ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 156 ตกตะลึง

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 156 ตกตะลึง

ตอนที่ 156 ตกตะลึง

รายการสุดท้ายคือการประเมินความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับค่ายทหาร กับกฎระเบียบและข้อบังคับทางทหาร เนื่องจากทหารส่วนใหญ่ไม่รู้หนังสือ จึงต้องใช้วิธีให้ผู้ควบคุมถามคำถามให้ผู้ถูกประเมินตอบ

ข้อสอบมีห้าชุด โดยผู้ควบคุมจะเป็นคนเลือกแบบสุ่ม เฉพาะผู้ที่สอบผ่านถึงจะสามารถอยู่ในค่ายทหารได้

ทหารเยวี่ยโจวที่ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล*ได้สำเร็จล้วนมีจิตวิญญาณนักสู้อันแรงกล้า พากันคิดว่าในเมื่อพวกเขาทุกคนผ่านความยากลำบากมาได้แล้ว ด่านสุดท้ายก็คงไม่ยากเกินไป

(* ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล (过五关斩六将) เป็นสำนวน หมายถึงฟันฝ่าอุปสรรคอย่างกล้าหาญ)

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินคำถามเกี่ยวกับกฎระเบียบและข้อบังคับทางทหารแล้ว ทุกคนก็ทำตาใสซื่อ ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยใช้ชีวิตกินดื่มไปวัน ๆ จึงไม่เคยเรียนรู้เรื่องเหล่านี้มาก่อน

เมื่อฟังคำถามของผู้ควบคุมแล้ว หน้าผากของพวกเขาก็มีเหงื่อผุดเต็ม ข้อสอบทุกข้อช่างยากยิ่งนัก หลังจากการประเมินจบลง ทหารเยวี่ยโจวต่างก็สิ้นหวัง ด้วยไม่คาดคิดว่าตนที่ผ่านด่านก่อนหน้านี้มาได้กลับมาตกม้าตายในด่านสุดท้าย!

แต่แล้วข่าวดีก็มาถึงในไม่ช้า ท่านอ๋องอนุโลมให้ผู้ที่ไม่ผ่านการทดสอบรอบสุดท้ายยังได้อยู่ต่อ แต่พวกเขาต้องศึกษาและท่องกฎข้อบังคับทางทหารให้ขึ้นใจ

ข่าวนี้ทำให้ทหารหลายคนที่คิดว่าตนผิดหวังแล้วต่างร้องไห้ด้วยความดีใจ เหล่าพี่น้องกอดคอกันคร่ำครวญราวภูตผีร่ำไห้หมาป่าเห่าหอน บัดนี้พวกเขารู้ซึ้งแล้วว่าการจะอยู่ในค่ายทหารได้นั้นต้องยากลำบากเพียงใด

หลังจากการประเมินสามวัน เกือบหนึ่งในสามของทหารเยวี่ยโจวก็ถูกคัดออก คนที่ถูกคัดออกต่างเก็บสัมภาระกลับบ้านเกิดพร้อมกับเงินอุดหนุน

แน่นอนว่าหลังจากการดำเนินการแก้ไขดังกล่าว บรรยากาศของค่ายทหารก็เปลี่ยนไปอย่างมาก ทุกคนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณแห่งนักสู้ พร้อมที่จะต่อสู้อย่างหนักในระหว่างการฝึกฝน ไม่มีการเล่นตุกติกหรือหนีซ้อมอีกต่อไป

มู่ฉินเจินส่งคนไปเฝ้าหูเหวินไหลมานานแล้ว และในที่สุดก็พบเบาะแสใหม่

เกาจัวหยวนจัดให้ชายคนหนึ่งแฝงตัวเข้าไปในจวนเจ้าเมืองได้สำเร็จในฐานะสายลับ ทำให้ได้ข้อมูลจากจวนทุกวัน และวันนี้สายลับก็มารายงานว่าเมื่อคืนนี้หูเหวินไหลได้เรียกตัวหลิวเทาหลินเจ้าเมืองมณฑลจางเฉิงที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งใหม่มาหาที่จวน หลังจากทั้งสองคุยกันราวสองชั่วยาม หลิวเทาหลินก็ฉวยโอกาสจากไปในยามค่ำคืน

ห้องตำราของหูเหวินไหลมีจอมยุทธ์เฝ้าอยู่ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นคนในยุทธภพ สายลับไม่พบโอกาสที่จะเข้าใกล้ห้องตำราได้ เขาจึงไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกันบ้าง

นอกจากนี้ยังมีเรื่องน่าสงสัยอีกเรื่องคือ หูเหวินไหลส่งจดหมายเชิญและบอกว่าจะจัดงานวันเกิดให้มารดาของเขาในวันที่สิบสามเดือนห้า แต่สายลับกลับได้ยินคนรับใช้ในจวนแอบคุยกันว่าวันเกิดของท่านแม่หูไม่ใช่วันที่สิบสามเดือนห้า และไม่ได้จัดใหญ่โตเหมือนปีก่อน ๆ ด้วย

ในตอนกลางดึกขณะที่เด็ก ๆ หลับไปแล้ว เฉียวเยี่ยนได้ซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของมู่ฉินเจิน ขณะอ่านข้อมูลที่องครักษ์ส่งมาด้วยกัน

นางซบหน้าอกมู่ฉินเจินเหมือนเด็กพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย คิดกับตัวเองว่าคงจะดีหากสามารถติดตั้งกล้องรูเข็มไว้ในห้องตำราของหูเหวินไหลได้

อุปกรณ์ตรวจสอบที่ทันสมัยเป็นตัวช่วยที่ดีในการแก้ปัญหาอาชญากรรม หลายคดีสามารถแก้ไขได้ด้วยการตรวจสอบวิดีโอวงจรปิด แต่นี่มันสมัยโบราณที่ไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือไฟฟ้าใช้ ต่อให้นางจะซื้อกล้องจากระบบได้ ก็ไม่มีทางที่จะใช้มันได้!

มู่ฉินเจินวางข้อมูลที่อ่านเสร็จแล้วลงบนโต๊ะ จากนั้นยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาเชยคางเฉียวเยี่ยนขึ้น แล้วจุมพิตนางแผ่วเบาที่หน้าผาก “อย่ากังวลมากเกินไป ทุกปัญหาย่อมมีทางออก อาจเป็นเพราะตอนนี้พวกเราสืบสวนหนักกันเกินไป เขาต้องเริ่มเผยความจริงออกมาโดยไม่รู้ตัวแน่ ถ้าเราอดทนรอ ย่อมต้องมีวันที่เราจะจับเขาได้แน่”

เฉียวเยี่ยนปล่อยให้เขาหอมหลังจากถูกเชยคางขึ้น แต่ก็ไม่วายบ่นว่า “แล้วต้องรออีกถึงเมื่อใด”

ทันใดนั้นเสียงแผ่วเบาของระบบตัวน้อยก็ดังขึ้นพร้อมน้ำเสียงดูถูกเล็กน้อย

[ท่านโฮสต์ที่รัก ท่านลืมไปแล้วหรือว่ามีเครื่องอัดเสียงอยู่?]

สมองของเฉียวเยี่ยนสว่างวาบ นางพลันยืดตัวขึ้น นัยน์ตาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น ซึ่งทำให้มู่ฉินเจินที่กำลังจะจูบปากนางชะงักไป

มุมปากเขากระตุกด้วยความเขินอาย จากนั้นสีหน้าที่แข็งค้างก็ผ่อนคลายเป็นปกติ แล้วถามราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น “มีอะไรหรือ?”

เฉียวเยี่ยนจับมือเขาอย่างตื่นเต้น แล้วหัวเราะอย่างมีความสุข จนไม่ได้สังเกตเห็นพิรุธใดๆ ในสีหน้าของเขา

“รอสักครู่แล้วข้าจะบอกวิธีให้ท่าน!”

นางพูดจบแล้วก็ลุกจากตักของมู่ฉินเจิน ก่อนเดินไปทางหลังฉากกั้นห้อง เมื่อนางเข้าไปหลังฉากกั้นห้องแล้ว นางก็โผล่หัวออกมาพูดกับมู่ฉินเจินว่า “นั่งอย่างเชื่อฟัง ห้ามแอบมองนะ”

กล่าวจบนางก็หดศีรษะกลับไปอีกครั้ง จากนั้นสื่อสารกับระบบตัวน้อยอย่างรวดเร็ว แล้วเลือกอุปกรณ์บันทึกเสียงจากในร้านค้า

ต้องบอกว่าหน้าที่ของระบบตัวน้อยนั้นทรงพลังเกินไป ในร้านค้าล้วนมีสินค้าที่นางคิดไม่ถึง และไม่มีสิ่งใดที่ไม่มี กระทั่งตู้เย็น ทีวี เครื่องซักผ้าก็ยังมีขาย หากในสมัยโบราณมีไฟฟ้าใช้ นางก็คงใช้ชีวิตแบบสมัยใหม่ได้

มีเครื่องอัดเสียงหลายประเภท หลังจากเลือกอยู่นาน ในที่สุดเฉียวเยี่ยนก็เลือกเครื่องอัดเสียงสีดำขนาดเล็กที่มีขนาดเท่านิ้วมือ ซึ่งง่ายต่อการนำไปซ่อนไว้ที่มุมใดมุมหนึ่ง

เมื่อมองไปยังร่างหลังฉากกั้นห้อง มู่ฉินเจินก็รู้ว่านางต้องไปขอความช่วยเหลือจากเทพเจ้าที่มองไม่เห็นข้างกายนางอีกครั้งแน่ ดังนั้นนางจึงไม่ยอมเปิดเผย เขาจึงเชื่อฟังนาง และนั่งรอบนเก้าอี้อย่างว่าง่าย

หลังจากซื้อเครื่องบันทึกเสียงขนาดเล็กสามเครื่อง คะแนนหนึ่งพันคะแนนของเฉียวเยี่ยนก็หายไปอีกครั้ง ซึ่งเทียบเท่ากับเงินสองพันตำลึง! หากเป็นในยุคปัจจุบันก็คงซื้อเครื่องบันทึกเสียงได้หลายเครื่อง!

ถึงแม้จะเจ็บปวดราวถูกเฉือนเนื้อ แต่นางก็ยังดีใจมาก นางถือเครื่องบันทึกเสียงสามเครื่องกลับไปหามู่ฉินเจินอย่างมีความสุข

นางนั่งบนตักของมู่ฉินเจิน แล้วหยิบคู่มือเครื่องบันทึกเสียงขึ้นมาอ่าน ตรวจหาสวิตช์ และลองบันทึกประโยคสองสามประโยคด้วยความซุกซน

“สามี สามี ข้ารักท่าน”

มู่ฉินเจินสนใจสิ่งที่อยู่ในมือของนาง และหยิบขึ้นมาเพื่อตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เมื่อเขาได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึง

“สามี” เขารู้ว่ามันหมายถึงอะไร บางครั้งเจ้าท่อนไม้จะเรียกเขาเช่นนี้ นางบอกว่ามันเป็นคำเรียกที่ใช้กันระหว่างสามีภรรยา ผู้หญิงจะผู้ชายว่าสามี และผู้ชายก็จะเรียกนางว่าภรรยา

ใบหูของเขาเห่อร้อนเล็กน้อย เจ้าท่อนไม้ไม่ค่อยแสดงความรู้สึกต่อเขาอย่างตรงไปตรงมาแบบนี้ มันจึงทำให้เขารู้สึกค่อนข้างเขินอาย

เขากำลังจะพูดว่า “ข้าก็รักเจ้าเหมือนกัน” แต่ก็ได้ยินสิ่งของเล็ก ๆ สีดำในมือของนางพูดสิ่งที่นางเพิ่งพูดซ้ำอีกรอบ

“สามี สามี ข้ารักท่าน!”

การบันทึกเสียงประสบความสำเร็จ เฉียวเยี่ยนรู้สึกดีใจมาก แต่มู่ฉินเจินกลับตกตะลึง แม้เขาจะมีความแข็งแกร่งทางจิตใจมากเพียงใด แต่ตอนนี้ก็ยังคงมีอาการลิ้นพันกันเล็กน้อย สิ่งของสีดำตัวเล็ก ๆ ที่ดูธรรมดานี้กลับเรียนรู้ที่จะพูดได้เหมือนมนุษย์จริง ๆ!

เมื่อเห็นท่าทางมึนงงของเขา เฉียวเยี่ยนก็ขมวดคิ้วกลั้นยิ้ม ก่อนจะหอมแก้มเขา แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สิ่งนี้เรียกว่าเครื่องอัดเสียง มันสามารถบันทึกเสียงรอบข้างได้ ข้าคิดว่าในเมื่อเราจับหูเหวินไหลไม่ได้สักที เช่นนั้นก็ไปติดตั้งเครื่องบันทึกเสียงนี้ไว้ในห้องทำงานและห้องนอนของเขา เพื่อบันทึกการสนทนาทั้งหมดเอาไว้”

“ท่านอยากลองพูดสักคำหรือไม่?”

ขณะที่นางพูด นิ้วของนางก็เปิดสวิตช์เครื่องบันทึกเสียงแล้ว มู่ฉินเจินยังคงตกใจ และถามด้วยความงุนงงว่า “พูดว่าอะไร?”

เฉียวเยี่ยนในอ้อมแขนของเขาหัวเราะจนตัวสั่น แล้วกดเล่นประโยคที่เพิ่งบันทึกไว้ให้เขาฟัง

“พูดว่าอะไร?”

เมื่อได้ยินเสียงงี่เง่าของตัวเอง มู่ฉินเจินก็รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย เขาจึงจับศีรษะของแม่สาวน้อยที่กำลังหัวเราะอย่างบ้าคลั่งมาประกบปากเข้าไปทันที ซึ่งนับว่าเป็นทั้งการชมเชยและการลงโทษ

เฉียวเยี่ยนไม่ทันตั้งตัวรับการจูบ นางยื่นมือไปผลักออกสองครั้ง แต่สุดท้ายก็พบว่านางไม่อาจต้านทานได้ จึงได้แต่หลับตาพริ้มด้วยความเพลิดเพลิน

วีรชนผู้ยิ่งใหญ่ของวันนี้อย่างระบบตัวน้อยมองคู่รักที่กำลังจูบกันอีกครั้งแล้วก็ส่ายหน้าอย่างช่วยไม่ได้ ตอนนี้นางมีภูมิต้านทานต่อการจูบของคู่รักทั้งสองแล้ว เพราะนางได้เห็นบ่อยเกินไป

นางไม่รอให้เฉียวเยี่ยนมาปิดกั้นนางแล้ว ปีนขึ้นไปบนเตียงสีชมพูเล็ก ๆ ของนาง ดึงม่านเตียงเพื่อไม่ให้เห็นคู่รักทั้งสอง ก่อนจะหยิบแท็บเล็ตออกมา แล้วนอนยกขาดูวิดีโออย่างสบายอารมณ์ และซื้ออาหารจากร้านค้าเมื่อรู้สึกหิว

……………………………………………………………………………………………………………..

สารจากผู้แปล

จับไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เสี่ยวเยี่ยนมีไอเทมลับในการสืบสวนเยอะแยะถมไป

ระบบหนูคงเอียนอาหารสุนัขแล้วใช่ไหมคะ

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน