ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 161 พบเจอเบาะแส

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 161 พบเจอเบาะแส

ตอนที่ 161 พบเจอเบาะแส

สองสามีภรรยาไม่ได้สนใจการแสดงออกอันยอดเยี่ยมของเขา หาเก้าอี้มานั่ง และไม่มีเจตนาจะกลับไปกระโจมตัวเองแต่อย่างใด ก่อนไล่พวกองครักษ์ออกไปเพื่อที่จะฟังบทสนทนาในเครื่องอัดเสียง หากกลับไปยังกระโจมของตนตอนนี้ก็คงจะกระทบต่อการนอนของเด็กทั้งสอง

เกาจัวหยวนกับสหายคนอื่นต่างงุนงง สองคู่รักนี้ดึกดื่นค่อนคืนไม่หลับไม่นอนและยังมายึดกระโจมของพวกเขาไปทำไมกัน?

ยิ่งนานวันเข้าพวกเขายิ่งไม่เข้าใจความคิดของท่านอ๋องกับหวางเฟยแล้ว

หลังจากไล่ทุกคนออกไปแล้ว ห้องก็เงียบลงไปมาก ทั้งคู่ตั้งใจฟังเนื้อหาในเครื่องอัดเสียงอย่างเงียบเชียบ ยิ่งฟังก็ยิ่งหวาดกลัว แค่เมืองเยวี่ยโจวเล็กๆ เมืองหนึ่ง ไม่นึกเลยว่าจะซ่อนความลับไว้มากมายเช่นนี้!

“ทุกคนรู้ความสามารถของข้าดี หากมีใครเล่นตุกติกลับหลังข้า หยางซิ่งคนต่อไปจะเป็นพวกเจ้า!”

“เราต่างก็ลงเรือลำเดียวกัน ระวังให้ดีหน่อย อย่าให้ท่านอ๋องซู่จับจุดอ่อนได้ หากมีอะไรเกิดขึ้นกับข้า พวกเจ้าทุกคนก็หนีไม่รอดแน่!”

……

ในบันทึกการสนทนาส่วนใหญ่เป็นเสียงของหูเหวินไหล และพวกขุนนางคนอื่นก็คล้อยตาม นอกจากคำเตือนแล้ว พวกเขายังหารือเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งด้วย

เดือนก่อนทางราชสำนักส่งเงินงบประมาณมาให้ค่ายทหารเยวี่ยโจว มันก็ได้ตกไปอยู่ในมือของหูเหวินไหลแล้ว และเขาก็เรียกทุกคนไปที่จวนเพื่อหารือเรื่องแบ่งเงิน

สถานการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นมาหลายปีแล้ว จ้าวซุ่นเฉียนไม่มีสมอง วันๆ ไม่ทำอะไร เอาแต่กินนอน หูเหวินไหลจึงใช้ประโยชน์จากจุดนี้ รับเงินทางการของค่ายทหารมาไว้ในมือ แล้วให้เงินส่วนหนึ่งแก่จ้าวซุ่นเฉียน และช่วยจ้าวซุ่นเฉียนลวงฟ้าข้ามทะเล ปิดบังสถานการณ์ในค่ายทหารต่อราชสำนัก

เรื่องดีเช่นนี้จ้าวซุ่นเฉียนย่อมเห็นด้วยอยู่แล้ว ไม่ต้องใช้สมอง แถมยังมีเงินใช้ ดังนั้นเขาจึงปล่อยมือจากค่ายทหาร ทุกวันเอาแต่สำมะเลเทเมาเคล้านารีกีฬาบัตร ใช้ชีวิตสุขสบายยิ่ง

นอกจากเงินงบประมาณของค่ายทหารแล้ว ยังตัดเงินช่วยเหลือภัยพิบัติของที่ว่าการอำเภอในแต่ละที่ด้วย แล้วสมรู้ร่วมคิดกับนายอำเภอแต่ละเขตพื้นที่เพื่อแบ่งเงิน และรายงานสถานการณ์เท็จต่อราชสำนัก

หากมีที่ว่าการอำเภอไหนไม่ฟังเขา เขาก็จะใช้ทุกวิถีทางจัดการอีกฝ่าย จากนั้นก็แนะนำคนสนิทของตัวเองดำรงตำแหน่ง ด้วยวิธีนี้ เขาก็กระจายอำนาจของตัวเองไปทั่วเยวี่ยโจว

แต่เขาก็เป็นคนฉลาดคนหนึ่ง รู้จักคว้าใจพวกชาวบ้าน ดังนั้นเขาจึงมักจัดกิจกรรมบริจาคโจ๊กหรือเสื้อผ้า เพื่อเป็นบุญคุณเล็กๆ น้อยๆ ให้แก่พวกชาวบ้าน ให้พวกเขามาเคารพและยกย่อง

เยวี่ยโจวเป็นเหมือนกระดานหมากรุก ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา แต่กลับมีตัวหมากดื้อด้านอย่างหยางซิ่งปรากฏออกมา

หยางซิ่งเป็นคนหนุ่มมีพลัง มีความทะเยอทะยานอยู่ในใจ ไม่ยอมคลุกคลีกับคนทรยศ แต่ช่วยไม่ได้ที่มีพละกำลังอ่อนแอ จึงทำได้เพียงแสร้งทำเป็นยกยอเขาไปก่อน เมื่อหาโอกาสได้ก็ส่งรายงานลับให้กับราชสำนัก

แน่นอนว่าเรื่องพวกนี้เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินยังไม่รู้ พวกเขารู้แค่ว่าคนกลุ่มนี้กำลังแบ่งเงินทางการจากบทสนทนาที่อัดไว้ได้ รวมถึงเรื่องที่หยางซิ่งกับจ้าวซุ่นเฉียนถูกหูเหวินไหลทำร้าย

พวกเขาฟังเครื่องบันทึกเสียงอยู่หลายครั้ง ทันใดนั้น เสียงกระทบกระทั่งแผ่วเบาก็ดึงความสนใจของเฉียวเยี่ยน

นางกดถอยหลังไปฟังรอบสอง รู้สึกเหมือนเสียงประตูห้องลับเปิดออกเหมือนที่เห็นในทีวี

หลังจากสิ้นเสียง ก็ไม่มีผู้ใดเคลื่อนไหวอีกเลย

เฉียวเยี่ยนขมวดคิ้วมองมู่ฉินเจิน “ท่านว่าในห้องหนังสือนี้จะมีห้องลับอยู่หรือไม่?”

มู่ฉินเจินก็สงสัยเช่นเดียวกัน “เป็นไปได้”

แม้พวกเขาจะยังมิอาจรู้ความลับทั้งหมดของหูเหวินไหล แต่ความผิดสองข้อในตอนนี้ ก็เพียงพอจะให้เขารับโทษแล้ว

ยักยอกเงินงบประมาณของกองทัพ ฆ่าเจ้าหน้าที่ของราชสำนัก สมควรรับโทษประหารสถานเดียว!

แต่ตอนนี้พวกเขายังขาดเหตุผลในการจับกุมบุคคลนี้ ทั้งยังมิอาจเล่นเสียงบันทึกในเครื่องอัดเสียงให้พวกเขาฟัง ไม่เช่นนั้น คงยากอธิบายความเป็นมาของเครื่องอัดเสียงนี้ได้

เฉียวเยี่ยนเท้าคางครุ่นคิดอย่างหนัก พลันก็มีความคิดขึ้นมา นางยืดตัวขึ้นอย่างเงอะงะ และเอ่ยกับมู่ฉินเจินอย่างตื่นเต้น “ข้ามีวิธีหนึ่ง เราบอกโลกภายนอกได้ว่าจอมโจรยวนยางได้บุกปล้นสะดมในค่ายทหาร กวาดทรัพย์สมบัติไปเสียสิ้น ขณะนี้กำลังถูกตามล่าทั่วเมือง”

“จากนั้นก็ถือโอกาสค้นจวนผู้ว่าการ หาห้องลับในห้องหนังสือ แล้วจับพวกเขาโดยไม่ทันตั้งตัว!”

มู่ฉินเจินได้ยินเช่นนี้ดวงตาพลันเปล่งประกาย นี่มันเป็นวิธีที่ดีจริงๆ หากหาห้องลับนี้เจอ ก็จะสามารถจับหูเหวินไหลในคราวเดียวได้ หากไม่เจอ ก็ไม่กระตุ้นให้ผู้อื่นเกิดความสงสัย

ในช่วงไม่กี่วันมานี้เรื่องจอมโจรยวนยางออกอาละวาดได้ทำให้ทั่วทั้งเมืองเกิดความโกลาหล ชื่อเสียงแพร่สะพัดไปทั่ว เรื่องเข้าไปขโมยของในค่ายทหารก็ดูจะเป็นไปได้เช่นกัน

เฉียวเยี่ยนกระพริบตาโตรอมู่ฉินเจินตอบกลับ นางอยากรู้ว่าวิธีของตัวเองดีหรือไม่ ขณะในใจมู่ฉินเจินมีความรู้สึกหลากหลาย เจ้าท่อนไม้เป็นผู้ช่วยที่ดีของเขาจริงๆ

เขาเอื้อมมือไปแตะศีรษะนาง พลางเอ่ยชม “ดี ดีมาก อาเยี่ยนฉลาดจริงๆ”

เฉียวเหยียนถูกชมจนยิ้มตาหยี ถูไถศีรษะตัวเองไปกับฝ่ามือใหญ่ของเขาเหมือนเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ และเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “รู้ว่าข้าฉลาดก็ดีแล้ว ดังนั้นหากมีเรื่องอะไร ท่านต้องบอกข้าให้เร็วที่สุดนะ”

สิ่งที่น่ากลัวที่สุดในความสัมพันธ์ก็คือการปิดบังกัน คิดว่าเรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องบอกอีกฝ่าย แต่หารู้ไม่หากปิดบังกันแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆ ช่องว่างระหว่างทั้งสองฝ่ายก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น

มู่ฉินเจินพยักหน้า ใบหน้าเผยรอยยิ้ม “เจ้าก็เช่นกัน”

เมื่อคิดแผนได้แล้ว มู่ฉินเจินก็เรียกพวกเกาจัวหยวนกับหัวหน้าทหารรักษาพระองค์มาทันที เพื่อมอบหมายหน้าที่ให้พวกเขา

ในเมื่อสมบัติทรัพย์สินสูญหาย จึงต้องมีการค้นหาชั่วข้ามคืนถึงจะสมเหตุผล อีกทั้งตอนนี้จวนผู้ว่าการกำลังยุ่งเหยิง คาดว่าคงไม่มีกะจิตกะใจจะรับมือกับพวกเขา

เขาสั่งให้เกาจัวหยวนนำทหารรักษาพระองค์ตรงไปยังจวนผู้ว่าการ เพื่อควบคุมจวนผู้ว่าการก่อน จากนั้นแสร้งทำเป็นตรวจค้นจอมโจรยวนยาง โดยมุ่งเน้นไปที่ห้องหนังสือ มองหากลไกห้องลับ

หัวหน้าทหารรักษาพระองค์ที่เหลือก็นำกำลังของตนไปยังที่ว่าการอำเภอต่างๆ รอให้ทางนี้ส่งข่าวออกไป ก็ให้พวกเขารีบควบคุมคนทันที ให้ทุกคนถูกจับให้หมด

กลางดึก เสียงแตรดังกระชันถี่ได้ปลุกทหารเยวี่ยโจวกับทหารรักษาพระองค์ที่กำลังหลับใหลตื่นขึ้นมา เกาจัวหยวนออกคำสั่ง กองทัพพร้อมออกเดินทางมุ่งไปยังจวนผู้ว่าการ

เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินก็เตรียมไปด้วยกัน พวกเขากลับไปผลัดอาภรณ์ที่กระโจม เด็กทั้งสองถูกปลุกด้วยเสียงแตร ได้ยินเสียงวุ่นวายข้างนอกก็รู้สึกไม่ปลอดภัยเล็กน้อย

เฉียวเหยียนกอดปลอบพวกเขา และเอ่ยเสียงเบา”ลูกๆ ไม่ต้องกลัว พวกลุงทหารแค่ลุกไปทำภารกิจให้สำเร็จ แม่กับพ่อก็จะไปด้วยเช่นกัน พวกลูกอยากไปด้วยหรือไม่? หากไม่อยากไป แม่จะหาลุงองครักษ์มาอยู่เป็นเพื่อนพวกเจ้า”

ลูกทั้งสองคลอเคลียอยู่ในอ้อมกอดมารดา และผงกหัวจะไปด้วยโดยไม่คิดเลยแม้แต่น้อย เฉียวเยี่ยนเห็นพวกเขานอนจนสลึมสลือ จึงหาเสื้อผ้าหนาๆ มาใส่พวกเขา นางกับมู่ฉินเจินแบ่งกันอุ้มคนละคน ให้พวกเขานอนในอ้อมแขน

ทหารรักษาพระองค์บุกเข้าไปในจวนผู้ว่าการ หูเหวินไหลที่เพิ่งได้รับการรักษาจากหมอได้ยินข่าวนี้ก็แทบจะเป็นลมไปอีกครั้ง คิดว่าเรื่องของตัวเองถูกเปิดเผยแล้ว

แต่เมื่อได้ยินคนรับใช้บอกว่าสมบัติของท่านอ๋องซู่ถูกขโมยไปและกำลังนำกองทัพออกตามหาจอมโจรยวนยาง เขาก็โล่งใจ และให้คนพยุงไปเคารพท่านอ๋องซู่ที่หน้าลานหลัก

เมื่อเขาเห็นมู่ฉินเจินก็ทำเป็นร้องไห้น้ำหูน้ำไหล เอ่ยราวกับเป็นผู้เคราะห์ร้าย

“ท่านอ๋อง ท่านมาได้ทันเวลาจริงๆ คืนวันนี้จวนของกระหม่อมถูกขโมยยกเค้าอีกแล้ว และเจ้าหัวขโมยนั่นก็โอหังนัก เขาแขวนผ้าห่มของกระหม่อมไว้ที่ชายคา พร้อมเขียนว่า ‘จอมโจรยวนยางมาเยือนที่นี่แล้ว’ ดูหมิ่นกระหม่อม…”

มู่ฉินเจินฟังคำพูดของเขาแล้วก็เกือบจะหัวเราะออกมา แต่ฝืนทำเป็นเย็นชา แต่กลับมีเจตนาเยาะเย้ยเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก “มันหยิ่งผยองมากจริงๆ ”

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ถูกผู้เป็นพ่ออุ้มอยู่ ซบศีรษะน้อยไว้กับอ้อมอกของเขา ตอนนี้นางไม่ง่วงแล้ว เหตุใดนางถึงรู้สึกว่าสิ่งที่บิดาของนางพูดไม่ใช่คำด่า แต่เป็นคำชมล่ะ

เมื่อทหารรักษาพระองค์เข้าไปในห้องหนังสือ หูเหวินไหลก็ตากระตุกครู่หนึ่ง แต่ก็ปลอบใจตัวเองไม่หยุด ตนซ่อนความลับของห้องหนังสือไว้เร้นลับมาก พวกเขาหาไม่เจออย่างแน่นอน

………………………………………………………………………………………………………………………….

สารจากผู้แปล

นึกถึงสถานการณ์ของประเทศหนึ่งในตอนนี้เลย ยิ่งช่วงเลือกตั้งยิ่งเห็นชัด

จะเจอห้องลับที่ซ่อนอยู่ไหมน้า

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท