เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ – ตอนที่ 401 หาเรื่องใส่ตัว ตอนที่ 402 เฟิงอู๋โยวเป็นสตรี

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

ตอนที่ 401 หาเรื่องใส่ตัว / ตอนที่ 402 เฟิงอู๋โยวเป็นสตรี

ตอนที่ 401 หาเรื่องใส่ตัว

“เฟิงอู๋โยว จงอย่าได้ใจไป!”

“ชู่!”

เฟิงอู๋โยวชูนิ้วป้องปาก ก่อนพูดขึ้นฉอดๆ “หากเจ้าประพฤติตัวดีมากกว่านี้ด้วยการสรรเสริญด้วยถ้อยคำอันงดงาม บางทีข้าอาจผ่อนปรนให้เจ้าโดยแค่จับแก้ผ้าแต่ไม่ถลกหนัง แต่หากเจ้ายังทำตัวเป็นหมูตายไม่กลัวน้ำเดือดแบบนี้ ก็อย่าหาว่าข้าโหดเหี้ยมอำมหิตที่ถลกผิวหนังอันน่าขยะแขยงของเจ้าก็แล้วกัน”

“เจ้ากล้า?”

“ไม่กล้าได้เยี่ยงไร”

ทันทีที่เสียงพูดของเฟิงอู๋โยวสิ้นสุดลงก็ดึงผมของหยุนเฟยไป๋และลากเขามามัดไว้กับขื่อไม้บนกำแพงเมือง

กฎแห่งสวรรค์ย่อมย้อนคืน สวรรค์ไม่มีทางปล่อยใครให้รอดไปได้

หยุนเฟยไป๋ไม่คิดว่าคนที่ถูกจับมัดบนขื่อไม้จะไม่ใช่เฟิงอู๋โยวแต่เป็นตัวเขาแทน

เรื่องที่ทำให้เขาอยู่ไม่สุขก็คือ ก่อนหน้านี้เขาได้สั่งทหารองครักษ์ส่งจดหมายเชิญเหล่าทหารขุนนางแห่งแคว้นตงหลินไป ‘ดูละคร’ ที่ประตูทางเข้าเมืองหลวงยามกลางคืน

ตอนนี้ เมื่อเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นพระพันปีหลวงเห่อเหลียนกับเหล่าทหารขุนนางเคลื่อนเข้าใกล้ประตูเมืองขึ้นเรื่อยๆ

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าเป็นครั้งสุดท้าย รีบแก้มัดข้าเดี๋ยวนี้!”

ใบหน้าของหยุนเฟยไป๋ดำมืด เขาเป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน นอกจากตกเป็นรองจวินมั่วหรันครั้งที่แล้วก็ไม่มีใครกล้าทำกับเขาเยี่ยงเฟิงอู๋โยวที่จับเขามัดกับกำแพงเมืองอย่างโจ่งแจ้ง

“ไม่”

เฟิงอู๋โยวคลี่ยิ้มชั่วร้าย ก่อนฉีกกระชากเสื้อผ้าบนร่างกายของหยุนเฟยไป๋ออกดัง ‘แควก’

ก่อนหน้านี้ นางอยากดูร่างกายอันไม่สมประกอบของหยุนเฟยไป๋ แต่กลับว่าจวินมั่วหรันจะหึงหวงยกใหญ่หลังจากรู้เรื่อง จึงทำได้แค่ปล่อยผ่าน

หยุนเฟยไป๋รู้สึกร่างกายเย็บวาบ หลุบตามองดูก็พบว่าเสื้อของตัวเองถูกเฟิงอู๋โยวถอดและโยนทิ้งลงไปด้านล่างกำแพงเมืองแล้ว

ทันใดนั้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำขึ้นมาฉับพลัน เขามองบาดแผลบนร่างกายของตัวเอง ก่อนกัดฟันกรอดพูดขึ้น “สักวันหนึ่งข้าจะสับเจ้าให้ละเอียดเป็นหมื่นชิ้น!”

“ข้าจะรอ”

เฟิงอู๋โยวยืนอยู่ด้านข้างหยุนเฟยไป๋หน้าระรื่น จากนั้นก็โบกมือให้เหล่าทหารขุนนางด้านล่างกำแพงเมือง “สายันต์สวัสดิ์ทุกท่าน! องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินได้ส่งจดหมายเชิญทุกท่านมาเพื่อชื่นชมร่างกายอันกำยำยิ่งใหญ่ของเขา ทุกท่านที่เดินผ่านไปอย่าได้พลาด เบิกตาให้กว้างเท่าที่กว้างได้!”

“เจ้าฆ่าข้าให้ตายไปเลยดีกว่า!” หยุนเฟยไป๋อับอายเป็นที่สุด เขาแทบอยากจะตายไปตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด

“หากเจ้าไม่เล่นงานข้าก่อน ข้าจะมีเวลามาเล่นงานเจ้าที่ไหน”

“สักวันหนึ่ง ข้าจะทรมานเจ้าให้ตายทั้งเป็น”

เฟิงอู๋โยวยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและพูดอย่างชื่นมื่น “เปลี่ยนวิธีพูดใหม่เป็นเยี่ยงไร ได้ยินแบบนี้บ่อยจนหูชาหมดแล้ว”

ด้านล่างกำแพงเมือง เหล่าทหารขุนนางเริ่มทยอยมาถึง

พวกเขาพากันเงยหน้าขึ้นมองหยุนเฟยไป๋ในสภาพล่อนจ้อนอยู่ด้านบนกำแพงเมืองอันสว่างไสวอย่างตกใจ

“นี่…องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินเชิญพวกเรามาดูสิ่งนี้กระนั้นหรือ”

“ฮิๆ ไม่รู้ว่าเขาเอาความกล้ามาจากไหนถึงกล้าทำเรื่องไร้สาระน่าขำแบบนี้!”

“คิดไม่ถึงว่าองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินจะอ่อนปวกเปียกแบบนี้! สุนัขเจ็ดตัวที่เรือนของข้ายังดีกว่า”

“น่าขำจนฟันร่วง! ภายนอกสวยดั่งทองกับหยก ภายในเหมือนฝ้ายที่เปื่อยเน่า น่ารังเกียจไร้ประโยชน์!”

ในตอนนี้ การวิพากษ์วิจารณ์เป็นไปอย่างดุเดือด

หยุนเฟยไป๋โกรธจนตาถลน เขาตะโกนใส่เหล่าทหารขุนนางที่กำลังวิจารณ์ว่า“ไสหัวไป!”

ด้านล่างกำแพงเมือง เหล่าทหารขุนนางยิ้มกันอย่างมีนัยยะ พวกเขาหยุดพูดไปชั่วขณะ

เฟิงอู๋โยวกระโดดขึ้นไปบนที่สูงด้วยความไม่พอใจ ยกมือทั้งสองข้างเท้าสะเอวและตะโกนไปทางเหล่าทหารขุนนางที่รวมตัวกันอยู่ด้านล่างกำแพงเมือง “ไฉนไม่โห่ร้อง ไฉนไม่ปรบมือ เป็นไปได้หรือว่าทุกคนไม่ชอบการแสดงขององค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉิน หรือว่าการแสดงขององค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินดึงดูดใจไม่มากพอ”

เหล่าทหารขุนนางมองหน้ากัน แม้ว่าพวกเขาอย่างหัวเราะเยาะเรื่องขนาดของหยุนเฟยไป๋อย่างไร้ความปราณี แต่เมื่อพวกเขานึกถึงนิสัยอันโหดร้ายรุนแรงของหยุนเฟยไป๋ พวกเขาจึงทำได้เพียงกลั้นขำเอาไว้ และ ‘แน่นิ่ง’ กันอยู่ด้านล่างกำแพงเมืองโดยไม่พูดสักคำ

ตอนที่ 402 เฟิงอู๋โยวเป็นสตรี

จี้มั่วจื่อเฉินควบม้าตามมา เมื่อเห็นหยุนเฟยไป๋ในสภาพ ‘ล่อนจ้อน’ อยู่บนกำแพงเมืองอยู่ไกลๆ ก็ปรบมือพร้อมโห่ร้องอย่างชอบใจ “ดี! รูปร่างของหยุนเฟยไป๋ก็ไม่เท่าไร ต้องนับถือความกล้าที่กล้าเปิดเผยแสดงตัวตน!”

ทันทีที่เสียงของเขาสิ้นสุดลง เสียงปรบมือก็ดังขึ้น

ตอนนี้ ประชาชนแคว้นตงหลินที่ได้ยินเช่นนั้นก็ชูมือโห่ร้องตามหลังจี้มั่วจื่อเฉิน เสียงโห่เยาะเย้ยดังขึ้นเป็นระลอก

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนที่นั่งอยู่ในราชรถหยกหน้าแดงด้วยความละอายใจ นางทอดพระเนตรไปยังหยุนเฟยไป๋ซึ่งถูกมัดไว้กับขื่อไม้อย่างตกตะลึง ก่อนทำท่าพะอืดพะอม “ช่างน่าขยะแขยงกระไรเยี่ยงนี้!”

จงเซิ้งรีบโค้งคำนับและยื่นผ้าเช็ดหน้าให้พระพันปีหลวงเห่อเหลียน “ตาไม่เห็น ใจไม่ว้าวุ่นพะย่ะค่ะ”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนหยิบผ้าเช็ดหน้ามาแต่เคลื่อนพระเนตรไปที่เฟิงอู๋โยวที่ยืนอยู่ข้างๆ หยุนเฟยไป๋ในสภาพผมกระเซิง

“จงเซิ้ง คนคนนั้นที่อยู่บนกำแพงเมืองใช่เฟิงอู๋โยวหรือไม่”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนทอดพระเนตรไปที่เฟิงอู๋โยวที่อยู่ภายใต้แสงไฟสุกสว่าง ผมสีดำ ริมฝีปากสีแดง ดูเปล่งประกาย ก็ตกใจไม่หยุด

จงเซิ้งเงยหน้าขึ้น กวาดมองเฟิงอู๋โยวอย่างเรียบนิ่ง ก่อนเอ่ยเสียงทุ้ม “คนที่ยืนอยู่ข้างๆ องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินดูเหมือนจะเป็นสตรีพะย่ะค่ะ”

“นางคือเฟิงอู๋โยว!”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนหรี่ดวงตานกการเวกลงเล็กน้อย สายตามองคนของนางแม่นยำมาก รูปร่างของเฟิงอู๋โยวเปลี่ยนไปมากจากปกติ แต่หน้าตาของนางยังคงเหมือนเดิม

ตอนนี้นางยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าสตรีบนกำแพงเมืองไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟิงอู๋โยว

เมื่อได้ยินเช่นนี้ เหล่าทหารขุนนางแห่งแคว้นตงหลินก็หันไปมองเฟิงอู๋โยวทีละคน

แม้แต่จี้มั่วอิ้นเหรินก็เปิดม่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น เงยหน้าขึ้นมองเฟิงอู๋โยวที่ส่องประกายราวกับดวงดาว

จี้มั่วจื่อเฉินตกใจจนกรามค้าง เขาพึมพำกับตัวเองว่า “อาหรันทำกันเกินไปจริงๆ! ทำเอาข้าเกือบคิดว่าเขาเป็นพวกชอบตัดแขนเสื้อ!”

ทันใดนั้น หอบลมแรงพัดมากระทบกำแพงเมืองจากระยะไกล

จวินมั่วหรันเหาะตามสายลมมาเยือน เขาสะบัดแขนเสื้อตัดขื่อไม้ ทำให้หยุนเฟยไป๋เสียหลักและตกลงมาจากกำแพงเมือง

ขณะเฟิงอู๋โยวยังไม่ทันตั้งสติ เสื้อคลุมตัวใหญ่ของเขาก็คุมไหล่ของนางแล้ว

“เจ้ากล้าหาญมาก! กล้าดีเยี่ยงไรที่จะบุกเข้าไปในเขตเรือนพำนักตามลำพัง”

ใบหน้าของจวินมั่วหรันแน่นิ่งไม่สะท้านเหมือนภูเขาน้ำแข็ง แต่การเคลื่อนไหวของเขานั้นอ่อนโยนมาก

เขายกมือขึ้นลูบไล้แก้มของเฟิงอู๋โยว เช็ดสิ่งสกปรกบนใบหน้าของเธออย่างระมัดระวัง

“ข้าจะไม่ไปอีกแล้ว หยุนเฟยไป๋น่ากลัวเกินไปและเขาขู่ว่าจะถลกหนังของข้าด้วย”

แม้เฟิงอู๋โยวจะเคยอวดว่าผิวของตัวเองหนากว่ากำแพงเมือง แต่นางไม่ใช่คนบ้าความรุนแรง เมื่อถูกหยุนเฟยไป๋ข่มขู่ก็ย่อมหวาดกลัว

“ไม่บาดเจ็บก็ดีแล้ว”

จวินมั่วหรันเหลือบมองหยุนเฟยไป๋ที่ตกลงไปด้านล่างกำแพงเมืองจนจมูกช้ำหน้าบวม ภายในใจยังคงเคียดแค้น แต่ขณะกำลังจะชักดาบสะบั้นมังกรออกมาฟันเขา ทันใดนั้นก็เห็นทหารองครักษ์แห่งแคว้นหยุนฉินหลายร้อยคนพุ่งเข้ามาจากที่มืด จึงต้องปล่อยไปก่อน

หัวหน้าทหารองครักษ์สีหน้าแตกตื่น เขารีบถอดเสื้อคลุมตัวนอกคลุมให้หยุนเฟยไป๋ “ฝ่าบาท โปรดอดทนเอาไว้ก่อนขอรับ!”

ดวงตาของหยุนเฟยไป๋ปิดแน่น น้ำตาใสไหลออกมาจากหางตาของเขาอย่างไม่รู้ตัว

ถ้าร่างกายของเขายังเหมือนเดิม จะถูกคนมองก็มองไป

แต่ตอนนี้ทุกคนในแคว้นตงหลินรู้แล้วว่าเขาไม่สมประกอบและไม่สามารถทำเรื่องอย่างนั้นได้!

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ริมฝีปากของเขาก็ขยับพูดด้วยความอดกลั้นเป็นอย่างมาก “ช่วยพาข้ากลับไปที่เรือนพำนัก”

“ขอรับ”

หัวหน้าทหารองครักษ์ตอบด้วยความเคารพ และพยุงหยุนเฟยไป๋ขึ้นราชรถหยกทันที

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนไม่ต้องการมีเรื่องกับหยุนเฟยไป๋ เมื่อนางเห็นเฟิงอู๋โยวกล้ากลั่นแกล้งหยุนเฟยไป๋ต่อหน้าทหารขุนนางในแคว้นตงหลินแบบนี้ก็ยิ่งพิโรธ นางแผดเสียงตำหนิเฟิงอู๋โยวที่อยู่ด้านบนกำแพง “เฟิงอู๋โยว ดูเรื่องงามหน้าที่เจ้าก่อเข้าสิ!”

“กระหม่อมไม่กล้าดูรอบๆ ไปมั่วซั่ว หากมีเสี้ยนตำตา คงได้ไม่คุ้มเสีย เป็นฝั่งพระพันปีหลวงเองที่มองดูอย่างจริงจัง โปรดใส่ใจรักษาพระเนตรดีๆ นะขอรับ หากหากถูกเสี้ยนตำตาเข้าจริงๆ เกรงว่าคงเป็นเรื่องตลกไปทั่ว”

เฟิงอู๋โยวตอบกลับพระพับปีหลวงอย่างไม่ช้าไม่เร็ว

“เจ้า!”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนรู้สึกอับอายเป็นยิ่งนัก พระเนตรของนางเหลือกกว้างด้วยความโมโห “หากองค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินมีเภทภัยขึ้นมา เจ้าจะรับผิดชอบไหวหรือไม่”

“องค์รัชทายาทแห่งแคว้นหยุนฉินทุกข์ทรมานจากโรคซ่อนเร้น ในฐานะที่กระหม่อมผู้ต้อยต่ำเป็นแพทย์ผู้นี้รักษา ‘โรครักษายากในบุรุษ’ เดิมทีต้องการช่วย แต่กลับถูกปฏิเสธ และยืนกรานให้กระหม่อมจับมัดไว้กับกำแพงเมืองเพื่ออาบแสงแดดแสงเดือน เพื่อจะให้มัน ‘งอก’ ขึ้นมาใหม่ กระหม่อมจึงได้แต่ทำตาม”

“โกหกทั้งเพ พูดจาไร้สาระ!”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนที่เดิมเป็นคนหน้าบาง นางหน้าแดงด้วยความลำบากใจหลังจากได้ยินว่าเฟิงอู๋โยววินิจฉัยโรคให้หยุนเฟยไป๋

ดวงตาของขุนนางยู่ชินเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย ดวงตาอันเฉียบคมของเขากวาดมองไปยังเฟิงอู๋โยวที่มีใบหน้าเท่าฝ่ามือในอ้อมแขนของจวินมั่วหรัน ก่อนเอ่ยเสียงทุ้ม “ตาของข้าฝาดไปหรือไม่ ไฉนข้ารู้สึกเหมือนว่ารูปร่างของแม่ทัพเฟิงดูเพรียวบางเหมือนผู้สตรี”

ขุนนางหรงชินตอบ “ไม่ ไม่! ในสายตาของข้า แม่ทัพเฟิเหมือนสตรียิ่งนัก”

จากนั้นทุกคนก็หันไปสนใจเฟิงอู๋โยว

ในขณะนี้ แม้ว่านางจะมีเสื้อคลุมปกปิดร่างกาย แต่ก็ยังยากที่จะซ่อนเร้นรูปร่างที่สง่างามของนาง

เฟิงอู๋โยวเพิ่งจะตระหนักไปว่าผ้ารัดหน้าอกของตัวเองถูกปลด จึงรีบหดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของจวินมั่วหรันอย่างลำบากใจ “ซวยแล้ว! ผ้ารัดหน้าอกคงหลุดไปตอนที่ต่อสู้กับหยุนเฟยไป๋”

จวินมั่วหรันจับใบหน้าของเฟิงอู๋โยวอย่างอ่อนโยนและพูดช้าๆ “อย่าตกใจ ข้าอยู่ที่นี่”

พระพันปีหลวงเห่อเหลียนแค่นเสียงเย็นตรัสขึ้น “เฟิงอู๋โยวปลอมตัวเป็นบุรุษและแทรกซึมเข้ามาในฐานะแม่ทัพ นี่เป็นความผิดโทษฐานหลอกลวงขุนนาง!”

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

เย้ารักท่านอ๋องเผด็จการ

Status: Ongoing
เพราะ ‘สัมพันธ์ชั่วข้ามคืน’ ทำให้ท่านอ๋องเย็นชาจอมเผด็จการแทบพลิกแผ่นดินตามหาตัวนาง เพื่อ…สังหาร!นิยายโรแมนติก-คอเมดี้ พระเอกสุดโหด นางเอกสุดแซ่บ!เมื่อ เฟิงอู๋โยว หัวหน้าทหารรับจ้างสุดก๋ากั่นทะลุมิติมายังโลกยุคโบราณทั้งยังโดนวางยาปลุกกำหนัดเข้าทางรอดเร่งด่วนเพียงอย่างเดียวก็คือใช้บุรุษช่วยถอนพิษ!ชายหนุ่มมากมายหลายแสนนางไม่เลือกกลับไปพัวพันเข้ากับ จวินมั่วหรัน ท่านอ๋องแคว้นศัตรู ผู้ขึ้นชื่อเรื่องเกลียดสตรีและดุดันเหี้ยมโหดเกินใครแม้จะรอดตัวมาได้เพราะร่างนี้อยู่ในฐานะ ‘บุรุษ’ แต่ด้วยสถานะทหารแคว้นศัตรูทำให้นางต้องกลับมาวนเวียนอยู่ข้างกายเขาอีกครั้งตราบใดที่นางไม่พูด เขาคงไม่รู้กระมังว่านางคือคนในคืนนั้น?เอาเถอะ อย่างนั้นคงต้องลองเสี่ยงดูสักตั้ง!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน