ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม? – ตอนที่ 201 นางแม่มดเฒ่า

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ตอนที่ 201 นางแม่มดเฒ่า

ตอนที่ 201 นางแม่มดเฒ่า

ทั้งจวนอัครเสนาบดีโกลาหลวุ่นวายจนเละเป็นโจ๊ก อี้จื่อจิ้นป่วยจนซมซาน มิรู้ว่าด้านนอกเกิดเรื่องอันใดขึ้น อัครเสนาบดีเองก็ส่งคนไประงับข่าวลือ ทว่ากลับไร้ผล ทางนี้ก็เพิ่งแก้เสร็จ ทางนู้นก็เกิดเรื่องขึ้นอีกแล้ว

บ้านรั่วยังถูกฝนเทกระหน่ำซ้ำทั้งคืน(1) ผู้คนที่เดิมทีมาสู่ขอกับจวนอัครเสนาบดีต่างพากันมาขอยกเลิก อี้จื่อจิ้นกลายเป็นเป้าหมายการเยาะเย้ยของบรรดาสตรีสูงศักดิ์ในเมืองหลวงไปชั่วพริบตา

เรื่องนี้แพร่จนรู้ไปทั่วทั้งเมือง ตอนที่อัครเสนาบดีไปว่าราชกิจก็อับอายจนเงยหน้าไม่ขึ้น และโยนความผิดทั้งหมดไปให้อี้จื่อจิ้น

ได้ยินว่าอี้จื่อจิ้นป่วยจนลุกจากเตียงไม่ได้หรือไม่ก็ป่วยเพราะโมโห เดิมทีหลังจากตกใจในวันนั้นอาการป่วยของนางก็ดีขึ้นแล้ว ทว่าหลังจากตื่นมาได้ยินข่าวลือตัวเองด้านนอก นางก็โมโหจนป่วยขึ้นมาอีกครา

เมื่อรู้ว่านางป่วย เฉียวเยี่ยนก็วางใจ และหาเงินเลี้ยงลูกเพิ่มกับมีความรักกับมู่ฉินเจินต่ออย่างมีความสุข

ย่างเข้าสู่เดือนสี่ อากาศอบอุ่นขึ้นมาก เหมาะแก่การไปท่องเที่ยวเป็นพิเศษ

เฉียวเยี่ยนเลือกวันพักผ่อนของมู่ฉินเจินกับเด็กทั้งสอง เตรียมออกไปท่องเที่ยวด้วยกัน

ในเมืองหลวงมีทะเลสาบอยู่แห่งหนึ่ง นามว่าทะเลสาบจื่อจู ว่ากันว่าทิวทัศน์งดงาม และเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมที่มีคนออกไปเที่ยวชมไม่น้อย

เฉียวเยี่ยนยังไม่เคยไปทะเลสาบจื่อจู จึงอยากจะไปเที่ยวดู

เมื่อได้ยินว่าออกไปเที่ยวข้างนอกได้ เด็กทั้งสองก็มีความสุขมาก ส่วนมู่ฉินเจินสูญเสียความสามารถในการครุ่นคิดไปแล้ว ทุกอย่างล้วนทำตามที่เฉียวเยี่ยนว่า

เช้าตรู่วันที่แปดต้นเดือนสี่ ครอบครัวเฉียวเยี่ยนสี่คนก็พาฮุ่ยเซียงกับพวกองครักษ์ออกเดินทางไปยังทะเลสาบจื่อจู

ระหว่างทางพบคนสัญจรไปมามากมาย และยังมีบุตรสาวของขุนนางในราชสำนักหลายคน ดูท่าทุกคนถือโอกาสในตอนฤดูใบไม้ผลิอันสดใสนี้ ออกจากบ้านไปท่องเที่ยวกัน

มู่ฉินเจินกับพวกองครักษ์ควบม้า ฮุ่ยเซียงอยู่กับเฉียวเยี่ยนและเด็กทั้งสอง ในปากเด็กๆ ยังมีแท่งน้ำตาลคนละแท่ง และโน้มหัวอยู่บนกรอบหน้าต่าง ตากลมโตชื่นชมทิวทัศน์ด้านนอก ท่าทางนั้นเหมือนแมวน้อยน่ารักสองตัวก็มิปาน

เด็กทั้งสองมองอย่างตื่นเต้น พลันเห็นรถม้าคันหนึ่งวิ่งขนาบมาด้านข้าง พวกเขาก็มองอย่างอยากรู้ ทว่ากลับเห็น ‘แม่มด’ ยื่นศีรษะออกมาจากม่านรถ

เด็ดน้อยทั้งสองหดหัวกลับเข้าไป และนั่งดีๆ อย่างเชื่อฟัง แถมยังดึงม่านในรถปิดอย่างแน่นหนา

เสี่ยวอวี๋เอ๋อร์ลูบอกน้อยตัวเองอย่างหวาดผวา ก่อนเอ่ยอย่างน่ารัก “ช่างน่าตกใจเสียจริง นางแม่มดเฒ่าดูน่ากลัวนัก”

เฉียวเยี่ยนขมวดคิ้วงามขึ้น พลางโน้มตัวออกไปแง้มม่านรถ มองหาว่าอะไรที่ทำให้พวกเด็กๆ ตกใจ

ทว่าทันทีที่แง้มม่านออก ก็ปะทะเข้ากับสายตาโหดเหี้ยมคู่หนึ่ง

เป็นอี้จื่อจิ้น มิรู้ว่าวันนี้เป็นความบังเอิญหรือเป็นความตั้งใจของใครบางคนหรือไม่

ทว่าเฉียวเยี่ยนไม่เก็บเรื่องพวกนี้มาใส่ใจ เมื่อมีข้าศึกก็ใช้ขุนพลรับมือ หากนางมีแผนไม่ดีหนึ่งร้อยอย่าง เช่นนั้นนางก็มีวิธีรับมือสองร้อยอย่าง

นางโบกมือให้กับอี้จื่อจิ้น ก่อนยิ้มจนดวงหน้าสดใสดุจแสงแห่งวสันตฤดู “เฮ้! คุณหนูอี้หายป่วยก็ออกมาท่องเที่ยวแล้วหรือ? ”

อี้จื่อจิ้นผอมซูบลงไปไม่น้อย สีหน้าก็ดูจืดชืดซีดเซียว เดิมทีวันนี้นางอยากออกมาผ่อนคลายอารมณ์ กลับไม่คิดเลยว่าจะเจอกับคนที่ทำให้เสียบรรยากาศ

และรอยยิ้มสดใสบนหน้าของเฉียวเยี่ยนนั้นก็ยิ่งทิ่มแทงเข้ามาในดวงตานาง นางถลึงตาใส่เฉียวเยี่ยน จากนั้นก็หดศีรษะกลับเข้าไปในรถม้า และดึงม่านปิด

เฉี่ยวเยี่ยนกลายเป็นผู้ชนะในยกแรก ก่อนกลับมานั่งดีๆ อย่างได้ใจ และเอ่ยกับเด็กทั้งสอง “ไม่ต้องห่วง นางแม่มดเฒ่านั่นตกใจจนหนีแม่ไปแล้ว”

เด็กทั้งสองปรบมือน้อยอย่างยกยอปอปั้นเป็นพิเศษ พลางสรรเสริญว่ามารดาช่างเยี่ยมยอด จากนั้นก็มองทิวทัศน์ด้านนอกอย่างมีความสุข

เฉียวเยี่ยนกระซิบกับฮุ่ยเซียงเสียงเบา “วันนี้จับตาดูอี้จื่อจิ้นให้ดี ระวังไม่ให้นางลงมือกับเด็กๆ ได้”

ฮุ่ยเซียงพยักหน้าอย่างจริงจัง เสมือนเผชิญหน้ากับศึกใหญ่ “หวางเฟยมิต้องเป็นห่วง บ่าวจะปกป้องดูแลเจ้านายน้อยทั้งสองให้ดีแน่นอนเจ้าค่ะ”

เฉียวเยี่ยนเห็นนางจริงจังเช่นนี้ ก็แตะศีรษะนางอย่างขบขัน “มิต้องกังวล ที่ควรเล่นก็ควรเล่น ทุกอย่างยังมีข้ากับท่านอ๋องอยู่”

ฮุ่ยเซียงถูกนางสัมผัสจนดวงหน้าแดงปลั่ง ความคิดที่จะแย่งหวางเฟยกับท่านอ๋องที่เก็บซ่อนเอาไว้เนิ่นนานพรั่งพรูออกมาอีกครั้ง

มิรู้ว่าโอกาสชนะท่านอ๋องของนางมีเท่าใด แต่ดูเหมือนจะเป็นตัวเลขที่น่าสมเพชกว่าศูนย์เสียอีก!

หลังจากมู่ฉินเจินที่อยู่นอกรถม้าเห็นรถม้าของจวนอัครเสนาบดี เขาก็มีความคิดเช่นเดียวกับเฉียวเยี่ยน จึงรับสั่งพวกองครักษ์ให้ระแวดระวัง ดูแลความปลอดภัยของเฉียวเยี่ยนกับเด็กทั้งสองในวันนี้เป็นพิเศษ

เมื่อมาถึงทะเลสาบจื่อจู เฉียวเยี่ยนลงจากรถม้าก็เห็นกลุ่มฝูงชน จึงอดขมุบขมิบริมฝีปากมิได้ คนมากมายเพียงนี้ นางมาวันนี้เพื่อนับจำนวนคนหรือไร? ไหนเล่าทิวทัศน์อันเงียบสงบที่คาดหวัง!

ดูเหมือน ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ล้วนเหมือนกัน ยามที่นักท่องเที่ยวน้อยพวกเขาล้วนไม่มีเวลาไป รอจนมีเวลาไปก็เป็นฤดูการท่องเที่ยวแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้ไปเที่ยวชมจุดชมวิว หากกลับถูกคนเบียดแน่นขนัด จนบางครั้งยังเก็บรอยเท้ามาได้หลายรอย

แต่ไหนๆ ก็มาแล้ว จะผิดหวังเพียงใดก็ต้องเดินต่อ

ครั้นหาจุดที่คนบางตาได้ เฉียวเยี่ยนจึงปูพรมลงบนพื้น จากนั้นจึงวางของกินทั้งหมดลงบนผืนพรม

เชยชมทิวทัศน์ไปด้วย กินของอร่อยไปด้วย แถมยังได้อาบแสงแดดแห่งวสันตฤดู เป็นวันที่น่ารื่นรมย์ยิ่งนัก

อย่าว่าเลย คนมากมายมาท่องเที่ยวก็มีเหตุผลเช่นกัน เพราะทิวทัศน์ที่นี่ช่างงดงามมากจริงๆ

ทะเลสาบจื่อจูกินอาณาบริเวณกว้างใหญ่ไพศาล ยามทอดมองออกไปไกลจะเห็นเป็นประกายระยิบระยับทั้งผืน ริมทะเลสาบล้วนเป็นสนามหญ้าเขียวชอุ่ม ดูผ่อนคลายยิ่งนัก

บนผืนหญ้าเขียวชอุ่มมีดอกไม้ป่าเบ่งบานอยู่มากมายหลากหลายสีสัน ดูสวยงามเหลือเกิน

บรรดานักท่องเที่ยวนั่งอยู่บนหญ้าเขียวชอุ่มเชยชมบรรยากาศ บางคนก็นั่งเรือที่ประดับประดาอย่างสวยหรูไปท่องเที่ยวในใจกลางทะเลสาบ

เด็กน้อยทั้งสองกินของว่างอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนพบว่ามีสหายร่วมชั้นของพวกเขาอยู่ใกล้ๆ นี้ด้วย พวกเด็กๆ เลยนัดกันออกไปเล่นด้วยกัน

เฉียวเยี่ยนไม่ได้ห้ามพวกเขา แต่ส่งองครักษ์คนหนึ่งตามเด็กๆ และปล่อยให้พวกเขาเล่นไป

พวกเด็กๆ ออกไปเล่นกันแล้ว เวลาที่เหลือก็เป็นช่วงเวลาของมู่ฉินเจินกับเฉียวเยี่ยนสองคน พวกองครักษ์กับฮุ่ยเซียงที่ดวงตามีแววก็ไปเดินเล่นทั่วทุกที่ ไม่รบกวนการพลอดรักกันของสองสามีภรรยา

แม้ฮุ่ยเซียงอยากชิดใกล้หวางเฟยมาก แต่เมื่อคิดถึงความสามารถของท่านอ๋องที่บิดหัวนางได้ นางก็ขอออกไปอย่างรู้งานเสียดีกว่า หากแต่ว่าตอนเดินไปนั้นนางแอบจ้องมองมู่ฉินเจินหลายครั้ง

แม้รอบข้างจะมีคน แต่มู่ฉินเจินก็ดึงเฉียวเยี่ยนมาอยู่ข้างกายตัวเองอย่างไม่สนใจใคร เฉียวเยี่ยนเองก็เอนศีรษะซบบนลาดไหล่ของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ

ทั้งสองพูดคุยกัน สนิทแนบแน่นไร้ช่องว่าง ผู้คนรอบๆ ที่เห็นภาพนี้ต่างอุทานว่าความสัมพันธ์ของท่านอ๋องกับหวางเฟยดีจริงๆ

และในเวลานี้ อี้จื่อจิ้นก็ยืนอยู่ไม่ไกลจากทั้งสองนัก ครั้นเห็นพวกเขาคุยกันกระหนุงกระหนิง หัวใจนางก็เจ็บแปลบมาเป็นระลอกๆ

เขาหาใช่ยิ้มไม่เป็น แต่แค่ยิ้มให้นางเพียงคนเดียว

เขาหาใช่ไม่อ่อนโยน แต่อ่อนโยนแค่กับนางเท่านั้น

นางมีตรงไหนที่สู้เฉียวเยี่ยนไม่ได้กัน? หากว่ากันในแง่ภูมิหลังสกุล ความรู้ การควบคุมอารมณ์ตัวเอง นางดีกว่าเฉียวเยี่ยนทุกอย่าง แล้วเหตุใดเขาถึงไม่เห็นนางอยู่ในสายตา?

อี้จื่อจิ้นกำสองมือแน่น ความไม่ยินยอมอันแรงกล้าพรั่งพรูขึ้นในใจอย่างฉับพลัน ทว่านางกลับทำอะไรไม่ได้

วันนั้น นางไปหามู่ฉินเจินด้วยมีจิตใจตั้งมั่นว่าจะได้อะไรบางอย่าง นางรู้ดีว่าไม่มีชายคนใดปฏิเสธสาวงามที่มาถวายถึงที่หรอก

สักวันหนึ่งเขาก็ต้องแต่งสนม อนุภรรยาเข้ามา แล้วเหตุใดคนๆ นั้นถึงเป็นนางมิได้?

อีกทั้งสถานการณ์ในราชสำนักตอนนี้ เรื่องเขาจะได้สืบทอดบัลลังก์เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้ว ขอแค่คำนึกถึงอนาคตข้างหน้า เขาก็ไม่มีเหตุผลใดต้องปฏิเสธนาง

เพราะการแต่งงานกับนาง ก็หมายความว่าได้รับการสนับสนุนจากทั้งจวนอัครเสนาบดี

ทว่านางไม่คิดเลยว่า เขากลับไม่เคยเปิดปากคุยกับนางสักคำ!

………………………………………………………………………………………………………………………….

(1)เกิดเรื่องร้าย ๆ ซ้ำขึ้นมาอีกในขณะที่ยังเดือดร้อน หรือมีความทุกข์อยู่ ประมาณว่าความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก

สารจากผู้แปล

โลกกลมอีกแล้ว ยิ่งเกลียดยิ่งเจอประมาณนั้นสินะ แถมได้มาเห็นภาพบาดตาบาดใจอีกต่างหาก เฮ้อ ยอมแพ้ตั้งแต่ตอนนี้เถอะคุณหนูอี้เอ๊ย ก่อนที่จะแพ้รุ่งริ่งไปมากกว่านี้

ไหหม่า(海馬)

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

ชายาผู้นี้ชอบทำสวน พวกเจ้าจะยุ่งทำไม?

Status: Ongoing
หลังตกภูเขาตายก็ได้มาเกิดใหม่ในร่างชายาอ๋องผู้ถูกเนรเทศที่กำลังคลอดบุตร​ แถมได้อยู่ในบ้านอันรกร้างมีแค่ที่ดินเปล่าๆ​ ผืนหนึ่งและระบบตัวช่วยชาวสวนที่จ้องแต่จะหักแต้มหากขี้เกียจ ต่อจากนี้ฉันจะทำยังไงดี?เรื่องย่อ: หลังพลัดตกภูเขาลงมาตาย​ วิญญาณของเฉียวเยี่ยนก็ได้มาเข้าร่างของหญิงสาวผู้หนึ่งที่กำลังท้องแก่ใกล้คลอดบุตร​อย่างไม่ทันตั้งตัว​ พอตั้งตัวได้ก็ต้องปวดหัวกับเรื่องที่พบเจอ​ ได้แก่…​ 1.ตนเป็นชายาอ๋องที่มีความผิดฐานบังคับจิตใจสามีจนถูกเนรเทศ​มาอยู่ในบ้านโกโรโกโสแห่งนี้​ 2.ตนมีลูกกับเขาผู้นั้นแล้ว​ และยังเป็นลูกแฝด​ชายหญิง 3.ตนมีระบบปลาเค็มคอยเป็นผู้ช่วยในภารกิจต่างๆ​ ติดตัวมาด้วย​ แต่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบมากกว่า​ ถ้าไม่ทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวก็จะโดนหักแต้มเฉียวเยี่ยนจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องงัดวิชาความรู้ทั้งหมดมาใช้ในการทำสวน​ หาเลี้ยงลูก​ สร้างฐานะให้ตัวเอง… ลำพังตัวข้าคนเดียวก็ทำได้โดยไม่ต้องพึ่งสามีอ๋องโบ้ผู้นั้นกระมัง?

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน