ตอนที่ 304 เด็กวัยนี้โหดขนาดนี้เลยหรือ?
ตอนที่ 304 เด็กวัยนี้โหดขนาดนี้เลยหรือ?
ชายสองคนที่อยู่ด้านหน้าสุดไม่ได้สนใจสิ่งของเล็กๆ สองอันนั้นเลย พวกเขาเอื้อมมือหมายจะจับคอเสื้อเด็กน้อย ทว่าเสี่ยวฉวนเอ๋อร์กับเสี่ยวอวี๋เอ๋อร์กระโดดหลบอย่างรวดเร็ว และปัดมือพวกเขาออก จากนั้นก็แทงกระบองไฟฟ้าใส่พวกเขา
ทันทีที่ปล่อยกระแสไฟฟ้า ทั้งสองก็ถูกไฟฟ้าช็อตจนตัวสั่น ดวงตาแข็งทื่อ
ชายอีกคนเห็นเช่นนี้ก็ยื่นมือออกไปดึงทั้งสองกลับมา ทว่าฝ่ามือแตะบนแผ่นหลังพวกเขาไม่ทันไร เขาก็ชักกระตุกตาม
ระบบตัวน้อยกับเสี่ยวอันอันฉวยโอกาสนี้รีบวิ่งไปอยู่ตรงหน้าพวกคนร้าย ชักกระบองไฟฟ้าของพวกนางออกมา และช็อตเสริมพวกเขาอีกจนน้ำลายฟูมปาก
กระบองไฟฟ้าไม่อาจช็อตคนให้ตายได้ หลังจากพวกเด็กๆ ช็อตคนจนล้มแล้ว ก็รุมตีทั้งสามคน ประหนึ่งใช้ค้อนทุบก็มิปาน
แม้แต่เสี่ยวอันอันที่ขี้กลัวมาก หลังได้ลิ้มลองความสนุกของการฟาดผู้คน ก็จับกระบองไฟฟ้าด้วยสองมือ และทุบลงไปอย่างมีความสุข
ในเวลานี้ชายสามคนมีเพียงความคิดเดียวในใจ ใครบอกว่าเด็กลักพาตัวไปขายได้ง่าย? รีบหยุดความคิดนั้นเดี๋ยวนี้เลย!
นี่มันเด็กที่ไหนกัน? เป็นปีศาจตัวน้อยชัดๆ !
พวกเด็กๆ ทุบตีคนอย่างสนุกสนานราวกับเล่นเกมทุบตัวตุ่นกันคนละโป้งป้าง ครั้นเฉียวเยี่ยนพาคนเข้ามา ก็เห็นภาพลูกทั้งสี่ของนางทุบคนอย่างดุร้าย
นางแอบภูมิใจอยู่ภายในใจ นี่แหละคือลูกของนาง เยี่ยมยอดจริงๆ !
เจ้าหน้าที่ที่ตามหลังมาต่างเบิกตาอ้าปากค้าง เด็กวัยนี้โหดขนาดนี้เลยหรือ?
หรือเป็นพวกเขาที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ตามการเปลี่ยนแปลงของยุคสมัยไม่ทัน?
เมื่อเด็กทั้งสี่เห็นมารดา ใบหน้าน้อยก็นิ่งค้างพร้อมกัน เมื่อได้สติกลับมา แต่ละคนก็เบะปาก ดวงตากลมโตเอ่อคลอน้ำตาอยากจะร้องไห้ออกมา
เฉียวเยี่ยนรู้สึกขมขื่นมาเป็นระลอก ก่อนวิ่งเข้าไปโอบเด็กๆ ไว้ในอ้อมแขน และกอดพวกเขาไว้แน่น และปลอบโยนพวกเขาทีละคน
ระบบตัวน้อยฉวยโอกาสนี้เก็บกระบองไฟฟ้าเข้าไปในมิติ เมื่อครู่พวกเจ้าหน้าที่เอาแต่สนใจเด็กน้อยตีคน ไม่ได้สังเกตกระบองไฟฟ้าในมือพวกเขาว่ามีอะไรผิดปกติ
พวกเด็กๆ หวาดกลัวกันมานานแล้ว เมื่อเห็นมารดา ก็เก็บอารมณ์เล็กน้อยไว้ไม่ไหวอีกต่อไป แต่ละคนร้องไห้อย่างเสียใจมากๆ เฉียวเยี่ยนได้ยินแทบใจสลาย
“เด็กดี แม่มาหาแล้ว ลูกของแม่เก่งมากๆ รู้จักช่วยเหลือตัวเอง แม่ภูมิใจในตัวพวกลูกยิ่งนัก”
เด็กๆ ร้องไห้อยู่พักหนึ่ง อารมณ์สงบขึ้นแล้ว แต่ละคนก็เหมือนกับกระต่ายน้อยอ่อนปวกเปียก ฟุบอยู่บนร่างของเฉียวเยี่ยนไม่ยอมห่าง
เฉียวเยี่ยนอยู่กล่อมเด็กๆ ส่วนพวกเจ้าหน้าที่ทำการค้นหาวังใต้ดินต่อ เมื่อหาห้องมืดที่ขังเด็กๆ ไว้พบ ก็พบว่ายังมีเด็กๆ อีกจำนวนมากที่ถูกขังในห้องมืดใกล้ๆ ซึ่งดูเหมือนจะถูกลักพาตัวไปขายเหมือนกัน
ทว่าเมื่อครู่พวกเด็กๆ วางยาสลบแรงเกินไป พวกเด็กเหล่านี้จึงสลบไป หลังจากพวกเจ้าหน้าที่เจอเด็กๆ ก็รีบพาออกจากวังใต้ดินไปหาหมอทันที
หลังจากนับจำนวนคนในหอแล้ว พบว่ามีเด็กทั้งหมดสามสิบสี่คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กหญิง และยังมีเด็กชายที่บอบบางงดงามอีกด้วย
ไม่คิดเลยว่าแม่เล้าหอเยี่ยนชุนแห่งนี้จะทำการค้ามนุษย์!
เฉียวเยี่ยนจินตนาการไม่ออกเลยว่า หากระบบตัวน้อยของนางไม่มีสูตรโกงหรือพวกเด็กๆ ของนางมีไหวพริบปฏิภาณ ก็ไม่รู้ว่าในอนาคตพวกเขาต้องเจอกับอะไร?
ถูกฝึกให้เป็นนักแสดงให้ความบันเทิง? หรือถูกทรมานจนไม่เป็นคน?
ยิ่งคิดนางก็ยิ่งโกรธ เด็กกว่าสามสิบคน ครอบครัวกว่าสามสิบครัวเรือน พ่อแม่ที่สูญเสียลูกไป ต้องใช้ชีวิตอย่างแทบขาดใจขนาดไหน!
คนเหล่านี้สมควรตายนัก!
วังใต้ดินมีทางหนีมากมาย ตอนเจ้าหน้าที่เข้ามาในวังใต้ดินเมื่อครู่ พวกเขาหนีไปทุกทิศทุกทาง ตอนนี้ค้นหาทั่ววังใต้ดินทั้งหมดแล้ว ก็จับมาไม่ได้มากนัก
อีกด้านหนึ่ง มู่ฉินเจินนำผู้คนเข้าล้อมรอบหอเยี่ยนชุนอยู่ไม่ไกลนัก และยังได้รับผลดีมากจริงๆ !
ลูกน้องแม่เล้าเหล่านั้นหนีออกมาจากทางลับ ทางออกของทางลับมีอยู่ทั่วทั้งถนนและตรอกซอกซอยรอบๆ หอเยี่ยนชุน ซึ่งอาจเป็นทางระบายน้ำใต้ดิน หรือรูที่ไม่เด่นใต้สะพานลอย หรือแม้กระทั่งปีนขึ้นมาจากบ่อน้ำแห้งในสวนหลังบ้านของคนอื่น
มู่ฉินเจินกับพวกเจ้าหน้าที่เป็นเหมือนนักล่าที่รอเก็บเกี่ยว เฝ้าต้นไม้รอกระต่าย คอยเหยื่อคลานออกมาจากหลุม
คนที่ยังคงอยู่ในถ้ำเห็นแสงสว่างข้างหน้าก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง คิดว่าตัวเองได้รับอิสระแล้ว กลับไม่คิดเลยว่าทันทีที่ปีนออกมาก็ถูกคนรวบตัวไว้ จากนั้นก็มีอีกมากมายหลากหลายคนมาต้อนรับพวกเขาและพาพวกเขาไปดำเนินคดีตามกฏหมาย
หลันหนิงกับพวกองครักษ์ตามล่าชายชุดดำที่หลบหนีอยู่ในเมือง
ประตูเมืองถูกปิดตาย ชายชุดดำเหล่านี้ปลอมตัว อยากกลมกลืนออกจากเมืองไป ทว่าทหารเฝ้าประตูตรวจคนเข้มงวดมาก พวกเขาไม่สามารถออกไปได้ จึงต้องทำการบุกฝ่าเข้าไป
มู่ฉินเจินกับเฉียวเยี่ยนได้สั่งให้พวกองครักษ์แยกกันไปเฝ้าแต่ละประตูแล้ว เมื่อมีคนบุกเข้าไปในเมือง ก็ให้พวกเขาจัดการได้เลย
ชายชุดดำเหล่านี้มีวรยุทธ์แกร่งกล้ามาก พวกองครักษ์กับพวกมันมีฝีมือพอๆ กันทว่ายังมีทหารเฝ้าประตูเมืองคอยช่วยเหลือด้วย ชายชุดดำจึงถูกจับเพราะอีกฝ่ายมีคนมากกว่า
ในที่สุดก็จับคนไว้ได้ เกาจัวหยวนอารมณ์ดีจนอยากจะบิน คลำหยิบถุงเท้าที่มียับย่นออกมาแล้วยัดเข้าปากชายชุดดำ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขากินยาพิษฆ่าตัวตาย
หลันหนิงก็มีหน้าที่จับชายชุดดำพร้อมกับพวกเขาด้วย เมื่อเห็นถุงเท้าที่เกาจัวหยวนหยิบออกมา ก็ขมวดคิ้วทันทีและออกห่างจากเขาอย่างขยะแขยง
ครั้นเกาจัวหยวนเห็นหลันหนิงออกห่าง ก็รีบเอ่ยอธิบาย”ถุงเท้านี่สะอาดแล้ว เมื่อรู้ว่าจะออกมาจับคน ข้าจึงคว้ามายัดไว้ในอก เพื่อนำมาใช้ปิดปากพวกเขา ไม่เชื่อเจ้าลองดมดูสิ ยังมีกลิ่นจ้าวเจี่ยว*อยู่เลย”
(*皂角(จ้าวเจี่ยว) เป็นฝักผลจากต้น 皂荚(จ้าวเจีย) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Gleditsia sinensis เป็นพืชดอกสมุนไพรของจีนที่ถูกนำมาใช้ทำเป็นสบู่ นำผลฝักมาบดและทำให้เกิดฟองมากเมื่อผสมในน้ำ ในสมัยราชวงศ์ถังยังมีบันทึกว่าสามารถใช้รักษาโรคผิวหนังและบำรุงเส้นผม)
ขณะเขาพูด ก็จะยื่นถุงเท้ามาข้างหน้าหลันหนิงด้วย แต่หลันหนิงดึงดาบออกมาขวางเขาไว้ ก่อนพ่นเสียงเย็นชาออกมา “ไสหัวไป!”
เกาจัวหยวนรู้สึกน้อยใจเหมือนสุนัขจรจัดที่ถูกทอดทิ้งทันที ก่อนเก็บถุงเท้า และยืนห่างจากนางออกไปสามฉืออย่างเชื่อฟัง
องครักษ์คนอื่นก็อารมณ์ดีเช่นกัน พบเจ้านายน้อย และจับคนร้ายได้แล้ว ส่วนเกาจัวหยวนก็ถูกหลันหนิงรังเกียจ ช่างเป็นวันที่ดีจริงๆ !
ฉุ่ยเหนียง แม่เล้าแห่งหอเยี่ยนชุนถูกรวบตัว พวกชายชุดดำที่ลักพาตัวเด็กๆ ก็ถูกจับ พวกชาวอำเภอชิงผิงที่ตื่นตระหนกกับความวุ่นวายก็สงบลงแล้วเช่นกัน
แต่ที่ไม่คาดคิดคือ ข่าวที่ทางการช่วยเหลือเด็กสามสิบสี่คนที่ถูกลักพาตัวจากหอเยี่ยนชุนได้เผยแพร่ออกไป ทั้งอำเภอชิงผิงพลันฮือฮาขึ้นมาอีกครั้ง
ด้วยความช่วยเหลือจากทางการ เด็กทั้งสามสิบสี่คนก็หาครอบครัวพบ บางคนเป็นชาวท้องถิ่นในอำเภอชิงผิงที่หายไปหลายเดือน และสมาชิกในครอบครัวแทบจะเป็นบ้าแล้ว
บางคนมาจากที่อื่น กระทั่งบางคนเป็นลูกของครอบครัวร่ำรวยด้วยซ้ำ!
แม่เล้าของหอเยี่ยนชุนแห่งนี้สติฟั่นเฟือน ทำกิจการเกี่ยวกับค้ามนุษย์มาตลอดสิบกว่าปี
ส่งคนไปปล้นเด็กๆ จากทั่วทุกที่ ฝึกฝนพวกเขาอย่างลับๆ ในวังใต้ดิน ฝึกพวกเขาให้เป็นคณิกาหรือกุยหนู* จากนั้นก็หาเงินให้นางหรือขายให้หอนางโลมอื่นในราคาสูง
(*龟奴 กุยหนู คำเรียกชายที่ทำงานเบ็ดเตล็ดต่างๆ ภายในซ่องในสมัยก่อน)
ก่อนหน้านี้มีเด็กหายไปในอำเภอชิงผิง ทางการเองก็ทำการปูพรมค้นหา ทว่าวังใต้ดินของหอเยี่ยนชุนถูกซุกซ่อนไว้อย่างลึกลับ จนพวกเขาหาไม่พบมาโดยตลอด
แต่ชายชุดดำที่ลักพาตัวเด็กสี่ตัวไปนั้น หาใช่คนของแม่เล้า ลูกน้องของนางไม่มีฝีมือเช่นนี้หรอก
แม่เล้าไม่ได้ตกลงมาตาย แต่ก็หายใจรวยริน ภายใต้การทรมานและสอบสวน นางจึงสารภาพตามจริง
ชายชุดดำเหล่านั้นกับนางเป็นแค่คนทำกิจการร่วมกัน บางครั้งพวกเขาจะลักพาตัวเด็กชั้นดีไปขายให้กับเขา ส่วนเจ้านายที่อยู่เบื้องหลังพวกเขา นางไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นใคร
หลายวันมานี้มู่ฉินเจินกับเฉียวเยี่ยนสอบปากคำชายชุดดำที่ถูกจับกุมด้วยกันกับทางการ ทว่าพวกเขาปากแข็งกันมาก แม้ถูกเฆี่ยนจนหายใจรวยริน ก็ไม่ยอมเปิดปากเอ่ยออกมาง่ายๆ
แต่พวกเขาพบว่าชายชุดดำเหล่านี้มีลักษณะอย่างหนึ่งที่เหมือนกัน คือมีรอยสักรูปเขี้ยวสีดำที่หลังเอวด้านขวา คาดว่าพวกเขามาจากองค์กรหนึ่ง
มู่ฉินเจินส่งคนไปวาดรอยสักนี้ และส่งคนของเขาไปสืบถามข่าวมา ส่วนหลันหนิงที่เพิ่งได้รับรูปรอยสักนี้มา ก็ตอบให้พวกเขาทันที
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เด็ก ๆ บ้านนี้โหดอย่างบอกใครเลยค่ะ คิดผิดคิดใหม่ได้นะถ้าคิดจะลักพาตัว
องค์กรอะไรกันนะ ใช่องค์กรที่หลันหนิงเคยอยู่ไหม
ไหหม่า(海馬)