พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 50

ตอนที่ 50

บทที่4ตอนที่20

 

 

「แย่แล้ว!」

 

 

โนโซมุที่มาถึงพื้นที่โล่งเมื่อวานสิ่งที่เข้าตาของเขาคือภาพของซีน่าที่ยิงลูกธนูและกระเด็นออกไป

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซ!!!!」

 

 

ผมวิ่งไปเต็มที่ตัดผ่านระหว่างซีน่าและสัตว์อสูรและใช้วิชาคิ “ปัดฝุ่น”ตัดปากของมัน

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซ!!」

 

 

สัตว์อสูรส่งเสียงร้องลั่นเพราะปากมันโดนโจมตีอีกครั้ง โนโซมุฟันใส่หัวของมันที่มีเลือดไหลท่วม โนโซมุอุ้มซีน่าและถอยกลับทันที

 

 

ซีน่าเบิกตากว้าง อาจเป็นเพราะเธอไม่อยากเชื่อภาพที่เห็นตรงหน้า อย่างไรก็ตาม เมื่อโนโซมุที่อยู่ตรงหน้าที่ควรจะหายไปแล้วเธอก็กลับมาได้สติอีกครั้ง

 

 

「นี่นาย! ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่!?」

 

 

เสียงแรกของเธอที่ออกมาจากปากคือการบ่นใส่โนโซมุที่เข้ามาช่วยเธอเอาไว้

 

 

「เกือบไปแล้วไม่ใช่เหรอไงยัยบ้า! จะงี่เง่าก็มีลิมิตกันบ้างสิ!!เธอคิดจะสู้คนเดียวทั้งที่ไม่มีโอกาสชนะเนี่ยนะ! เธอน่ะบ้ายิ่งกว่าผมอีกไม่ใช่เหรอไงกัน!!」

 

 

「อะอะไรเล่า!นายนั่นแหละบ้า!!ฉันกำลังหาวิธีเอาชนะมันอยู่ต่างหากเล่า!!」

 

 

ในทางกลับกันทั้งสองต่างทะเลาะ ต่างฝ่ายต่างโกรธซึ่งกันและกัน

 

 

「แล้วทำไมถึงทำท่าทางหมดหวังแบบนั้นละ!」

 

 

「หนวกหูน่า! ก็แค่พลาดไปนิดหน่อยเอง!!」

 

 

「พลาดนิดหน่อย!?แค่พลาดนิดเดียวนี่ถึงกับชีวิตทั้งชีวิตเลยรึไง!!」

 

 

พวกเราต่างพูดคุยกันไปมา ถึงมันจะไม่ใช่สถานการณ์ที่มาชวนคุยก็เถอะ แต่ทั้งสองกลับจริงจังหนักมาก

 

 

และการสนทนาเหล่านั้นก็ทำให้ทั้งสองต่างเปิดใจซึ่งกันและกัน เธอที่ถอดใจไปแล้วก็กลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซ!!!」

 

 

เสียงคำรามของมันดังก้องอยู่ในป่า ทั้งสองเองก็จ้องไปที่สัตว์อสูรและถืออาวุธ

 

 

「……」

 

 

โนโซมุพยายามเอาระเบิดเสียงและระเบิดแสงออกมาจากกระเป๋าโดยไม่ให้มันเห็น แต่ในวินาทีถัดมามันก็เข้ามาหาโนโซมุพร้อมกับฟาดหางของมันลงมาอย่างรวดเร็ว

 

 

「เวรเอ้ย!!」

 

 

โนโซมุกระโดดไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็วและหลีกเลี่ยงหางที่ฟาดมาจากด้านบน และโยนระเบิดแสงกับระเบิดเสียงไป เห็นได้ชัดว่าแผนเมื่อวานใช้ไม่ได้ผล

 

 

มีอีกหางหนึ่งที่กำลังฟาดฟันโนโซมุ โนโซมุหมอบลงและหลบหางที่ใกล้เข้ามาแต่หางที่เพิ่งหลบไปมันก็กลับมาโจมตีโนโซมุอีกครั้ง

 

 

เห็นได้ชัดว่ามันตัดสินว่าโนโซมุเป็นภัยคุกคามมากกว่าซีน่า โดยไม่สนใจซีน่าแม้แต่น้อยและเล็งโจมตีเขาอย่างเดียว มันพยายามทำให้โนโซมุหมดแรง

 

 

โนโซมุพยายามหลบการโจมตีแต่แขนและขาของมันก็เข้ามากระหน่ำโจมตีด้วย โนโซมุเลยต้องหาช่องว่างเพื่อสวนกลับ

 

 

ในทางกลับกันโนโซมุยังคงลังเลที่จะตอบโต้หางนั่นเขาเลยเคลื่อนไหวเล็กน้อยเพื่อหลบมัน

 

 

「อุหวาาา!」

 

 

โนโซมุหลบหางของมันด้วยการเคลื่อนไหวอันน้อยนิด แต่หางที่โดนหลบมันก็ฟาดลงพื้นอย่างแรงจนดินกระจายไปทั่วและเข้าตาโนโซมุ มันพยายามพุ่งเข้าหาโนโซมุที่หยุดเคลื่อนไหวชั่วครู่

 

 

มันพุ่งเข้าหาโนโซมุมาเป็นเส้นตรง

 

 

「หนอยแน่!!」

 

 

อย่างไรก็ตามซีน่าคอยประสานงานด้วยการเติบเต็มช่องว่างที่โนโซมุปล่อยออกมา

 

 

เธอเล็งไปที่เท้าของมันและยิงมันออกไป ลูกธนูทะลุขาหน้าซ้ายของมันและการเคลื่อนไหวของมันก็ช้าลงชั่วครู่

 

 

โนโซมุพุ่งเข้าทางด้านขวาที่ลูกศรปักลงไปและเมื่อโนโซมุจ้องมองไปที่เธอก็พบว่าเธอใจเย็นลงมากแล้ว เธอผ่อนคลายและตั้งสมาธิมีจิตใจพร้อมที่จะสู้ร่วมกับโนโซมุ

 

 

มันลังเลที่จะพุ่งผ่านโนโซมุและใช้หางทั้งสองโจมตีเขาในขณะที่ใช้ขามันขูดกับพื้นไปด้วย

 

 

โนโซมุม้วนตัวหลบและหางของมันก็ทะลุบริเวณที่เขาเคยอยู่

 

 

ขณะเดียวกันมันกระโดดพลิกตัวพร้อมกับพุ่งเข้าหาซีน่า มันปล่อยหางข้างหนึ่งไปโจมตีเธอ

 

 

ซีน่ากระโดดถอยหลบหางที่เข้ามาโจมตีเธอ คว้าลูกธนูสี่ดอกมาไว้ระหว่างนิ้วทั้งห้าและยิงมันออกไป เดิมทีลูกธนูที่เธอยิงออกมามีพลังเวทย์อยู่ด้วย

 

 

ต่อหน้าเธอแล้ว โนโซมุถูกสัตว์อสูรต้อนจนมุมอีกครั้ง แต่เธอก็ยิงศรสี่ลูกออกมาในคราวเดียว

 

 

เมื่อลูกธนูถูกยิงออกมาเป็นแถวระหว่างมันกับโนโซมุ มันพุ่งผ่านและระเบิดออกทันที ฝุ่นกระจายไปทั่วระหว่างโนโซมุกับสัตว์อสูร ซ่อนโนโซมุจากการมองเห็นของศัตรู

 

 

「ลุยเลย!!!」

 

 

โนโซมุพุ่งไปพร้อมกับเสียงตะโกนของซีน่า

 

 

ขณะที่พุ่งเข้าหาสัตว์อสูรด้วยก้าวพริบตา ดาบของผมก็ฟันออกไปและดามที่ถูกปล่อยออกไปมันบีบพลังคิจนถึงขีดสุด

 

 

โนโซมุพุ่งออกจากม่านควัน มันสังเกตเห็นเขาจากนั้นมันก็เอาหางทั้งสองทิ่มแทงโนโซมุ

 

 

โนโซมุหลบหางอันแรกด้วย “ก้าวพริบตา-ดาบเริงระบำ-”และเคลื่อนที่ไปในขณะที่เก็บดาบเข้าฝักในวินาทีนั้น

 

 

สัตว์อสูรพยายามจะกลืนกินโนโซมุด้วยกรามอันใหญ่โตแต่มันอยู่ในระยะโจมตีของเขาแล้ว

 

 

「ฟู่!!」

 

 

โนโซมุชักดาบออกมาขณะที่พุ่งเข้าไป

 

 

ดาบที่ถูกอัดพลังจนแน่นขนัดถูกชักออกมาและฟันไปยังไหล่ขวาของสัตว์อสูรจนลึกลงไป

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซ!!!」

 

 

เลือดจำนวนมากไหลออกจากบาดแผลที่ฉีกขาด มันคำรามออกมาด้วยความเจ็บปวด แต่กากตะกอนที่ปกคลุมร่างของมันพยายามสมานแผลทันที

 

 

「ใครจะยอมกัน!!」

 

 

โนโซมุดามฝักดาบในมือซ้ายก่อนที่แผลมันจะสมานกันมันค้างอยู่ยอ่างนั้นและบาดแผลก็ไม่ฟื้นฟูและเขาพยายามจะทำลายอวัยวะภายในของมัน……。

 

 

「ชิ!!」

 

 

ทันทีที่โนโซมุพยายามโจมตี มันสะบัดหางใส่เขา มันสะบัดหางฟาดโนโซมุโดยไม่สนใจว่าจะโดนร่างกายตัวเองแม้แต่น้อย

 

 

「บ้าเอ้ย!!」

 

 

โนโซมุลังเลที่จะปล่อยฝักดาบออก แต่เขาก็ไม่มีทางเลือกและปล่อยฝักดาบไว้และหยิบดาบมากันการโจมตี แต่ผมกันการโจมตีไม่ไหวจนกระเด็นไป

 

 

「อั่ก!!」

 

 

โนโซมุปลิวกระเด็นไปที่พื้นที่โล่งแล้วกระแทกเข้ากับต้นไม้ ผลกระทบของการกระแทกนั่นทำให้กระดูกในปอดหัก การเคลื่อนไหวของโนโซมุช้าลงเพราะแรงกระแทกอันรุนแรง

 

 

สัตว์อสูรไม่ปล่อยโอกาสให้พลาด มันรีบวิ่งไปหาโนโซมุที่พัดปลิวไปและพยายามจะใช้หางแทงเขา

 

 

อย่างไรก็ตามขณะนั้นเองก็มีลูกศรส่องแสงพุ่งทะลุเข้าปีกขวาของสัตว์อสูรมันเจาะบาดแผลที่โนโซมุทำไว้

 

 

วินาทีต่อมาลูกธนูระเบิดออกและมันทำให้บาดแผลเปิดกว้างขึ้นกว่าเดิมและคลื่นกระแทกนั่นก็พัดฝักของโนโซมุจนฝังอยู่ในเนื้อของมัน

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซ!!」

 

 

มันกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด แต่ถึงแม้บาดแผลจะใหญ่ขึ้นก็ตาม สัตว์อสูรมันจ้องไปที่ซีน่าด้วยดวงตาสีแดงนับไม่ถ้วนของมันด้วยความเกลียดชัง และมันหันปากอันใหญ่โตไปทางเธอ

 

 

พลังเวทย์สีดำสนิทก่อตัวขึ้นที่ช่องว่างของปากขนาดใหญ่ ซีน่าเองก็รู้สึกสั่นกลัวกับพลังนั่นจนเธอกระโดดหลบออกไป

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซ!!!」

 

 

ช่วงเวลาที่ซีน่าหลบออกไปลูกบอลแสงสีดำก็ถูกยิงออกไปจากปากของมัน

 

 

「คิย๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!!」

 

 

มันพุ่งตรงไปมวลดำมหาศาลที่ถูกปล่อยออกมาพัดต้นไม้จนปลิวออกไปและแสงสีดำก็กระจัดกระจายไปโดยรอบๆ และเกิดการระเบิดขึ้น ระหว่างนั้นเองโนโซมุพุ่งเข้าหามัน

 

 

「หึ!」

 

 

หลังจากระเบิดสงบลงโนโซมุที่ซีน่าที่เห็นต้นไม้ปลิวไปและพื้นดินที่แห้งเหือด

 

 

「อะ!!」

 

 

ซีน่ากัดฟันแน่น บางทีเพราะอาจจะเหมือนเรื่องที่บ้านเกิดของเธอ

 

 

โนโซมุจ้องมองมันไปตัดสินสถานการณ์อย่างใจเย็น แต่ซีน่าสภาพค่อนข้างแย่แล้ว

 

 

(แย่แล้ว! หากมันโจมตีระยะไกลได้ก็ไม่มีทางหนีได้แน่ๆ!!)

 

 

ไม่รู้ว่ามันปล่อยคลื่นคำรามสีดำนั่นบ่อยได้แค่ไหน แต่อย่างน้อยมันก็ไม่ปลอดภัยแน่ๆหากอยู่ไกลเกินไป เป็นฝ่ายมันที่กำลังได้เปรียบเพราะสามารถโจมตีเป็นวงกว้างได้ ยิ่งไปกว่านั้นยิ่งเวลาผ่านไปมากเท่าไรฝั่งมันจะยิ่งได้เปรียบ

 

 

มันพุ่งเข้าหาโนโซมุอีกครั้ง

 

 

โนโซมุที่กำลังคิดอยู่ และซีน่าพยายามใช้ลูกธนูแต่เธอยิงมาขัดจังหวะมันไม่ทันแน่ๆ

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซ!!」

 

 

(บ้าจริง!!ไม่มีทางเลือกแล้วสินะ!?)

 

 

โนโซมุสัมผัสโซ่ที่มองไม่เห็นที่ผูกมัดเขาเอาไว้ เขาพยายามที่จะไม่ทำลายมัน

 

 

การปลดปล่อย”พันธนาการ”จะใช้ก็ต่อเมื่อมีอันตรายถึงชีวิตเท่านั้น แต่ความกังวลของเขาก็คือเทียแมทที่อยู่ในตัวเขามันกำลังอาละวาดอยู่ภายในจิตใจ

 

 

ทุกครั้งที่มันก้าวเข้ามา โนโซมุก็ยิ่งว้าวุ่นใจมากยิ่งขึ้น ความรู้สึกหงุดหงิดเริ่มเพิ่มมากขึ้นและหัวกำลังจะโล่งไปหมดแล้ว

 

 

(ชิ!!!)

 

 

โนโซมุยังลังเลเช่นเดียวกับซีน่า เขาบีบโซ่ที่คว้าไว้ในมือ แต่เวลานั้นมันก็เข้ามาใกล้เขามากแล้ว

 

 

(โถ่วเว้ย! ไม่ใช่เวลามาลังเลแล้ว!!)

 

 

ปากมหึมาบดบังทัศนวิสัยของโนโซมุและพยายามกลืนกินร่างกายเขา แต่มือของโนโซมุยังกำโซ่ที่พันธนาการไว้แน่นและยังไม่ยอมขยับไปไหน

 

 

(ทำไมกัน!?)

 

 

โนโซมุรู้สึกหงุดหงิดเพราะเคลื่อนไหวไม่ได้ดังใจ

 

 

「……อาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา」

 

 

「โนโซมุคุง!?」

 

 

โนโซมุME่ร้องออกมามือของเขามันไม่ยอมขยับ มันไม่ยอมต่อต้านความตายที่กำลังใกล้เข้ามา แม้ว่าใกล้จะตายแล้วมันก็ยังไม่ยอมขยับ

 

 

เขี้ยวขนาดใหญ่เข้าใกล้พร้อมจะฉีกร่างโนโซมุนั้นเอง……。

 

 

「ย๊ากกกกกกกกกห์!!!」

 

 

เสียงของหญิงสาวบางคนที่ต่างออกไปจากซีน่า ก็พุ่งออกมา จากนั้นก็มีเงาสีดำพุ่งเข้ามาทางนี้

 

 

เงานที่กระโดดออกมาจากป่าพุ่งเข้าหาสัตว์อสูรสีดำด้วยพลังมหาศาล และกระแทกขาของเธอเข้ากับมัน นี่สินะสิ่งที่เรียกว่าดรอปคิก

 

 

บางทีเพราะอาจจะใช้เวทย์ลมหรืออะไรบางอย่างทำให้สัตว์อสูรที่โดนเตะปลิวไป

 

 

「……เอ๊ะ?」

 

 

เสียงตกใจออกมาจากปากของโนโซมุ

 

 

เงาที่เตะสัตว์อสูรนั่นหันกลับมาและล่อนลงพื้น

 

 

ลักษณะหูและหางของเผ่าแมวป่า และตาโตนั่นคือมิมุรุเพื่อนของซีน่า

 

 

「ซีน่าาาาาาาาาาาาาาาาาาา!!!!」

 

 

จากนั้นเธอก็หันหลังพุ่งเข้าไปหาซีน่าทันที ซีน่าเองก็ตกใจเหมือนกัน

 

 

「เอ๊ะ? ทำไมอะ?」

 

 

「ยัยเอลฟ์งี่เง่าเอ้ยーーー!!」

 

 

มิมุรุกระโดดเข้าหาซีน่าและผลักซีน่าลงพื้นพร้อมกับนัวเนียเธอ

 

 

「เน่เน่เน่เน่ หยุดนะーーー!!」

 

 

「ไม่หยุดหรอก!ยัยเอลฟ์โง่นี่!!การที่ปล่อยให้ฉันหนีไปคนเดียวแบบนี้ ฉันไม่ชอบใจเอาเสียเลย……。มาทำให้ฉันต้องโกรธและทอมต้องเป็นห่วงขนาดนี้ーーー!」

 

 

「…………」

 

 

「ไม่เป็นไรนะ?โนโซมุคุง」

 

 

「ทอมล่ะ……」

 

 

โนโซมุตกใจเล็กน้อยจากนั้นก็ถามถึงทอม ทอมเองก็โผล่มาจากทางด้านหลัง

 

 

「……ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่……」

 

 

「ใครจะปล่อยให้พวกเธอสองคนสู้อยู่ได้กัน และพวกเราเองก็มีเรื่องอยากจะบ่นซีน่าเยอะเลยล่ะ……」

 

 

ทอมจับมือผมและร่ายเวทย์รักษาให้ ทำให้ร่างกายของผมหายชาทันที

 

 

「ขอบคุณ」

 

 

「อืม ผมเองก็เป็นหนี้โนโซมุคุงเหมือนกันและก็ขอบคุณที่ช่วยปกป้องซีน่าด้วย……เอาไว้เดี๋ยวค่อยเทศทีหลังเลยยัยเอลฟ์บ้านี่……」

 

 

ทอมพูดเช่นนั้น เขาก็จ้องมองมิมุรุซึ่งยังคงนัวเนียกับซีน่าอยู่ ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเหี้ยมเกรียม แต่แววตากลับดูโล่งอก

 

 

◇◆◇

 

 

เมื่อโนโซมุรีบเข้าไปในป่าเพื่อพยายามตามหาซีน่าที่หายไป ผมกับมิมุรุก็ได้แต่ตกตะลึง

 

「…………」

 

「มิมุรุ……」

 

มิมุรุจ้องมองจดหมายที่ซีน่าทิ้งเอาไว้ มือที่ถือจดหมายนั่นสั่นเทา และเขามองไม่เห็นใบหน้าของเธอเลย แต่เธอกัดฟันแน่นราวกับอดทนกับบางสิ่ง

 

「……มิมุรุ」

 

ทอมเรียกเธออีกครั้ง ผมรู้จักเธอดี เพราะเธอเป็นคนรักของผม

 

「……เป็นความผิดของฉันเอง……」

 

「……หา?」

 

「ซีน่าที่ออกไปคนเดียว……มันเป็นความผิดของฉัน……เพราะฉันต่อว่าเธอเกินไป……ฉันรู้ว่าซีน่าไม่ได้ตั้งใจ……เธอเองก็พยายามจะขอโทษในแบบของเธอและบังคับให้โนโซมุคอยอยู่ที่นี่อีก……」

 

มิมุรุมีน้ำตาไหลอาบแก้มและหยดน้ำตานั่นก็ไหลลงจดหมายซองนั้น

มิมุรุรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากเพราะทอมได้รับบาดเจ็บหนักและโทษว่าเป็นความผิดของซีน่า

 

 

「……มิมุรุผมเองก็เสียใจเหมือนกัน」

 

「……หืม?」

 

「ถ้าผมไม่เร่งที่ปล่อยเวทย์ในเวลานั้นก็คงไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ถ้าผมสู้ได้ดีกว่านี้อีกหน่อยสถานการณ์มันคงจะดีขึ้นกว่านี้ ผมเองก็คงไม่ต้องเป็นตัวถ่วงทุกคน ถึงแม้จะต้องเจ็บตัวก็ตาม」

 

นั่นคือความเสียใจของผม จนถึงตอนนี้ผมเอาแต่ศึกษาและค้นคว้าและไม่เคยฝึกต่อสู้เลยสักครั้ง ผมไม่ได้พยายามให้มันดีขึ้นเลย

มันอาจจะดีขึ้นหากผมได้ฝึกและมีประสบการณ์มากกว่านี้ แต่การเรียน ทดลองและอ่านหนังสือมันสนุกกว่าสำหรับผม

 

แต่ด้วยเหตุนี้เอง ยามเจอสัตว์อสูรผมก็มักจะเป็นตัวถ่วงเพราะไม่เคยคิดที่จะฝึกการใช้เวทย์ ทำให้เอาแต่พึ่งพาพลังเพียงอย่างเดียว เพราะฉะนั้นเลยทำให้โนโซมุคุงต้องโดนลูกหลงไปด้วย เขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ดีเพราะโดนลูกหลงของผม

มันเป็นไปไม่ได้ที่จะต่อสู้ไปพร้อมกับปกป้องคนเจ็บไปด้วยในสถานการณ์เช่นนั้น ยิ่งกว่านั้น ผู้บาดเจ็บยังเป็นผม ตัวผมที่ทำให้โนโซมุต้องบาดเจ็บก็กลายเป็นภาระอันหนักหนาให้เขามากไปอีกขั้น

 

 

「ผมเสียใจมากที่ทำอะไรไม่ได้……」

 

「ทอม……」

 

 

มิมุรุเงยหน้าขึ้นและจ้องมองมาที่ผมทั้งน้ำตา

ลมพัดผ่านป่า ความเงียบเกิดขึ้นระหว่างผมกับเธอ

 

 

「……พอคิดถึงมันแล้ว พวกเราไม่เคยรู้เกี่ยวกับเรื่องของซีน่ามาก่อนเลยใช่ไหม?……」

 

「……อืม ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเธอก็ไม่เคยเล่าอะไรให้พวกเราฟังเลย……」

 

「นั่นเป็นความจริงเลยล่ะเธอเองก็ค่อนข้างสวย……และเธอเองก็ค่อนข้างเก่งนั่นเป็นเหตุผลที่ฉันกลัว~~」

 

「อืม~~ไม่รู้สินะว่ามันจะโอเคไหมที่จะพูดแบบนี้ แล้วจะทำยังไงกับซีน่าต่อไปดีล่ะ~~」

 

 

มิมุรุยิ้มพร้อมกับแสดงสายตาซุกซน ดูเหมือนว่าเธอจะเริ่มกลับมาเป็นตามปกติแล้ว

 

 

「……เลวร้ายมากๆเลยล่ะ นั่นล่ะคือคำที่เหมาะกับเธอที่สุดแล้ว……」

 

 

เมื่อพูดเช่นนั้นผมก็จ้องไปยังส่วนลึกของป่าที่โนโซมุวิ่งไป

 

 

「……ใช่แล้ว มีเรื่องที่จะต้องถามซีน่าให้ได้ไม่ว่ายังไงก็ตาม ต้องถามให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ถ้าเกลียดเธอเข้าละก็เพราะฉะนั้นก็ต้องไม่ยอมแพ้ที่จะรู้เรื่องของเธอใช่ไหมล่ะ!」

 

 

พวกเราพูดเช่นนั้นพร้อมกับเริ่มวิ่ง โชคชะตาได้ตัดสินให้พวกเราเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรสีดำ นั่นคือสิ่งที่เพื่อนแบบพวกเราคิดกับเธอแบบนั้นล่ะ

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท