เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 309 จบสิ้น ตอนที่ 310 ความรักเป็นเพียงเสี้ยวแสง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 309 จบสิ้น / ตอนที่ 310 ความรักเป็นเพียงเสี้ยวแสง

ตอนที่ 309 จบสิ้น

เมื่อเห็นจวินมั่วหรันก้าวเข้ามา ชิงหลวนก็น้ำตาไหลพรากคุกเข่าลงต่อหน้าเขา “ท่านใต้เท้าโปรดอย่าโกรธท่านชายของหม่อมฉันเลยเจ้าค่ะ ท่านชายสำนึกผิดแล้วจริงๆ”

จวินมั่วหรันหลบตาโดยไม่พูดอะไร

เมื่อเขานึกถึงตอนที่เฟิงอู๋โยวอยู่ในห้องแบบเหล่าบุรุษนอนเกลื่อนพื้น อารมณ์โมโหก็ปะทุขึ้นมาทันที

แต่หลังจากได้ยินสิ่งที่ชิงหลวนพูด จวินมั่วหรันก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยนางไว้ตามลำพัง

ไม่นาน เขาก็เดินอ้อมชิงหลวนที่อยู่ตรงหน้าไปอย่างเงียบๆ มือข้างหนึ่งยื่นออกไปผลักประตูห้องที่ปิดสนิทและเข้าไปข้างใน

จวินมั่วหรันเดินผ่านชั้นหมอกขมุกขมัวเข้ามาด้านหน้าผนังไม้แกะสลักกันลม

เขาเคาะผนังไม้แกะสลักกันลมเบาๆ ก่อนเอ่ยเสียงเย็น “หากเจ้าไปงานเลี้ยงไม่ตรงฤกษ์ยาม จะถูกลงโทษอย่างหนัก”

ด้านหลังผนังไม้แกะสลักกันลมมีเพียงความเงียบงัน

ในอ่างไม้ น้ำนิ่งกระเพื่อมเล็กน้อย มีเพียงกลีบบุหงาลอยอยู่ไม่กี่กลีบ

แต่กลับไร้เงาร่างของเฟิงอู๋โยว

เมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ จวินมั่วหรันจึงรีบอ้อมผนังไม้แกะสลักกันลม เขาเดินก้าวๆ หยุดๆ จนมาถึงด้านหน้าอ่างไม้ที่เต็มไปด้วยไอน้ำลอยคลุ้ง

“เฟิงอู๋โยว?”

เขายืนเอามือไพล่หลัง จ้องมองไปยังผิวน้ำที่นิ่งสงัด ลางสังหรณ์ที่ไม่ดีผุดขึ้นมาในใจ

เฟิงอู๋โยวกลัวน้ำ หากระดับน้ำเหนือกว่าหน้าอกขึ้นไป นางจะดูอึดอัดเหมือนคนจมน้ำ สองขาอ่อนแรงและเคลื่อนไหวไม่ได้

เมื่อคิดได้เช่นนี้ จวินมั่วหรันก็ทนไม่ได้อีกต่อไป

ซ่า!

เขาล้วงมือไปคลำในอ่างไม้

อย่างที่คาดไว้!

เฟิงอู๋โยวอยู่ในอ่างจริงๆ!

เขาดึงนางในสภาพหมดสติออกจากอ่าง

“เฟิงอู๋โยว ฟื้นสิ”

จวินมั่วหรันตื่นตระหนก หลังจากอุ้มนางมาวางไว้บนเตียง เขาก็ก้มลงประกบริมฝีปากผายปอดให้นางอย่างไม่ลังเล

หลังจากลมหายใจของเฟิงอู๋โยวคงที่แล้ว จวินมั่วหรันก็ผละออกและนั่งลงข้างๆเตียงอย่างงุนงง

เดิมทีเขาต้องการห่มผ้าห่มบางๆ ให้นาง แต่นึกขึ้นได้ว่าผ้าห่มถูกเขาทำลายจนฉีกขาดนุ่นแตกทะลักไปแล้ว

สายตาของเขาเหลือบมองร่างที่เปียกโชกของนางอย่างไม่ได้ตั้งใจ

เพียงแวบเดียวก็มองออกว่ามีบางอย่างผิดปกติ

เขารู้มาตั้งนานแล้วว่านางเป็นคนผิวขาว

และยังรู้ด้วยว่าผิวของนางก็บอบบางมากเช่นกัน ออกแรงเพียงนิดเดียวก็สามารถทำให้เกิดรอยแดงขึ้นได้

หากเมื่อคืนนี้ นางกับไป๋หลี่เหอเจ๋อและคนอื่นๆ ‘ทำศึก’ อย่างดุเดือนกันตลอดทั้งคืนจริงๆ ร่างกายของนางจะไม่มีร่องรอยอะไรเหลืออยู่ได้เยี่ยงไร

จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย

เขาเริ่มสงสัยว่าคราบเลือดบนชุดของไป๋หลี่เหอเจ๋อจะไม่ใช่ร่องรอยที่ได้มาจากการค้างคืนกับเฟิงอู๋โยวคืนนั้น

“แค่กๆ”

เฟิงอู๋โยวรู้สึกเหมือนมีน้ำอันแน่นอยู่เต็มช่องอก ทำให้นางรู้สึกอึดอัดเหมือนจะระเบิด

ทันทีที่นางลืมตาขึ้น สองมือก็ยกขึ้นกุมหน้าอกและไอสำลักอย่างรุนแรง

หลังจากสงบสติอารมณ์ลง นางก็ตระหนักได้ว่าจวินมั่วหรันกำลังนั่งอยู่บนขอบเตียงและกำลังจ้องมองนางอย่างไม่ละสายตา

เฟิงอู๋โยวร้องอุทานด้วยความประหลาดใจและหยิบหมอนบนเตียงขึ้นมาปิดร่างเอาไว้

ดวงตาฉายแววตื่นตระหนก นางมองไปที่จวินมั่วหรันอย่างหวาดระแวง

เมื่อจวินมั่วหรันเห็นท่าทางป้องกันตัวของนางก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที

เฟิงอู๋โยวในตอนนี้ยังคงจมอยู่กับความเจ็บปวด นางไม่อยากเชื่อใจใคร รวมถึงจวินมั่วหรันด้วย

นางรู้ดีว่าตัวเองเป็นคนผิดในเรื่องนี้ แต่เมื่อนึกถึงสีหน้าอันเหี้ยมโหดของจวินมั่วหรันตอนที่บังคับให้นางดื่มโอสถน้ำคุมกำเนิดแล้ว ประหนึ่งว่านางได้ยินเสียงหัวใจแตกสลายของตัวเอง

“เฟิงอู๋โยว ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย แค่อธิบายให้ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อคืน แล้วข้าจะสัญญาว่าจะไม่ตำหนิเจ้า”

“เซ่อเจิ้งหวาง เรื่องระหว่างพวกเรา มันจบสิ้นแล้ว”

เฟิงอู๋โยวหลบตาพูดเสียงแผ่ว สีหน้าเรียบนิ่ง

นางสามารถเผชิญกับการนินทาได้อย่างกล้าหาญ แต่นางกลับไม่กล้าเผชิญหน้ากับจวินมั่วหรัน

นางกลัวว่าเมื่อเงยหน้าขึ้นมานางจะพบกับแววรังเกียจหรือดูถูกในดวงตาของเขา

ตอนที่ 310 ความรักเป็นเพียงเสี้ยวแสง

“เฟิงอู๋โยว ไฉนถึงเอาแต่ใจแบบนี้ เอะอะก็เอาแต่พูดว่าจบกัน จบสิ้น”

จวินมั่วหรันโกรธจัดจนขำออกมา แม้บนศีรษะของเขาเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี แต่เขาก็ไม่เคยคิดจะตัดขาดกับนาง

แต่พออะไรไม่ได้ดั่งใจ นางก็เอาแต่จะตัดความสัมพันธ์กับเขา

แต่หารู้ไม่ว่า ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเฟิงอู๋โยวดูเหมือนจะดูอ่อนแอเมื่ออยู่ต่อหน้าเขา

นางกอดเข่าด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมกับก้มใบหน้าอันสวยงามมุดหลบ “ขอท่านใต้เท้าโปรดอย่ามอง”

“…”

จวินมั่วหรันรู้สึกโกรธเล็กน้อย หากมาไม่ทัน เฟิงอู๋โยวอาจจมอ่างอาบน้ำตายไปแล้ว

แต่นางกลับไม่พูดขอบคุณสักคำ

ทว่าเมื่อเห็นว่าใบหน้าซีดเซียวและท่าทางอ่อนแอประหนึ่งใบหลิวลู่ลมของนางที่ไม่ค่อยได้เห็น จวินมั่วหรันก็ระงับความคิดที่อยากสาดไฟโทสะใส่นางลงทันที

เขาลุกขึ้นหันหลังให้ แล้วพูดเสียงเข้ม “รีบเปลี่ยนชุดแล้วเข้าวังหลวงไปร่วมงานเลี้ยงกับข้า”

นางรู้ดีว่าการพลาดฤกษ์งานเลี้ยงอาจต้องโทษหนักจนถึงตาย ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงสลัดความกังวลทิ้งชั่วคราว แล้วรีบเปลี่ยนเสื้อผ้า มัดผมให้เรียบร้อย

เมื่อเห็นนางพยายามใช้ผ้ารัดหน้าอก คิ้วของจวินมั่วหรันก็ขมวดเล็กน้อย

รัดแน่นแบบนี้คงอึดอัดร่างกายน่าดู

เดิมทีจวินมั่วหรันไม่อยากให้นางใช้ผ้ารัดหน้าอก ในเมื่อมีเขาอยู่ด้วยก็ไม่มีใครกล้าถามนางเกี่ยวกับเพศสภาพของนางแน่

แต่ท่าทางของเฟิงอู๋โยวเปลี่ยนไปเป็นเย็นชาและเหินห่าง เขาไม่แน่ใจว่านางยังต้องการการปกป้องจากเขาหรือไม่

หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก ในที่สุดจวินมั่วหรันก็ไม่พูดอะไร

เขาดูนิ่งเฉย ไม่เหล่มอง เพียงมองแอบมองนางจากหางตา

ก่อนหน้านี้ เฟิงอู๋โยวไม่อยากไปงานเลี้ยงกับจวินมั่วหรัน แต่ปัญหาก็คือนางไม่มีราชรถส่วนตัว ขืนลีลาไปมากกว่านี้ นางคงไปงานเลี้ยงบัณฑิตไม่ทันเวลาแน่นอน

หลังจากลังเลอยู่สักพักนางจึงทำได้แค่ขึ้นราชรถไปกับเขาอย่างไม่มีทางเลือก

ทันทีที่เฟิงอู๋โยวขึ้นราชรถ บุรุษรูปงามทั้งหกคนก็ตามออกมายืนอออยู่ที่หน้าประตูเรือนแพทย์

พวกเขาโบกผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กและตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน “ท่านชาย กลับมาเร็วๆ นะขอรับ!”

ในราชรถ จวินมั่วหรันกับเฟิงอู๋โยวต่างก้มหน้าลงมาพร้อมกัน

จวินมั่วหรันกำมือแน่นและกำลังวางแผนที่จะหาโอกาสฆ่าทั้งหกนี้ให้ตาย

เฟิงอู๋โยวกัดฟันกรอด หลังจากใจเย็นลง นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าทั้งเรื่องหมดนี้เป็นฝีมือของไป๋หลี่เหอเจ๋อ

เพียงแต่นางไม่แน่ใจว่าพวกชายหน้าเหม็นพวกนี้เคยแตะต้องนางหรือไม่

ตอนนี้ โหรวโหรววิ่งไล่ตามราชรถที่แล่นออกมาไกลพอตัว

เขาไล่ตามมาทันอย่างยากลำบาก มือทั้งสองข้างเกาะขอบหน้าต่างไว้แน่น ลมหายใจหืดหอบ “ท่านชายสุดยอดมาก ท่านชายอึดทนนานมาก”

หลังจากพูดจบ แขนทั้งสองข้างของเขาก็รู้สึกชาไปหมด

เขาเกิดเสียสมาธิ ทำให้ร่วงลงจากขอบหน้าต่างตกลงพื้นและไถลไปกับพื้นจนผิวหนังบนแขนขาวนวลดุจรากบัวของเขาถลอก

เฟิงอู๋โยวไม่เข้าใจว่าเพราะเหตุใดโหรวโหรวต้องลำบากถึงขนาดนี้เพียงแค่จะมาพูดเรื่องไร้สาระกับนาง

ความอึดอัดผุดขึ้นในใจ นางมองจวินมั่วหรันที่นั่งนิ่งราวกับภูเขาอยู่ข้างๆ

ไม่คิดว่าจวินมั่วหรันกำลังจ้องอยู่เช่นกัน “อึดทนนาน?”

จวินมั่วหรันรู้สึกสงสัย เขาไม่ค่อยเข้าใจคำว่า ‘อึดทนนาน’ ที่โหรวโหรวพูด

จะอึดทนนานแค่ไหน หาใช่สิ่งที่เฟิงอู๋โยวควบคุมได้

หรือว่า…โหรวโหรวไม่รู้ว่าเฟิงอู๋โยวเป็นสตรี

เฟิงอู๋โยวตอบสนองกับเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน นางรู้สึกว่าการกระทำของโหรวโหรวเป็นเหมือนเป็นเตือนอย่างมีเจตนาอื่นแอบแฝง

“บอกข้ามา ไอ้จิ้งจอกเจ้าเล่ห์นั่นหมายความว่าเยี่ยงไร” จวินมั่วหรันโน้มตัวมาข้างหน้า ต้อนเฟิงอู๋โยวไว้ที่มุมแคบๆ บนราชรถ

เฟิงอู๋โยวชอบพูดโดยมีหลักฐาน นางไม่ชอบสรุปอะไรก่อนที่ความจริงจะปรากฏ

ดังนั้นนางจึงหันศีรษะหลบไปข้างๆ เล็กน้อยและพูดอย่างคลุมเครือ “ตามคำพูดที่กล่าว”

เมื่อจวินมั่วหรันสัมผัสได้ว่าเฟิงอู๋โยวกำลังหงุดหงิดใส่ เขาก็ยิ่งสับสนและไม่เข้าใจสถานการณ์ยิ่งขึ้นกว่าเดิม

ในความคิดของเขา เขาอดทนกับนางมามาก

เป็นใครก็คิดไม่ถึงมาก่อนว่าเซ่อเจิ้งหวางแห่งแคว้นตงหลินผู้ยิ่งใหญ่จะถูกสวมเขาแบบนี้ ซ้ำยังสามารถร่วมราชรถเดียวกันกับ ‘คนต้นเรื่อง’ ได้อย่างใจเย็นแบบนี้

สิ่งที่น่าหงุดหงิดยิ่งกว่านั้นคือเฟิงอู๋โยวกลับไม่มีท่าทีสำนึกผิด

ท่าทีของนางเริ่มเย็นชาขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้จวินมั่วหรันรู้สึกราวกับว่าคนที่ทำผิดตัวจริงคือเขา ไม่ใช่นาง

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน