พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 28

ตอนที่ 28

บทที่3ตอนที่5

ไอริสได้เชิญผมให้ไปเที่ยวกับเธอในย่ายการค้า ร้านค้าจำนวนมากมีเต็มถนนไปหมด หลายๆร้านก็เตรียมตัวสำหรับตอนค่ำแล้ว กลิ่นอาหารมากมายลอยเข้ามาแตะจมูกของพวกเรา บางคนก็กำลังกลับบ้านหลังจากเลิกงาน

ตัวผมเองก็ไม่ค่อยคุ้นชินกับพื้นที่แถวนี้เท่าไรเพราะว่าเอาแต่ฝึกหนัก แต่ไอริสที่เป็นสาวสวยน่าจะได้มาเดินเล่นบ่อยนะ

「เอ่อ ก็เข้าใจอยู่หรอกนะครับว่าเร่งรีบ แต่ว่าคุณไอริสรู้จักพื้นที่แถวนี้เหรอครับ?」

ผมถามไอริส เสียงของผมทำมันออกมาแปลกๆเพราะกำลังประหม่าอยู่นั่นเอง

ใครจะไปคิดละว่าจะโดน “เจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬ”มาชวนเดทแบบนี้…………。

「อืม บางครั้งฉันก็มาแถวย่านการค้ากับโซเมียบ่อยๆค่ะ อันที่จริงแถวนี้ดิฉันเองก็ยังไม่เคยเดินมาเลยค่ะ น่าตื่นเต้นดีนะคะ」

「เอ๊ะ…………」

ผมตกใจเล็กน้อย เมืองอาร์คาซัมเป็นเมืองที่เข้มงวดด้านเวรยามและการรักษาความปลอดภัยค่อนข้างจะดี อย่างไรก็ตามพื้นที่ย่านการค้านั้นคนค่อนข้างหนาแน่นทำให้การตรวจตราลำบาก แล้วยิ่งคนมีชื่อเสียงอย่างไอริสมาเดินกับโซเมียโดยไม่มีคนคุ้มกันเลยดูแปลกๆ

「แน่นอนค่ะว่าพื้นที่การค้าไม่ค่อยปลอดภัยเท่าไร แต่มันมีหลายอย่างมาจากทั่วทั้งทวีป บางครั้งฉันกับโซเมียก็ได้เห็นกับสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ และฉันเองก็ชอบที่จะเดินเล่นย่านการค้านี้ด้วย」

ที่สถาบันเธอเป็นคนดังยากที่จะเข้าถึง แต่พออยู่นอกสถาบันตัวเธอกลับทำท่าทางสบายๆ

◇◆◇

「…………ก็ตกใจเล็กน้อยละนะ ตอนที่อยู่ที่สถาบันเกิดเรื่องวุ่นวายเยอะเลยนะ แต่ว่าไอริสที่อยู่นอกสถาบันแล้วได้มาสถานที่แสนวุ่นวายแบบนี้ค่อนข้างแปลกใจเลยล่ะ」

「ก็นะคะ มันน่าตื่นเต้นไม่ใช่เหรอคะการได้ไปเที่ยวด้วยกันในสถานที่ๆไม่รู้จักเช่นนี้? คนในบ้านน่ะเครียดเกินไปคะ เพราะฉะนั้นฉันก็ต้องออกมาผ่อนคลายบ้างเป็นธรรมดา」

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมรอยยิ้มไร้เดียงสาและทำหน้ามีความสุข เมื่อเห็นรอยยิ้มนั่นผมเองก็ผ่อนคลายลงไปด้วย

「นอกจากนี้ ตัวฉันเองก็ปกป้องตัวเองได้ค่ะ」

เมื่อไอริสพูดเช่นนั้นเธอก็จับดาบที่เอว เธอเองก็เป็นหนึ่งในนักเรียนที่มีผลการเรียนยอดเยี่ยมและมีแรงค์ A โนโซมุก็รู้สึกทึ่งในตอนที่เธอสู้กับรูกาโต้ เธอสามารถจัดการศัตรูให้เป็นฝุ่นได้ในพริบตา ถึงแม้ในเมืองจะมีพวกอันธพาลจำนวนมาก แต่ก็ไม่น่าจะคนามือเธอหรอก

「เอาล่ะ ถ้างั้นก็ไปกันเถอะ」

หลังจากพูดเช่นนั้นเธอก็เดินนำหน้าไปผมเองก็ตามเธอไป

◇◆◇

ย่านการค้ามีผู้คนมากมายพ่อค้ามากมายต่างส่งเสียงเรียกลูกค้า หลายๆคนก็แลกเปลี่ยนสินค้าซึ่งกันและกัน มีแผงลอยมากมายตั้งอยู่ มีทั้งนักเดินทาง เด็กเล็กเด็กน้อย และคู่รักอยู่ริมทาง

「หลังจากผ่านร้านต่างๆมาก็…ร้านขนมงั้นเหรอ?」

ไอริสพบเจอกับแผงขนมมากมายหลายชนิด มันเยอะซะจนวางไม่หมดเลยล่ะ มีการปั้นเป็นรูปสัตว์ต่างๆรวมถึงรูปปั้นของนักเดินทางหรือรูปของคนรัก มีลูกกวาดมากมายหลากหลายสี แถวๆร้านก็จะพบกับเด็กๆจำนวนมากเลยล่ะ

ด้านหลังของร้านมีคุณลุงหน้าตาดีกำลังทำขนมชิ้นใหม่อยู่ กลิ่นหอมหวานของน้ำตาลอบอวลไปทั่ว

「นี่ ต่อไปข้าขอขนมรูปอัศวินล่ะ!」

「อ่า!ต่อไปตาผมนะลุง ผมชอบรูปเจ้าหญิงน่ะ!」

เด็กๆต่างส่งเสียงและพยายามให้เจ้าของร้านทำขนมให้ตัวเอง

「น่าๆ ทีละคน เดี๋ยวจะทำให้ทีละคนนะ」

เด็กๆต่างเร่งเร้าให้คุณลุงทำ “เร็วๆ” เพราะบางทีพวกเขาอาจจะรอไม่ไหวและเจ้าของร้านก็พยายามเต็มที่

ในตอนนั้นเองสายตาของผมกับเจ้าของร้านก็สบตากัน

「อะ พวกเธอ!รบกวนมาทางนี้หน่อยได้ไหม?」

จู่ๆเจ้าของร้านก็ลุกขึ้นและเดินมาทางนี้

「นี่ช่วยข้าหน่อยได้ไหม? มีเด็กมากเกินไปข้าทำไม่ทัน ขอเวลาเดี๋ยวเดียว แน่นอนมีของตอบแทนแน่ ช่วยหน่อยได้ไหม?」

「คิดว่าคงไม่เป็นไรหรอกเนอะ? เห็นได้ชัดเลยว่าเด็กๆพวกนี้อายุเท่าโซเมียและพวกเขาก็ดูร่าเริงมากๆเลยล่ะ แล้วโนโซมุคุงละเอาไง?」

「เอ่อก็ไม่น่าจะเป็นอะไรนะครับถึงแม้จะไม่เคยทำขนมก็เถอะ แต่ปกติผมก็ทำอาหารกินเองอยู่บ่อยๆ」

「ขอบใจนะ!!ขอรบกวนหน่อยล่ะ。」

เจ้าของร้านนำทางเข้าไปในแผงลอย ไอริสมุ่งหน้าไปหาเหล่าเด็กๆ เอ่อผมเองก็ไม่แน่ใจนี่ก็ทำขนมครั้งแรกด้วยสิ ค่อนข้างกังวลเลยล่ะ แต่ว่าเป็นโอกาสดีจะได้ฝึกไปในตัว

◇◆◇

ตอนนี้ตัวฉันก็ยังถูกล้อมรอบด้วยเด็กๆ เมื่อฉันถามว่าพวกเรามานั่งคุยกันหน่อยไหมเพราะการทำขนมต้องใช้เวลา

「นี่นี่ พี่สาวเป็นนักเรียนของสถาบันใหญ่ๆนั่นนะเหรอ?」

ดูเหมือนว่าเด็กๆจะสังเกตเห็นชุดของฉัน ชุดนักเรียนอันแสนสวยงามมีพื้นฐานเป็นสีขาวและถ้าอาศัยอยู่ในเมืองนี้ก็ต้องรู้จักสถาบันโซลมินาติอยู่แล้ว ทันทีที่เด็กๆเหล่านั้นรู้ว่าฉันเป็นนักเรียนของโรงเรียนนั้นแววตาพวกเขาก็เปลี่ยนไป

「อืมม ฉันกำลังศึกษาอยู่ที่นั่นละได้เรียนอะไรเยอะเลยล่ะนะคะ」

「เยี่ยมไปเลยฮะ!!ผมอยากจะเป็นอัศวินจะเป็นได้ไหมนะ?!ที่สถาบันนั่นจะทำให้ผมเป็นอัศวินได้ในอนาคตใช่ไหมฮะ!」

มีเด็กขี้อายคนหนึ่งก็พูดบอกว่า “สุดยอด” แต่ดวงตาของคนอื่นๆก็เป็นประกายเหมือนชายคนนี้ บางทีสถาบันโซลมินาติน่าจะเป็นที่ชื่นชอบของเราเด็กๆ

เด็กน้อยที่อายุไล่เลี่ยกับโซเมีย มันทำให้ฉันมีความสุขมากเลยล่ะเมื่อได้จ้องมองพวกเขาเช่นนี้ พวกเขาก็เหมือนกับน้องสาวของฉันเลย

แน่นอนหากว่าจบที่สถาบันแห่งนี้ถ้าเกรดดีๆก็จะได้รับการเรียกตัวจากประเทศต่างๆให้ไปทำตำแหน่งสำคัญต่างๆและประเทศต่างๆก็ช่วยกันจัดตั้งสถาบันแห่งนี้ขึ้นและให้การสนับสนุนจำนวนมาก

อัศวินเป็นหนึ่งในตำแหน่งของคนผู้รับใช้ชาติและบางคนก็อยากจะเป็นเช่นนั้น มันไม่ถูกหรอกนะที่เด็กๆจะมองสถาบันโซลมินาติ = อัศวินแบบนี้ แต่ว่าก็ไม่ผิดซะทีเดียว

「จริงเหรอ แล้วอยากจะเป็นอัศวินแบบไหนเหรอคะ?」

「อยากจะเป็นอัศวินที่เก่งกาจ!!แข็งแกร่งขึ้นจัดการพวกชั่วช้าและปกป้องผู้คน!」

เด็กชายตอบคำถามของฉันโดยไม่ลังเล แววตาของเขาเป็นประกาย

「อืม ดีแล้วละนะคะที่มีเป้าหมาย แต่ว่าเธอต้องขยันมากๆเลยนะ พยายามมากๆเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย」

「ครับ ถ้าผมโตขึ้นผมจะไปสถาบันที่พี่สาวอยู่แน่นอน!」

ฉันนั่งฟังความฝันของเหล่าเด็กๆ แต่ละคน เด็กๆทุกคนต่างพูดถึงความฝันของตัวเองอย่างมีความสุข

“อยากจะเป็นอัศวิน”“อยากเป็นนักผจญภัย”“อยากเปิดร้านขายขนม”“อยากจะสร้างสรรค์เสื้อผ้าสวยๆ“

เด็กๆทุกคนต่างเล่าเรื่องราวของตัวเองให้ฟัง ความฝันของพวกเขาเหล่านั้นสักวันจะต้องเป็นจริงหากพยายาม แต่ละคนต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป

(อืม ตัวฉันเองก็อยากจะปกป้องโซเมีย………และเหนือสิ่งอื่นใดฉันยังอยากให้โซเมียเป็นเหมือนดั่งฉันอยู่)

นั่นคือเป้าหมายของฉันและเหตุผลที่ฉันยังคงก้าวเดินต่อไป โซเมียไม่เคยได้อยู่ในอ้อมอกของแม่เลย ฉันพยายามทำตัวเป็นแม่ให้กับเธอรับหน้าที่แทนแม่ผู้เสียชีวิตไปแล้วและเหนือสิ่งอื่นใดฉันอยากจะเป็นตัวตนที่น้องสาวฉันสามารถเชิดหน้าชูตาได้อย่างภาคภูมิ

ด้วยเหตุนี้ฉันจึงอุทิศตัวเองให้กับการฝึกหนักและอดทนกับมันมาตลอด

ทันใดนั้นเองโนโซมุที่กำลังทำขนมอยู่ก็สบตากับฉัน อะไรคือสาเหตุที่ทำให้สองคนนั้นต้องเลิกกัน? อะไรคือสาเหตุที่ทำให้เขายังดิ้นรนต่อไปแม้จะโดน “พันธนาการ”ไว้?

และข่าวลือเกี่ยวกับลิซ่าในวันนั้นความจริงมันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเขากับลิซ่ากันแน่ และหลังจากนั้นเขาหายตัวไปไหนมาตลอดเกือบ 1 ปี

ตัวฉันที่พบเจอกับเขาได้ไม่กี่สัปดาห์ยังคงไม่เข้าใจ ตัวฉันไม่มีเวลาพอที่จะทำความเข้าใจเกี่ยวกับตัวเขาเลย

◇◆◇

ตอนที่ไอริสกำลังรับมือกับเด็กๆ ตัวผมเองก็ช่วยเจ้าของร้านทำขนมและวางขนมบนเตาอบเพื่อทำให้ลูกกวาดละลาย

ตัวผมเองก็ไม่เคยทำของหวาน แต่ก็ทำอาหารกินเองคนเดียวบ่อยๆที่บ้านของอาจารย์และทำอาหารง่ายๆเมื่อต้องเข้าป่า อย่างไรก็ตามอาหารที่ทำได้มันก็มีจำกัด

ทั้งหมดที่ผมทำก็คือใส่น้ำเชื่อมเข้าไปในแป้งและส่วนผสมในปริมาณที่พอประมาณเช่นใส่น้ำตาลลงในชามและคนให้เข้ากันและตั้งไฟให้เดือด เจ้าของร้านเช็คดูความเหนียวและสีของขนมที่ผมต้มไว้และหยิบออกมาทำรูปร่างอย่างรวดเร็ว ในพริบตาลูกกวาดรูปร่างเจ้าหญิงและอัศวินก็ถูกสร้างขึ้น

ยังไงก็ตามผมเองก็ลองทำบ้าง แต่ว่าผมไม่สามารถรับมือกับความนุ่มและเหนียวของลูกกวาดที่เหนียวจนติดไม้ได้เลย และรูปร่างมันก็ยุ่งเหยิงเอามากๆ

「……ยากน่าดูเลยนะครับเนี่ย…………」

「อืม ยากสิ ข้าเองก็ทำขนมกว่าจะทำเป็นรูปต่างๆได้ก็ใช้เวลานานเหมือนกัน」

ตัวผมเองก็ไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับลูกกวาดขึ้นรูปเท่าไรนัก แต่ผมรู้ว่ากว่าจะชำนาญในการทำลูกกวาดขึ้นรูปไม่ใช่เรื่อง่ายๆ อันที่จริงแล้วผมแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะฝีมือของผมเข้าขั้นห่วยในการขึ้นรูปลูกกวาดเลยล่ะ

◇◆◇

「เอ่อ คือว่าทำไมถึงมาเปิดร้านทำขนมเหรอครับ?」

ผมสงสัยว่าทำไมเขามาเปิดร้านขนมหวาน และขนมลูกกวาดขึ้นรูปนี่ก็เป็นงานที่ละเอียดอ่อนและราคาไม่ค่อยสูงนัก แต่เป็นงานที่ต้องใช้ฝีมืออย่างมาก ไม่ว่ามันดูขาดทุนเหรอ

「แต่เดิมตัวข้าชอบกินมากกว่าทำน่ะ ข้านะชอบซื่อขนมหวานหลากหลายชนิดมากินและเอามาเปรียบเทียบกัน ในจำนวนนั้นข้าไม่ได้กินอย่างเดียวหรอกนะ ข้าเริ่มทำมันด้วยตัวเอง ตอนที่ข้าเห็นร้านทำขนมหวานตัวข้าก็รู้สึกว่ามันใช่เลยล่ะนี่เป็นสถานที่ของข้า สถานที่ๆข้าจะมอบรอยยิ้มให้กับเหล่าผู้คนที่กินขนมฝีมือของข้า ก่อนจะรู้ตัวข้าก็เปิดร้านและทำมันมานานแล้ว」

เจ้าของร้านพูดเช่นนั้น ลูกกวาดอันแสนนุ่มฟูนั่นกำลังเคลื่อนไหวราวกับมีชีวิต

「แต่ท้ายที่สุดแล้วมันก็ค่อนข้างสนุกเลยล่ะ การที่ได้ทำขนมเนี่ย แม้จะไม่ได้กำไรมากนักและมีความท้าทาย แต่มันก็เป็นเรื่องสนุกดังนั้นข้าก็ชอบมันนะ ภรรยาของข้าเองก็มักจะโกรธเพราะข้ามัวเอาแต่ทำขนม แต่ว่าข้าน่ะคิดว่าตัวข้าเองคงจะอยู่กับการทำขนมไปจนตายนั่นล่ะ」

ใบหน้าของเจ้าของร้านดูสดใสในขณะที่ทำงานละเอียดอ่อนเช่นนี้ ผมคิดว่าเขาคงจะชอบขนมมากจริงๆ รอยยิ้มนั่นมันเป็นรอยยิ้มสำหรับคนที่ทำในสิ่งที่อยากทำจริงๆ

「สิ่งที่อยากทำตลอดไป………ความฝันอย่างงั้นเหรอครับ……」

ความฝันของผมที่เคยมีมาก่อน ความฝันที่ผมสูญเสียมันไปและหันหลังให้กับมัน

ผมเองรู้สึกอิจฉาเขาเล็กน้อยที่สามารถเดินตามความฝันของตัวเองได้

◇◆◇

「อืมมมม เสร็จแล้วล่ะแล้วก็อย่าทะเลาะกันล่ะ」

「ว้าวววววววววววววววววว!!」

「สุดยอดเลย!อย่างกับอัศวินและเจ้าหญิงหลุดออกมาจากหนังสือภาพเลยล่ะ!!」

เด็กๆเริ่มแห่ไปเอาขนมที่พวกเขาสั่งไว้ เหมือนกับมดที่เข้าหาน้ำตาล รอยยิ้มของไอริส เจ้าของร้านและผม ต่างก็ทำให้คนรอบข้างพากันอมยิ้มไปด้วย

การที่ผมได้เห็นพวกเขาเช่นนี้มันทำให้ผมรู้สึกตื่นเต้น เพราะความรู้สึกเหล่านี้มันหาไม่ได้เลยตอนที่อยู่คนเดียว ก่อนที่จะรู้ตัวผมก็ยิ้มออกไปอย่างเป็นธรรมชาติซะแล้ว

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน