ตอนที่ 237 มีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดี
ตอนที่ 237 มีแนวโน้มพัฒนาไปในทางที่ดี
เกาจัวหยวนเป็นคนแรกที่สังเกตเห็นคนเดินมาแต่ไกล ครั้นเห็นร่างท่านอ่องกับหวางเฟย เขาก็ยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น จอบที่ถืออยู่ในมือก็ร่วงลงพื้น
หลิงเซียวที่กำลังขุดอยู่ด้านข้างเขาอย่างกระตือรือร้นก็ตะโกนใส่เขา “เจ้ารีบขุดสิ!”
หากท่านอ๋องกับหวางเฟยถูกฝังอยู่ด้านล่างจริงๆ ยิ่งพวกเขาเคลื่อนไหวเร็วเท่าไหร่ โอกาสที่เจ้านายทั้งสองจะรอดชีวิตก็มีมากขึ้นเท่านั้น
เกาจัวหยวนตบหัวเขาไปฉาดหนึ่ง ทำให้หัวเขาเปื้อนไปด้วยโคลนเป็นวงกว้าง พลางหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “จะขุดทำไมอีก ท่านอ๋องกับหวางเฟยกลับมาแล้ว!”
หลิงเซียวที่หัวเต็มไปด้วยโคลนยกเท้ากำลังจะถีบเขา พอหันกลับมา ถึงได้พบว่าท่านอ๋องกับหวางเฟยกำลังเดินมาหาพวกเขา
“ฮ่าๆๆๆ…”
เขาพลันหัวเราะเสียงดังออกมาเช่นกัน ความโกรธเมื่อครู่มลายหายไปในทันที พลางโยนจอบในมือทิ้ง วิ่งไปหาเฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจิน เมื่อองครักษ์คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ ก็วิ่งตามไปด้วย
เฉียวเยี่ยนมองพวกลิงโคลนบ้าคลั่งที่ร้องเจี้ยวจ้าววิ่งมาหาตรงหน้า ในหัวพลันผุดภาพหนึ่งขึ้นมา ผู้ป่วยทางจิตหนีออกจากโรงพยาบาลจิตเวชแล้ว!
เกาจัวหยวนวิ่งไปอยู่ตรงหน้ามู่ฉินเจิน ทำท่าจะกอดเขา มู่ฉินเจินเห็นว่าทั่วร่างเขาเปื้อไปด้วยโคลน ก็ก้าวถอยหลังไปหลายก้าวด้วยความรังเกียจ ก่อนตำหนิอย่างเย็นชา “ทำตัวปกติต่อหน้าเปิ่นหวางหน่อย!”
เกาจัวหยวนก็อยากจะเป็นปกติเหมือนกัน แต่เขามิอาจยับยั้งใจที่ตื่นเต้นของเขาได้ มันตื่นเต้นกว่าการฝันว่าเขาได้แต่งภรรยาเสียอีก
ทว่าตอนนี้ถูกท่านอ๋องรังเกียจเข้าให้แล้ว เขาพลันรู้สึกน้อยใจมาก อารมณ์ที่ทั้งน้อยใจทั้งตื่นเต้นผสมปนเปกันอยู่ภายในใจ ส่งผลให้ร้องไห้แงออกมาทันที
“นายท่านช่างไร้เหตุผล ข้าตามหาท่านมาทั้งคืน แต่ท่านกลับรังเกียจข้า…ฮื้อ”
มู่ฉินเจินรู้สึกขนลุกไปทั่วร่าง สีหน้าที่แสดงออกมาขยะแขยงมากเพียงใดก็มากเท่านั้น ในเวลานี้แทบอยากอุดปากอีกฝ่ายเสีย
ช่างทำให้คนอื่นขายหน้าเสียริง!
“เปิ่นหวางยังไม่ตายเสียหน่อย! ร้องไห้ไว้ทุกข์ให้ใครหา!”
เมื่อคำพูดเย็นชาของเขาดังออกมา เกาจัวหยวนรีบหุบปากฉับทันใด เพียงแต่ยังมีท่าทางน้อยใจอย่างมาก ราวกับมู่ฉินเจินเป็นชายชั่วที่ถกกางเกงเขาขึ้นแล้วไม่ยอมรับ
เฉียวเยี่ยนยืนปิดปากยิ้มมองอยู่ด้านข้าง นางกล้าฟันธงว่าท่านอ๋องของนางตอนนี้คิดวิธีจัดการเกาจัวหยวนหลายร้อยอย่างได้แล้ว
พวกพี่น้องของเกาจัวหยวนก็คิดว่าเขามันขายหน้านัก จึงพากันปิดหน้า
ใครอยากได้เจ้านี่ก็เอาไป พวกเขาไม่รู้จัก!
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งไปส่งมู่ฉินเจินกับเฉียวเยี่ยนกลับไปยังจุดช่วยเหลือ สองสามีภรรยาเพิ่งเข้าประตูไป ก็ได้รับการต้อนรับจากกลุ่มผู้ประสบภัยที่กระตือรือร้น
พวกเขาได้ยินว่าเมื่อวานเกิดดินโคลนถล่มใกล้เขื่อนกั้นแม่น้ำ ท่านอ๋องซู่กับซู่หวางเฟยก็หายตัวไปในบริเวณใกล้เคียงนั้น ทำให้พวกเขาเป็นห่วงตลอดทั้งคืน หลายคนคุกเข่าลงขอพรต่อเทพยดา เพื่อให้ทั้งสองคนปลอดภัย
เหล่าพี่สะใภ้และท่านป้าบางส่วนมาล้อมรอบเฉียวเยี่ยนสำรวจขึ้นลงบนร่างกายนาง เพื่อหาว่านางได้รับบาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่า
เฉียนเยี่ยนเห็นสีหน้าเป็นห่วงของพวกเขา ก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจทันใด ก่อนเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน “ข้าไม่เป็นไร ทุกคนไม่ต้องเป็นห่วง”
ท่านอ๋องกับหวางเฟยกลับมาโดยไม่มีอะไรบุบสลาย พวกผู้ประสบภัยทุกคนต่างเบาใจลง และกลับไปทำงานของใครของมัน
เฉียวเยี่ยนกับมู่ฉินเจินกลับไปเปลี่ยนผ้าที่ห้องก่อน พวกแม่ครัวทำอาหารเข้ามาส่งให้พวกเขา สองคนว่างอยู่บ้านหนึ่งวันอย่างหาได้อยาก ไม่ออกไปทำงาน
ผักที่เฉียวเยี่ยนกับผู้ประสบภัยปลูกไว้เริ่มเติบโตแล้ว เผือกกับรากสาคูในนาข้าวก็แตกหน่อ และผลิใบอ่อนออกมา ส่วนผักบุ้งกับผักชีล้อมก็งอกสูงกว่าสิบกงเฟิน ราวๆ อีกครึ่งเดือนก็สามารถเก็บเกี่ยวชุดแรกได้แล้ว
เฉียวเยี่ยนก็ไม่ปล่อยให้เพิงหญ้าฟางที่สร้างไว้ว่างเปล่า ปลูกกล้าผักกาดขาว ผักกวางตุ้งไว้ในนั้น ผักกาดขาว ผักกวางตุ้งพวกนี้เป็นผักที่ค่อนข้างทนความหนาวเย็นสามารถอยู่รอดผ่านฤดูหนาวไปได้ ตอนนี้ปลูกแล้ว ก็หมดกังวลเรื่องไม่มีผักกินในหน้าหนาวไปได้
นอกจากผักเหล่านี้ เฉียวเยี่ยนยังใช้ถั่วดำกับถั่วเหลืองที่คนรับประทานมากไปแล้วจะทำให้ท้องอืดมาเพาะเป็นถั่วงอก เมื่อไม่มีผักก็นำไปผัดสักหม้อ ทั้งกรอบทั้งนุ่ม พวกผู้ประสบภัยต่างชอบกินกันมากๆ
ตอนนี้การปลูกผักแบบไร้ดินได้กลายเป็นสมบัติของพวกผู้ประสบภัยไปแล้ว ทุกวันเฝ้าดูต้นกล้าผักที่ค่อยๆ เติบโตขึ้น ก็รู้สึกถึงความสำเร็จมากๆ
บรรยากาศหดหู่ก่อนหน้านี้ได้มลายหายสิ้นแล้ว พวกเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยความหวังต่ออนาคต เช่นเดียวกับต้นกล้าผักเหล่านี้ แม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย พวกมันก็สามารถเติบโตได้
……
งานซ่อมแซมเขื่อนกั้นน้ำยังคงดำเนินต่อไป บางส่วนที่ถูกปิดกั้นการไหลของน้ำถูกชะล้างออกแล้ว กระแสน้ำไหลได้ราบรื่น และระดับน้ำท่วมก็ลดลงมาก
มู่ฉินเจินยังส่งคนไปทำความสะอาดเส้นทางที่ถูกโคลนถล่มครั้งก่อน เส้นทางถูกตัดขาด เสบียงภายนอกไม่สามารถส่งเข้ามาได้ ผู้ประสบภัยของเมืองอันหยางและทหารพวกนี้ต้องหิวโหยแน่
จากทหารชั้นยอดหนึ่งหมื่นนายที่พามาจากเมืองหลวง บวกกับผู้ประสบภัยท้องถิ่น การบริโภคอาหารในแต่ละวันจึงสูญเสียไปจำนวนมาก เสบียงที่ราชสำนักส่งมาให้ บวกกับของบริจาคจากทุกฝ่ายจึงยืนหยัดอยู่ได้ไม่นานเท่าใดนัก
ฮ่องเต้เฒ่าให้ความสำคัญกับภัยพิบัติครั้งนี้มาก เงินส่วนพระองค์จำนวนมากล้วนใช้ไปกับการบูรณะหลังเกิดภัยพิบัติ และเสบียงชุดใหม่กำลังอยู่ระหว่างการเดินทางขนส่งมา
แม้สถานการณ์ของผู้ประสบภัยจะยังยากลำบากอยู่มาก ทว่าก็มีแนวโน้มไปในทางที่ดีขึ้น
บางทีพระเจ้าอาจจะสั่งให้ฝนตกจนพอแล้ว ช่วงนี้ฟ้าเลยแจ่มใสติดต่อกันมาสี่วัน
น้ำที่สะสมอยู่ในเมืองเกือบจะถูกระบายออกหมดแล้ว ผู้ประสบภัยหลายคนเดินหาของที่ใช้ได้ กินได้ไปตามท้องถนน บ้างก็วิ่งกลับบ้านเดิมของตัวเอง มองบ้านที่โคลงเคลงและถอนหายใจ ส่วนบ้านของบางครอบครัวหนักยิ่งกว่า ถูกน้ำพัดหายไปสิ้น
เมื่อแดดออก ต้นกล้าผักที่เหลืองเพราะขาดแสงก็ค่อยๆ เปลี่ยนไปดีขึ้น และเติบโตเขียวขจีมากขึ้น
เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนแล้วที่ปลูกผักบุ้งกับผักชีล้อม และตอนนี้ก็เก็บเกี่ยวได้แล้ว
ผักบุ้งอ่อนฉ่ำน้ำเป็นพิเศษ เมื่อใช้มือหยิกเบาๆ ก็จะสัมผัสได้ถึงความอวบน้ำ อีกทั้งวิธีการปรุงอาหารจากผักบุ้งก็ง่ายเป็นพิเศษ ใส่กระเทียมสับหนึ่งกำมือลงไปผัดในหม้อให้หอม แล้วใส่ผักบุ้งลงไปผัดด้วยไฟแรงให้สุกก็เป็นอันเสร็จ
ผักที่ตัวเองปลูกออกมาอย่างตั้งใจ กินเข้าไปอร่อยยิ่งนัก พวกผู้ประสบภัยแต่ละคนต่างพึงพอใจกันเป็นพิเศษ
ตอนนี้นอกจากกระแสน้ำไหลใกล้แม่น้ำที่ยังค่อนข้างอันตราย สถานที่อื่นๆ ล้วนปลอดภัยจนคนสัญจรไปมาได้แล้ว
ฤดูน้ำหลากตรงกับฤดูใบไม้ร่วง พืชผลมากมายถูกน้ำท่วมหมด ไม่สามารถเก็บเกี่ยวได้ ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก
มันคือมันเทศ!
หลายคนในอวี๋โจวปลูกมันเทศ ตอนนี้คือเดือนสิบแล้ว สามารถขุดได้นานแล้ว พวกผู้ประสบภัยในช่วงนี้จึงไปขุดมันเทศที่ทุ่งนา มันเทศที่ขุดได้จะถูกริบไป เพื่อใช้เป็นเสบียงสนับสนุนความอยู่รอดของกองทัพและผู้ประสบภัยทั้งหมด
หลังจากเถามันเทศถูกแช่อยู่ในน้ำ พวกมันก็เติบโตแน่นขนัด เฉียวเยี่ยนจึงให้พวกเขาดึงเถามันเทศมา ใบอ่อนใช้กินเป็นผักได้ ส่วนลำต้นก็นำไปปักชำได้
เมื่อพวกผู้ประสบภัยต่างยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง แรงกดดันต่อราชสำนักพลันลดลงไปอย่างมาก ฮ่องเต้เฒ่าจึงจัดสรรเงินก้อนหนึ่งเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งแจกจ่ายให้กับตามแต่ละครัวเรือน เพื่อเป็นทุนในการฟื้นฟูหลังภัยพิบัติของพวกเขา
หลังห่างบ้านไปสองเดือน เฉียวเยี่ยนก็คิดถึงลูกทั้งสองแทบบ้า ทุกครั้งที่มีจดหมายมาจากเมืองหลวง ลูกทั้งสองจะถามนางว่าเมื่อใดจะกลับไป ก่อนหน้านี้นางยังไม่แน่ใจ แต่ตอนนี้นางแน่ใจแล้ว อีกไม่เกินสิบวัน เมื่อเขื่อนกั้นน้ำซ่อมแซมเสร็จ พวกเขาก็สามารถออกเดินทางกลับไปได้
จะต้องรีบเดินทางไปก่อนวันเกิดครบรอบหกขวบของเด็กน้อยทั้งสอง
…………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
สงสารเกาจัวหยวน เป็นสนามอารมณ์ท่านอ๋องตลอดเลย
ปลูกผักสร้างงานสร้างกำลังใจจริงๆ โชคดีสำหรับผู้ประสบภัยแล้ว
ไหหม่า(海馬)