ตอนที่ 364 เค้นถาม / ตอนที่ 365 จุดเปลี่ยน
ตอนที่ 364 เค้นถาม
เป่ยถางหลงถิงคิ้วขมวด เขาแน่ใจแล้วว่าการตายของหลิ่วหยวนเป็นฝีมือของเป่ยถางหลีอินแน่นอน
เพียงแต่เป่ยถางหลีอินเป็นบุตรีที่เขาฟูมฟักเลี้ยงดูมาตลอดสิบเจ็ดปี เป่ยถางหลงถิงจะนิ่งดูดายได้เยี่ยงไร
อีกอย่าง ถ้าในวังหลวงแห่งแคว้นเป่ยหลีมีละครแมวดาวสลับเปลี่ยนองค์รัชทายาทขึ้นมาจริงๆ
ไม่ใช่ จะต้องไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
เพราะ ‘แมวดาว’ ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของเขาตั้งแต่แรก เสี้ยวเวลาแรกตั้งแต่ถูกสับเปลี่ยนตัว ชีวิตที่เหลือต่อมาก็ถูกคนบงการเอาไว้อย่างเสร็จสรรพเสียแล้ว
ขุนนางแห่งศาลต้าหลี่กลัวจะทำให้เป่ยถางหลงถิงโกรธ จึงได้แต่กระซิบถามฟู่เย่เฉินอีกครั้ง “ไม่มีวิธีการที่จะพิสูจน์ตัวหนังสือที่อยู่บนฝ่ามือแล้วจริงหรือขอรับ”
ฟู่เย่เฉินไม่อยากพูดมาก ได้แต่ตอบอย่างคลุมเคลือไปว่า “คนที่ทำไม่ใช่ฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลี”
ขุนนางแห่งศาลต้าหลี่ได้ยินดังนั้น ก็ถอนหายใจลากยาวอย่างโล่งอก
“ท่านฮ่องเต้แห่งแคว้นเป่ยหลี คืนนี้ต้องขออภัยเป็นอย่างยิ่ง ขอได้โปรดยกโทษให้ด้วยเถิดขอรับ”
“ไม่เป็นไร บัณฑิตหลิ่วเป็นคนของแคว้นเป่ยหลี รอให้พวกเจ้าหาสาเหตุการณ์ตายที่แท้จริงของบัณฑิตหลิ่วได้ก่อน หลังจากนั้นค่อยมอบศพของเขาให้ข้า ข้าจะพาเขากลับแคว้นเป่ยหลีที่ซึ่งเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของเขาเอง”
หลังจากพูดจบ เป่ยถางหลงถิงก็ยืน แล้วเท้าออกนอกห้องโถงแห่งศาลเล้าต้าหลี่ไป
อันที่จริง ฟู่เย่เฉินรู้แล้วว่าที่ฝ่ามือของหลิ่วหยวนถูกสลักว่าอะไร
ไม่คิดเลยว่า เป่ยถางหลีอินคือฆาตกรที่สังหารหลิ่วหยวน
ทว่าด้วยนิสัยปกป้องคนใกล้ชิดของเป่ยถางหลงถิง คดีนี้ต้องกลายเป็นคดีที่ยังไม่มีข้อสรุปไปก่อน
สุดท้ายก็ต้องจบอย่างสมบูรณ์อยู่ดี ฟู่เย่เฉินครุ่นคิด สู้ซื้อใจเป่ยถางหลงถิงดูสักครั้ง จะได้ล้วงคำพูดจากปากของเขาได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ ฟู่เย่เฉินก็รีบสาวเท้าก้าวตามเป่ยถางหลงถิงเพิ่งจะก้าวขาออกจากห้องโถงศาลต้าหลี่
…
ณ เรือนพำนักแห่งแคว้นตงหลินที่เป่ยถางหลีอินพักอยู่
เป่ยถางหลงถิงบุกเข้าไปยังห้องของเป่ยถางหลีอินด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “ปิ่นมุกที่พ่อมอบให้เจ้า ไปไหนแล้ว”
“เสด็จพ่อ ดึกแล้ว ไฉนยังไม่นอน”
เป่ยถางหลีอินลุกจากเตียงนอนขึ้นมานั่งอย่างงัวเงีย นางถามเสียงอู้อี้
“อินเอ๋อร์ จงบอกพ่อมาตามจริง ปิ่นหยกไปไหนแล้ว”
เป่ยถางหลีอินไม่รู้ว่าเพราเหตุใด อยู่ๆ เป่ยถางหลงถิงถึงสนใจปิ่นหยกแค่อันเดียวยิ่งนัก แต่เมื่อเห็นสีหน้าเคร่งขรึมเยือกเย็นของเขา นางจึงได้แต่รีบลงมาจากเตียง บึ่งไปยังโต๊ะเครื่องแป้ง ค้นหาตามกล่องเครื่องร่ำอย่างละเอียด
“แปลก ปิ่นหยกหายไปไหน”
นางรื้อค้นอยู่พักใหญ่ เป่ยถางหลีถิงถึงได้รู้ว่าปิ่นหยกหายไป ภายในใจก็ยิ่งคิดยิ่งกลุ้มใจ
“อินเอ๋อร์ เจ้าลองนึกดูดีๆ ว่าทำปิ่นหยกหล่นหายที่ไหนหรือไม่”
เป่ยถางหลงถิงถามอย่างห่วงใย ในใจของเขายังคงมีความหวังอยู่
แม้ว่าจะมีหลักฐานหลายอย่างบ่งชี้ว่าเป่ยถางหลีอินคือฆาตรกรที่ฆ่าหลิ่วหยวน
แต่เขาก็ยังคงยากที่จะยอมรับเรื่องทั้งหมดนี้
เวลานี้ เขาหวังแค่เพียงเป่ยถางหลีอินหาปิ่นหยกของนางเจอ แล้วก็บอกกับเขาว่าคืนนี้ทั้งคืน นางไม่ได้ออกจากห้องเลยแม้แต่ก้าวเดียว
แต่สิ่งที่ทำให้เขาผิดหวังก็คือ เป่ยถางหลีอินหาปิ่นหยกไม่เจอ
“เสด็จพ่อ ก็แค่ปิ่นหยกแค่อันเดียว ไฉนถึงร้อนใจขนาดนี้”
เป่ยถางหลินยินผลักเป่ยถางหลงถิงออกนอกห้องอย่างไม่พอใจ “มีอะไรค่อยคุยกันพรุ่งนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ คืนนี้ดึกแล้ว เสด็จพ่อรีบกลับห้องพักผ่อนเถิดเจ้าค่ะ”
“ได้”
เป่ยถางหลงถิงตอบกลับอย่างอบอุ่น เขาเก็บความเจ็บปวดในใจไว้และถอยไปอย่างเงียบๆ
ภายในห้อง เป่ยถางหลีอินพิงประตู มือเท้าสั่นระริก รู้สึกไร้ที่พึ่งพิงเป็นที่สุด
นางรู้ดีว่าเป่ยถางหลงถิงเริ่มสงสัยแล้ว
แต่ปัญหาก็คือ ตอนนี้นางไม่สามารถพิสูจน์ตัวเองได้
แค่คิดว่าสิ่งที่เป็นของนางทั้งหมดจะถูกเฟิงอู่โยวแย่งไป นางก็ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้อีกต่อไป ปล่อยโฮร้องไห้ออกมายกใหญ่ทันที
ตอนที่ 365 จุดเปลี่ยน
เช้าวันรุ่งขึ้น ท้องฟ้าค่อยๆ สว่าง เฟิงอู๋โยวถูกข้าพลเรือนของศาลต้าหลี่ ‘เชิญ’ มายังห้องโถงอย่างนอบน้อม
ขณะเดียวกัน เหล่าขุนนางแห่งแคว้นตงหลินทั้งหมดก็มาถึง
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนประทับอยู่บนแท่นประทับสูงส่งในฉลองพระองค์สีแดงฉานลายดอกโบตั๋นที่ปักด้วยดิ้นเงินอย่างละเอียดประณีต ดูหรูหราเลอค่าอย่างเห็นได้ชัด
ไม่ชมก็ไม่ได้ พระพันปีหลวงเห่อเหลียนบำรุงดูแลตัวเองเป็นอย่างดี
แม้ว่าจะเกือบครึ่งร้อยพรรษาแล้ว แต่รูปร่างทรวดทรงทรงเอวยังคงสง่างาม ผิวขาวเนียนตัดกับชุดสีแดงยิ่งทำให้งดงามเหนือสรรพสิ่ง
แต่การแต่งกายแบบนี้ขัดกับคนที่ชอบการนั่งกรรมฐานและซึ้งในโลกพระธรรมยิ่งนัก
ด้านข้างพระพันปีหลวงเห่อเหลียน จงเซิ้งสวมชุดสีแดง ทรงเสื้อธรรมดาแต่หรูหรา กิริยาเรียบง่ายดูสง่างาม
เฟิงอู๋โยวมองไปรอบๆ มีผู้คนหลากหน้าหลายตารายล้อมอยู่ สุดท้ายสายตาไปหยุดอยู่ที่จงเซิ้งที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาข้างกายพระพันปีหลวงเห่อเหลียน
ผู้ดูแลสูงสุดแห่งตำหนักคุนหนิงคนนี้ ดูท่าไม่ธรรมดาเสียจริง
วรยุทธ์สูงล้ำ คิดการรอบคอบ สามารถถวายการรับใช้พระพันปีหลวงเห่อเหลียนผู้เรื่องมากได้อย่างดีเยี่ยม
แม้ใบหน้าของเขาจะดำคล้ำเป็นถ่าน แต่โครงหน้ากลับคมชัดไม่ธรรมดา
หากผิวขาวกว่านี้หน่อย น่าจะพอเทียบกับเป่ยถางหลงถิงได้อยู่
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนจับสังเกตุได้ว่าเฟิ่งอู่โยวจ้องมองจงเซิ้ง ภายในใจพลันรู้สึกกระวนกระวาย
หลังจากจี้มั่วอิ้นเหรินถูกนางกำนัลประคองขึ้นประทับเรียบร้อยแล้ว พระพันปีหลวงเห่อเหลียนจึงคลี่ยิ้มถามไถ่จี้มั่วอิ้นเหรินอย่างอบอุ่น “ร่างกายดีขึ้นมากแล้วหรือ”
“ทูลเสด็จแม่ ลูกสบายดีเป็นปกติแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ก็ดีแล้ว”
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนวางพรหัตถ์อันเรียวงามประกบลงบนหลังมือของจี้มั่วอิ้นเหริน บนปลอกนิ้วหยกฝั่งด้วยพลอยสีเลือดนก มองเผินๆ เหมือนเม็ดถั่วแดง
“พระพันปีหลวง เชิญเสวยน้ำชาพ่ะย่ะค่ะ”
จงเซิ้งสังเกตได้ว่าเสียงของพระพันปีหลวงเห่อเหลียนดูติดขัด จึงรีบโค้งตัวถวายชาอุ่น
พระพันปีหลวงเห่อเหลียนรับจอกน้ำชามาแล้วจิบเพียงหนึ่งคำแค่ชุ่มคอ ก่อนเบนสายตาไปที่เฟิงอู๋โยว
“หลายวันมานี้ ในวังหลวงเกิดเรื่องมากมายขึ้นอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากที่ฮ่องเต้โดนลอบวางยาพิษจนสลบไป ต่อด้วยคนรับใช้ของจวินฝูถูกฆ่า ข้าจะต้องสืบสวนเรื่องเหล่านี้ให้กระจ่าง เฟิงอู๋โยว ข้าขอถามเจ้า การตายของคนรับใช้ส่วนตัวของจวินฝูเป็นการกระทำของเจ้าใช่หรือไม่”
ขุนนางยู่ชินเห็นพระพันปีหลวงเห่อเหลียนเริ่มต้นด้วยการใช้อำนาจข่มขู่ คาดโทษผิดร้ายแรงให้กับเฟิงอู๋โยวแบบตรงๆ ใบหน้าก็ผุดยิ้มอย่างดีใจ
จวินมั่วหรันคิ้วขมวด พูดด้วยน้ำเสียงสุขุม “คดีนี้มีหลายส่วนที่เกี่ยวข้อง ไฉนพระพันปีหลวงถึงได้บังคับขู่เข็ญให้รับข้อกล่าวหา”
“เซ่อเจิ้งหวางกล่าวเช่นนี้ก็ไม่ถูก ข้าก็แค่ทำตามขั้นตอนที่ควรทำ ใจเป็นกลาง ถามแค่ไม่กี่คำเท่านั้น คนที่ให้การเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเฟิงอู๋โยวเป็นคนฆ่าคือน้องสาวของเจ้าอย่างจวินฝูต่างหาก” พระพันปีหลวงเห่อเหลียนตรัสสองสามประโยคเพื่อกลบความเกี่ยวข้องของตัวเองทั้งหมดลง
เมื่อพูดถึงจวินฝู สายตาของผู้คนที่อยู่ตรงนั้นต่างรู้สึกประหลาดใจขึ้นเล็กน้อย
ความจริงแล้วเรื่องที่หยุนเฟยไป๋ถูกจวินมั่วหรันทำร้ายยังไม่แพร่งพรายออกไป
แต่ที่เรือนพำนักก็มีสายของตระกูลใหญ่แฝงตัวอยู่ในนั้น ถ้าขุนนางทั้งหลายอยากรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เรือนพำนักเมื่อคืน ก็ไม่ยาก
ทุกคนรู้ดีกว่า ถ้าหยุนเฟยไป๋ไม่สามารถใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติแล้ว คนที่ได้รับประโยชน์มากที่สุดคือจวินฝู
ขอแค่นางให้กำเนิดทายาทของหยุนเฟยไป๋ อาศัยบุตรที่เกิดมา ตำแหน่งพระสนมเอกแห่งแคว้นหยุนฉินจะต้องเป็นของนางอย่างแน่นอน
จวินฝูรู้แน่นอนว่าบุตรในท้องของนางมีค่ามากเพียงใด
ดังนั้น ถึงแม้ไม่มีการปกป้องจากจวินมั่วหรัน นางก็มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
เวลานี้ นางนั่งอยู่บนแท่นประทับ สองทั้งมือข้างประคองท้องของตัวเอง สายตาจ้องมองเฟิงอู๋โยวแน่นิ่งและยืนกรานอย่างแน่วแน่ว่าเฟิงอู๋โยวคือคนที่ฆ่าหรงชุ่ย
เฟิงอู๋โยวถามนางกลับ “ท่านหญิงจวินฝู ตาฝาดหรือไม่”
จวินฝูตอบอย่างฉะฉาน “เป็นไปไม่ได้ คนรับใช้ผู้น่าสงสารของข้าถูกเจ้าวางยาแล้วโยนลงบ่อ สิ้นใจตาย ข้าเห็นกับตา ไม่ผิดแน่นอน”
เฟิงอู๋โยวยืนเอามือไพล่หลัง ยิ้มแต่ไม่พูด
รับมือกับคนไร้สมองอย่างจวินฝู นางไม่จำเป็นต้องแก้ตัวใดๆ จวินฝูแค่อธิบายให้ตัวเองเข้าใจยังพูดยากเลย
ตอนนี้ ฟู่เย่เฉินสั่งให้เอาศพที่งมได้จากบ่อด้านหน้าตำหนักหลวนชินเข้ามา
เขาพูดอย่างหนักแน่น “ศพที่เจอในบ่อ ไม่ใช่สาวรับใช้ของท่านหญิงจวินฝูอย่างแน่นอน แค่มองจากรูปร่าง ผู้ตายน่าจะมีอายุเกือบครึ่งร้อย ลักษณะการบวมเป็นลักษณะศพของสตรีวัยกลางคน แต่สาวรับใช้ของท่านหญิงจวินฝูอายุยังไม่ถึงสิบห้าปี แม้จะถูกแช่ในบ่อนานหลายวันก็ไม่สามารถบวมขึ้นได้ขนาดนี้ อีกอย่าง บ่อหน้าตำหนักหลวนชินก็เริ่มแห้งขอดนานแล้ว”
จวินฝูส่ายหน้ารัว นางตกใจมาก“เป็นไปไม่ได้ ข้าเห็นกับตาว่าหรงชุ่ยตกลงไปในบ่อ ในบ่อมีศพเพียงศพเดียว ถ้าไม่ใช่หรงชุ่ยจะเป็นใครไปได้ หรือว่าเฟิงอู๋โยวเคลื่อนย้ายศพของหรงชุ่ยไปแล้ว”
“เบิกตัวหรงชุ่ย”
ริมฝีปากเรียวบางของจวินมั่วหรันปริเอ่ย สีหน้าเย็นเยือกราวกับหิมะ
ตราบจนถึงวันนี้ นิสัยของจวินฝูก็แก้ไม่หาย
ตระกูลจวินมีบุญคุณกับเขาแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะปล่อยปะละเลยกับการกระทำที่ไม่ถูกไม่ควรของจวินฝู
“ท่านพี่ ท่านกำลังพูดอะไร”
ดวงตาของจวินฝูเบิกกว้าง ริมฝีปากของนางสั่นระริก คิดว่าจวินมั่วหรันคงไปหาสาวรับใช้สักคนมาแทนหรงชุ่ย เพื่อให้เฟิงอู๋โยวพ้นโทษ
จนกระทั่งทหารสองนายประครองหรงชุ่ยเข้ามายังห้องโถง จวินฝูถึงได้ทราบว่าที่แท้นางยังไม่ตาย!