ตอนที่ 189 บรรดาทหารจิ๋ว
ตอนที่ 189 บรรดาทหารจิ๋ว
มู่ฉินเจินถือข้อความนั้น พร้อมหยักยิ้มมุมปากขึ้น หลังจากอ่านจบก็นำข้อความใส่ลงในกล่องไม้ ในนั้นมีข้อความอยู่หลายใบแล้ว ซึ่งทั้งหมดเป็นของเจ้าท่อนไม้ที่ทิ้งเอาไว้ยามส่งของมาให้เขา
……
ตอนบ่าย มู่ฉินเจินรีบกลับไปตำหนักก่อนพวกเด็กๆ จะกลับบ้าน เขาต้องไปขอโทษภรรยาตัวน้อยที่โกรธอยู่ หลังจากที่เด็กๆ กลับมา เขาก็จะไม่มีเวลาอยู่กับนางตามลำพังแล้ว
เฉียวเยี่ยนกำลังเรียนการเย็บปักถักร้อยกับฮุ่ยเซียงอยู่ ทะลุมิติมาในสมัยโบราณตั้งหลายปี ระดับงานเย็บปักถักร้อยของนางยังคงจำกัดอยู่เพียงการตัดเย็บเสื้อผ้าธรรมดาๆ หากงานฝีมือซับซ้อนหน่อยผ่านมือนางคราใด ก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่งเหยิงทันที
ในมือนางถือผ้าแพรสีเขียวไผ่ บนนั้นวาดลวดลายง่ายๆ ไว้ และปักมันอย่างเงอะงะ จนทำให้ฮุ่ยเซียงที่มองดูอยู่หมดคำจะติ
ในที่สุดนางก็พบความไม่ถนัดของหวางเฟยแล้ว อีกทั้งยังไม่ถนัดอย่างแรงด้วย
“ฉึก!”
เฉียวเยี่ยนที่ถูกเข็มปักมืออีกครั้งสูดหายใจเข้าลึก ฮุ่ยเซียงจึงคว้ามันมาทำเองอย่างร้อนรน “เหนียงเหนียง ท่านไปทำเรื่องยิ่งใหญ่ หาเงินก้อนใหญ่เถิดเจ้าค่ะ เรื่องเล็กน้อยเช่นนี้ไม่เหมาะกับท่านเลย!”
เฉียวเยี่ยนยิ้มแหย โยนสะดึงปักผ้าทิ้ง ไม่ทำแล้ว นี่นางว่างจริงๆ หรอกถึงได้มาเรียนปักผ้า!
มันว่างมากจริงๆ เมื่อเร็วๆ นี้ก็เพิ่งตรวจสอบกิจการในมือเสร็จ ระยะนี้จึงไม่ต้องไปดูพวกพืชผลที่ปลูกไว้ยังต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเก็บเกี่ยวได้ กล้าสตรอเบอรี่ยังไม่ถึงเวลาปลูก ดังนั้นนางเลยว่าง
บ่ายวันนี้นางไม่ได้วางแผนจะทำกับข้าว จึงให้บ่าวไปหิ้วอาหารที่หอหวาอวิ้นมาเล็กน้อย
มู่ฉินเจินกลับมาก็เห็นเฉียวเยี่ยนนั่งอยู่บนม้านั่งหินอยู่ในศาลา และยื่นศีรษะออกไปดูฮุ่ยเซียงปักผ้า ในมือยังถือสาลี่และกำลังกัดกิน ท่าทางจดจ่อนั้นน่ารักเล็กน้อย
เขาเดินเข้าไปใกล้ ยื่นมือที่ถือของออกไปตรงหน้าเฉียวเยี่ยน พลางเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางเบา “ให้เจ้า”
เฉียวเยี่ยนตาเป็นประกาย ไม่นึกเลยว่าจะเป็นดอกไม้ป่า ดอกสีม่วงอมน้ำเงิน กลีบดอกให้ความรู้สึกลื่นดุจผ้ากำมะหยี่
นางยื่นมือไปรับดอกไม้ ในใจรู้สึกปิติยินดี นี่นับว่าเป็นครั้งแรกที่เขาให้ดอกไม้นาง แม้จะเป็นดอกไม้ป่า กระนั้นนางก็พอใจมาก
หลังรับดอกไม้มาเชยชมได้สองวินาที นางถึงตระหนักได้ว่าตนยังโกรธชายผู้นี้อยู่ จึงตีหน้าขรึมขึ้นทันใด และเอ่ยอย่างเย่อหยิ่ง “ข้ารับดอกไม้ไว้ก็จริง แต่อย่าคิดว่าแค่ดอกไม้ช่อเดียวจะสามารถซื้อเวลาข้าได้ ข้ายังไม่ยกโทษให้ท่านนะ!”
มู่ฉินเจินยกมือขึ้นบีบดวงหน้าน้อยโมโหของนาง และเอ่ยอย่างหลงใหล “ได้ เช่นนั้นบอกข้าทีทำอย่างไรเจ้าถึงจะยกโทษให้ข้า?”
เฉียวเยี่ยนเลิกคิ้ว แสดงท่าทาง ‘ข้าสูงส่งมาก’ให้เขาเห็น “ดูที่การกระทำของท่านก็แล้วกัน”
ฮุ่ยเซียงเห็นมู่ฉินเจินเข้ามาก็ปลีกตัวออกไปในวินาทีนั้นแล้ว นางไม่อยากถูกทารุณกรรมอยู่ระหว่างกลางของทั้งสองคน
ในศาลาจึงเหลือเพียงสองสามีภรรยา เฉียวเยี่ยนยกช่อดอกไม้ขึ้นมาเชยชม ขณะที่มู่ฉินเจินกำลังเชยชมนางเช่นกัน
……
สองสามวันต่อมา เฉียนเยี่ยนได้รับความประหลาดใจเล็กน้อยจากมู่ฉินเจินทุกวัน บ้างก็เป็นปิ่นปักผม บ้างก็เป็นชุดกระโปรงหนึ่งชุด ของขวัญล้วนเปลี่ยนไปไม่ซ้ำอย่าง ทว่ามีอย่างหนึ่งที่ไม่เปลี่ยนเลยทุกวัน นั่นคือการให้ดอกไม้
นับตั้งแต่พบว่าเจ้าท่อนไม้ชอบดอกไม้ในวันนั้น มู่ฉืนเจินก็เตรียมดอกไม้หนึ่งช่อให้นางทุกวัน แถมยังไม่ใช่ชนิดเดียวกันด้วย
วันนี้เป็นดอกจินจูเหมย พรุ่งนี้เป็นไป๋เหอ บางครั้งก็เป็นดอกไม้ป่าไม่รู้จักชื่อที่พบข้างทาง
เมื่อได้ยินว่าดอกถานฮวา(1)ในบ้านขุนนางชั้นผู้ใหญ่บางคนบานสะพรั่ง ก็มีคนจำนวนไม่น้อยไปเยือนจวนขุนนางคนนั้นในยามวิกาล เพียงเพื่อเห็นดอกถานฮวาบานกับตา
ด้วยเหตุนี้ท่านอ๋องจึงไปหาขุนนางคนนั้น ข่มขู่บีบบังคับให้เขาขายดอกถานฮวา เมื่อขุนนางคนนั้นไม่ยอม เขาก็ใช้เงินฟาด ฟาดจนกระทั่งขุนนางคนนั้นเปลี่ยนใจ
เขาย้ายดอกถานฮวาที่มีชื่อเสียงระบือนามไปทั้งเมืองหลวงกระถางนั้นกลับตำหนักอ๋องซู่ และได้รับการชื่นชมจากเจ้าท่อนไม้ ยามราตรีนั้นสองสามีภรรยานั่งอยู่ในศาลา รอเชยชมดอกถานฮวาบาน
ดอกถานฮวางดงามมาก ทั้งมีกลิ่นหอมสดชื่น วินาทีที่รอคอยสองสามชั่วยามเพื่อดูดอกไม้บานนั้นคุ้มค่านัก ทว่าค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเล็กน้อย
หากเฉียวเยี่ยนรู้ว่าดอกถานฮวากระถางนี้มู่ฉินเจินใช้เงินสองสามพันตำลึงซื้อมา เกรงว่าคงบิดหูแล้วด่าเขาว่าฟุ่มเฟือย
ความสัมพันธ์ของสองสามีภรรยากลับมาเป็นเหมือนเดิมนานแล้ว ทว่ามู่ฉินเจินยังคงรักษาความเคยชินในการส่งดอกไม้ให้นางทุกวัน จนแม้แต่เฉียวเยี่ยนก็ไม่รู้ว่าเขาไปหาดอกไม้มาจากไหนตั้งมากมาย
ณ ตอนนี้ ในห้องพวกเขามีแจกันดอกไม้วางไว้ทั้งขอบหน้าต่าง บนหลังตู้ บนโต๊ะชากับบนโต๊ะ และในนั้นก็ปักดอกไม้หลากหลายชนิดที่มู่ฉินเจินมอบให้เฉียวเยี่ยน
เมื่อเจ้าปลาอ้วนเห็นดอกไม้ในห้องมารดา ก็มักจะคร่ำครวญหูลู่หางตกอย่างน่ารัก พ่อของพวกเขามีเพียงท่านแม่ นางกับพี่ชายไม่ใช่ลูกรักตัวน้อยของเขาอีกต่อไปแล้ว
ย่างเข้าสู่เดือนเก้า เด็กทั้งสองปิดเทอมช่วงฤดูเกษตร ไม่ต้องไปเข้าเรียนอีก ตอนเช้าหลังจากตื่นนอนก็ถูกมู่ฉินเจินพาไปฝึกวรยุทธ์ บางครั้งก็พาพวกเขาไปฝึกต่อที่ค่ายทหาร
จวบจนปัจจุบัน เด็กน้อยทั้งสองฝึกวรยุทธ์ใกล้จะปีหนึ่งแล้ว ทักษะพื้นฐานทำได้ดีมาก ตอนนี้มู่ฉินเจินได้เริ่มสอนวิชามวยกับวิชาดาบให้พวกเขาบ้างแล้ว
เด็กน้อยทั้งสองได้รับการฝึกจากบิดาตนเสมือนทหารจิ๋ว ทุกกระบวนท่าเรียนตามได้เป็นอย่างดี
มู่ฉินเจินทำดาบไม้น้อยสองเล่มให้พวกเขา ซึ่งค่อนข้างเบา เหมาะให้พวกเด็กๆ ถือ และไม่ส่งผลกระทบการพัฒนาโครงร่างกายของพวกเขาด้วย
เด็กทั้งสองชอบฝึกวรยุทธ์มาก แม้อากาศร้อนจัดศีรษะเต็มไปด้วยเหงื่อ พวกเขาก็สามารถยืนหยัดต่อไปได้
หลังจากฝึกฝนในค่ายทหารมาทั้งวันก็กลับมาถึงบ้าน ขณะเด็กทั้งสองกินข้าวก็ง่วงจนสลึมสลือ บางครั้งยังไม่ทันกินข้าวเสร็จก็หลับคอพับอยู่บนโต๊ะแล้ว
เฉียวเยี่ยนทั้งสงสารทั้งขบขัน อยากให้เด็กทั้งสองพักผ่อนสองวัน ทว่ากลับถูกพวกเขาปฏิเสธ จะทุกข์จะเหน็ดเหนื่อยแค่ไหนพวกเขาก็จะฝึกฝน
พวกเด็กๆ อดกลั้นต่อความยากลำบากได้ นางปลื้มใจมาก ในการฝึกฝนนางมิอาจช่วยพวกเขาได้ จึงทำได้เพียงทำของอร่อยๆ เป็นจำนวนมาก ทำให้พลังงานที่สูญเสียไปได้เสริมขึ้นมาใหม่ผ่านทางอาหารแสนอร่อย
วันหนึ่ง จู่ๆ เฉียวเยี่ยนก็เกิดความคิดแปลกประหลาดขึ้นมา อยากทำชุดทหารจิ๋วให้เด็กทั้งสอง โดยทำตามแบบที่พวกทหารในค่ายทหารใส่ ชุดกางเกงยาวสีแดง ด้านนอกเป็นเกราะป้องกัน แล้วก็ยังมีหมวกทหารจิ๋ว
นางลากฮุ่ยเซียงมาศึกษาร่วมกัน หลังจากออกแบบเสร็จก็หาช่างเย็บมาช่วยเย็บให้
หลังจากได้รับชุดเครื่องแบบทหาร เด็กทั้งสองก็ตื่นเต้นอย่างมาก และถืออย่างไม่วางมือ เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ได้รับชุดไปแล้วก็รีบกลับห้องไปลองเปลี่ยนดูทันที เสี่ยวฉวนเอ๋อร์ซ่อนความรู้สึกไว้เล็กน้อย ไม่ได้วิ่ง แต่เดินเข้าไปในห้อง
ฮุ่ยเซียงกับเฟิงหยางก็ตามเข้าไปด้วย เพื่อช่วยเจ้านายน้อยทั้งสองเปลี่ยนผ้า
ไม่นาน เด็กทั้งสองก็ออกมาจากในห้อง และแทบทำให้ทุกคนรู้สึกว่าพวกเขาน่ารักมาก
ทหารจิ๋ว สวมชุดทหาร แล้วใส่หมวกทหารไว้บนศีรษะ ทั้งเท่ทั้งน่ารัก
มือน้อยเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์เท้าเอว ยืนอยู่หน้าประตูอย่างดุดัน กลิ่นอายนั้นเหมือนดังแม่ทัพหญิงที่ตรวจพลกองกำลังนับหมื่น
ส่วยเสี่ยวฉวนเอ๋อร์ยังตีหน้าเคร่งขรึมเช่นเคย ร่างกายยืนตั้งตรง มีท่าทางเหมือนทหารน้อยมาก
ใจดวงน้อยของเจ้าปลาอ้วนเต้นรัวไม่หยุด การเป็นแม่ทัพใหญ่คือความฝันของนาง
ท่านพ่อเคยเล่าเรื่องของแม่ทัพใหญ่ให้นางฟังมากมาย พวกเขาต่างเริ่มจากการเป็นทหารชั้นต่ำสุด ยามนี้นางได้เป็นทหารผู้น้อยแล้ว ห่างจากการเป็นแม่ทัพใหญ่ใกล้เข้ามาอีกหนึ่งขั้น
วันที่เจ็ดต้นเดือนเก้า หลังจากมู่ฉินเจินกลับมาจากว่าราชกิจก็ยังคงพาเด็กทั้งสองไปค่ายทหารเช่นเคย เฉียวเยี่ยนเตรียมของให้พวกเด็กๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว มีแก้วเล็ก ของว่างเพิ่มพลัง แล้วก็พลาสเตอร์ยา ยาใช้ภายนอก ด้วยกลัวว่าเด็กทั้งสองไม่ระวังจนบาดเจ็บเอาได้
………………………………………………………………………………………………………………………….
(1)昙花 ดอกโบวตั๋นหรือ queen of the night เป็นต้นไม้ตระกูลกระบองเพชร ดอกสีขาวมีกลิ่นหอม บานเพียงชั่วข้ามคืน พอรุ่งเช้าก็เหี่ยวแห้งไป จึงมีคำเปรียบเปรยกับความสุขเพียงช่วงสั้น ๆ ว่าความสุขชั่วระยะถานฮวาบาน
สารจากผู้แปล
ท่านอ๋องก็มีมุมโรแมนติกเหมือนกันน้า เหมือนรู้เลยว่าต้องง้อเมียยังไงถึงจะหายเร็ว
ได้คอสเพลย์ชุดทหารแล้วชอบใจใหญ่เลยล่ะสิ โดยเฉพาะเจ้าปลาอ้วน
ไหหม่า(海馬)