พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 43

ตอนที่ 43

บทที่4ตอนที่13

 

 

「ไง ไอริสดีน่า」

 

 

ที่หน้าประตูสถาบัน เควินเจอกับพวกโนโซมุที่กำลังมาสถาบัน ยังไงก็ตามดูเหมือนว่าเขาจะจ้องไอริสเป็นพิเศษ เขาไม่แม้แต่มองโนโซมุและมาร์ที่อยู่ข้างๆด้วยซ้ำ

 

 

ไอริสเองก็ได้ยินเสียงเรียกของเควินและหันไปมองเขา แต่ท่าทางของเธอแสดงสีหน้าปั้นยากออกมา ไม่เหมือนกับใบหน้าที่แสดงให้โนโซมุเห็น

 

 

เควินเดินเข้ามาหาเธอและพยายามจะแตะต้องเธอ แต่เมื่อเธอสังเกตเห็นเธอก็หลบ

 

 

「เควิน นายเองก็น่าจะรู้นี่ว่าฉันไม่ชอบคนหยาบคายที่มาแตะเนื้อต้องตัวคนอื่น」

 

 

「หืมมม เหมือนเคยสินะ แต่ว่าข้านะชอบเจ้านะ แล้วยังไงละ? จากนี้「ต้องขอโทษด้วยนะคะแต่ตอนนี้ฉันกำลังอยู่กับเพื่อนๆ ก็ดีใจนะที่ได้รับเชิญแต่ว่าไม่ว่างค่ะ」」

 

 

ไอริสพูดเช่นนั้นเพื่อขัดคำพูดของเควินทันที

 

 

「เหหหห เพื่อนยังงั้นเหรอเนี่ย…………」

 

 

เขาตอบสนองต่อคำว่าเพื่อนและจ้องมองโนโซมุทันที

 

 

ใบหน้าที่หันเข้าหาเขาเป็นใบหน้าเยาะเย้ย เป็นใบหน้าที่พบเจอได้ตลอด

 

 

เห็นได้ชัดว่าเขาดูถูกโนโซมุและสีหน้าของโนโซมุก็เกร็งทันที

 

 

หลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของโนโซมุ เควินก็เลิกมองและหันไปหาไอริส

 

 

「เฮ้ย ทำไมต้องเป็นหมอนี่ด้วย? คนในสถาบันให้เลือกตั้งเยอะแยะทำไมต้องเป็นหมอนี่ด้วยวะ?ไอ้หมอนี่มันมีดีอะไร หลายๆคนต้องมานั่งต่อเข้าแถวรอเธอรับเป็นเพื่อนเลยนะ」

 

 

แทนที่จะมองไปที่โนโซมุ เขาชี้นิ้วมาทางนี้และพูดออกมาตรงๆ จากมุมมองของคนอื่น สภาพของโนโซมุมันก็โดนกดจนต่ำอยู่แล้ว ดังนั้นมันไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไรที่ไอริสมาอยู่กับคนแบบเขา

 

 

แต่ทันใดนั้นก็มีชายคนหนึ่งพูดกับเควินก่อนที่เธอจะพูดอะไร

 

 

「…………หนอยแน่แก ทำตัวน่ารังเกียจมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วนะ……。」

 

 

เสียงโกรธนั่นมาจากมาร์เอง

 

 

เดิมทีเขาก็เป็นขาโจ๋อยู่แล้ว ความโกรธของเขามันมาเพราะเพื่อนเขาโดนดูถูกซึ่งเขายอมรับไม่ได้

 

 

「นี่ มาร์「คบเพื่อนโง่ซะด้วยนะ」……นิดหน่อยเอง「นอกจากนี้คนในสถาบันก็คิดแบบนี้」……คุยกับผมสิ」

 

 

โนโซมุเองก็รู้สึกรำคาญเช่นกัน แต่ความโกรธของเพื่อนเขากำลังจะหมดซึ่งความอดทน

 

 

ทั้งสองที่เหมือนคนโง่กำลังอาละวาดใส่กันและการทะเลาะวิวาทก็เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

 

นักเรียนรอบๆต่างมารวมตัวกันด้วยเหตุผลบางอย่าง และเว้นระยะห่างระหว่างพวกโนโซมุนิดหน่อย เพราะแรงกดดันของทั้งสอง

 

 

「แหม่ แม้แต่คนสองจิตสองใจแบบแกถึงไปร่วมกับเขาด้วยเนี่ย นี่โดนกดดันจนต้องไปคบกับมันเลยรึไง」

 

 

「ว่าไงนะ! ไอเวรนี่!」

 

 

มาร์และเควินไม่สนรอบข้างอีกต่อไปและโนโซมุที่เป็นศูนย์กลางของเรื่องก็โดนทิ้ง

 

 

「นี่แกโดนไอริสล่ามจนเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ คนสองจิตสองใจแบบแกเนี่ยนะเหอะ」

 

 

「…………เตรียมตัวตายเหอะมึง」

 

 

เควินตั้งท่าพร้อมกับมาร์ที่หยิบดาบเล่มใหญ่จากหลัง ทั้งสองต่างส่งสายตาอาฆาตซึ่งกันและกัน

 

 

「เฮ้ย มาร์!」「หยุดได้แล้วทั้งสองคนน่ะ!」「จะทำแบบนั้นไม่ได้นะมาร์คุง!」「เอ๋! ได้โปรดหยุดเถอะค่า!」

 

 

บางทีการจะมาทะเลาะกันตรงนี้มันไม่ดีแน่ๆ พวกเพื่อนๆจึงพยายามจะห้ามการทะเลาะของทั้งสอง แต่ว่าทั้งสองก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดเลย

 

 

ที่สถาบันโซลมินาตินั้นห้ามไม่ให้ใช้อาวุธนอกสถานที่ฝึกซ้อม

 

 

มือของมาร์หยิบดาบเล่มใหญ่บนหลัง เควินเองก็ตั้งท่าเตรียมพร้อม

 

 

หยุดไม่ได้แล้ว

 

 

ช่วงเวลาที่มาร์และเควินกำลังจะเข้าปะทะกันนั่นเอง โดยมีคนหลายคนกำลังเฝ้าดูอยู่

 

 

「เดี๋ยวเถอะ~! หะ-ยุ-ด-เลย~น้า~จ้า~~~~!!」

 

 

น้ำปริมาณมากพุ่งเข้าใส่ทั้งสองที่กำลังพุ่งเข้าหากันพร้อมกับน้ำเสียงที่ลากยาวผิดปกติ

 

 

「โอววววว!!」

 

 

「อุฟฟฟฟ!!」

 

 

ทั้งสองโดนน้ำจำนวนมากกลืนเข้าไป และในชั่วพริบตาทั้งสองก็ต่างเปียกโชกราวกับหมูตกน้ำ

 

 

เมื่อโนโซมุหันไปตามเสียงก็พบสาวสวยคนหนึ่งกำลังเดินมากอดคอผม

 

 

「ทำแบบนี้ไม่ดีเลยน้า~~。ไม่ควรจะสู้กันในที่แบบนี้นะจ้ะ~~~」

 

 

「อะอาจารย์อันริ……」

 

 

ตรงนั้นเองมีอันริ วาร์ ครูประจำชั้นของโนโซมุนั่นเอง

 

 

อันริเองก็เดินเข้าไปใกล้มาร์กับเควิน จ้องมองทั้งสองที่กำลังจะสู้กัน

 

 

ดูเหมือนเธอจะโกรธมาก แก้มป่องเลย แต่ท่าดูจากภายนอกเธอดูอ่อนแอ และหากมองจากด้านข้างก็เหมือนจะไม่ได้โกรธเลย

 

 

โนโซมุส่ายหัวกับภาพตรงหน้าเพราะตัวเขาเองก็ขาดความกล้าที่จะหยุดพวกนั้น บรรยากาศอันแสนอบอุ่นที่ปลดปล่อยมาจากตัวเธอทำให้รอบๆต่างสงบลง

 

 

「…………ก็นะตัวน่ารำคาญมาซะได้ แล้วเจอกันใหม่นะ ไอริสดีน่า」

 

 

เควินถอนหายใจและลุกขึ้นกลับไปทางอาคารเรียน บางทีเขาคงไม่กล้าลงมือกับอาจารย์ที่มาหยุดหรอก

 

 

เมื่อเควินจากไป ผู้คนรอบๆก็เริ่มเดินจากไปในอาคารเรียน

 

 

อันริพยักหน้าอืมอืม บางทีเธอคงจะพอใจที่สถานการณ์สงบลงและมาหาพวกโนโซมุ

 

 

「อรุณสวัสดิ์น้า~~。สบายดีกันรึเปล่าเอ่ย~~」

 

 

「สวัสดีตอนเช้านะครับอาจารย์อันริ……ก็สบายดีครับ」

 

 

อันริคุยกับผมพลางสูดอากาศรอบๆเล็กน้อย ถ้ายามปกติเธอจะเป็นคนเงียบๆ แต่จริงๆแล้วเธอค่อนข้างร่าเริงและเป็นคนที่อบอุ่น รอยยิ้มอันแสนไร้เดียงสาราวกับเด็กๆทำให้บรรยากาศรอบตัวเธอดูผ่อนคลาย มันดูไม่ค่อยเข้ากันเท่าไร แต่ว่ามันก็น่าดึงดูด

โนโซมุและไอริสก็ทักทายเธอเช่นกัน เธอเองก็มีรอยยิ้มไร้เดียงสาและมีรอยยิ้มแห้งๆอยู่บนใบหน้า

 

「มาร์ก็ด้วยเนอะ~~。ทำแบบนั้นไม่ได้น้า~~」

 

 

「อาาานั่นสินะ ขอโทษด้วย……」

 

 

เธอยังคงโกรธมาร์อยู่ และทำหน้าตาบูดบึ้ง

 

 

มาร์เองก็ตอบกลับไปแบบคลุมเครือ

 

 

「อย่างไรก็ตาม~~、บอกฉันหน่อยสิ~~ขอบคุณน้า ซีน่าจัง」

 

 

「เอ๊ะ……」

 

 

โนโซมุสงสัยกับคำพูดที่ได้ยินครู่หนึ่ง อย่างไรก็ตามเสียงที่ได้ยินก็ยืนยันสิ่งที่โนโซมุคิดไว้

 

 

「……ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ จะให้เกิดเรื่องวุ่นวายแถวนี้ก็ไม่ได้ด้วยสิ……」

 

 

โนโซมุหันไปก็พบกับเอลฟ์สาวที่เจอเมื่อวานนี้

 

 

หญิงสาวที่มีผมสีน้ำเงินสวมที่คาดผมสีดำและแขนขาอันเรียวยาวกำลังจ้องมองมาทางโนโซมุ

 

 

「………………」

 

 

「………………」

 

 

ทั้งโนโซมุและเธอต่างเงียบ ผมไม่สามารถพูดได้ เพราะเรื่องที่ผมทำลงไปเมื่อวานนี้ บรรยากาศเลยค่อนข้างอึดอัดและเมื่อสบตากันก็รีบหลบตากันทันที

 

 

ขณะที่โนโซมุสงสัยว่าจะพูดกับเธอดีไหม เขาก็ได้ยินเสียงมาจากด้านหลังเธอ

 

 

「ให้ตายเถอะน้า ซีน่า ทันทีที่เห็นเรื่องวุ่นวายก็ให้ฉันไปเรียกอาจารย์ทันทีแบบนี้」

 

 

「อืมมม มิมุรุเองก็วิ่งวุ่นเหมือนกันนี่และฉันก็คิดว่าฉันทำถูกแล้วนะ……」

 

 

เสียงหนึ่งที่ผมได้ยินเมื่อวานคือเสียงที่โนโซมุคุ้นเคย แต่ว่าอีกคนผมไม่เคยยินเสียงผู้ชายคนนั้น

 

 

โนโซมุหันมองไปตามเสียง เขาสวมแว่นราวกับนักวิชาการ กับอีกคนที่เป็นเผ่าครึ่งสัตว์ที่ท่าทางสดใส ผิวสีแทน มีหูและหางเหมือนแมว ผู้ชายเองก็ให้บรรยากาศสุขุม

 

 

「อืมมมมม ทอมเนี่ยน้าพยายามปกป้องซีน่าตลอดเลย~~。ปกป้องสาวอื่นต่อหน้าคนรักแบบนี้……。แย่มั่ก!! ทอมหลายใจ~~~~!」

 

 

「เอ๊ะ!! ไม่ใช่แบบนั้นนะ! พูดอะไรกันเนี่ย! มิมุรุ!!」

 

 

ทั้งสองคนทะเลาะกันเหมือนกับคนโง่อีกแล้ว ฝ่ายผู้หญิงก็ดูท่าทางดื้อรั้นและส่วนฝ่ายชายเองก็ไม่รู้ว่าทำอะไรผิด แต่ดูเหมือนว่าการจีบกันของสองคนนี้จะทำให้รอบข้างอมยิ้มตามกันไป

 

 

「มิมุรุ อย่าทำตัวงี่เง่าน่า ทอมน่ะชอบก้นของเธอนะ และก็อาจารย์อันริขอโทษด้วยนะคะที่ไปรบกวน。」

 

 

ซีน่าพูดเช่นนั้นด้วยใบหน้าเย็นชา เธอยังเร่งเร้าให้ทั้งสองเดินไปทางอาคารเรียน

 

 

ซีน่าหันมาจ้องโนโซมุก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังอาคารเรียน แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร

 

 

「เอ๊ะ!ขอบคุณน้าซีน่าจัง~~」

 

 

อันริจ้องมองทั้งสามที่กำลังเดินจากไป พร้อมกับโบกมือให้ หลังจากนั้นก็หันมาหาโนโซมุ

 

 

「โนโซมุคุง~~ไม่เป็นไรน้า~~」

 

 

อันริคุยกับผม สำหรับเธอ เธอรู้สึกแปลกๆกับท่าทางของโนโซมุ

 

 

เมื่อมองแวบแรกมันแย่กว่าปกติมากเลย แต่เธอก็เห็นเขาเดินผ่านเมืองด้วยท่าทางโซเซด้วยนะ

 

 

「อืม ไม่เป็นไรครับ」

 

 

โนโซมุตอบคำถามอันริ แต่อันริก็จำได้ว่าตอนที่เขาไม่ได้อยู่ที่นี่

 

 

「…………จริงนะ~~?」

 

 

「ครับ……」

 

 

อันริเข้าไปจ้องหน้าเขาใกล้ๆ เขาพยายามหลบสายตาของเธอและจ้องมองโนโซมุด้วยความกังวล

 

 

ใบหน้าของทั้งสองใกล้กันเสียจนหายใจรดกัน กลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ทำให้หัวใจโนโซมุเต้นรัว แต่ใบหน้าของเขายังแสดงท่าทีแข็งกระด้าง

 

 

「…………」

 

 

「…………」

 

 

ทั้งสองต่างสบตากันเงียบๆ

 

 

ดูเหมือนว่าอันริยังคงกังวลอยู่ และสีหน้าของโนโซมุก็เกร็งมากขึ้น เวลาผ่านไประยะหนึ่ง

 

 

ในที่สุดอันริก็สูดหายใจและเดินออกห่างจากเขา

 

 

「เข้าใจแล้วล่ะ~อย่าหักโหมเกินไปนะโนโซมุคุง~~」

 

 

เธอพูดเช่นนั้นพร้อมกับเดินเข้าไปในอาคารเรียน เมื่อมองดูแผ่นหลังนั่น โนโซมุก็รู้สึกเจ็บปวด

 

 

(……ขอโทษนะครับ……อาจารย์อันริ แต่ผมพูดไม่ได้จริงๆ……)

 

 

โนโซมุขอโทษเธอในใจเมื่อมองจากมุมมองของอันริแล้ว ผมไม่สามารถพูดอะไรให้เธอฟังได้

 

 

ความขัดแย้งภายในใจยังคงดำเนินต่อไป แต่ในขณะนั้นเองไอริสก็เรียกโนโซมุ

 

 

「โนโซมุ รู้จักเธอคนนั้นด้วยเหรอ?」

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

สิ่งที่ไอริสได้ยินคือซีน่าที่เรียกอันริ

 

 

คนส่วนใหญ่ต่างจ้องมองอันริ มาร์และเควิน แต่ว่าอันริพูดออกมาก่อนหน้านี้ แต่ว่าเธอก็จับได้ว่ามันมีความรู้สึกแปลกๆระหว่างซีน่ากับโนโซมุอยู่

 

 

「ก็ไม่อะไรหรอกนะคะ……………ก็แค่เห็นเธอมองมาที่นาย…ฉันก็สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นรึเปล่าค่ะ」

 

 

「อา ผมไม่ได้บอกสินะครับ…ตอนที่ผมโดนเพื่อนร่วมชั้นเรียกไปหลังอาคารเรียน เธอเป็นคนที่เข้ามาช่วยผมไว้……」

 

 

「งั้นเหรอคะ…………」

 

 

「อะอืม」

 

 

ไอริสเอามือปิดปากและเริ่มคิดอะไรสักอย่าง เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเธอก็อ้าปากราวกับนึกอะไรออก

 

 

「นะโนโซมุอ่าาาตอนนั้น คะคะคะคะคะคือว่า……」

 

 

เธอพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ว่าเสียงระฆังเข้าเรียนก็ดังขึ้นมาจากทางอาคารเรียน ดูเหมือนจะถึงเวลาโฮมรูมคาบเช้าแล้ว ถ้าช้ากว่านี้จะไปสาย

 

 

「อาาาา~~!! ต้องรีบแล้วสิไม่งั้นสายแน่ๆเลยละคะ!!! 」

 

 

เมื่อพูดเช่นนั้น โซเมียก็เริ่มวิ่งไปอย่างเร่งรีบ

 

 

อาคารเรียนของอีคอร์สซึ่งเธอเรียนอยู่นั้นอยู่ใกล้ๆกับสถาบันโซลมินาติ ห่างจากที่นี่เล็กน้อย ไม่ว่าเธอจะรีบไปแค่ไหนก็เรียกได้ว่าเกือบสายแล้วนั่นเอง

 

 

แม้ว่าเขาจะไม่สาย แต่ว่าโซเมียที่วิ่งออกไปด้วยท่าทางยิ้มแย้ม มันทำให้โนโซมุกลับมาเริ่มยิ้มอีกครั้ง

 

 

「ฟุฟุ พวกเราก็รีบไปกันเถอะค่ะ ไม่งั้นจะเข้าเรียนสายนะคะ」

 

 

「อือ」

 

 

โนโซมุเองก็รีบเดินไปยังห้องเรียน รอยยิ้มของโซเมียช่วยเยียวยาจิตใจของผมกับบรรยากาศอันแสนหนักอึ้งได้เล็กน้อย

 

 

◇◆◇

 

 

「…………………ว่าไงดีละได้เห็นสิ่งที่น่าสนใจตั้งแต่เช้าเลย…………」

 

จากเงาของอาคารเรียน ฟีโอนั่งมองความวุ่นวายตรงหน้า

 

 

ดูเหมือนว่าจะเกิดความวุ่นวายหลายๆด้าน แต่สิ่งที่ดึงดูดสายตาก็คือซีน่าซึ่งอยู่ปีเดียวกับไอริส

 

「อย่างไรก็ตาม ข้าน้อยก็ได้รู้แล้วว่าเป็นเพื่อนเจ้าหญิงเทพธิดาทมิฬแต่ไม่คิดเลยน้อว่าจะทำเช่นนั้น~~。นอกจากนี้ดูเหมือนซีน่าจะมีอะไรบางอย่างกับโนโซมุด้วย……เกิดอะไรขึ้นกันน้อ?」

 

ไม่ใช่มาร์ที่ฟีโอสนใจ แต่ท่าทางของไอริสที่โกรธเมื่อเห็นโนโซมุโดนเยาะเย้ยและซีน่ากับโนโซมุที่ท่าทางแปลกๆ

 

 

ไอริสเองก็โกรธมากที่เห็นโนโซมุโดนดูถูกและเหนือสิ่งอื่นใด ตัวเธอไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

 

 

ปกติเธอเป็นคนรักสงบ ไม่ว่าจะโกรธแค่ไหน เธอก็จะตอบสนองด้วยท่าทางสุขุม แต่ภาพตรงหน้าคือตัวเธอที่ระเบิดอารมณ์ออกมาอย่างชัดเจน

 

 

อีกสิ่งหนึ่งก็คือการสบตากันของซีน่าและโนโซมุ

 

 

ฟีโอก่อนหน้านี้เองก็โดนขัดด้วยเช่นกัน

 

 

อย่างไรก็ตาม ตัวเธอที่เป็นคนจริงจัง เธอเกลียดโนโซมุ อย่างน้อยก็เพราะข่าวลือเหล่านั้นและเธอเองก็ดูถูกโนโซมุ

 

 

และตอนนั้นเองเธอจ้องโนโซมุไม่ลดละเลย

 

 

「…………ใกล้ได้เวลาสังเกตการณ์จากระยะใกล้~~。จะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่รู้สิน้า……」

 

ความยากรู้อยากเห็นอันแสนเร่าร้อนของตัวเขาผลักดันมาจนถึงตอนนี้

 

 

ฟีโอที่รักสนุก สมัครเรียนที่นี่เพราะได้พบกับผู้คนที่หลากหลายมันมีระเบียบและกฏเกณฑ์อันแสนชัดเจน

 

 

ตัวผมที่เบื่อกับวันสีเทาจนกระทั่งได้พบกับตัวโนโซมุ

 

เรื่องราวก็กลับมามีสีสันอีกครั้งในชีวิตวัยเรียนนี้

 

เมื่อคิดเช่นนั้นเลยยุให้เพื่อนร่วมชั้นของโนโซมุลากเขาไปกระทืบหลังสถาบันและปรากฏว่าซีน่ามาช่วยไว้เป็นเหตุการณ์อันเหนือคาดจริงๆ

 

「…………ก่อนอื่นก็มาเรียบเรียงเรื่องราวกันก่อนไหม……」

 

เมื่อพูดพึมพำเช่นนั้น ฟีโอก็เริ่มเดินไปที่ห้องเรียน

 

 

อีกอย่างระยะทางที่เขาอยู่ด้านหลังอาคารเรียนนั้นไกลกว่าจากประตูหลักมากนัก ทำให้เขาเข้าเรียนสาย และอาจารย์เองก็บ่นเทศยาวๆไป

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท