ตอนที่ 344 เป่ยถางหลงถิงเอ็นดูเฟิงอู๋โยว
ดวงตาทั้งสองข้างของเป่ยถางหลงถิงวาวประกายประหนึ่งดวงดาววิบวับท่ามกลางฟ้าราตรีอันหนาวเหน็บ เพียงแค่จ้องมองเฟิงอู๋โยวแน่นิ่ง ไม่พูดอะไรสักคำ
เฟิงอู๋โยวมองดูท้องฟ้านอกพระตำหนักที่มืดครึ้มขึ้นเรื่อยๆ ภายในใจรู้สึกไม่ยอมเป็นหมื่นครั้ง
เห็นได้ชัดว่าเป่ยถางหลงถิงไม่ได้ทำหน้าที่พ่อเลยแม้แต่วันเดียว จะพูดให้สมเหตุผลกว่านั้นก็คือสาเหตุการตายหลักๆ ของเจ้าของร่างเดิมร่างนี้ เกิดจากเขา
การที่เธอไม่หาทางล้างแค้นเขาก็ถือเป็นความกรุณาอย่างสูงสุดแล้ว ไฉนนางถึงเกลียดเขาไม่ได้
แม้จะคิดเช่นนี้ แต่เฟิงอู๋โยวก็ไม่อยากเป็นปรปักษ์กับสวรรค์
เมื่อเห็นเมฆสีดำนอกพระตำหนักที่ก่อตัวราวกับคลื่นพิโรธเคลื่อนเข้ามา นางจึงหุบปากอย่างไม่เต็มใจ
หยุนเฟยไป๋มองจวินฝูที่ถูกทรมานจนหมดสภาพความเป็นคนด้วยสายตาเย็นชา ภายในใจพลันรู้สึกเอือมระอา
แต่จวินฝูโน้มตัวไปหาหยุนเฟยไป๋อย่างไม่ดูสถานการณ์ “องค์รัชทายาทเจ้าคะ ฝูเอ๋อร์เจ็บมากเลยเจ้าค่ะ”
“หยุดทำตัวน่าอายในที่สาธารณะได้แล้ว!”
หยุนเฟยไป๋กัดฟันตำหนิใส่นางอย่างดุร้ายเย็นชา
จวินฝูเห็นร่องรอยส่อเค้าระเบิดโทสะของเขา ก็เงียบลงอย่างรู้ทัน
บัดนี้ จงเซิ้งประคองกระพันปีหลวงที่ยังอกสั่นขวัญเสียขึ้นนั่งบนบัลลังก์พญาหงส์เคลือบทอง
เขาหยิบกล่องโอสถสำรองออกมาอย่างรวดเร็ว และกำชับกับเหล่าแพทย์หลวงหลายคนที่อยู่ด้านหน้าพระพันปีหลวงเห่อเหลียน “ถอยไป พวกเจ้าไม่เอาไหน ให้ข้าทำเองดีกว่า”
ขณะพูด เขาโน้มตัวลงครึ่งหนึ่ง และรักษาบาดแผลที่หน้าผากขอพระพันปีหลวงเห่อเหลียนราวกับว่าไม่มีใครอยู่ตรงนั้น
“พระพันปีหลวงหลวงทรงเจ็บหรือไม่พะย่ะค่ะ”
พระพันปีหลวงเหอเหลียนตอบเสียงอ่อย “ไม่เป็นไร”
เฟิงอู๋โยวมองจงเซิ้งด้วยสายตาแปลกประหลาด นางรู้สึกว่าความสัมพันธ์ระหว่างจงเซิ้งกับพระพันปีหลวงคงไม่ใช่แค่นาย-บ่าว
หรือว่าพวกเขากระทำบางอย่างกันอย่างลับๆ ล่อๆ กันตั้งแต่แรก
เมื่อพระพันปีหลวงสังเกตเห็นสายตาของเฟิงอู๋โยวก็พลันใจหวิวขึ้นมาทันที
ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางยังคงเป็นพระพันปีหลวงอยู่ ต่อให้เฟิงอู๋โยวจะมีจวินมั่วหรันคอยหนุนหลัง นางไม่มีทางกล้าทำตัวแบบเบื้องล่างลามปามเบื้องบนต่อหน้าขุนนางและทหารชั้นสูง
หลังจากลมหายใจของนางเสถียร ดวงตาดุดันก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของเฟิงอู๋โยว ตรัสขึ้นเสียงเย็นเคร่งขรึม “เฟิงอู๋โยวถูกสงสัยว่าวางยาพิษและวางแผนลอบสังหารองค์ฮ่องเต้ นับเป็นโทษที่ไม่อาจให้อภัยได้”
จงเซิ้งพูดเสริมอย่างเรียบเฉย “แม่ทัพเฟิงเห็นชีวิตมนุษย์เหมือนหญ้าราก เมื่อหนึ่งชั่วยามที่แล้วเขาสังหารสาวใช้ข้างกายของท่านหญิงจวินฝูอย่างไร้ความปราณี”
ท้าวนางกุ้ยพยักหน้ารัว จากนั้นก็ต่อว่าการกระทำอันโหดร้ายของเฟิงอู๋โยวอย่างใส่อารมณ์ “ไม่เพียงเท่านี้! เฟิงอู๋โยวสร้างความวุ่นวายครั้งใหญ่ไปทั่วพระตำหนักคุนหนิง ทำให้ผู้คนน้อยใหญ่ทั่วทั้งตำหนักตื่นตระหนก ฆ่าล้างตระกูลเจ็ดชั่วโคตรยังถือว่าน้อยไป”
จวินมั่วหรันพยายามข่มให้เส้นเลือดที่ปูดขึ้นบนหน้าผากยุบลง น้ำเสียงเยือกเย็นลงฉับพลัน “ฆ่าล้างตระกูลเจ็ดชั่วโคตรกระนั้นหรือ พวกเจ้าวางแผนจะลากข้าผู้นี้ไปฆ่าด้วยใช่หรือไม่”
“ทาสผู้ต้อยต่ำปากพล่อยเองเจ้าค่ะ ขอท่านใต้เท้าโปรดเมตตา!”
เปลือกตาของท้าวนางกุ้ยเกร็งกระตุก นางคิดว่าเฟิงอู๋โยวเป็นแต่แม่ทัพครึ่งๆ กลางๆ จากแคว้นเป่ยหลีที่ไม่มีใครคอยหนุนหลัง
คาดไม่ถึงว่าจวินมั่วหรันจะมองเฟิงอู๋โยวเป็นคนสนิทและเป็นฝ่ายรับนางเป็นญาติในตระกูล!
แม้พระพันปีหลวงจะเสียเปรียบ แต่ก็ไม่อาจยอมวางมือจากเรื่องนี้แบบนี้
นางทรงยืนขึ้นทันที ตรัสถามจวินมั่วหรันเสียงเย็น “เซ่อเจิ้งหวาง กษัตริย์ทำผิดก็ต้องรับโทษเช่นเดียวกับราษฎร เจ้าปกป้องเฟิงอู๋โยวทุกวิถีทาง ไม่กลัวว่าจะเป็นการทำให้ประชาชนผิดหวังกระนั้นหรือ”
เป่ยถางหลงถิงจำได้ว่าหลิงซู่ซู่เคยกล่าวหาในลักษณะนี้เช่นกัน อยู่ๆ จึงรู้สึกเห็นใจ
“ข้าผู้นี้กล้าเอาตัวเองเป็นหลักประกัน เฟิงอู๋โยวเป็นคนซื่อตรงที่มีหัวใจยิ่งใหญ่ เขาไม่เพิกเฉยต่อชีวิตมนุษย์ ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสังหารฮ่องเต้แห่งแคว้นตงหลิน คดียังไม่ได้ถูกตรวจสอบแน่ชัด เหตุใดพระพันปีหลวงด่วนตัดสินว่าเป็นความผิดของเฟิงอู๋โยวแล้ว” คำพูดของเป่ยถางหลงถิงฉะฉานและหนักแน่น
เฟิงอู๋โยวกะพริบตาปริบๆ จ้องมองเป่ยถางหลงถิงอย่างไม่เข้าใจ
ไฉนนิสัยของเจ้าผู้เฒ่าคนนี้ถึงแปรเปลี่ยนฉับพลันเช่นนี้
หรือว่าเขาตัณหากลับ คิดอยากรับนางเข้าวังหลวงแห่งแคว้นเป่ยหลีจริงๆ
เมื่อคิดได้เช่นนี้ เฟิงอู๋โยวก็รู้สึกขยะแขยงเป็นที่สุด
เสียแรงที่เป่ยถางหลงถิงใช้ใจ แต่ในสายตาของนางกลับรู้สึกเฉยๆ
คิ้วทรงกระบี่ของจงเซิ้งขมวดเล็กน้อย เขาโต้แย้งขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์ “หรือฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลีคิดจะแทรกแซงราชกิจภายในแคว้นตงหลิน”
“ข้าแค่รู้สึกเอ็นเฟิงอู๋โยวที่อายุยังน้อยแต่ต้องมาแบกรับข้อกล่าวหามากมายขนาดนี้”
เป่ยถางหลงถิงรู้ดีว่าตัวเองไม่มีสิทธิ์แทรกแซงราชกิจภายในแคว้นตงหลิน เขาก็แค่แสดงความเห็นตามเหตุการณ์
เฟิงอู๋โยวที่ได้ยินคำพูดนั้น แต่กลับไม่รู้สึกสะเทือนใจเลยแม้แต่น้อย และไม่คิดจริงจังกับมันเช่นกัน
‘ความเอ็นดู’ ของเป่ยถางหลงถิงช่างไร้ค่าสิ้นดี
เขาไม่เคยรับรู้ด้วยซ้ำว่าตลอดสิบเจ็ดปีที่ผ่านมานางใช้ชีวิตเยี่ยงไร
เขาไม่รู้เลยสักนิดว่าตอนที่เขาปรากฏตัวครั้งแรกในเรือนแพทย์พยากรณ์ นางยังเหลือเสี้ยวความหวังซ่อนอยู่ในหัวใจ
และเขาเป็นคนทำลายเสี้ยวความหวังที่นางเคยมีต่อเขาด้วยมือตัวเอง
และเป็นเขาที่เป็นคนตัดความสัมพันธ์พ่อลูกที่ยังหลงเหลืออยู่บางๆ ระหว่างพวกเขาด้วยมือของเขาเอง
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนเห็นเป่ยถางหลงถิงที่ปกป้องเฟิงอู๋โยวเช่นนี้ ภายในใจก็ยิ่งไม่เข้าใจ
ลือกันว่าหลังจากหลิงซู่ซู่ถึงแก่กรรม เป่ยถางหลงถิงได้อุทิศชีวิตที่เหลือทั้งหมดให้กับเป่ยถางหลีอิน
อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าเฟิงอู๋โยวถูกปลดออกจากตำแหน่งในแคว้นเป่ยหลีก็เพราะกระทำย่ำยีเป่ยถางหลีอิน
ตามหลักแล้ว เป่ยถางหลงถิงต้องเกลียดเฟิงอู๋โยวเข้ากระดูกดำถึงจะถูก
แต่ท่าทีของเป่ยถางหลงถิงทำเอานางคาดเดาไม่ถูกเลย
หลังจากครุ่นคิดอยู่เป็นเวลานาน หลังจากพระพันปีหลวงเห่อเหลียนจิบชาหนึ่งคำก็เอ่ยขึ้นช้าๆ “เฟิงอู๋โยวทำตัวเบื้องล่างลามปามเบื้องบน ไม่ใช่ข้าคนเดียวที่เห็น จับเขาขังไว้ในคุกสวรรค์ของศาลต้าหลี่ก่อน แล้วค่อยพิจารณาต่อในวันพรุ่งนี้”
จวินมั่วหรันพูดว่า “ยังไม่ถูกตัดสิน แล้วมีเหตุผลอันใดต้องจับเขาเข้าคุก ไม่อนุญาต”
เมื่อจี้มั่วจื่อเฉินได้ยินเช่นนี้ เขาก็ลดเสียงพูด “อาหรัน เจ้าควรยับยั้งตัวเองบ้าง! เป็นแค่การฝากขังเท่านั้น ไม่ได้ทำอะไรนางเสียหน่อย! ถ้าเจ้ายังเป็นทำตัวเผด็จการเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าไม่เร็ว เจ้าจะสูญเสียความไว้เนื้อเชื่อใจจากประชาชน”
จวินมั่วหรันเอ่ยด้วยสีหน้าเฉยเมย “ข้าไม่ต้องการ”
“หรือว่าเจ้าต้องการให้เฟิงอู๋โยวแบกรับชื่อเสียงเสียหายเป็นตลอดกาล เรื่องเร่งด่วนที่สุดตอนนี้คือทำให้จิตใจของประชาชนมั่นคง หลังจากที่ฮ่องเต้ฟื้นขึ้นมาแล้ว สามารถวางแผนระยะยาวได้” จี้มั่วจื่อเฉินเกลี้ยกล่อมจวินมั่วหรันอย่างจริงจัง
ก่อนที่จะพบกับเฟิงอู๋โยว ทุกครั้งที่จี้มั่วจื่อเฉินมีปัญหาก็มีแต่จวินมั่วหรันที่เป็นคนให้ท้ายเขา
ไม่คิดไม่ฝันว่าหลังจากได้พบกับเฟิงอู๋โยว พฤติกรรมของจวินมั่วหรันจะเริ่มไร้การควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ
เขาเปลี่ยนไปเป็นที่เต็มใจจะแบกคำกล่าวหาของทุกคนทั่วใต้หล้าเพื่อเฟิงอู๋โยว
จี้มั่วจื่อเฉินไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจวินมั่วหรันกลายเป็นคนคลั่งรักได้เยี่ยงไร
จวินมั่วหรันพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด “ต่อให้เขาทำผิดมหันต์จริงๆ ข้าผู้นี้ก็เต็มใจที่จะปกป้องเขา ส่วนคุกสวรรค์แห่งศาลต้าหลี่ พวกเจ้าคนไหนชอบอยู่ก็อยู่ไป”
เฟิงอู๋โยวจนปัญญา นางคิดในใจว่าจวินมั่วหรันไม่ต้องทำตัวไร้เหตุผลขนาดนี้ก็ได้
แต่ความรู้สึกที่ถูกเขาปกป้องมันก็ไม่เลวจริงๆ