ตอนที่ 385 อย่าพลาดฤกษ์ยามอันดี
แสงสลัวสาดส่องมายังห้อง ม่านปักลายสีฟ้าห้อยกางกั้นแสงส่องเตียงบางส่วน
มองดูเมฆหมอก ดลจิตดลใจให้ว้าวุ่น
บนใบหน้าที่หล่อเหลาไร้ที่ติของจวินมั่วหรัน มีรอยยิ้มที่ไร้ความยับยั้งชั่งใจ แสงสีเหลืองอำพันส่องประกายในดวงตาสีดำทอง ทำให้ผู้คนไม่สามารถละสายตาได้
เขาวางชามยาไว้ข้างๆ และค่อยๆ ปลดกระดุมที่ซ่อนอยู่บนเสื้อคลุมลายมังกรสีดำด้วยมือที่เห็นกระดูกข้อต่อชัดเจนอย่างช้าๆ
ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ หน้าอกที่กว้างและกล้ามท้องที่แน่น โผล่มาให้เห็นลางๆ
เฟิงอู๋โยวอดไม่ได้ที่จะยื่นนิ้วออกมา ค่อยๆ สะกิดเส้นเลือดสีฟ้าอ่อนบนกล้ามเนื้อหน้าท้องของเขา พูดอย่างประชด “น่าเสียดายที่ไม่ได้ขาย’’
“เจ้าว่าอะไรนะ”
นางสัมผัสผิวบอบบางของเขาเบาๆ ด้วยปลายนิ้ว ถอนหายใจและพูดจากใจ “ยั่วให้ก่ออาชญากรรมจริง”
“สาวน้อย ตั้งสติไว้ อย่าหลงกลพวกมาร” เป่ยถางหลงถิงพยายามที่จะลุกขึ้นจากพื้น รวบรวมพลังงานทั้งหมดของเขาและพุ่งไปหาจวินมั่วหรันอีกครั้ง
เขาเฝ้าดูจวินมั่วหรันยั่วยวนเฟิงอู๋โยวอย่างไร้ยางอายในเวลากลางวันแสกๆ และโกรธมาก
จวินมั่วหรันขมวดคิ้วเล็กน้อยและโยนเสื้อคลุมสีดำบนร่างกายของเขาไปทาง เป่ยถางหลงถิงทันที “ไม่ควรอย่ามอง’’
“เดรัจฉาน! ห้ามรังแกลูกสาวข้า!”
เป่ยถางหลงถิงตะโกนและดึงเสื้อคลุมสีดำที่ปิดอยู่บนหน้าผากของเขาออกอย่างแม่นยำและกำลังจะลากจวินมั่วหรันออกไป แต่กลับเห็นเฟิงอู๋โยวโผเข้ากอดเขาเอง
จวินมั่วหรันปล่อยให้นางกอดและใช้ปากป้อนยาให้นางตอนนางเผลอ
นางสั่นไปทั้งตัวเมื่อขนตายาวดุจขนนกของเขากวาดบนใบหน้านาง
ด้วยสัญชาตญาณ นางกำลังจะผลักจวินมั่วหรันออกไป แต่กลับรู้สึกว่ายาขมในปากของเขากลับมีรสหวาน
เป่ยถางหลงถิงหมดความอดทน เขาโค้งตัวลงยืดคอของเขาและตะโกนเสียงดังใส่หูเฟิงอู๋โยว “นิวนิว อดทนไว้! อย่าปล่อยให้มารร้ายเอาเปรียบได้!”
“เฒ่าเป่ยถาง ข้าไม่ได้ชื่อนิวนิว”
เฟิงอู๋โยวรู้สึกไม่พอใจ นางไม่อยากให้คนอื่นเรียกตัวเองว่า ‘นิวนิว’ แค่คิดก็ขนหัวลุกแล้ว
“นิวนิว ลูกเป็นผู้หญิงอย่าปล่อยให้คนอื่นจูบง่ายๆ สิ หยุดทำปากจู๋เดี๋ยวนี้”
เป่ยถางหลงถิงเป็นกังวลมาก เขากลัวอย่างยิ่งว่าเฟิงอู๋โยวจะถูกจวินมั่วหรันเอาเปรียบ
เฟิงอู๋โยวเอียงศีรษะด้วยความเขินอายพร้อมพึมพำ “มายุ่งอะไรด้วย ก็ข้าชอบคนหล่อ”
เป่ยถางหลงถิงใช้มือทำท่าบอกให้เงียบ พยายามเกลี้ยกล่อมเฟิงอู๋โยว “นิวนิว เจ้าเป็นหญิงที่ยังไม่ได้ออกเรือน เก็บคำพูดที่น่าตกใจนั้นไว้ในใจก็พอ อย่าพูดมันออกมา”
จวินมั่วหรันมองเป่ยถางหลงถิงที่กำลังสาดน้ำลายด้วยท่าทางที่เย็นชา ยกแขนขึ้นและซัดไปยังท้ายทอยอย่างแม่นยำจนเขาหมดสติไป
จากนั้นใช้มือข้างหนึ่งลากคอเสื้อของเป่ยถางหลงถิงแล้วเหวี่ยงเขาออกไปที่ประตูพร้อมกับเสียงดัง
อย่างไรก็ตาม เพียงไม่กี่นาที เป่ยถางหลงถิงก็ได้สติอีกครั้ง
เขาเดินไปที่ประตูที่ปิดสนิทอย่างกระวนกระวายใจ เบิกตากว้างและเฝ้าดูคนทั้งสองที่นอนกอดกันอยู่ในห้องด้านในผ่านช่องแคบๆ ของประตู
บังอาจ!
