พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 17

ตอนที่ 17

บทที่2ตอนที่8

หลังจากที่บอกลากันแล้วโนโซมุกับมาร์ก็มาที่ “เรือนร่างของโค”…………

「ทำอะไรอยู่น่ะ! พี่ชาย!!」

มาร์โดนอิน่าเทศนาอีกครั้ง เพราะเขากลับมาด้วยสีหน้าหงุดหงิดนั่นเลยโดนอิน่าเข้าใจผิด โนโซมุเลยบอกแค่ว่าเขาโกรธทิม่าเฉยๆ

「พี่ชายของเธอชอบแกล้งคนอื่นตลอดเลยล่ะ!!」

「………………หุบปากน่า! แกเองก็ไปยุ่งไม่เข้าเรื่อง! เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับแกสักหน่อย!!」

「พูดอะไรกันอยู่เหรอ!นี่ไปสร้างปัญหาให้คุณฮันนะกับเพื่อนๆมาอีกแล้วรึไงกันคะ!」

「…………คือว่า……」

การทะเลาะกันของทั้งสองเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้นและโนโซมุก็หลุดวงสนทนาไปแล้ว

「ไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ สองคนนี้ก็เป็นแบบนี้ทุกวันนั่นล่ะ」

「ฮันนะซัง」

ฮันนะเจ้าของ “เรือนร่างของโค” เสิร์ฟอาหารบนโต๊ะและนมแก้วหนึ่งให้โนโซมุและพูดว่าสองคนนี้ทะเลาะกันเป็นเรื่องปกติไปแล้วล่ะ

「สำหรับทั้งสองคนแล้วน่ะน้า การทะเลาะกันนี่ก็เหมือนการชิงดีชิงเด่นกันนั่นล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็กลับมาปกติเองแหละจ้ะ」

เมื่อมองไปภายในบาร์แล้วลูกค้าท่านอื่นๆก็หัวเราะออกมากับท่าทางของทั้งสองคน

เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องปกติไปแล้ว

「พี่ชายของเธอที่ทำแบบนั้นบางทีอาจจะเพราะตกหลุกรักทิม่าซังก็ได้นะ!? เห็นไหมล่ะว่าหมอนี่มันร้ายขนาดไหนน่ะ!!」

「เห้ยๆเข้าใจผิดกันไปใหญ่ล่ะ! อย่าคิดเองเออเองแบบนั้นสิฟะ!!」

การแลกฝีปากกันก็ยังคงดำเนินต่อไป ส่วนโนโซมุก็ทำอะไรไม่ได้

ทั่วทั้งโรงแรมต่างสั่นสะเสือนเพราะเสียงทะเลาะของทั้งสอง เสียงมันดังถึงระดับนั้นเลยล่ะ

(แต่ว่านะคือว่าคุณลูกค้าไม่รำคาญกันเหรอครับ……………)

แม้จะมีสถานการณ์อันแสนรุนแรงตรงหน้าเกิดขึ้นแต่ลูกค้าก็ไม่สนใจ ราวกับกำลังสนุกที่เห็นพี่น้องสองคนนี้ทะเลาะกัน

สิ่งที่แปลกไปยิ่งกว่านั้นก็คือการที่คนแถบๆนี้ เฉยชากับเรื่องเล่านี้ของสองพี่น้องและเรียกมันว่า “ก็ปกตินี่” ไปแล้วนั่นเอง…………。

◇◆◇

ตู้มม!!!!

ขณะที่โนโซมุมองไปรอบๆอย่างตกตะลึงก็ได้ยินเสียงดังขึ้นระหว่างสองคนนั้น

(อะไรล่ะนั่น!!)

โนโซมุรีบหันไปมองตามทิศทางของเสียงก็พบกับอิน่าที่ยกเก้าอี้ของเคาน์เตอร์กระแทกกับพื้น

「ฮะ เฮ้ยคิดจะทำอะไรของเธอเนี่ย!!」

「ก็พี่ชายพูดเท่าไรก็ไม่ยอมฟังสักที! ถ้ารู้งี้แต่แรกไม่เปลืองน้ำลายพูดด้วยและลงมือซะก็สิ้นเรื่อง!! เตรียมตัวไว้ซะเถอะนะ!!」

อิน่าจับขาของเก้าอี้ไว้ทั้งสองข้างและดวงตาสีฟ้าของเธอนั้นส่องประกายแปลกๆ

「ย่าหหหหหหหหหหหห์!」

อิน่าฟาดเก้าอี้ไปที่หัวของมาร์ แต่ว่ามาร์ก็หลบด้วยความเร็วสูง แต่ใบหน้าของเขานั้นตกใจเป็นอย่างมากเกือบจะโดนเก้าอี้นั่นฟาดใส่หัวจนสลบแล้ว

「นะนี่ คิดจะฆ่ากันเลยรึไง!! ถ้าช้ากว่านี้นิดเดียวหัวข้าแตกไปแล้วนะเห้ย!!」

เมื่อโนโซมุจ้องมองดีๆก็เห็นมาร์ใช้เสริมพลังกายโดยไม่รู้ตัวซะแล้ว

(…………ดะเดี๋ยวก่อนนะมาร์ใช้เสริมพลังกายเพื่อหลบการโจมตีเลยงั้นเหรอ?)

โนโซมุเองก็รู้สึกแปลกๆจึงหันไปมองทาง อิน่าแต่ก็พบว่าเธอใช้เสริมพลังกายเฉกเช่นเดียวกัน

(…………เห้ย?ข้าได้ยินมาว่าอิน่าไม่เคยฝึกต่อสู้มาก่อนไม่ใช่เหรอแล้วไหงใช้เสริมพลังกายได้ละนั่น?)

อย่างไรก็ตามฮันนะแลคนอื่นๆบอกว่าอิน่าไม่มีความเชี่ยวชาญด้านการต่อสู้แต่บางทีเธออาจจะได้เชื้อสายมาจากมาร์ก็เลยทำให้ใช้เสริมพลังกายโดยไม่รู้ตัว

…………หรือข้าควรจะบอกเขาดีว่าการทำลายคนในครอบครัวด้วยการเสริมพลังกายเนี่ยมันรุนแรงเกินไปนะ

(แม้ว่าสำหรับข้าอาจจะแค่หมดสติ แต่สำหรับมาร์ที่ไม่ได้รับการฝึกหนักเท่าข้าอาจจะหม่องก็ได้นะ…………)

「ดะดะดะเดี๋ยวก่อนนะ! เธอเองเป็นคนสอนข้าเองไม่ใช่เหรอว่าอย่าใช้ความรุนแรงน่ะ!!」

(อืม……ก็เป็นคำอ้อนวอนที่ดีสำหรับมาร์ที่กำลังจะโดนน้องสาวฆ่าตายละนะ………)

มาร์พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์

อิน่าที่อายุแค่ 14 ปีและไม่สูงเท่าไรนัก แต่ว่ากลับเอาชนะพี่ชายคนนี้ เอาชนะมาร์ผู้ที่เป็นนักเรียน แรงค์ B ได้อย่างหน้าตาเฉย

ข้าคิดว่าสถานการณ์มันเริ่มแย่ลงข้าต้องช่วยแล้วล่ะ

「เอ่อ คือ อิน่าจัง แบบนี้มันก็เกินไปหน่อยนะครับ…………」

「ได้โปรดอย่ามารบกวนตอนนี้ได้ไหมคะคุณโนโซมุ!นี่เป็นวิธีเดียวที่จะหยุดยั้งพี่ชายที่แสนงี่เง่าได้! บางทีเพราะคุณเป็นคนดีก็เลยไม่ชินกับเรื่องแบบนี้เท่าไรสินะคะ!!」

「ไม่ไม่ไม่ใช่แบบนั้นเลยนะ!ถึงตัวมาร์จะทำตัวงี่เง่าแค่ไหนก็เถอะครับ! แต่ว่าใจเย็นๆเถอะนะ!!」

เมื่อโนโซมุพยายามปลอบอิน่าที่กำลังเดือดอยู่ มาร์เองก็ส่ายหัวขึ้นลงอย่างรุนแรง มาร์เองก็รู้ว่าตอนนี้อิน่าหงุดหงิดมากๆ

「เปล่าประโยชน์! ถ้าฉันไม่จัดการพี่ชายในตอนนี้เรื่องมันจะบานปลายเข้าไปใหญ่ค่ะ!!」

(ไม่ใช่แล้วโว้ย!ข้ามั่นใจแน่ๆถ้าเธอทำแบบนั้นได้เสียใจภายหลังแน่ๆล่ะ!!)

อิน่าที่พยายามจะกระโดดไปฟาดมาร์นั้นถูกโนโซมุรั้งตัวไว้จากด้านหลัง แต่โนโซมุเองก็ต้องถึงกับสั่นเพราะเสริมพลังกายของอิน่าไม่ใช่เล่นๆเลย

(หะเห้ย แกร่งเกินไปแล้ว!!)

โนโซมุเองก็รีบใช้เสริมพลังกายโดยทันที แต่อิน่าที่ใช้เสริมพลังกายโดยไม่รู้ตัวนั้นผลมันรุนแรงกว่าปกติ

อย่างไรก็ตามมาร์นั้นติดอยู่กับมุมห้องด้วยท่าทางหวาดกลัว

เห็นได้ชัดว่ามันเป็นภาพที่เหมือนกับสามีภรรยาทะเลาะกันโดยมีลูกสาวมาห้ามปรามไว้

ไม่จำเป็นต้องพูดตัวสามีเป็นอิน่าแน่นอน ส่วนภรรยาคือมาร์ และลูกสาวที่พยายามจะหยุดยั้งคือโนโซมุ

ลูกค้าที่กำลังนั่งดูอยู่นั่นก็หัวเราะออกมา

เอ่อสำหรับข้าแล้วทำแบบนี้มันไม่ถูก แต่ตรงหน้าเรียกได้ว่าเป็นตลกคาเฟ่ก็ได้นะ

◇◆◇

อย่างไรก็ตามสองคนนี้มีปัญหากันค่อนข้างรุนแรง………………。

ในตอนท้ายของตลกคาเฟ่นั่นเองเป็นมาร์ที่โดนเก้าอี้อิน่าฟาดไปในที่สุด อย่างไรก็ตามโนโซมุก็พยายามจะผ่อนแรงให้มาร์โดนเบาที่สุดแล้ว ดูเหมือนว่าจะยังไม่ตาย แค่เป็นลมและถูกฮันนะลากไปที่ห้อง

นี่กะจะฆ่ามาร์………โดยไม่ให้ผุดได้เกิดเลยรึ?อิน่าเองก็กลับมาให้บริการกับเหล่าลูกค้าตามปกติ

(……เอ่อ ทางที่ดีอย่าไปทำให้อิน่าจังโกรธจะดีกว่านะ…………)

ด้วยการเสียสละอันล้ำค่าของเพื่อนแสนสำคัญโนโซมุเข้าใจดีแล้วว่า มีกฏเหล็กถูกตราตรึงไว้ในจิตใจว่าอย่าทำให้อิน่าโกรธเด็ดขาด

……อย่างไรก็ตามหากแก้ปัญหาของมาร์ได้ ตัวข้าเองก็ได้กำไรด้วยละนะ…………

ในที่สุดความวุ่นวายก็หยุดลงและโนโซมุเองก็ถอนหายใจพร้อมนั่งลงที่เก้าอี้

แทนที่ลูกค้าจะแห่กันกลับ ลูกค้ากลับชอบใจเพราะอยากเข้ามาดูมวยของสองคนนี้จนร้านเกือบเต็ม มีเพียงโต๊ะของโนโซมุที่ว่าง

(คนที่อยู่แถวนี้จะเฉยชาจนแข็งแกร่งเกินไปละ……)

เมื่อโนโซมุคิดเช่นนั้นก็มีลูกค้าใหม่เปิดประตูร้านเข้ามา

「อะ ยินดีต้อนรับเข้าสู่ “เรือนร่างของโค”ค่ะ!」

อิน่ากล่าวต้อนรับแขกคนใหม่ด้วยน้ำเสียงร่าเริง เธอให้การต้อนรับกับแขกอย่างดี

(……อิน่าจังก็คงผ่านเรื่องลำบากมาเยอะสินะ…………)

เมื่อโนโซมุเห็นเช่นนั้นก็ประทับใจแต่เมื่อโนโซมุเห็นลูกค้าที่เข้ามานั้นก็หน้าตึงทันที

「นี่เคน ร้านนี้น่ะเหรอ?」

「ใช่แล้วร้านนี้แหละที่เคยบอก อาหารอร่อยมากเลยล่ะ」

เป็นลิซ่ากับเคนเองที่เข้ามา

「เอ่อขอโทษนะคะตอนนี้เก้าอี้ที่ว่างอยู่เต็มไปหมดแล้วค่ะ ถ้ายังไงรบกวนนั่งแชร์โต๊ะกับลูกค้าคนอื่นได้ไหมคะ?」

「อืมมมก็ไม่รังเกียจหรอกนะ?ลิซ่าล่ะ」

「อืม ไม่เป็นไรหรอก」

「ขอบคุณมากค่ะ ถ้างั้นเชิญทั้งสองทางนี้ค่ะ」

อิน่าพูดเช่นนั้น เธอก็มาทางนี้พร้อมกับพวกเขา ตอนนั้นเองที่พวกเขาเห็นโนโซมุก็ส่งเสียงตกใจออกมา

「นั่นมัน?โนโซมุ?」

「!!」

ทันใดนั้นเองดวงตาของทั้งสามก็จับจ้องกัน ลิซ่านั้นระแวงตัวในทันที

「…………งะไง」

โนโซมุพยายามทักทายแต่ว่าน้ำเสียงของเขาแข็งกระด้างมาก

「เอ่อ ไม่ทราบว่ารู้จักคุณโนโซมุด้วยเหรอคะ?」

「อะ อืม เป็นเพื่อนสมัยเด็กกันน่ะ…………」

「เอ๋………งั้นเหรอคะ? แล้วจะเป็นอะไรไหมคะถ้าจะแชร์โต๊ะกัน…………?」

「อืม……ไม่มีปัญหาหรอกนะ…………」

อิน่าเองก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศรอบๆนั้นเปลี่ยนไปในทันทีตอนที่ข้าเจอกับเพื่อนสมัยเด็ก แต่โนโซมุก็ยังยอมให้นั่งด้วยกันเพราะที่นั่งอื่นไม่ว่างแล้ว

「อะ เอ่อ…แน่ใจนะคะคุณลูกค้า?」

「เอ่อผมเองก็ไม่รังเกียจหรอกครับ……」

「……………อืม……」

เคนตอบขณะที่จ้องมองลิซ่า ลิซ่าเองก็ตอบตกลง

ทั้งสามคนนั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกันบรรยากาศค่อนข้างแย่มาก ขณะที่โนโซมุนึกย้อนกลับไปถึงตัวเองอีกครั้ง

ก่อนเรื่องนั้นจะเกิดขึ้นพวกเราสามคนมักจะไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยๆ

ทั้งโรงเรียนเอย ทั้งเรื่องของครอบครัวที่บ้านเกิด ทั้งความฝัน

ลิซ่าอยากจะเป็นนักผจญภัยมาโดยตลอด ดังนั้นข้าก็เลยต้องไปด้วยกันกับลิซ่าและเคนอย่างช่วยไม่ได้

ตอนนั้นเองพวกเราเองก็ไม่มีความเคลือบแคลงใจกันแม้แต่น้อยที่จะอยู่ด้วยกัน ถึงแม้สถานะมันจะดูยากลำบากก็ตามที

แต่ตอนนี้พวกเราไม่ได้อยู่ด้วยกันอีกแล้วเป็นข้าเองที่ถูกทิ้งไว้ด้านหลัง

ตอนนั้นเองข้าก็ไม่รู้ว่าทำไมลิซ่าถึงทิ้งข้าไป

ลิซ่ายังคงแสดงท่าทีรังเกียจใส่ข้า ไม่มีรอยยิ้มดั่งแสงอาทิตย์เหมือนแต่ก่อนอีกต่อไป มีแต่ความโกรธเกรี้ยวนั่นแสดงอยู่บนใบหน้า

ข้าที่เห็นเช่นนั้นก็พูดอะไรไม่ออก

「เอ่อโนโซมุนายเองก็มาที่ร้านนี้บ่อยเหรอ?」

เคนพูดกับข้า น้ำเสียงไม่ได้แสดงท่าทีเกลียดชังและข้าก็ค่อนข้างดีใจเพราะไม่รู้จะสู้หน้าลิซ่ายังไงดี

ถึงจะรู้ตัวดีว่าหนีมาตลอดก็เถอะ แต่ว่าอย่างน้อยขอให้ได้คุยกันสักนิดก็ยังดี

「อืม ก็มาบ่อยนั่นล่ะนะ ก็เพื่อนของข้าและญาติของเขาทำงานอยู่ที่นี่เจ้าของโรงแรมและก็น้องสาวของหมอนั่น」

「อืม ยังไงก็ตามผมได้ยินมาว่าที่นี่มีอาหารอร่อยๆอยู่ด้วย มันคืออะไรงั้นเหรอ?」

ข้านึกถึงเนื้อกระต่ายที่ฮันนะทำให้ทาน น้ำกราวี่ไหลเยิ้มทั่วเนื้อสุกสีน้ำตาล

「อืมนั่นสินะ ตั้งตารอไว้ได้เลยมันอร่อยมาก」

「งั้นเหรอเนี่ย! ถ้างั้นก็ดีเลย เพราะเพื่อนผมเองก็แนะนำมาว่ามันอร่อยมากเหมือนกัน ก็เลยชวนลิซ่ามาทานด้วยกัน ดูเหมือนว่าจะหวังได้สินะ」

「…………อืม………ก็ดีละนะ……」

คำพูดของเคนที่บอกว่า “ทานด้วยกันกับลิซ่า”มันช่างปวดใจยิ่งนัก ข้ารู้สึกแบบนั้นตั้งแต่ที่เคนมาเดทกับลิซ่าแล้วล่ะ

เธอที่ยืนเคียงข้างเคน

เธอที่ยิ้มให้เคน

และตอนที่เธอต่อสู้ร่วมกันกับเคน

เธอเองดูท่าทางจะไว้ใจในตัวเคนมาก ราวกับจะไม่แยกจากกัน

…………เป็นตัวข้าที่หนีการฝึก อดีตของข้าที่ไม่สามารถเติมเต็มให้เธอได้

หลับตาซะ ทำเป็นมองไม่เห็นเธอที่อยู่ตรงนี้

……แต่คนๆนั้นก็ทำให้ข้าได้รู้ตัว

ตัวเธอที่เอาชีวิตของตัวเองมาเดิมพันและคอยบอกกับข้าว่า “อย่าหนีจากความจริง”

และคอยสอนข้าว่า……“ถึงแม้ว่าเจ้าจะหนีความจริง แต่ก็จงอย่าได้ลืมซะล่ะ”

เมื่อข้าได้ยินเช่นนั้นก็เหมือนจะยอมรับตัวตนอันแสนต่ำต้อยของตัวเองได้ แม้ว่าจะยังไม่สามารถก้าวเดินต่อไปได้ แต่ขอให้ข้าได้เผชิญหน้ากับความจริงที่ตัวเองกำลังหนีอยู่

…………ดังนั้นข้าจึงถามเธออีกครั้ง“ทำไมกันล่ะ…………”

◇◆◇

「นี่ลิซ่า ทำไมเธอถึงได้ทิ้งข้าไป?」

「!!!!」

ลิซ่าเบิกตากว้างและมองต่ำลง ร่างกายของเธอสั่นไหวราวกับควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้

「โนโซมุ นั่นมัน…………」

เคนพยายามจะหยุดข้า แต่ว่าข้าไม่สนใจ ตัวข้าที่หนีความจริงมาตลอดรวมถึงเหตุผลที่ถูกทิ้งนั้นข้าอยากจะรู้

ข้าพยายามลิซ่าที่คอยหลบหน้าข้าตลอด ข้าพยายามเผชิญหน้ากับเธอมาตั้งหลายครั้ง

เพราะแบบนั้นทำให้ข้าก้าวเดินต่อไปไม่ได้สักที เพราะฉะนั้นข้าจึงอยากจะรู้เหตุผลเพื่อที่ข้าจะได้ก้าวต่อไปได้ ข้าไม่อยากหยุดอยู่กับอดีตอีกต่อไปแล้ว

「นี่ ทำไมกันล่ะ「……อย่ามาทำตัวงี่เง่าหน่อยเลยน่า。」หะ」

「ก็บอกว่าอย่ามางี่เง่าหน่อยเลย!!!!!!!」

เธอตะโกนเช่นนั้นพร้อมกับทุบโต๊ะด้วยเสียงอันดังเธอเตะเก้าอี้และยืนขึ้น

「มันสายไปแล้ว!มันสายเกินจะแก้ตัวแล้ว!!เพราะฉะนั้นอย่ามางี่เง่า!!!!!」

ข้าไม่สามารถพูดอะไรได้ น้ำเสียงของเธอที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง นอกเหนือกว่านั้นความเศร้าโศกนั่นก็ทำให้เธอน้ำตาไหลออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

◇◆◇

สวนสาธารณะเมืองอาร์คาซัม ยามเที่ยงคืน มีเงาๆหนึ่งกำลังเคลื่อนไหวท่ามกลางความมืด

「มากกว่านี้อีก」

เป็นชายแก่คนหนึ่งเขาแต่งตัวด้วยชุดพ่อบ้านสีดำและกำลังเล่นอะไรบางอย่างอยู่ในมือ มือนั่นสวมถุงมือสีขาวเอาไว้อยู่

「ถึงแม้ว่านายจะบอกเช่นนั้นก็เถอะนะขอรับ เขาบอกกับข้าว่าให้เอามันกลับบ้านไปด้วย……」

ขณะนั้นเองเขาก็รู้สึกถึงความขัดแย้งกับนายของตัวเอง เขาเบนสายตาไปยังมุมหนึ่งของเมทืองและเริ่มเดินพร้อมกับบ่นพึมพำ กลายเป็นชายชรารูปหนึ่ง

「……ไม่ชอบเลยนะขอรับกับการที่ต้องมาปลอมตัวห่วยๆนี่ ทั้งนี้ก็ขึ้นกับอีกฝ่าย ว่าจะทำเรื่องเล่านั้นได้อย่างสบายๆหรือไม่……」

ภายในเมืองนั้นถูกความมืดมิดกลืนกินไปและรายล้อมไปด้วยความเงียบงัน มีเพียงกรงล้อแห่งโชคชะตาเท่านั้นที่เคลื่อนไหวไปอย่างช้าๆในยามที่ผู้คนไม่เคลื่อนไหว…………。

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท