ตอนที่ 399 จวินฝูเล่นปาหี่ / ตอนที่ 400 โต้กลับท่ามกลางอันตราย
ตอนที่ 399 จวินฝูเล่นปาหี่
“เจ้าค่ะ”
เถาหงตอบรับอย่างถ่อมตน ก่อนลุกขึ้นต่อหน้าหยุนเฟยไป๋
ตอนนี้ เสียงน้ำดังซู่ซ่า กลีบดอกไม้บนผิวน้ำกระเพื่อมตามการเคลื่อนไหวของเถาหง
หยุนเฟยไป๋มองท่าทางป้ำๆ เป๋อๆ ของเถาหง ความสงสัยพลันหายไปชั่วคราว จากนั้นก็ก้าวออกจากห้องและปิดประตูให้นาง
เมื่อเขาจากไป เถาหงก็ดึงเฟิงอู๋โยวสภาพอ่อนยวบยาบไปทั้งตัวขึ้นมาจากน้ำ
นางเอ่ยเสียงต่ำ “แม่ทัพเฟิง รีบหนีไป! หยุนเฟยไป๋เป็นคนขี้สงสัยยิ่งนัก อีกไม่นานจะต้องกลับมาอีกแน่นอน”
สีหน้าของเฟิงอู๋โยวขาวซีด ในหัวสมองฉายภาพฉากทารกน้อยขาวนวลดุจหยกลอยไหลไปตามน้ำ
มือทั้งสองข้างของนางกุมหน้าอกแน่น ก่อนถามเถาหงด้วยน้ำเสียงสงสัย “ในน้ำได้ใส่ส่วนผสมของโอสถกล่อมประสาทบางอย่างไปหรือไม่”
เถาหงส่ายหน้า ก่อนเอ่ยอย่างจริงจัง “ข้าตั้งครรภ์ ดังนั้นไม่กล้าแตะต้องโอสถพรรค์นั้นแน่นอน”
นางพูดพลางยื่นชุดแห้งสะอาดให้เฟิงอู๋โยว “เปลี่ยนชุดก่อน จะได้ไม่เป็นหวัด ต้องทนทุกข์ ถูกคาดโทษเป็นประจำก็มากพอแล้ว”
เฟิงอู๋โยวพยักหน้างึก เพิ่งจะเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ หยุนเฟยไป๋ก็เปิดประตูเข้ามาอีกครั้งจริงๆ ด้วย
เมื่อเห็นเช่นนั้น เถาหงจึงรีบถลาเข้าไปต้อนรับและถามด้วยเสียงอ่อนนุ่ม “องค์รัชทายาทต้องการอยู่ค้างกับหม่อมฉันคืนนี้หรือเจ้าคะ”
นางเกาะแขนหยุนเฟยไป๋พลางหันไปมองเฟิงอู๋โยวที่ก้มหน้าคิ้วตกอยู่ในห้อง “ยังไม่รีบเร่งมืออีก ระวังจะทำให้องค์รัชทายาทขุ่นเคืองเข้า”
“เจ้าค่ะ”
ใบหน้าครึ่งซีกของเฟิงอู๋โยวอยู่ใต้เงา นางแกล้งทำเป็นรีบก้มเก็บเสื้อผ้าของเถาหงที่กระจายอยู่บนพื้นและรีบลุกลี้ลุกลนออกจากห้องไป
ขณะที่เดินไปหยุนหยุนเฟยไป๋ไป หัวใจของเฟิงอู๋โยวลอยหวิวขึ้นมาที่คอหอย
ดีที่หยุนเฟยไป๋ไม่ทันได้สังเกตเฟิงอู๋โยวในชุดสาวรับใช้
อันที่จริง ขอแค่เขาหันกลับมามองก็จะเห็นหยดน้ำที่ไหลตามเส้นผมของเฟิงอู๋โยวไม่หยุด
เขาก้าวเท้าฉับๆ ไปข้างหน้า มือทั้งสองข้างจุ่มลงไปในอ่างน้ำและควานหา
เมื่อเห็นเฟิงอู๋โยวออกไปห้องไป เถาหงก็รีบปิดประตูและเอ่ยขึ้นเสียงบางแผ่ว “เกิดอะไรขึ้นหรือเจ้าคะ องค์รัชทายาท”
“เป็นไปไม่ได้! เฟิงอู๋โยวไม่มีทางหนีรอดไปจากอาณาเขตของข้าได้อย่างง่ายดายแบบนี้”
ดวงตาทั้งสองข้างของหยุนเฟยไป๋หรี่ลงมองผิวน้ำแน่นอน เขานึกไม่ออกจริงๆ ว่าเฟิงอู๋โยวจะหลบซ่อนได้ที่ไหน
ตอนนี้ เฟิงอู๋โยวที่เพิ่งจะหนีรอดออกมาได้ รีบถอดชุดสาวรับใช้ออกอย่างรวดเร็ว
ใส่ชุดสาวรับใช้แบบนี้ปลอดภัยกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
เพียงแต่นางไม่อยากทำให้เถาหงลำบาก
แม้เถาหงจะช่วยเหลือ แต่เฟิงอู๋โยวไม่อาจละเลยความเป็นความตายของนางได้
เฟิงอู๋โยวโยนชุดสาวรับใช้ลงไปในบ่อน้ำแห้ง ขณะกำลังกระโดดข้ามกำแพงไปยังเรือนพำนักของเป่ยถางหลงถิง จวินฝูที่ออกมาเดินเตร่ยามวิกาลก็พบกับเฟิงอู๋โยวที่กำลังจะปีนกำแพงอยู่พอดี
“เฟิงอู๋โยว เจ้ามันไร้ยางอายสิ้นดี! ตอนกลางวัน เพิ่งจะพลิกฟ้าคว้าฝน[1]กับไป๋หลี่เหอเจ๋อไปหยกๆ ผ่านไปเพิ่งไม่กี่ชั่วยาม กลับคิดจะอิงแอบแนบชิด อยากอยู่ในอ้อมอกของหยุนเฟยไป๋อีก!”
จวินฝูชี้แผ่นหลังของเฟิงอู๋โยวพลางแผดเสียงสูงดังลั่น
เฟิงอู๋โยวรู้สึกใจหวิวขึ้นมา อยู่ๆ ลางร้ายบางอย่างก็ผุดขึ้นมา
เป็นไปอย่างที่คิด!
ครั้นนางหันกลับไป ก็เห็นหยุนเฟยไป๋โผล่มาอยู่ข้างๆ จวินฝูแล้ว
“เฮ้อ! ครั้งนี้ ดูสิว่าเจ้าจะหนีไปทางไหน!”
มุมปากของหยุนเฟยไป๋รั้งขึ้น ดวงตาสีม่วงขยับไหว ฉายแววเย็นเยียบ น้ำเสียงฟังดูชั่วร้าย
เฟิงอู๋โยวโมโหขึ้นมาทันใด ไฟโทสะซุกซ่อนอยู่ในดวงตาทรงกลีบดอกท้ออันเฉียบคม จากนั้นก็ปาเข็มเงินสองเล่มไปแทงริมฝีปากบางๆ ของจวินฝูทันที
จึกๆ
เข็มเงินพุ่งเข้าแทงริมฝีปากของจวินฝูอย่างรวดเร็ว ยึดริมฝีปากที่กำลังขยับอยู่ของนางปิดสนิท
“อือๆ”
จวินฝูน้ำตาไหลพลางส่งเสียงอู้อี้ ดวงตาเคียดแค้นเหลือกกว้าง เฟิงอู๋โยวที่ปีนอยู่บนกำแพงเหมือนเสือกำลังตะกายกำแพง
ตอนที่ 400 โต้กลับท่ามกลางอันตราย
หยุนเฟยไป๋กวาดมองจวินฝูที่ขยับปากไม่ได้ ก่อนเคลื่อนสายตาไปที่เฟิงอู๋โยว
นางในตอนนี้ เสื้อผ้าเปียกชื้นแนบเนื้อจนทรวดทรงอันสวยงามถูกขับออกมาเด่นชัด
หยุนเฟยไป๋มองออกว่าบนร่างกายนางมีผ้ารัดหน้าอกพันอยู่อย่างหนา
“เฮ้อ! แม่ทัพเฟิงผู้มีเพศกำกวม เจ้าคิดจะสร้างเรื่องน่าประหลาดใจให้ข้าอีกเท่าไร! น่าสนใจจริงๆ!”
“ข้าหวังว่าจะทำให้เจ้าหวาดกลัวมากกว่า”
เฟิงอู๋โยวพูดด้วยสีหน้าจริงจัง ขณะกำลังจะกระโดดขึ้นไปบนกำแพง หยุนเฟยไป๋ก็เคลื่อนเร็วกว่านางไปหนึ่งก้าว มือสองข้างจับข้อเท้านางแน่น จากนั้นออกดึงนางเข้ามาในอ้อมแขน
“ปล่อยข้า!”
“บุหงาหอมหยกอุ่น[2]อยู่ในอ้อมกอดทั้งที มีเหตุผลอันใดต้องปล่อยไป”
“ขืนยังไม่ปล่อย ข้าจะถ่มน้ำลาย !”
“…”
หยุนเฟยไป๋รู้สึกจนปัญญา อยู่ๆ เขาก็ไม่เข้าใจวิธีคิดของเฟิงอู๋โยว
สู้ไม่ได้ก็ถ่มน้ำลายใส่ ดื้อรั้นเหมือนเด็กจนน่าแปลกใจ
แต่ในความดื้อรั้นก็สอดแทรกด้วยความน่ารัก
ดวงตาสีม่วงเข้มของเขาสะท้อนแววเสียดาย หากไม่ถูกจวินมั่วหรันเชือด เขาก็อยากจะลิ้มลองกลิ่นหอมหวนในอ้อมกอด
น่าเสียดาย เขาในตอนนี้กลับทำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น
หลังจากนิ่งเงียบไปพักหนึ่ง ใบหน้าของหยุนเฟยไป๋ก็ฉายแววนึกสนุกขึ้นมา “เจ้าคิดว่าหากข้าจับเจ้าแก้ผ้าจนล่อนจ้อนและแขวนไว้ที่หน้าประตูเมือง จวินมั่วหรันจะอับอายขายขี้หน้าหรือไม่”
“หยุนเฟยไป๋ เจ้าจะจับข้าแก้ผ้าหรือถลกหนังกันแน่”
เฟิงอู๋โยวกลืนน้ำลายอึก นางคิดในใจ หากแค่จับแก้ผ้า ถึงตอนนั้นนางค่อยเอามือปิดหน้าก็ได้ ผู้คนที่ผ่านไปมาจะได้ไม่รู้ว่านางเป็นใคร
แต่ถ้าถูกจับถลกหนัง มีหวังชีวิตสั้นๆ ของนางตายคามือของหยุนเฟยไป๋แน่นอน
มุมปากหยุนเฟยไป๋กระตุกอย่างรุนแรง จนกระทั่งตอนนี้ เฟิงอู๋โยวยังมีกะจิตกะใจถามคำถามพรรค์นี้กับเขาอีก!
สำหรับสตรีแล้ว หากถูกจับแก้ผ้าประจานต่อหน้าผู้คน แล้วยังจะมีชีวิตอยู่ต่อได้อย่างมีศักดิ์ศรีอีกกระนั้นหรือ
…
ณ ประตูทางเข้าเมืองหลวงแห่งแคว้นตงหลิน
ไฟสัญญาณกำลังลุกไหม้อยู่บนหอไฟเตือนภัยสูงเสียดฟ้า ควันไฟคลุ้งโขมงทั่วสารทิศ เปลวลุกโหมขึ้นบนท้องฟ้า ทำให้ท้องฟ้าอันมืดมิดก่อนหน้านี้สว่างไปทั่ว
ด้านบนกำแพงเมือง มีโคมไฟหลายร้อยดวงแขวนอยู่
เฟิงอู๋โยวเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าหยุนเฟยไป๋ตัดสินใจแน่วแน่ เขาต้องการให้นางเป็นที่อับอายต่อหน้าทุกคนเสียก่อนถึงจะยอมหยุด
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดก็คือ ตอนนี้นางยังมีพลังไม่มีพอที่จะเอาชนะหยุนเฟยไป๋ได้
ขณะที่อับจนหนทางอยู่นั้น เฟิงอู๋โยวจึงทำได้แค่ผ่อนน้ำเสียงพูดกับหยุนเฟยไป๋ “พวกเรามาตกลงกันเป็นเยี่ยงไร”
“ข้าไม่มีอะไรต้องตกลงกับเจ้า”
หยุนเฟยไป๋ปฏิเสธข้อเสนอของเฟิงอู๋โยวอย่างเด็ดขาด เขายื่นมือออกมาข้างหนึ่ง กระชากผ้ารัดหน้าอกบนร่างกายของนางออกอย่างรุนแรง จากนั้นก็ใช้กริชที่เหน็บอยู่ที่เอวตัดเสื้อผ้า
ทันใดนั้น ภาพท่อนขาอันเรียวยาวขาวนวลดุจหยกขาวของนางสะท้อนขึ้นบนม่านตาของเขา
เฟิงอู๋โยวโกรธจัด ชักกริชที่เหน็บซ่อนอยู่ที่รองเท้าออกมาแทงเท้าของหยุนเฟยไป๋เต็มแรง
“รนหาที่ตาย!”
หยุนเฟยไป๋ข่มกลั้นความเจ็บปวด เขาเค้นพลังภายในเต็มพิกัดอัดฝ่ามือผ่าวายุใส่เฟิงอู๋โยว
เฟิงอู๋โยวโค้งตัวไปด้านหลัง หลบหลีกการโจมตีอันรุนแรงของหยุนเฟยไป๋ได้อย่างหวุดหวิด
ขณะที่หยุนเฟยไป๋สาวเท้าใกล้เข้ามา เฟิงอู๋โยวก็ควักโอสถขับเหงื่อชนิดน้ำที่มีฤทธิ์รุนแรงที่สุดออกมาจากใต้แขนเสื้อและสาดใส่หน้าหยุนเฟยไป๋ทันที
“เล่นลูกไม้อะไรอีก”
คืนนี้ หยุนเฟยไป๋ถูกเฟิงอู๋โยวใช้ผงโอสถขับเหงื่อโปรยใส่ติดต่อกันหลายครั้งจนไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองแล้ว
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงคิดว่าเฟิงอู๋โยวเหมือนลาเฉียนฉลาดน้อย[3] ที่เล่นลูกไม้ตื้นๆ ต่อหน้าเขาอีกครั้ง
“สาม”
“สอง”
“หนึ่ง”
เฟิงอู๋โยวนับถอยหลัง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “พวกไม่รู้จักจำ ถูกข้าทำให้หมดสติอีกครั้งเข้าแล้ว”
“สมควรตาย! บังอาจแว้งกัดข้า!”
ฝีเท้าของหยุนเฟยไป๋ซวนเซ ยังไม่ทันเข้าใกล้เฟิงอู๋โยวก็ล้ม ‘ตุบ’ ลงไปที่พื้นแล้ว
เฟิงอู๋โยวมองหยุนเฟยไป๋ในสภาพดวงตาเหม่อลอย ร่างกายอ่อนยวบยาบแน่นิ่งอยู่บนพื้นอย่างเย็นชา นางพูดขึ้นอย่างดูถูก “ดูถูกศัตรูซ้ำแล้วซ้ำเล่าก็ย่อมพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า! หยุนเฟยไป๋ แค่ข้าเจ้ายังเอาชนะไม่ได้ แล้วยังหวังจะชนะจวินมั่วหรันอีก ไม่ขายหน้าบ้างเหรอ”
[1]พลิกฟ้าคว้าฝน หมายถึงการร่วมรัก
[2]บุหงาหอมหยกอุ่น หมายถึงเรือนร่างของสตรี
[3]ลาเฉียนฉลาดน้อย หมายถึงการไม่รู้สภาวะของศัตรูที่จะต้องสู้รบด้วย ทำให้ศัตรูดูน่ากลัวน่าเกรงขาม แต่หากกระจ่างแจ้งถึงจุดเด่นของศัตรูแล้วก็จะไม่มีอะไรน่ากลัว