ป้อนยากันเสร็จแล้วทำไมยังกอดกันไม่ปล่อย!
จวินมั่วหรันเป็นอันธพาลที่ไร้ยางอาย!
เป่ยถางหลงถิงถีบประตูออกและพูดอย่างโมโห “ปล่อยนางเสีย!”
ความจริงแล้วเฟิงอู๋โยวเป็นฝ่ายทับร่างจวินมั่วหรันและเป็นฝ่ายควบคุมเขา
แต่ในสายตาของเป่ยถางหลงถิง เฟิงอู๋โยวน่าจะโดนบังคับให้อยู่ในอ้อมแขนของเขา
“ตาเฒ่า เจ้าอาละวาดพอหรือยัง? เจ้าไม่รู้หรอว่าแอบดูเขามีอะไรกันจะเป็นตากุ้งยิง”
“นิวนิว ถ้าเจ้าชอบเขาจริง อย่างน้อยก็ควรให้ข้าได้คุยกับเขาก่อนดีหรือไม่ ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง ข้ากลัวเจ้าจะเสียเปรียบ”
“ข้าจะเสียเปรียบหรือไม่มันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้าไม่ใช่หรือ”
เฟิงอู๋โยวเห็นหน้าอกของเขาเริ่มมีเลือดไหลออกมาอีกครั้ง นางจึงลดโทนเสียงลงโดยไม่รู้ตัว “ไปทำแผลกับกู่หนานเฟิง อย่าให้ข้าต้องพูดเป็นรอบที่สอง”
น้ำตาเป่ยถางหลงถิงไหลออกมาทันที เขามั่นใจว่าเฟิงอู๋โยวต้องเป็นห่วงเขาเพราะสายใยแห่งสายเลือด
เขาปิดหน้าอกด้วยมือข้างหนึ่งและสำลัก “นิวนิวไม่ต้องเป็นห่วง แผลเล็กน้อย”
เมื่อเห็นว่าเขากำลังจะหันหลังกลับและจากไป เฟิงอู๋โยวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก และตอบอย่างเป็นพิธีว่า “รีบรักษาอาการบาดเจ็บของเจ้า อย่ารอฤกษ์ยามอันดี”
“ได้”
เป่ยถางหลงถิงรู้สึกตกใจกับความห่วงใย รีบตอบรับทันทีและเดินออกจากห้องอย่างดีใจ
กู่หนานเฟิงมองเป่ยถางหลงถิงที่กำลังหัวเราะและเอ่ยถาม “เฟิงอู๋โยวยอมรับท่านแล้วหรือ”
เป่ยถางหลงถิงหัวเราะอย่างดีใจ และพูดอย่างภูมิใจ “นิวนิวบอกข้าให้รีบไปรักษาอาการบาดเจ็บ อย่ารอฤกษ์งามยามอันดี”
เจ้าเด็กคนนี้ช่างใส่ใจเหลือเกิน! แม้แต่การรักษาอาการบาดเจ็บยังต้องดูฤกษ์ด้วย
กู่หนานเฟิงกลั้นหัวเราะไม่ได้ จึงหลุดหัวเราะเสียงดังออกมา
เห็นได้ชัดว่าเฟิงอู๋โยวแค่รู้สึกรำคาญเป่ยถางหลงถิงเพราะเขากำลังขัดขวาง “ฤกษ์งามยามดี” ของนางกับจวินมั่วหรัน
อย่างไรก็ตาม กู่หนานเฟิงไม่ได้พูดออกมาตามตรง
เขากำลังเตรียมพาเป่ยถางหลงถิงไปทำแผลที่ห้องด้านข้าง ทันใดนั้นหัวกลมๆ เล็กๆ ก็โผล่เข้ามาทางประตู
กู่หนานเฟิงหรี่ตาเล็กน้อยแล้วหยิบหนังสติ๊กในมือโยนไปที่หัวดังกล่าวทันที
โชคดีที่มู่ลั่วเหยียนตอบสนองได้เร็ว หันกลับและหลบหลีกการโจมตีอย่างกะทันหันของกู่หนานเฟิงได้อย่างหวุดหวิด
กู่หนานเฟิงเอามือเท้าเอว ทำหน้าเหมือนโดนคนเอาเปรียบและพูดด้วยความโกรธ “ทำตัวลับๆ ล่อๆ คงไม่ใช่มาแอบมองความงามข้าหรอกนะ’’
“เจ้าเข้าใจผิดแล้ว ข้ามาหาท่านแม่ทัพเฟิง”
มู่ลั่วเหยียนถือกล่องอาหารไว้ในอกและเดินเข้าไปในเรือนแพทย์พยากรณ์
นางมองไปยังกระสุนที่ตกกระจัดกระจายเต็มพื้น ขมวดคิ้วอันสวยงามเล็กน้อยพร้อมพูดว่า “ไร้มารยาท”
“ตามหาเฟิงอู๋โยวทำไม”
กู่หนานเฟิงเข้าใจผิดคิดว่ามู่ลั่วเหยียนมาเพื่อหาเรื่องเฟิงอู๋โยว ดังนั้นเขาจึงทำหน้าเย็นชาและแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดี