พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 18

ตอนที่ 18

บทที่2ตอนที่9

「สายไปแล้ว!มันสายไปแล้ว!!นายมันงี่เง่า!!!!!」

「ลิซ่า!」

ข้าไม่สามารถพูดอะไรได้

ความเกลียดชังเต็มไปทั่วทั้งใบหน้าของเธอ เธอจ้องมองมาที่ข้าด้วยความโกรธเกรี้ยว

เธอที่ทำลายข้าวของเสร็จก็ออกจากร้านไปทั้งๆยังงั้น เคนพยายามตามไป ขาของข้าไม่ยอมขยับได้แต่นิ่ง

「ลิซ่า…………」

ข้ารู้แล้วล่ะ ตอนนี้เธอคิดยังไงกับข้า หลังจากตอนนั้นน่าจะมีอะไรที่ทำให้ใจเธอหวั่นไหวจนเกิดผลกระทบอย่างหนักต่อจิตใจของเธอ

…………มันยากนะ ที่จะเข้าใจมัน

เธอที่เป็นรักแรกของข้ามาตลอด ข้าที่คิดว่าในที่สุดคนที่ข้ารักก็ปรากฏตัวขึ้นมาแล้ว แต่สุดท้ายกลับจบลงเช่นนี้…………。

บรรยากาศของร้านที่ดูสนุกสนานจนถึงเมื่อกี้นี้กลับเงียบสงบลงและมีบรรยากาศอึดอัดเข้ามาแทนที่

「เอ่อ คือ คุณโนโซมุคะ…………」

ก่อนที่จะรู้ตัวอิน่าก็เข้ามาข้างๆข้าแล้ว ในมือข้างหนึ่งเธอถือออเดอร์ไว้ในมือ

「……ขอโทษนะ อิน่าจัง ที่ทำความวุ่นวายให้เธอแบบนี้」

「อะ เอ่อ คือ ไม่เป็นไรหรอกค่ะ…………ไม่ตามเธอไปจะดีเหรอคะ?」

เธอจ้องมองไปทางประตูที่ลิซ่าออกไปสลับกับตัวข้า

「……………………」

ข้าส่ายหัว

ข้าไม่ใช่เคนข้าไม่มีสิทธิที่จะตามเธอไปได้อีกแล้วล่ะ

ข้าไม่สามารถที่จะก้าวก่ายกับเรื่องในชีวิตของเธอได้อีกแล้ว ในฐานะนักดาบ

ตอนนี้ข้ารู้แล้วล่ะเธอเกลียดข้ามากแค่ไหน ข้าโดนมองด้วยสายตาเหยียดหยามตลอดเวลาที่เจอกัน

การอยู่คนเดียวมันก็ดี สำหรับคนๆหนึ่งที่ต้องแบกรับความเจ็บปวดเหล่านี้ไว้

แต่ว่าคราวนี้นั้นมันต่างออกไป

ตอนที่ลิซ่าตะโกนนั่นและหันหลับกลับข้าเห็นน้ำตาหลายหยดออกมาจากดวงตาของเธอ

ข้าที่เห็นเช่นนั้น ก็ทำอะไรไม่ถูกแล้ว

ข้ารู้ดีว่าการที่ไม่ตามเธอไปคือ “การหนีความจริง” แต่ถึงยังงั้นข้าที่เห็นท่าทางเธอเช่นนั้น ขาของข้ามันไม่ยอมขยับเลยแม้แต่น้อย

สุดท้ายแล้วข้าก็ไม่สามารถไล่ตามเธอไปได้

「…………วันนี้ขอตัวกลับก่อนนะครับ ส่วนนี่เงินค่าอาหารครับ」

「เอะ คุณโนโซมุ!?」

ข้าจ่ายเงินทิ้งไว้บนโต๊ะและออกจากร้านมา ดูเหมือนว่าอิน่าพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ว่าข้าไม่ได้ยินและไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่ามีน้ำตาไหลอยู่บนใบหน้าของเธอ

◇◆◇

「ฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะฮะ……」

ตัวฉันไม่ได้มองหลังกลับไป เพียงแค่ผ่านเมืองนี้ไปท่ามกลางค่ำคืน

อารมณ์ต่างๆหมุนวนอยู่ภายในอกคู่นี้ ตัวฉันที่กำลังบ้าคลั่งจนหัวเราะออกมาไม่เหมือนกับคนปกติ ฉันไม่รู้จะทำยังไงได้แต่วิ่งหนีต่อไปอย่างไร้จุดหมาย

ไม่รู้แล้วว่าตัวเองวิ่งหนีมานานแค่ไหนและเมื่อมาถึงป่าด้านนอกฉันก็หยุดวิ่ง

ลมหายใจขาดช่วงและไหล่ที่สั่นอย่างรุนแรง

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…………ฟู่……」

ตัวฉันที่รู้สึกว่าขยับขาไม่ไหวอีกต่อไปพอรู้ตัวว่าออกมานอกเมืองแล้วน้ำตามันก็เริ่มที่จะไหลออกมา ฉันก็แค่อยากจะรู้ว่าทำไมถึงได้ทิ้งกัน เธอกลับไม่ตอบและเอาแต่ร้องไห้ใส่ข้า

「ฮึกฮึกฮึก……ฮึก……」

ข้าจำได้ว่าตอนนั้นข้าเองที่โดนหักอก

ปีที่แล้วข้ายังคบกับเธออยู่เลยและดันมีข่าวลือแปลกๆบ้าๆนั่น

ตัวฉันไม่เชื่อแบบนั้นอย่างแน่นอน

เขาบอกว่าตัวเขาไม่ได้เป็นคนนอกใจ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะควบคุมตัวเองไม่ได้

เคนบอกฉันว่าเขาคบหาและเดินกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา

แม้ว่าฉันพยายามคิดอย่างจริงจังว่าไม่น่าจะใช่เช่นนั้น แต่ฉันที่ออกไปในเมืองยามค่ำคืนก็พบกับเขาอยู่กับหญิงที่ไหนก็ไม่รู้

โนโซมุเดินอยู่กับหญิงแปลกหน้านั่นอย่างมีความสุข

ในที่สุดทั้งสองก็ค่อยๆจูบกัน ฉันที่ไม่สามารถทนดูภาพนั่นได้ก็ได้แต่วิ่งหนีออกมา

「ฮึก……ฮืออออออ……」

「……ลิซ่า」

เคนปรากฏขึ้นทางด้านหลัง

เขาตามฉันมาตลอดเวลา

「……ลิซ่า」

「เอาล่ะ?」

เคนพยายามปลอบใจฉันและพูดคุยกับฉันเรื่อยมา ความเมตตานั่นทำให้ฉันรู้สึกอบอุ่นหัวใจ แต่น้ำตาที่ไหลอาบแก้มนั่นไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย

「ฮึกฮึกฮืออ…………ขอโทษนะเคน………ฉันที่งอแงแบบนี้………ขอโทษนะสำหรับวันนี้……แต่ฉันทนไม่ไหวแล้วล่ะ………การที่ได้ยินหมอนั่นพูดแบบนั้น……」

「ลิซ่า ไม่เป็นไรนะ ทุกอย่างจะดีขึ้นเอง」

เคนกอดฉันที่กำลังร้องไห้

ตัวฉันที่เอาแต่ร้องไห้ก็เอาแต่ขอโทษเคน

มีเพียงแต่แมลงตัวน้อยในฤดูใบไม้ผลิที่จับจ้องเราทั้งสอง

◇◆◇

โนโซมุกำลังเดินไปทั่วทั้งเมือง ด้วยฝีเท้าที่ไม่มั่นคงและท่าทางที่จะล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ท่าทางของลิซ่ายังทำให้โนโซมุสับสน

(ท้ายที่สุดแล้ว ข้ามันก็…………)

ลิซ่าที่ทนไม่ไหวก็ระเบิดอารมณ์ของเธอออกมา เธอร้องไห้ออกมา ถ้าเป็นตามปกติข้าก็ควรจะตามเธอไป

แต่โนโซมุก็ไม่ได้ตามไป ความจริงที่ว่าเขาต้องทุกข์ทรมานเพราะเธอยังคงอยู่ นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้ตัวเขายังคงหนีจากความจริงต่อไปและมันก็กลายเป็นปัญหาคาใจอันแสนหนักหน่วง

「……ฮะฮะ ก็เหมาะแล้วสำหรับคนอย่างข้าที่เอาแต่หนี……」

เสียงของตัวเองที่กำลังสั่นเทา ใบหน้าของเธอตอนที่เธอวิ่งออกไปนั่น ในท้ายที่สุดแล้วข้าก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวด และเธอก็ยังคงทำให้ข้าเจ็บเช่นกัน

หัวของข้ามันสับสนไปหมด โนโซมุไม่รู้จะทำอะไรอีกต่อไป

ยังไงก็ตามไม่มีที่ยืนสำหรับเขาข้างๆเธออีกต่อไปแล้ว โนโซมุยืนยันเช่นนั้น

◇◆◇

「โน~~โซ~~มุ~~คุ~~ง」

โนโซมุที่จมอยู่ในห้องแห่งความคิดก็โดนเรียกและโดนกอดจากด้านหลัง

「เอะ!อาจารย์อันริ?!ทำอะไรกันครับเนี่ย!」

「ทำอะไรงั้นเหรออ~~~。ก็ให้กำลังใจไงล่ะด้วยการใช้หน้าอกคู่นี้ไงล่ะ~~~」

「เดี๋ยวเลยนะหล่อน…………」

เป็นอาจารย์อันริที่เข้ามากอดข้า

ใบหน้าของเธอนั้นแดงแจ๋รอบตัวก็มีกลิ่นเหล้าเต็มไปหมดเธอคงดื่มมาหนักมาก

「นะเน่อาจารย์ดื่มมากเกินไปแล้วนะครับ?อาจารย์……」

「แน่~~นอน。ฉ้านโตแล่วน้าาา~~、จาดื่มมากแค่หนายยก็ด้าย~~~」

จากที่กล่าวไปตามเมื่อกี้นั่นละอันริดันหน้าอกอันแสนอุดมสมบูรณ์กดทับที่หลังของข้าและเธอก็กอดไม่ปล่อยเลย

「เอ่อผู้ใหญ่ที่ไหนกันเข้ามากอดนักเรียนจากด้านหลังแบบนี้……」

มันมีแค่ในนิยายไม่ใช่รึไงการที่ผู้ชายแบกผู้หญิงไว้บนหลังและให้หน้าอกกดทับตัวเองน่ะ แต่สำหรับโนโซมุในตอนนี้ไม่มีกำลังใจจะทำอะไรบ้าๆแบบนั้นหรอกนะ

「เอะ~~~。ทำไมโนโซมุคุงชอบทำเหมือนอาจารย์เป็นเด็กล่ะ?~~~~」

เธอทำแก้มป่องประท้วงราวกับเด็ก เป็นคนที่โตแต่ตัวจริงๆ

(เฮ้อ ยังไงเธอก็ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเลยสินะเนี่ย…………)

เมื่อนึกถึงความสัมพันธ์ระหว่างข้ากับลิซ่าที่เปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ตอนนี้ “ความแน่นอน”ของอันริยังคงเส้นคงวาเหมือนเดิม เห็นเช่นนั้นโนโซมุก็ยิ้มเล็กน้อย

「…………อืม!รู้สึกดีขึ้นบ้างยาง?」

「……เอะ?」

「ยังไงก็เถอะน้าาาา~~、โนโซมุเดินไปเลยน้าม่ายต้องห่วงเค้าหรอก~~~เค้าสบายดีนะจะบอกห้าย!」

「…………นี่เข้าใจบ้างไหมครับเนี่ย?」

「อุมุ!」

ถึงยังงั้นเองเธอก็ยังรู้ได้อีกว่าโนโซมุท่าทางแปลกๆ อืมมันก็แปลกจริงๆนั่นละที่เห็นนักเรียนมาเดินในเวลาแบบนี้ แต่ว่าตัวเธอเองก็แปลก

「……อาจารย์อันริ คือว่าข้า…………」

「จ๋าาาา。」

「………………เอ่อ ไม่มีอะไรครับ……」

ข้าพยายามจะบอกเรื่องราวแต่ว่าเขารู้สึกอึดอัดจนไม่ได้พูด

「…………ง้านเหรอ!」

แต่ดูเหมือนเธอจะไม่ได้ยินอะไรแล้วนะ

โนโซมุเองก็สงสัยเล็กน้อยกับท่าทีของเธอ ตัวเธอที่ถามเขานักหนานั้นในตอนที่จบศึกระหว่างชิโนะนั่น…………。

「…………ไม่มีอะไรอยากจะถามข้างั้นเหรอ?」

「อื~~มมมม เอาจริงก็อยากจะถามแหละน้า~~~。โนโซมุคุงน่ะ กำลังทรมานอยู่สินะ?」

「……ครับ」

「ฉันคิดว่างี้น้ามันจะดีกว่าถ้าได้คุยกัน…………แต่สำหรับโนโซมุในตอนนี้คงยังไม่พร้อมหรอกเนอะ?」

「…………ครับ」

อย่างที่เธอพูดเลยโนโซมุไม่รู้จะพูดยังไงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

ในความเป็นจริงคนเราจะต้องมีความกล้าอันมากมายในการจะเล่าเรื่องต่างๆให้คนอื่นได้ฟัง โดยเฉพาะเรื่องที่เป็นปัญหากวนใจข้าแบบนี้

นอกจากนี้ตัวข้ายังต้องใช้ความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับอดีต เกี่ยวกับความผิดบาปที่ตัวเองได้ก่อเอาไว้สำหรับคนๆนั้น

การตัดสินใจของโนโซมุที่ว่า “เขาเผชิญหน้ากับความจริงที่ว่าเขาหนีความจริงอยู่” เขากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งที่เขาไม่รู้นั่นเอง

กล่าวอีกนัยหนึ่งการเผชิญหน้ากับความทุกข์ภายในใจทำให้ตัวเขาเองกลายเป็นคนหนีความจริงโดยไม่รู้ตัวนั่นล่ะ

โนโซมุที่ถูกบังคับให้แบกรับภาระทางจิตใจอย่างหนักหน่วงเนื่องจากเหตุการณ์ทั้งสองที่ซ้อนทับกัน

ก็อย่างที่เห็น

「ดังนั้นสำหรับตอนนี้อะน้าไม่ต้องฝืนก็ได้นะ ครั้งก่อนโนโซมุเองก็เจอมาหนักเหมือนกันใช่ไหมล่ะ ฉันจะรอจนกว่าโนโซมุจะพร้อมนะ!」

「…………ครับ」

นั่นเป็นเหตุผลที่โนโซมุรู้สึกมีความสุขมากๆเพราะเธอเข้าใจในตัวเขา

◇◆◇

「สวัสดียามดึกนะโนโซมุดูเหมือนว่าอันริจะสร้างปัญหาให้เธออีกแล้วสินะ」

「สร้างปัญหาอะไรเล่า~~~~!ฉ้านไม่ได้ทำแบบนั้นสากหน่อย~~~」

ซักพักเองนอร์นก็มา ดูเหมือนว่าเธอจะมาดื่มกับเพื่อนสนิทของเธอ

「เอ่อเธอไม่ได้รบกวนข้าหรอก เราก็แค่คุยกันนิดหน่อย」

โนโซมุพูดเช่นนั้นพร้อมรอยยิ้ม สีหน้าแม้จะอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็ดีขึ้นกว่าเดิมมาก

「…………ฟุฟุ นั่นสินะ」

「อื้อ ก็แบบนั้นล่ะน้า」

นอร์นยิ้มให้กับโนโซมุ นี่ใครเป็นผู้ใหญ่กันแน่เนี่ยระหว่างโนโซมุกับอันริ

「เน่~~~~~~~~」

ใบหน้าที่ดูนุ่มฟูนั่นเหมือนเด็ก ดูน่ารักมาก

โนโซมุและนอร์นต่างหัวเราะคิกคักกับท่าทางของอันริ อันริเองก็เริ่มจะอาละวาดอยู่บนหลังของโนโซมุ ท่าทางที่เหมือนกับเด็กนั่นทำให้โนโซมุหัวเราะออกมา

「เน่~~~! ทั้งสองคนหัวเราะฉันอ่าาาาาาาา~~~~!」

「ขะ ขอโทษครับ……」

「หุหุหุหุขอโทษนะอันริแต่ตอนนี้เธอดูน่ารักมากเลยล่ะ………..ฟุฟุฟุฟุ」

「โม่ว โม่ว โม่ว!!ทั้งสองคนแย่มั่ก~~~~~~」

ในขณะที่พูดคุยกันเช่นนั้นทั้งสามคนก็เดินไปในเมืองยามค่ำคืน

「เอ่อ อันริแล้วทำไมเธอไม่ลงจากหลังโนโซมุแล้วมาเดินเองล่ะ?」

「เอ๋~~~~~~」

(เอ่อ นั่นสินะข้ายังแบกเธออยู่นี่หว่า)

การได้คุยกับอันริทำให้ข้ารู้สึกมีความสุขเล็กน้อยดังนั้นเลยนึกสถานการณ์ปัจจุบันออกแล้วล่ะ

(นอกจากนี้ แย่ล่ะ หน้าอกของอาจารย์อันริมัน……)

ตอนนี้เองโนโซมุตระหนักได้หน้าอกอันอุดมสมบูรณ์ของอันริกำลังกดทับหลังเขาอยู่ ทำให้ใบหน้าของเขาแดงแจ๋

การสนทนาระหว่างนอร์นกับอันริยังคงดำเนินต่อไป เมื่อมองไปทางด้านหลังอันริมีท่าทางงอแงไม่ยอมลงจากหลัง นอร์นเองก็ดูท่าทางสนุกกับการที่เห็นอันริโดนแบกอยู่

อันริส่งเสียงด้วยท่าทางไม่พอใจ แต่นอร์นเองก็รีบบอกให้เธอลงจากหลังโนโซมุได้แล้ว

สัมผัสนุ่มๆที่หลังนั่นหายไปและโนโซมุก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย…………。

「เอ๋ โนโซมุยังอยากจะอุ้มอันริต่องั้นเหรอ?」

「มะ ไม่ใช่แบบนั้นนะครับ」

นอร์นที่เห็นท่าทางของโนโซมุก็รีบจี้จุดทันที โนโซมุตอบคำถามของนอร์นด้วยความลังเล นอร์นพยายามหยอกล้อกับเขาขณะมองโนโซมุพร้อมกับรอยยิ้มชั่วร้าย

「???」

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าอันริไม่รู้ตัวอีกแล้วว่าตัวเองทำอะไรลงไป

「ยังไงซะการแกล้งโนโซมุนี่สนุกจริงๆ「เดี๋ยวเถอะครับ!!」แต่ว่าวันนี้มันดึกมากแล้วนะ」

「นั่นสิน้า~。พรุ่งนี้ก็มีสอนด้วยนี่น่า~~~。โนโซมุเองก็ต้องไปเรียนด้วยน้า~~~」

「ถ้างั้นกลับบ้านดีๆนะครับอย่าลืมพักผ่อนเยอะๆนะครับ」

「จ้าาาา~~。ราตรีสวัสดิ์น้า」

โนโซมุบอกลากับทั้งสองคนและกลับหอพัก การเดินที่เซและหนักหน่วยก่อนหน้านี้หายไปแล้ว

◇◆◇

วันรุ่งขึ้นโนโซมุเองก็ฝึกดาบอย่ที่สนามของหอพักแต่เช้าตรู่

นี่ไม่ใช่กฏเหล็ก แต่เป็นการตั้งสมาธิเพื่อคุยกับตัวเอง

โนโซมุในตอนนี้อยากจะจมปลักอยู่ในโลกส่วนตัวของตัวเองนึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมา

สิ่งที่ได้เรียนรู้ก็คือเมื่อวานข้าได้ทำร้ายลิซ่าอีกแล้ว ในท้ายที่สุดข้าก็ไม่รู้ว่าไปทำอะไรให้เธอมันทำให้เขาเจ็บปวดใจอย่างมาก

การกระทำของข้ามันไปทำร้ายลิซ่า

และตัวข้าที่วิ่งหนีความจริงก็ยังไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้

แม้ว่าจะยอมรับว่าตัวเองกำลังหนี แต่ก็ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ปัจจุบัน

「นอกจากนี้ยังมีปัญหาอีก………………」

โซ่ที่พันธนาการรอบตัวเขา ยามใดที่เขาตั้งสมาธิมั่นจะสามารถมองเห็นมันได้ พลังของมังกรเทียแมทที่ยังคงสถิตย์อยู่ในร่างของข้า หากมันตื่นขึ้นมาอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้

บอกตามตรงมันเป็นปัญหาเกินกว่าที่โนโซมุคนเดียวจะแก้ไขได้

แต่ข้าก็ไม่สามารถแม้แต่จะพูดคุยกับใคร เพราะเขามีเพื่อนน้อยมาก

นอกจากนี้โนโซมุยังกังวลเรื่องที่จะถูกพวกเขาบอกว่าเป็นเรื่องโกหก “จะทำยังไงถ้าถูกปฏิเสธ” ทำให้โนโซมุไม่ยอมเปิดเผยตัวเอง

ท้ายที่สุดแม้ว่าข้าจะเหวี่ยงดาบไปมากมายแค่ไหน ก็ไม่มีคำตอบอะไรเข้ามาในหัวและปล่อยเวลาให้ผ่านไป……。

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท