ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 111 จะให้มันตายอย่างหอมกรุ่น

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 111 จะให้มันตายอย่างหอมกรุ่น

ตอนที่ 111 จะให้มันตายอย่างหอมกรุ่น

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จูงมือท่านยายคนใหม่ ในขณะที่เสี่ยวฉวนเอ๋อร์จูงมือท่านลุง เด็กทั้งสองแนะนำผักในสวนผักให้พวกเขาด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว

พวกนี้คือหัวไชเท้า พวกนั้นคือผักกาดขาวยักษ์ พวกนู้นคือกะหล่ำปลี แล้วก็ยังมีต้นหอม หน่อกระเทียม…

เด็กทั้งสองได้รับอิทธิพลมาจากเฉียวเยี่ยน จึงรู้จักผักไม่น้อย ท่าทางตั้งใจนั้นทำให้ทุกคนขบขัน

ตอนนี้คือปลายเดือนสิบแล้ว ในตำหนักปลูกหัวไชเท้าอีกครั้ง ตอนนี้หน่อมันได้งอกออกมาสูงมากแล้ว

เดิมทีเฉียวเยี่ยนวางแผนจะปลูกโหยวช่าย*ในตำหนักเสียหน่อย ถึงตอนนั้นจะได้เอามาสกัดน้ำมันได้ แถมดอกอ่อนของผักโหยวช่ายยังนำมาหมักเป็นผักดองได้ แต่เมื่อนึกถึงกลิ่นอันรุนแรงของดอกโหยวช่าย รวมถึงกลัวว่ามันจะดึงดูดผึ้งมาต่อยเด็กทั้งสองแล้ว นางจึงล้มเลิกไป

(*油菜 ต้นไม้คล้ายผักกวางตุ้ง​ มีดอกสีเหลืองอร่ามในฤดูใบไม้ผลิ เมล็ดนิยมนำไปสกัดน้ำมันที่เรียกว่าน้ำมันเรพซีดหรือน้ำมันคาโนลา)

ซูเนี่ยนหว่านมองผักต็มลานบ้านด้วยความตกใจระคนดีใจ แต่ก็กังวลท่านอ๋องซู่จะโกรธที่ลูกสาวทำสวนดอกไม้ดีๆ ในตำหนักอ๋องเป็นเช่นนี้ จึงเอ่ยตำหนิเฉียวเยี่ยน “เจ้าหนอเจ้า โชคดีที่ท่านอ๋องนิสัยดี หากเป็นผู้อื่น ใครจะหลับหูหลับตาปล่อยเจ้าให้ทำแบบนี้กัน!”

เฉียวเยี่ยนรู้สึกภูมิใจเล็กน้อย ท่านอ๋องของนางต้องนิสัยดีอยู่แล้ว หากเขาค้านนางปลูกผักในตอนนั้น ก็คงไม่มีความสัมพันธ์เหมือนอย่างทุกวันนี้

มู่ฉินเจินค่อยๆ ยื่นมือไปกุมมือนาง และเอ่ยกับซูเนี่ยนหว่านอย่างมีมารยาท “ท่านแม่ยายโปรดวางใจ อาเยี่ยนอยากทำสิ่งใด ข้าสนับสนุนทุกอย่าง”

ซูเนี่ยนหว่านนิ่งอึ้งกับคำว่าแม่ยาย ทั้งชีวิตนี้นางไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งนางจะทำให้ท่านอ๋องเรียกนางว่าแม่ยายได้

หลังจากลุงฉูเก็บกวาดห้องเสร็จก็พาเฉียวจิ่นกับซูเนี่ยนหว่านนำของไปเก็บ ส่วนเฉียวเยี่ยนไปที่ห้องเครื่อง วันนี้เป็นวันที่ครอบครัวมารวมตัวกันที่หาได้ยาก จึงไปเตรียมอาหารสำหรับรับประทานร่วมกัน

นางจำได้ว่าบ้านบรรพบุรุษแม่นางอยู่ทางตงเป่ย(ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) ตอนยังเด็กได้ย้ายมาอยู่เมืองหลวงตามท่านปู่ จากนั้นมาก็ไม่เคยได้กลับไปอีกเลย

วันนี้นางจึงนึกอยากจะทำอาหารตงเป่ยสักหน่อย

ชาติก่อนนางไม่ใช่คนตงเป่ย แต่กลับชอบรับประทานอาหารตงเป่ยมาก มันมีปริมาณมาก รสชาติดี โดยเฉพาะเถี่ยกัวตุ้น*นั้น เพียงนัดพวกเพื่อนๆ มา ก็รับประทานเถี่ยกัวตุ้นหนึ่งหม้อด้วยกันจนท้องกลมนูน

(*铁锅炖 สตูว์เนื้อสัตว์กระทะร้อนแบบตงเป่ย ตรงกลางกระทะเป็นสตูว์เนื้อสัตว์ และวางแผ่นแป้งที่กินคู่กันเรียงไว้ตรงขอบกระทะ)

นางเคยทำกระดูกหมูตุ๋นมาสองสามครั้ง ทว่าวันนี้ไม่เหมือนเดิม นางจะทำปลาตุ๋นหม้อยักษ์!

ตุ๋นปลาในหม้อ แล้วนาบฮวาจ่วน ซาลาเปา ไว้บนขอบหม้อ ข้างหม้อก็เอาแป้งทอดมาติดได้ หนึ่งหม้อสามารถรับประทานได้ตั้งหลายอย่าง

นางไปเลือกปลาในอ่างปลาที่ห้องเครื่องใหญ่ แต่พบว่าปลามีขนาดตัวไม่ใหญ่พอ จึงนำแหกับเหยื่อตกปลาไปจับปลาในสระบัว

เมื่อมู่ฉินเจินรู้ว่านางจะไปจับปลา เขาก็พาลูกทั้งสองตามไปด้วย เพราะเด็กๆ กินปลาในสระบัวบ่อยๆ จึงมีความกล้ามากพิเศษ เพียงนำอาหารปลาโยนลงไป พอพวกมันว่ายเข้ามากิน เฉียวเยี่ยนก็เหวี่ยงแหลงไปอย่างรวดเร็ว และชำนาญแม่นยำ

หลังจากเหวี่ยงแหไปหลายครั้งก็จับปลาใหญ่ที่หนักเกือบสิบชั่งได้ หากใช้ปลาตัวเล็กเกินไป พอตุ๋นถึงตอนท้ายก็จะเหลือเพียงกระดูก

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์มองปลาตัวโตที่ถูกมารดาหิ้วไปพลางเบะปากอย่างปวดใจ นั่นเป็นปลาที่นางเลี้ยงเองนะ และนับว่าเป็นปลาตัวใหญ่ที่กินมากที่สุดทุกวัน

เฉียวเยี่ยนรู้สึกขบขันกับท่าทางเศร้าสร้อยของเด็กน้อย จึงลูบศีรษะนางอย่างปลอบโยน “ไม่ต้องกังวล แม่จะจัดการศพปลาของเจ้าให้ดีๆ รับปากว่าจะให้มันตายแบบหอมกรุ่น”

เจ้าปลาอ้วนสูดน้ำมูกอย่างเสียใจ ก่อนพยักหน้า “เช่นนั้นท่านแม่ต้องทำให้มันอร่อยสุดๆ ไปเลยนะเจ้าคะ”

หากไม่อร่อยล่ะก็ คงน่าเสียดายปลายักษ์ที่นางเลี้ยง

เสี่ยวฉวนเอ๋อร์จับมือน้องสาวไว้ และเอ่ยปลอบ “วางใจเถิดน้องหญิง ท่านแม่ทำอาหารอร่อยมาตลอด ปลาของเจ้าจะไม่เสียใจแน่นอน”

มู่ฉินเจินเดินตามหลังสามแม่ลูกพร้อมกับถือแหไว้ มองพวกเขาพูดคุยกันพลางยิ้มออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่

เฉียวจิ่นกับซูเนี่ยนหว่านจัดห้องพักตัวเองเรียบร้อยแล้ว ความจริงนอกจากเงินกับชุดเอามาเปลี่ยนสองสามชุดก็ไม่มีของอย่างอื่นแล้ว ซูเนี่ยนหว่านมาตัวคนเดียว ส่วนเฉียวจิ่นพาจิ้งหมิงบ่าวข้างกายมาด้วย

จิ้งหมิงคอยปรนนิบัติเขามาหลายปี และมักจะถูกกีดกันตอนอยู่ที่จวนเพราะเขา เขาหลุดพ้นจากความทุกข์ ย่อมไม่ปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่รับความทุกข์ต่อไป

สองแม่ลูกมาถึงเรือนจิ่งเสวียน เมื่อพบว่าเฉียวเยี่ยนกำลังทำอาหารอยู่ในห้องเครื่อง ก็ตกใจอยู่นานก่อนจะได้สติกลับมา

เสี่ยวเยี่ยนทำอาหารเป็นตั้งแต่เมื่อใดกัน? เมื่อก่อนไม่เอาการเอางานเลยมิใช่หรือ?

เจ้าปลาอ้วนมองภาพปลายักษ์ที่ตัวเองเลี้ยงถูกชำแหละหั่นศพกับตาตัวเอง ก็ไปนั่งเศร้าอยู่ในลานคร่ำครวญถึงปลาตัวใหญ่ที่ตาย เสี่ยวฉวนเอ๋อร์จึงตามไปปลอบนาง

เมื่อซูเนี่ยนหว่านกับเฉียวจิ่นเห็นเด็กน้อยดวงตาแดงก่ำ ต่างก็ปวดใจอย่างยิ่ง และคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่อะไรขึ้น

แต่หลังจากรู้ความจริงก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เฉียวจิ่นอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา นางตัวหนักมากแต่อ่อนนุ่ม เขาที่ร่างกายอ่อนแอจึงอุ้มได้ไม่นาน

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์จำที่แม่บอกได้ว่าร่างกายท่านลุงไม่ค่อยดี ไม่ควรให้ท่านอุ้มนางกับพี่ชายนาน ดังนั้นผ่านไปไม่นานนางก็ดิ้นอยากลง

ด้วยกังวลว่าท่านลุงจะเสียใจ เด็กน้อยก็แตะมือเขาเหมือนกับเด็กตัวโต และเอ่ยปลอบด้วยเสียงเจื้อยแจ้ว “ท่านลุงไม่ต้องเสียใจ รอท่านสุขภาพดีเมื่อใด ก็สามารถอุ้มพวกเราได้แล้ว!”

เฉียวจิ่นใจอ่อนไม่ไหว กอดเด็กทั้งสองเอาไว้ และเอ่ยเสียงเบา “ได้ รอลุงอาการดีขึ้นเมื่อไหร่ จะอุ้มพวกเจ้าทุกวันเลย และจะพาพวกเจ้าออกไปเล่นด้วย”

ซูเนี่ยนหว่านมองหลานทั้งสอง รู้สึกว่ายิ่งมองก็ยิ่งชอบ เด็กๆ ของนางเชื่อฟังที่สุดแล้ว!

นางหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากอกเสื้อ และคลี่มันออก ในนั้นมีกำไลทองอยู่คู่หนึ่ง เป็นกำไลที่นางให้เฉียวจิ่นนำปิ่นปักผมทองไปหลอมและตีออกมาก่อนหน้านี้

กำไลทองมีสภาพดีมาก บนนั้นสลักลายเมฆมงคล นางจัดการสวมกำไลข้อมือให้เด็กทั้งสอง บีบมือน้อยขาวนุ่มของพวกเขาเอาไว้ แล้วเอ่ยอย่างอ่อนโยน “ยายไม่มีของดีอะไรที่จะให้พวกเจ้าได้ เด็กๆ อย่าได้ถือสาเลยนะ”

ทว่าเด็กทั้งสองชอบกำไลข้อมือนี้มาก เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ยกมือน้อยขึ้นสำรวจอย่างมีความสุขกับประกายสีทองแวววาวนั้น

“ขอบคุณเจ้าค่ะท่านยาย ข้าชอบมากเลยเจ้าค่ะ”

เสียงนุ่มนวลของเด็กน้อยทำให้ซูเนี่ยนหว่านยิ่งใจอ่อนระทวย ส่วนเสี่ยวฉวนเอ๋อร์แม้จะไม่ได้แสดงออกตรงไปตรงมาเหมือนน้องสาว แต่จากดวงตาเล็กๆ ที่เป็นประกายของเขาก็สามารถดูออกว่าเขาชอบกำไลข้อมือเส้นนี้มาก และขอบคุณอย่างสุภาพ

เฉียวจิ่นเองก็ให้ของขวัญพวกเขาเช่นกัน เป็นกุญแจอายุยืนคู่หนึ่ง มีเนื้อผิวเป็นหยก สีใสแวววาว และมัดด้วยเชือกสีแดง

เด็กน้องทั้งสองที่ได้รับของขวัญก็อยากวิ่งไปอวดบิดามารดาที่อยู่ในห้องเครื่องแทบไม่ไหว ซึ่งเจ้าปลาอ้วนได้หยุดเสียใจเรื่องที่ปลาตัวใหญ่ถูกฆ่าไปชั่วขณะ

เฉียวเยี่ยนรู้ว่ามารดากับพี่ชายให้ของขวัญพวกเด็กๆ แล้ว จึงรู้สึกทั้งจนใจทั้งซาบซึ้งใจ ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันของพวกเขา ต้องไม่มีเงินมากแน่ แต่กลับยังพยายามหาของขวัญมาให้เด็กๆ

นางกำลังยุ่งอยู่ในห้องเครื่อง มู่ฉินเจินจุดเตาไฟให้นาง แล้วก็เป็นผู้ช่วยนาง

แม้เขาจะหั่นผักไม่เป็น แต่ยังชำแหละปลาเป็นอยู่ ถึงอย่างไรเขาก็ชำนาญมีดดาบมาหลายปี เขายกมีดขึ้นแล้วสับลง หั่นปลาใหญ่หนึ่งตัวจนกลายเป็นท่อนๆ อย่างรวดเร็ว ส่วนหัวปลาก็สับแยกเป็นสองส่วน

เฉียวเยี่ยนนวดแป้ง และปล่อยพักแป้งไว้ อีกเดี๋ยวจะทำฮวาจ่วนกับซาลาเปา และวางไว้บนน้ำแกง

หลังจากหั่นปลาเสร็จก็นำสามสหายดับคาวอย่างหอม ขิง เหล้าเหลืองลงไปหมัก รอเวลาพอประมาณก็เอาลงไปทอดในหม้อน้ำมัน ทอดจนหนังด้านนอกกรอบเหลืองทองแล้วก็เอาออกได้

ระบบตัวน้อยเห็นปลาทอดสีเหลืองทองก็กลืนน้ำลาย พลางเรียกเฉียวเยี่ยนให้นำมาให้นางชิ้นหนึ่ง

เฉียวเยี่ยนเอ่ยอย่างจนใจ “ช่างเป็นแมวตะกละตัวน้อยจริงๆ มันยังไม่เสร็จเลย รออีกหน่อยได้หรือเปล่า?”

แต่ระบบตัวน้อยรอไม่ไหวแล้ว

[ถึงยังไม่เสร็จระบบก็จะกิน!]

ก็ได้ ระบบของตัวเองนี่นะ ดังนั้นเลี้ยงไปเถอะ

………………………………………………………………………………………………………………………

สารจากผู้แปล

โอ๋เอ๋นะน้องปลาอ้วน มันคงเป็นความผูกพันสินะ เดี๋ยวอีกไม่นานปลาตัวโตก็จะไม่ตายเปล่าแล้ว

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท