ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 91 เจ้าปลาอ้วนที่กลายเป็น ‘ผีตัวน้อย’

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 91 เจ้าปลาอ้วนที่กลายเป็น ‘ผีตัวน้อย’

ตอนที่ 91 เจ้าปลาอ้วนที่กลายเป็น ‘ผีตัวน้อย’

เฉียวเยี่ยนเรียงลำดับงานที่จะทำต่อไปเป็นข้อๆ และดำเนินการอย่างเป็นระบบ

เมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดต่อผู้หญิงของยุคนี้ นางจึงเตรียมไปซื้อคนงานหญิงที่พ่อค้าคนกลาง หากเอาหญิงสามัญชนธรรมดามาเสนอหน้าขายสินค้าในร้าน คงไม่พ้นถูกคนอื่นเยาะเย้ย ไม่สู้เลือกทาสมาตั้งแต่ต้น นายมีคำสั่งอะไร พวกนางจำต้องทำตาม และแรงกดดันจากความเห็นของโลกภายนอกที่มีต่อพวกเขาก็จะน้อยลงมาก

อย่างมากก็แค่ด่ามาถึงหัวนาง ทว่านางมีภูมิคุ้มกันต่อการซุบซิบนินทาว่าร้ายเหล่านั้นมานานแล้ว พวกเขาด่าก็ปล่อยให้พวกเขาด่าไป นางก็หาเงินของนาง ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน

นางซื้อบ่าวผู้หญิงหกคนมาจากพ่อค้าคนกลาง และทุกคนก็นับว่ามีหน้าตาสะสวยมากจนให้ความรู้สึกมีความสุขแก่ผู้คนได้ หากคนงานในร้านนางงดงามทุกคน ลูกค้าที่มาซื้อเครื่องสำอางก็จะยิ่งเชื่อถือร้านนางมากยิ่งขึ้น

นางพาสาวใช้ทั้งหกกลับมาฝึกในตำหนัก ทุกวันจะอธิบายการใช้และคุณสัมบัติของเครื่องสำอางต่างๆ ให้พวกนางฟัง ทั้งยังเรียนแต่งหน้าด้วย

ไม่มีสตรีคนไหนไม่รักความสวยงาม แม้ในยุคปัจจุบันเฉียวเยี่ยนมักจะคลุกคลีกับไร่นา แต่ฝีมือการแต่งหน้าของนางก็นับว่าไม่เลวเลย

สาวใช้ทั้งหกต่างคล่องแคล่วและชาญฉลาดมาก หลังจากเรียนการแต่งหน้าขั้นพื้นฐานเป็นแล้ว พวกนางก็พยายามสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ อย่างไม่ขาด และค้นคว้าการแต่งหน้าแบบใหม่หลายแบบออกมา

สิ่งที่ทำให้เฉียวเยี่ยนประหลาดใจที่สุดคือสาวใช้คนหนึ่งนามว่า ชิวไป๋ นางเคยมีหน้าที่แต่งตัวให้นายหญิงในบ้านเจ้านายเก่านาง ไม่เพียงแต่งหน้าเก่งเท่านั้น แต่ยังทำผมเป็นด้วย และฝีมือการแต่งหน้าของนางช่างดูมีจิตวิญญาณเสียจนเฉียวเยี่ยนอดหวั่นไหวไม่ได้

วันนี้เด็กทั้งสองหยุดไม่ไปเข้าเรียน เสี่ยวฉวนเอ๋อร์อ่านหนังสือกับบิดาอยู่ในห้องหนังสือ ในขณะที่เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เกาะติดอยู่กับเฉียวเยี่ยน จะดูนางกับพวกพี่สาวแต่งหน้าด้วยกัน

เจ้าปลาอ้วนที่หลงตัวเองเลียนแบบคนอื่น เห็นพวกมารดาจับของอะไรบางอย่างทาบนหน้า นางก็ทาตาม ไม่ได้ส่องกระจก ก่อนอื่นบีบครีมให้ความชุ่มชื่น ถูๆ มือน้อย แล้วทาบนหน้าน้อยๆ ของตัวเอง จากนั้นก็ทาครีมรองพื้น

ทว่าเด็กน้อยไม่ระวังออกแรงมากเกินไป จึงบีบครีมรองพื้นเสียเต็มฝ่ามือ แต่นางก็ไม่สนใจ ทาไปทั่วหน้า ทำให้ใบหน้าอวบขาวเนียนนั้นเหมือนผนังบ้านที่ทาสีใหม่

เฉียวเยี่ยนกำลังแต่งหน้าให้กับสาวใช้คนหนึ่ง ไม่ได้สนใจการเคลื่อนไหวของเด็กน้อยเลย จวบจนหันหน้ากลับมาอีกครั้งก็แทบหัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา

นางกุมท้องเอาไว้ หัวเราะจนน้ำหูน้ำตาเล็ด ลูกของนางดูเหมือนตัวตลกคนหนึ่งเสียจริง!

เริ่มแรกสุดพวกสาวใช้อยากหัวเราะทว่าไม่กล้าหัวเราะออกมา ครั้นเห็นการกระทำของหวางเฟยเหนียงเหนียง พวกนางก็กลั้นไว้ไม่ไหว ขำจนตัวโยน

เจ้าปลาอ้วนเล่นจนลืมตัว ไม่สนใจมารดากับพวกพี่สาวที่หัวเราะจนจะเป็นลมอยู่แล้ว

นางกำลังหวนนึกขั้นตอนเมื่อครู่อยู่ ทาหน้าแล้วอะไรต่ออีก?

โอ้ว ต้องใช้แปรงใหญ่ปัดหน้า!

เด็กน้อยพลิกค้นครู่หนึ่ง ก่อนจะหาแปรงแต่งหน้าอันหนึ่งเจอ จุ่มผงปัดแก้มสีแดงปัดลงบนแก้มรูปไข่ ปัดแก้มน้อยจนกลายเป็นตูดลิง

วาดคิ้ว เขียนขอบตา ไฮไลท์กรอบหน้า ทาลิปสติก ความจำของเด็กน้อยดีมาก ทำเหมือนกันไม่มีขาดตกบกพร่อง

ครั้นเสร็จสิ้นแล้ว ดวงหน้าน้อยก็ถูกวาดจนเละเทะเต็มไปด้วยสีสันหลากหลาย แถมยังเงยหน้าอวดรอมารดาชม

“ท่านแม่ ลูกงามหรือไม่?”

ไม่ง่ายเลยที่เฉียวเยี่ยนจะกลั้นหัวเราะไว้ ทว่าครู่เดียวก็ระเบิดหัวเราะออกมา นางนวดแก้มที่ยิ้มจนปวดเมื่อย และเอ่ยขัดต่อความรู้สึก “งาม ลูกแม่งามที่สุดแล้ว”

งามจนเหมือนผีน้อยตัวหนึ่ง ใบหน้ารูปไข่แดงเหมือนตูดลิง คิ้วหนาดำขลับดุจหนอนบุ้ง แล้วก็ปากที่แดงแจ๋เหมือนเพิ่งกัดผลแก้วมังกร

เจ้าปลาอ้วนที่ถูกชมยืดท้องน้อยออกมาอย่างภูมิใจ นางก็คิดว่าตัวเองงดงามเช่นกัน เป็นเด็กน้อยที่งดงามที่สุดในโลก!

คนตัวเล็กที่แทบอยากแบ่งปันการแต่งหน้าใหม่ของตัวเองให้กับบิดาและพี่ชายไม่ไหว ก็รีบวิ่งหน้าตั้งเข้าไปในห้องหนังสือด้วยใบหน้าเละเทะ

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์นั่งทำการบ้านอยู่ที่โต๊ะหนังสือเล็กอย่างตั้งใจ ในขณะที่มู่ฉินเจินกำลังช่วยฮ่องเต้เฒ่าในการพิจารณาสาส์น เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ก็บินเข้ามาเหมือนผีเสื้อ และตะโกนเรียกด้วยน้ำเสียงเด็กเล็กให้พวกเขาดูนาง

“ท่านพ่อ ท่านพี่ รีบดูเร็ว! ลูกงามขึ้นแล้ว!”

มู่ฉินเจินกับเสี่ยวฉวนเอ๋อร์เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกัน รอยยิ้มในดวงตาพลันค้างนิ่งไปยามเห็นดวงหน้าน้อยของเจ้าปลาอ้วน

เด็กที่เหมือนผีน้อยนี่คือลูกสาว/น้องสาวเขาหรือ?

สองพ่อลูกมีสีหน้าเหมือนกันราวกับแกะ มองเจ้าปลาอ้วนอย่างไม่อยากจะเชื่อ ส่วนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กระพริบตากลมโต และฉีกยิ้มขึ้นมา

ท่านพ่อกับพี่ชายต้องตะลึงกับความงามของนางแน่ ดูสิ อึ้งกันไปเลย นางคือเด็กน้อยที่งดงามที่สุดจริงๆ ด้วย

ดวงหน้าที่แต่งแต้มด้วยสีหลากสีสันบวกกับรอยยิ้มโง่งมของเด็กน้อยในตอนนี้ยิ่งทำให้นางดูไม่น่ามองสักนิด เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ส่ายศีรษะตัวเองอย่างจนใจ พลางลุกขึ้นจากเก้าอี้ เดินไปอยู่ข้างน้องสาว และจูงมือนางไปที่อ่างล้างมือ ให้น้องสาวมองเงาสะท้อนของใบหน้าตัวเอง

เจ้าปลาอ้วนไม่เข้าใจ ยื่นศีรษะเข้าไปอยู่เหนืออ่างน้ำ ในที่สุดก็ตกใจ ‘ผีน้อย’ ที่อยู่ในน้ำ

“ว๊าก! นี่มันใครกัน น่าเกลียดจังเลย!”

เด็กน้อยอ้าปากอย่างตกใจ ‘ผีน้อย’ ในน้ำก็อ้าปากด้วย พลันนางก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายเหมือนกับนาง จึงทำหน้าทะเล้นสองครั้งอย่างไม่อยากจะเชื่อทันที ซึ่งเงาในน้ำนั้นก็ทำหน้าทะเล้นเช่นกัน

เอาล่ะ นางมั่นใจแล้ว ผีน่าเกลียดนี่ก็คือนางเอง!

เจ้าปลาอ้วนเสียใจจนร้องไห้ออกมา พลางเงยหน้าขึ้นเบะปาก “แง้ ข้าเป็นผีน่าเกลียด ข้าไม่งามเลย”

มู่ฉินเจินไม่อยากเห็นลูกสาวร้องไห้ที่สุด จึงรีบอุ้มนางขึ้นมาโอ๋ “ลูกไม่น่าเกลียด ลูกงามที่สุดแล้ว”

เจ้าปลาอ้วนเช็ดน้ำตา มองบิดาด้วยน้ำตาเอ่อคลอ และถามอย่างน่าสงสาร “จริงหรือเจ้าคะ?”

หลังจากโดนน้ำตา ดินสอเขียนขอบตากับรองพื้นก็เลอะเทอะเปรอะเปื้อนหมด ดวงหน้าน้อยที่เดิมทีแต่งเหมือนผีอยู่แล้วก็ยิ่งไม่น่ามองขึ้นไปอีก แต่มู่ฉินเจินโกหกเช่นเดิม และรีบตอบทันที “จริงสิ ไม่ว่าอย่างไรลูกก็งดงาม!”

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์เองก็รีบมาโอ๋น้องสาวเช่นกัน และใช้ความรู้ที่เขาเรียนมาชมน้องสาวว่างดงาม

เมื่อเฉียวเยี่ยนเข้ามาในห้องหนังสือก็เห็นสองพ่อลูกกำลังโอ๋เจ้าปลาอ้วน คนหนึ่งเรียกลูก อีกคนหนึ่งเรียกน้องสาว ชมนางว่าดูดีอย่างไม่ซ้ำประโยค

นางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เดินเข้าไปอุ้มเด็กน้อย “พอแล้ว คนงามของแม่ ไปล้างหน้าเจ้ากัน ตอนนี้ลายพร้อยกลายเป็นแมวลายไปหมดแล้ว ”

เฉียวเยี่ยนช่วยเด็กน้อยล้างหน้า แล้วก็ทาครีมบำรุงหน้าให้นาง ก่อนจะเอ่ยปลอบนางจนสงบลง

หลังจากผ่านการฝึกฝนมาแล้วสองสามวัน สาวใช้ทั้งหกก็สามารถดูแลตัวเองได้แล้ว เฉียวเยี่ยนจึงวางแผนเลือกวันดีสักวันหนึ่งในการเปิดร้าน

ตอนนี้ภัตตาคารมีรายได้ทุกวัน คะแนนนางจึงมีเหลือเฟือมาก หลังจากกำหนดวันเปิดร้านเป็นต้นเดือนเก้าแล้ว นางก็เริ่มเตรียมสินค้า

วันที่เก้าต้นเดือนเก้าเป็นเทศกาลฉงหยาง เวลานั้นมีผู้คนเดินเที่ยวไปมาอยู่บนถนนค่อนข้างมาก ปริมาณนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาจึงมีมากหน่อย

นางหาห้องว่างในตำหนักมาทำเป็นห้องเก็บของ และใช้คะแนนซื้อเครื่องแต่งหน้าทั้งหมดมาไว้ในห้องนี้จนเต็มแน่น และเป็นเพราะยากจะอธิบายถึงที่มาของเครื่องสำอาง นางจึงบอกคนข้างนอกว่าเป็นเครื่องสำอางตำรับของนางเอง

ก่อนเปิดกิจการสองสามวัน นางได้ส่งคนไปป่าวประกาศทุกเขตพื้นที่ทั่วเมืองหลวง และมอบครีมทามือให้แก่พวกฮูหยินคุณหนูแต่ละจวน เพื่อเพิ่มความอยากซื้อให้กับพวกเขา

พวกฮูหยินคุณหนูเหล่านั้นได้ยินว่าซู่หวางเฟยจะเปิดร้านชาด แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร ตอนนี้พวกนางใช้ผงชาดที่ดีที่สุดในราชวงศ์เทียนลี่ หรือว่านางขายสิ่งที่ดีกว่านี้?

แต่เมื่อพวกนางได้รับครีมทามือนั้น พวกนางก็นั่งไม่ติด บนโลกนี้ยังมีไขทามือเนื้อละเอียด มีกลิ่นหอม หลังทาบนมือก็ลื่น แล้วผิวก็นุ่มขึ้นมาทันทีด้วยรึ

นอกจากส่งครีมทามือให้แล้ว เฉียวเยี่ยนยังจ้างคนมาวาดสมุดภาพ ซึ่งเทียบเท่ากับใบปลิวในสมัยใหม่ บนสมุดภาพวาดนั้นวาดภาพเครื่องสำอางขนาดเล็กไว้ และยังมีคุณสมบัติ มีสกินไวเทนนิงให้ความชุ่มชื้น มีการลบเลือนจุดด่างดำ มีการปรับผิวให้กระจ่างใส กล่าวคือมีมากมายหลากหลายทุกแบบ

พวกฮูหยินคุณหนูที่ไม่สนใจในคราแรก หลังได้ใช้ครีมทามือและเห็นสมุดภาพนั้นก็เหมือนกับต้องมนต์ นับวันเวลารอให้ร้านอวิ๋นเหยียนเปิดกิจการ

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

ไม่เป็นไรนะน้องปลาอ้วน แต่งหน้าครั้งแรกก็เละแบบนี้แหละ ค่อยๆ ฝึกแต่งไปเดี๋ยวก็สวย

พวกคุณหนูฮูหยินทั้งหลายเตรียมโดนเฉียวเยี่ยนซื้อตัวแล้ว เรื่องความงามเป็นเรื่องที่ยอมกันไม่ได้จริงๆ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท