พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 10

ตอนที่ 10

บทที่2ตอนที่1

แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปทั่วเมืองอาร์คาซัม

ผู้คนในเมืองต่างเริ่มวันใหม่ในเช้าที่สดใส

ถนนในเมืองเต็มไปด้วยผู้คนและพวกเขาก็ทำงานอย่างหนักเพื่อหาเลี้ยงชีพตน

ชายหนุ่มคนหนุ่มกำลังเดินอยู่บนถนนที่มีคนพลุกพล่าน

ชื่อของเขาคือโนโซมุ・เบลาตี้

นักเรียนของสถาบันโซลมินาติซึ่งตอนนี้ ขึ้นปี 3 เป็นที่เรียบร้อย

เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่อาจารย์ได้จากไป

「ถึงอย่างงั้น…………………ก็ผ่านมาได้ด้วยดี」

การเผชิญหน้ากับชิโนะในสองวันสุดท้ายก่อนวันสอบปลายภาคและเป็นคำขอสุดท้ายของอาจารย์ทำให้เขาต้องฝืนต่อสู้จนได้รับบาดแผลมากมายและการสอบก็ยากกว่าที่คิด

พละกำลังไม่เหลือในการสอบซ้อมการต่อสู้ ข้อสอบข้อเขียนก็ไปได้ไม่ค่อยดีเพราะเขายังคงคิดถึงชิโนะอยู่ ผลลัพธ์คือจบไปที่สอบย่อยเพิ่มอีกสามอย่าง

「เพราะแบบนั้นก็เริ่มต้นจากจุดต่ำสุดเหมือนเดิม…เฮ้อ อย่างน้อยก็ผ่านมาได้แหละนะ」

อย่างไรก็ตามจำนวนการสอบเพิ่มเติมมันเป็นเนื้อหาที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสถาบัน

ด้วยเหตุนี้จึงได้มาเริ่มต้นใหม่ที่ห้อง 10 อีกครั้ง เกรดในปีที่แล้วก็ต่ำเพราะผมดรอปกลางคันด้วย

(ตอนนี้ควรจะเก็บรักษามันไว้ให้เป็นอย่างดีจะดีกว่า…พลังของดราก้อน สเลเยอร์…มันยิ่งใหญ่เกินไป)

ใช่แล้วเขาได้ปลดปล่อยพลังของดราก้อนสเลเยอร์ในตอนสู้กับชิโนะ และเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่ทำผิดพลาดจนเผลอไปปลดพันธนาการนั่นอีกรอบด้วยความไร้เหตุผล

ในตอนที่ขึ้นปี 3 เขาพยายามจะควบคุมพลังนั่นที่กระท่อมของชิโนะแต่ว่าไม่สามารถควบคุมได้เลย

แม้ว่าพลังที่ปลดปล่อยจะเพิ่มความสามารถทางกายภาพอย่างมาก แต่พลังมันแข็งแกร่งเกินไปมันเสริมพลังทุกอย่างให้กับเทคนิคทั้งหมดซะจนน่ากลัว หากพลาดใช้กับนักเรียนด้วยกันเองผมอาจจะเผลอฆ่าพวกเขาทิ้งก็ได้

「หินที่กลายเป็นผุยพงหลังจากใช้เจ้านั่น แค่นึกก็กลัวจะพลาดไปทำคนอื่นแล้ว」

(และก็……เจ้าหมอนั่น)

เขานึกถึงเทียแมท ราชันย์มังกรที่อยู่ภายในตัวของเขา ทุกครั้งที่เขาปลดปล่อยพลังออกมา มันก็จะคอยอาละวาดอยู่ภายในร่างกายของเขา พยายามจะควบคุมร่างกายนี้

ครั้งหนึ่งเขาเคยต่อสู้กับมันในโลกแห่งจิตวิญญาณและประสบความสำเร็จจนได้รับพลังของมันมา ดังนั้นเพราะเขาจัดการมันได้จึงจะไม่ถูกมันควบคุมในทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถปลดปล่อยพลังได้เพียงแค่สองนาที นั่นคือลิมิต

แม้สองนาทีจะเป็นเวลาที่โนโซมุควบคุมได้หลังจากปลดปล่อยออกมา หากปล่อยออกมาโดยควบคุมไม่ดีร่างกายอาจจะแหลกสลายและจิตวิญญาณคงจะพังทลาย

「ยังไงดีละต่อจากนี้จะเอายังไงดี」

ทั้งเรื่องของสถาบัน ทั้งเรื่องของเทียแมท ทั้งเรื่องของลิซ่า

ข้าได้พบกับลิซ่าก็หลายครั้งแต่เธอยังคงเกลียดขี้หน้าข้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน

โนโซมุไม่สามารถที่แม้แต่จะพูดหรือฟังเหตุผลที่เธอโกรธเขาได้

(…………เฮอะ……ข้าเองยังจะหนีอีกงั้นเหรอ)

โนโซมุยังไม่คงก้าวข้ามความรักครั้งนี้ไปได้ ยังไงก็ตามเขายังคงวิ่งหนีต่อไปด้วยความกลัว แต่ถึงกระนั้นตอนนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อนเขารู้ตัวว่าตัวเองกำลังหนีความเป็นจริง

สิ่งที่ชิโนะบอกกับเขามันยังฝังอยู่ในจิตใจและมันก็จะหยั่งรากลึกไปในจิตใจของเขา

ปี 3 ห้อง 10 โนโซมุเบลาตี้ ก็ยังคงได้รับการปฏิบัติเฉกเช่นเดิม

「แม่งยังอยู่นี่อีกเหรอวะ」「เพราะมันแท้ๆพวกเราเลยโดนหางเล่ห์ไปด้วย」「หมอนั่นมันทำสอบย่อยสามครั้งเลยนี่หว่า ดิ้นรนชิบหาย」

เมื่อข้าเข้าห้องมาก็ยังคนได้ยินคำกรนด่ามากมาย ข้าไม่สนใจและหยิบหนังสือขึ้นมาเพื่อเตรียมพร้อมเรียน

หลังจากนั้นเอง

「เฮ้ยมาร์วันนี้ไปร้านนั่นกันเถอะ ข้าอยากได้นังคนนั้นวะ」

「นี่แกเล็งลูกเจ้าของร้านงั้นเหรอ? แกทำไม่ได้หรอก หยุดซะเถอะ」

「…………พวกแกไม่เบื่อบ้างเหรอ……」

เป็นมาร์ที่เข้ามาทางนี้นั่นเอง

เห็นได้ชัดกำลังคุยถึงร้านที่จะไปหลังเลิกเรียน แต่มาร์ดูไม่ค่อยเต็มใจนัก

「เฮ้ยมาร์เป็นอะไรไปวะ? รู้สึกไม่ดีตรงไหนปะเนี่ย」

「ใช่ๆ ช่วงนี้แกดูเงียบๆนะ」

「…………หนวกหูวะ ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละ」

มาร์เดินไปยังที่นั่งระหว่างทางก็มองมาทางนี้

「อะเอ่อ……」

มาร์มองมาที่โนโซมุ ดวงตาของเขามีท่าทางจริงจังมาก ราวกับเขาแยกแยะบางอย่างออก ดวงตานั่นไม่ใช่แววตาที่ดูถูกเหมือนอย่างเคย

「ทุกโคนนนนน~~。โฮมรูมตอนเช้าจะเริ่มแล้วน้าาาาา~~~~」

ตอนนั้นเอง อาจารย์อันริก็เข้ามาในห้อง นักเรียนต่างพากันนั่งที่ แม้คาบเรียนตอนเช้าจะจบแล้วแต่มาร์ก็ยังคงคิดเกี่ยวกับโนโซมุไม่ตก

◇◆◇

ชายคนนั้น ตามปกติ เพราะปกติมันก็อยู่ห้องนี้ แต่ว่าความสงสัยข้ายังไม่หายไป

ทำไมมันถึงกดตัวเองให้ต่ำลง? ด้วยความสามารถระดับนั้นมันไปห้องที่สูงกว่านี้เลยก็ได้

การต่อสู้ปลายภาคนั่นมันล้มข้าได้ด้วยซ้ำ

ข้าแพ้ให้อย่างสมบูรณ์ ถ้าเขาขาดสติไปแม้แต่นิดในตอนนั้นข้าคงถูกฆ่าตายไปแล้ว

ข้านะมีความสามารถทางกายภาพที่ดีจนได้อยู่ถึงห้อง 4เลยนะ

แล้วทำไมคนอย่างหมอนั่นที่อยู่ห้อง 10 กลับเอาชนะข้าได้?

「ก่อนหน้านี้ดูเหมือนหมอนั่นจะเจ็บหนักก่อนเข้ารับการต่อสู้จำลองด้วย」

「ก็มันโง่นี่~~。ไปชนกับรถม้าเองแบบนั้น」

……บาดเจ็บงั้นเหรอ? หมอนั่นอะนะ? แม้จะบาดเจ็บแต่ได้ถึงขนาดนั้นเลยนะ?

ความรู้สึกสับสนเต็มหัวไปหมด ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็แค่การต่อสู้จำลอง ตอนที่หมอนั่นโดนดาบของข้ามันไม่ได้เจ็บหนักเลยนิ หมอนั่นมาเรียนตามปกติด้วยซ้ำ

ก่อนหน้านี้หมอนั่นได้รับบาดเจ็บสาหัสก่อนจะเข้าสอบปลายภาคด้วยนี่?

ข้าคิดว่ามันต้องมีอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ

◇◆◇

หลังจากเลิกเรียนคาบเช้าก็เริ่มพักกลางวัน นักเรียนในช่วงนี้มักจะใช้ช่วงเวลาสงบๆกับเหล่าสหาย

โนโซมุกำลังมองหาทางที่จะไปซื้อมขนมปังกินอยู่

อย่างไรก็ตามสถาบันนี่มีห้องอาหารขนาดใหญ่พอสมควร นักเรียนที่ซื้อของก็เยอะพอๆกัน แต่สิ่งของที่คนส่วนใหญ่ต้องการมันดันไม่พอ มันเป็นสภาพสงครามศึกชิงขนมปังนั่นละ

นอกจากนี้มันยังมีคนที่จริงจังถึงขั้นที่ว่าใช้เวทย์บินไปซื้อของกินเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตามของที่ไม่ค่อยมีคนนิยมก็มักจะหาซื้อได้ง่าย

โนโซมุไปซื้อขนมปังที่ไม่ค่อยมีคนกินและเดินไปทางตึกเรียนที่กำลังก่อสร้าง

เมื่อมองไปยังสวนก็พบกับสาวสวยสองคนที่กำลังนั่งทานอาหารกันอยู่

โนโซมุรู้จักทั้งสองเพราะเป็นคนดัง

คนแรกคือไอริสดิน่า・ฟรานซิส

ผมสีดำขลับยาวถึงเอวตัดแต่งจนสวยงาม ดวงตาสีดำทมิฬที่มีความสวยงามเหมือนกับเส้นผม

เธอเป็นนักเรียนปี 3 เช่นเดียวกับโนโซมุมีฉายาว่า “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ(คุโระคามิฮิเมะ)”และเป็นนักเรียนชั้นแนวหน้าที่มีผลการเรียนดีเยี่ยม

ส่วนอีกคนคือ ทิม่า・ ไลม์

เช่นเดียวกับไอริสดิน่า เธอเป็นนักเรียนปี 3 เช่นเดียวกับข้า เป็นผู้หญิงที่มีความสามารถมากจนถูกเรียกว่า “ผู้ใช้ธาตุทั้งสี่”

เธอมีผมน้ำตาลยาวถึงไหล่และดูไม่ยาวมากนักเหมือนไอริสดิน่า

เธอเป็นคนที่มีพลังเวทย์มหาศาลและพลังเวทย์นั่นก็อยู่ในระดับตำนานเลยทีเดียว

นอกจากนี้ความสามารถของเธอที่ว่าคือ “การสั่นพ้องของธาตุทั้งสี่”ซึ่งตัวเธอถนัดธาตุทั้งสี่อยู่แล้วยิ่งยกระดับมันขึ้นไปอีก

พวกเธอเป็นตัวแทนของนักเรียนปี 3 ที่อยู่ แรงค์ A ซึ่งมีไม่กี่คนในโรงเรียนนี้

อย่างไรก็ตามแรงค์ของโนโซมุคือ D- ไม่ต้องพูดถึงปี 3 เลย ต่ำกว่า ปี 2 อีก

「โนโซมุคุงงง~~~เจอตัวแล้ววววล่ะ~~~~」

(สะเสียงนี่มัน)

เมื่อผมหันไปมองก็เจอกับอาจารย์อันริและอาจารย์นอร์นเข้ามาหา

อันริโบกมือให้เหมือนเด็กๆส่วนนอร์นก็หัวเราะใส่เธอ

「โนโซมุคุงทานข้าวกลางวันรึยังจ้ะ~~?ถ้าไม่รังเกียจละก็มาทานด้วยกันม้า~~」

「ขอโทษด้วยนะโนโซมุ อันริอยากจะทานข้าวกับนายจริงๆ ดังนั้นไปด้วยกันหน่อยได้ไหม」

อันริและนอร์นยิ้มและมองมาทางนี้ด้วยท่าทางเชิญชวน เป็นรอยยิ้มอันแสนงดงามจากสาวงามทั้งสอง แต่นอกเหนือจากรอยยิ้มนั่นแล้วข้ารู้สึกตะหงิดๆแปลกๆ

(อาจารย์อันริ……………………นี่คุณยังไม่คิดจะยอมแพ้อีกเหรอครับ……)

รอยยิ้มของอาจารย์อันริทำให้ข้าเหงื่อตก แต่โนโซมุไม่สามารถทำอะไรได้และถูกพาตัวไป

◇◆◇

สถานที่ๆถูกพาไปก็คือห้องพยาบาลที่นอร์นทำงานอยู่นั่นเอง

ในความเป็นจริงข้าก็โดนหิ้วมาที่นี่บ่อยๆโดยอาจารย์อันริหรอก แต่ว่าหลังจากขึ้นปี 3 แล้วก็พึ่งได้มาเป็นครั้งแรก

「นี่ โนโซมุคุง ทำไมถึงได้แผลเยอะขนาดนั้นก่อนการสอบปลายภาคงั้นเหรอ~~~~」

「เอ่อก็อย่างที่ข้าเคยพูดไปแล้ว อาจารย์อันริ「ตกบัดไดสิน้าา จะใช่แน่เหรอ~~?」……อะครับ」

หลังจากทานข้าวกลางวันอาจารย์อันริก็กดดันไม่หยุด

เธอถามเกี่ยวกับบาดแผลของข้าที่ได้จากการดวลกับชิโนะในเดือนที่ผ่านมา

「โกหกมันไม่ดีน้าาาา~~。เพราะบาดแผลเหล่านั้นน่ะน้ามันมาจากดาบทั้งนั้นเลย ถ้าเธอได้แผลแบบนั้นมาฉันที่สังเกตเห็นก็สงบใจไม่ได้หรอกน้า」

「…………」

「อย่างที่อันริพูดนั่นแหละโนโซมุ อย่างทีคิดแผลนั่นมาจากดาบล้วนๆเลย แผลแบบนั้นฉันเองก็มองข้ามมันไม่ได้หรอกนะ」

「……………………」

โนโซมุ ไม่สามารถตอบอะไรได้ เขาไม่สามารถพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับชิโนะและพลังของดราก้อนสเลเยอร์ได้

ยังไงก็หนีไม่พ้น ข้าเองก็ไม่รู้จะแก้ตัวยังไงดี ภายในเดือนเดียวแผลเยอะขนาดนั้น

「…………เป็นอะไรที่พูดไม่ได้ครับ ถึงแม้จะโดนตำรวจมาสอบปากคำข้าก็พูดไม่ได้?」

ผมเกลียดตัวเอง ผมไม่สามารถบอกความจริงออกไปได้

「ไม่ใช่แบบนั้นหรอก~~! พวกเราก็แค่เป็นห่วงงง~~~~~~!!」

「ใช่แล้ว! ฉันกับอันริเป็นห่วงนายมากเลยนะ!!」

(เฮอะ หนีอีกแล้ว เกลียดจริงๆไม่ได้อยากจะทำแบบนี้เลย……)

「…………ขอโทษนะครับ……ไม่อยากจะพูดจริงๆ」

「ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร พวกเราเองก็ก้าวก่ายมากเกินไปด้วยละนะ」

บรรยากาศมาคุตลบอบอวลไปทั่วห้อง

「…………เน่เน่~~、โนโซมุคุง เธอไม่เชื่อใจพวกเราเหรอ?」

อาจารย์อันริถามออกมาด้วยท่าทางเศร้าๆ ท่าทางของเธอทำให้ข้าเจ็บปวด

(นี่ข้าจะหนีแบบนี้ไปถึงเมื่อไร)

โนโซมุสมเพชตัวเอง ไม่สามารถก้าวข้ามไปได้สักที เขาที่โดนกดขี่มาตลอดจะมาได้รับความอ่อนโยนแบบนี้

(…………ไม่อยากเห็นใบหน้าแบบนั้นเลย………………ข้าก็มีเรื่องที่พูดไม่ได้เหมือนกัน……เพราะฉะนั้นขอร้องละช่วยคุยเรื่องที่พอคุยได้ด้วยเถอะ)

ใบหน้าเศร้าสร้อยของอาจารย์ผุดขึ้นมา ใบหน้าของข้าที่ราวกับทับซ้อนกับอาจารย์คนนั้น ไม่สามารถปลดปล่อยความรู้สึกอันแท้จริงได้

「ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อใจครับ แต่ว่าแม้อาจารย์ทั้งสองจะห่วงข้าก็เถอะครับ…………ข้ารู้สึกมีความสุขมากๆเลยล่ะ……ปกติแล้วข้าก็กินข้าวกลางวันคนเดียวมาตลอด」

โนโซมุเริ่มปล่อยตัวเองไปตามความรู้สีกอย่างช้าๆ แต่หนักแน่น เขาไม่อยากเห็นอันริซ้อนทับกับชิโนะ

「ตอนนั้นเอง ข้าก็มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้น มันเกิดขึ้นมากมายมากจนตอนนี้ข้าไม่สามารถจัดระเบียบความคิดได้เลย」

เขาจ้องหน้าไปยังทั้งสองพร้อมกับค่อยๆพูดออกไป

「แต่ว่า ข้าน่ะได้เรียนรู้บางอย่างที่สำคัญมากๆที่จะก้าวเดินต่อไป…………นั่นละคือสิ่งที่ข้าควรจะทำ…………ต้องขอโทษด้วยแต่ตอนนี้ ข้าพูดได้แค่นี้จริงๆครับ」

โนโซมุโค้งคำนับจากหัวใจ ข้าโกรธตัวเองที่อ่อนแอที่พูดได้แค่นี้ แต่ถึงอย่างงั้น ข้าก็พยายามจนถึงที่สุดแล้ว

「…………เข้าใจแล้ว จนกว่าจะถึงตอนนั้นวันที่นายพร้อม พร้อมจะบอกความจริงทุกอย่าง ฉันกับอันริจะรอจนถึงวันนั้น」

「………………แต่ว่าาาาาาาา~~」

「ฉันรู้น่าว่าเธอกังวล แต่ตอนนี้ให้เขาได้อยู่กับตัวเอง ตอนนี้เขายังไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป」

「……………………เข้าใจแล้ว……」

ดูเหมือนว่าเธอจะกล่อมอันริได้สำเร็จ แต่เธอที่ยังกังวลก็มองมาทางโนโซมุ

「ขอโทษนะครับอาจารย์อันริ」

「…………เข้าใจแล้วล่ะน่า~~。โนโซมุเองก็ผ่านช่วงลำบากของชีวิตมาสิน้า~~~~。~ขอโทษด้วยน้าาา~。ที่พยายามถามแบบนี้น่ะ~~」

「เอะ……แต่ข้าดีใจจริงๆนะครับที่เป็นห่วง」

「อาจารย์นอร์นเองก็เช่นกันนะครับ」

「อืม ฉันเข้าใจ พวกเราเองก็รีบร้อนเกินไปหน่อย ฉันรู้ว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นกับนาย แต่พวกเราไม่รู้จะทำยังไงก็เลย」

บรรยากาศโดยรอบเริ่มเบาบางลง ทั้งสามต่างยิ้มให้กันและกัน

「ถ้างั้นมาทานข้าวเที่ยงกันต่อเถอะ ก่อนคาบเรียนจะเริ่มและข้าเองก็ไปสายไม่ได้ด้วยสิ ไม่เหมือนกับอาจารย์」

「ฟุฟุ นั่นสินะ~~。รีบๆทานกันเถอะ~~」

「อ่า นั่นสินะ ฉันเองก็ยังไม่ได้ยินข้าวแต่เช้าเลย ท้องร้องละเนี่ย」

ทั้งสามต่างหยอกล้อกันบรรยากาศโดยรอบเริ่มสงบและทั้งสามก็ทานอาหารกลางวันที่เหลือ

อย่างไรก็ตามตอนนั้นเองมีเงาหนึ่งพุ่งเข้ามาในห้องพยาบาล

「ขอโทษด้วยนะ อาจารย์นอร์นมีคนเจ็บ ช่วยรักษาแผลให้หน่อยได้ไหม?」

เป็นสาวสวยผมสีดำขลับพุ่งเข้ามาพร้อมกับดวงตาสีดำสนิท

ไอริสดิน่า・ฟรานซิส โผล่เข้ามาเธอแบกคนเจ็บเข้ามาด้วย

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท