิงอู๋โยวอีกครั้ง ข้าจะตัดมือเจ้าทิ้งด้วยตัวเอง”

รูม่านตาของจวินฝูหดเกร็งอย่างตกใจ นางรับรู้แล้วว่าเฟิงอู๋โยวเป็นคนพิเศษของจวินมั่วหรันแต่ก็ไม่คาดคิดว่าจวินมั่วหรันขู่จะตัดมือของนางเพราะเฟิงอู๋โยวแบบนี้

“ท่านพี่ยังเห็นฝูเอ๋อร์เป็นน้องสาวแท้ๆ ของท่านพี่อยู่หรือไม่”

“สิ่งที่เจ้าทำนั้นมันเกินว่าความสัมพันธ์ระหว่างพี่ชายกับน้องสาวไปตั้งนานแล้ว” เฟิงอู๋โยวโต้กลับ “จวินฝู เจ้าเคยกลับไปขบคิดเรื่องนี้หรือไม่ ไฉนผู้คนถึงยกย่องเจ้าให้อยู่ในตำแหน่งสูงๆ มานานหลายปีเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าเจ้าเก่งกาจเพียงใด แต่เป็นเพราะเจ้ามีพี่ชายที่สามารถปกป้องเจ้าจากลมและฝนต่างๆ นานาได้ต่างหาก”

“เฟิงอู๋โยว เจ้ามีสิทธิ์อะไรมาชี้นิ้วสั่งสอนท่านหญิงอย่างข้า”

เฟิงอู๋โยวไม่แยแสจวินฝูแม้แต่น้อย รังสีเยือกเย็นค่อยๆ แผ่ซ่านออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

นางถามจวินฝูด้วยน้ำเสียงเย็นชา “เจ้าเอาแต่พูดว่า เจ้ารักเขา แต่เจ้ารักในอำนาจของเขาหรือรักในตัวตนของเขากันแน่ เจ้ารู้หรือไม่ว่า ตอนที่เขารีบไปที่ศาลาตี๋ซิงเพื่อช่วยเจ้าเมื่อคืน บาดแผลทั้งหมดบนตัวเขาเกิดปริแตก ทุกย่างก้าวล้วนมีเลือดไหลซึมออกมาตามบาดแผล เจ้ารู้หรือไม่ คืนนี้เขาถูกวางยาและสถานการณ์ของเขาก็ตกอยู่ในอันตรายถึงชีวิต ดังนั้นเจ้าอย่าใช้คำว่ารักแค่เพียงลมปากมาเป็นเครื่องมือทำร้ายเขาเลยดีกว่า”

“ข้า…”

จวินฝูเอาแต่ใจตัวเองจนเคยชิน แม้จะรู้ว่าจวินมั่วหรันได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่นางกลับคิดว่าจวินมั่วหรันคงทนความเจ็บปวดได้เหมือนที่ผ่านมา

แต่กระนั้นจวินมั่วหรันก็เป็นร่างกายที่มีเลือดเนื้อ และเขาก็ต้องมีบางช่วงที่ต้องการให้คนอื่นดูแลตอนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

จวินมั่วหรันมองเฟิงอู๋โยวที่กำลังพูดอยู่เป็นฉอดๆ ก็รู้สึกได้ทันทีว่านางกำลังปกป้องเขาในแบบของนางอยู่

แม้ว่าตัวเขาจะเข้มแข็งพอที่จะดูแลตัวเองได้โดยไม่ต้องการการช่วยเหลือปกป้องจากใคร

แต่เขากลับไม่เคยคิดมาก่อนว่า การได้เห็นเฟิงอู๋โยวออกโรงปกป้องเขาอย่างเป็นห่วงแบบนี้จะทำให้เขาอบอุ่นใจได้ถึงขนาดนี้

“ท่านพี่ อย่าได้หลงคำพูดของเฟิงอู๋โยวไปเลยนะเจ้าคะ เขาเป็นคนเขียนจดหมายหลอกให้ฝูเอ๋อร์ถอดเล็บตัวเองแล้วสั่งให้กู่หนานเฟิงโรยผงคันใส่ฝูเอ๋อร์ เขาเป็นงูพิษนะเจ้าคะ!”

จวินฝูดึงแขนเสื้อที่เปียกโชกของจวินมั่วหรันเบาๆ ในดวงตาของนางฉายแววลนลาน

ทันใดนั้น นางก็รู้สึกกลัวว่าจวินมั่วหรันจะไล่นางออกจากตำหนักเพียงเพราะเฟิงอู๋โยวขึ้นมา

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นางไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยนอกจากการใช้เงิน

จวินมั่วหรันเหลือบมองรอยแดงบนใบหน้าของจวินฝู เรียวคิ้วพลันขมวดก่อนหันไปถามเฟิงอู๋โยวด้วยใบหน้าไม่พอใจ “เจ้าตบหน้าจวินฝูใช่หรือไม่”

“อืม”

“ครั้งหน้าห้ามทำอีก”

เฟิงอู๋โยวไม่พอใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่านางสั่งสอนจวินฝูแทนเขาอยู่ แต่ไม่นึกว่าเขาจะยังตำหนินางได้ลงคอ

“เข้าใจแล้ว” นางตอบเสียงเบาอย่างเจ็บใจ และตามด้วยความน้อยใจที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน