พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” – ตอนที่ 47

ตอนที่ 47

บทที่4ตอนที่17

 

「อิย๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

สัตว์ร้ายสีดำผลักทอมลงไปและเริ่มเขี้ยวแขนขวาของเขาอย่างสนุกสนาน ทอมกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดอย่างรุนแรง

 

 

「ทอมมมมมมมมมม!!!! หนอยยยยย! ปล่อยนะโว้ยยยยยย!」

 

 

มิมุรุกรีดร้องและฟันไปที่มัน แต่มีดของเธอทำอะไรผิวหนังมันไม่ได้แม้แต่น้อย มันไม่แม้แต่จะชายตามองเธอด้วยซ้ำ

 

 

「ฟู่!!」

 

 

โนโซมุที่ตามมาจากด้านหลังรีบวิ่งเข้ามาจากอีกด้านหนึ่งซึ่งมีมิมุรุกับสัตว์อสูรอยู่ตรงนั้น

 

 

เป้าหมายของโนโซมุคือตัดขากรรไกรของมัน ขณะที่ดึงดาบออกมาเขาก็ใส่คิลงไปในดาบนั่นคือวิชา “ขาดสะบั้น”และกระแทกมันเข้าไปที่ข้อต่อของขากรรไกรบนและขากรรไกรล่าง

 

 

「อุกโอววววววววววววววววววว!!」

 

 

ข้อต่อขากรรไกรอันแสนเปราะบางพังทลายลงและสัตว์อสูรที่กรามหักก็ปล่อยแขนขวาของทอม

 

 

นอกจากนี้โนโซมุยังตามมันต่อไป

 

 

จับมือทั้งสองข้างไว้ที่สะโพกและบีบอัดพลังคิลงไป ผมใช้ คิ “ปืนใหญ่” เข้าไปที่ร่างของมัน

 

 

ปืนใหญ่นั่นไม่สามารถเป่ามันให้กระเด็นไปได้ก็จริงแต่กระแสพลังอันรุนแรงที่ปล่อยในระยะใกล้นั่นทำให้มันกระเด็นถอยไปเล็กน้อย และมิมุรุก็เข้าไปในช่องว่างที่โนโซมุสร้างให้ ซีน่าเองก็เข้ามาหาและรักษาระยะกับสัตว์อสูร

 

 

「ทอม! ทอมมมมมม!!แข็งใจไว้!!!」

 

 

「อึ่กกกกกก……」

 

 

มิมุรุเรียกทอมทั้งน้ำตา แต่อาการไม่ค่อยดีนัก แค่มองจากภายนอกก็รู้แล้วว่าอยู่ในสภาพที่อันตรายเป็นอย่างมากเพราะช็อคจากการเสียเลือดจำนวนมากและยังไหลไม่หยุด

 

 

「แค่ก แค่ก!!!」

 

 

สัตว์อสูรสีดำนั่นไม่สามารถปิดปากของมันได้เพราะกรามของมันหักลง และมันก็แลบลิ้นออกมาแล้วส่งเสียงแปลกๆ

 

 

เมื่อโนโซมุมองไปที่ซีน่า เธอเองก็ยืนตะลึง

 

 

「นี่! นี่!! ทำใจดีๆไว้!!!」

 

 

「ฉะฉัน ฉันนน…………」

 

 

เธอสับสนอย่างมากและยังไม่พร้อมที่จะสู้

 

 

โนโซมุตบหน้าเธอพร้อมกับขึ้นเสียง

 

 

「นี่ ตั้งสติไว้สิ!!ซีน่า・จูเรียล!!!」

 

 

「………………อาาาาาาา」

 

 

สติของเธอเริ่มกลับมาและเธอยังจับแก้มของเธอ

 

 

โนโซมุยืนยันที่เห็นเธอได้สติแล้ว ก็ต้องเผชิญหน้ากับสัตว์อสูรอีกครั้ง บางทีมันอาจจะทนจากการที่กรามหักได้และพ่นเลือดของมันออกมาและหยุดเคลื่อนไหวชั่วครู่

 

 

「ผมจะล่อมันเอาไว้!!เพราะงั้นรีบตั้งสติได้แล้ว!!」

 

 

เมื่อโนโซมุพูดเช่นนั้นและมองไปทางมิมุรุที่กำลังเสียใจกับการที่เห็นทอมกำลังถูกฆ่า ซีน่าเองก็พยักหน้าหลายครั้งเห็นด้วย

 

 

「เข้าใจแล้ว เพราะงั้นรีบออกจากที่นี่ไปซะ……อั่ก!!」

 

 

โนโซมุพยายามไล่พวกเขาให้ออกไปจากที่แห่งนี้

 

 

ตอนที่โนโซมุโจมตีมันเกิดเส้นแสงแนวตั้งขึ้นทันใดนั้นกรามของมันก็หักลงทันที ทันใดนั้นหัวของสัตว์อสูรมันก็เริ่มฉีกขาดพร้อมกับส่งเสียงออกมา

 

 

「เกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย……」

 

 

「อาาาาาาาาาาาา…………」

 

 

ขณะที่มิมุรุมองดูอย่างตกตะลึงและซีน่าเองก็ทำท่าทางหวาดกลัว สัตว์อสูรมันก็เริ่มเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง

 

 

ขณะนั้นเองหัวของมันหักลงในแนวดิ่ง และเขี้ยวนับไม่ถ้วนก็งอกมาจากหัวและคอที่ขาดออกไป เขี้ยวใหญ่สามเขี้ยวงอกออกมาจากปากขนาดใหญ่และดวงตาโตคู่หนึ่งก็ปรากฏขึ้นบนคอของมัน

 

 

ร่างกายของมันใหญ่ขึ้น เล็บเท้าก็ใหญ่ขึ้นและคมขึ้นมันไม่ใช่หมาป่าอีกต่อไปและกลายเป็นสัตว์ประหลาดโดยสมบูรณ์

 

 

「กิ๊กก๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!」

 

 

สัตว์อสูรคำรามพร้อมกับอ้าปากกว้าง

 

 

「……………………」

 

 

โนโซมุเห็นแล้วก็ตัดสินใจได้ว่าถ้าหนีไปทั้งสี่คนเป็นไปไม่ได้แน่ๆ แล้วก็ไม่สามารถหนีไปพร้อมกับปกป้องคนเจ็บได้

 

 

(อย่างน้อยที่สุดก็ต้องการตัวล่อหรืออะไรสักอย่างมาหยุดมัน…………มิมุรุก็ปกป้องทอมอยู่……ซีน่าเองก็ยังคงสติแตกทำอะไรไม่ได้…………สุดท้ายแล้วก็เป็นผมสินะ……)

 

 

มิมุรุอุ้มทอมเอาไว้ ซีน่าเองก็จ้องมองเธอเช่นกัน นี่ต้องทำงานหนักอีกแล้วเหรอ

 

 

ถ้าจะรอดโดยไม่ทิ้งใครก็คงยากมาก……。

 

 

「นี่ซีน่า」

 

 

「เอ๊ะ?」

 

 

โนโซมุหยิบแผนที่ออกมาจากอกของเขาและส่งให้ซีน่า

 

 

「นี่เป็นแผนที่ของบริเวณนี้ ถ้าไปที่กระท่อมที่เขียนไว้บนแผนที่ จะพบกับเครื่องมือสำหรับรักษาคนเจ็บที่นั่น ดังนั้นหลังจากรักษาทอมเสร็จแล้ว ให้คอยดูแลเขาสักหนึ่งคืน และเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นให้รีบกลับไปที่เมืองทันทีและรายงานเกี่ยวกับสัตว์อสูรตัวนี้ซะ」

 

 

โนโซมุสั่งด้วยน้ำเสียงจริงจังทำให้ซีน่าพูดอะไรไม่ออกสถานที่ๆผมให้ไปคือกระท่อมของชิโนะ นี่เป็นที่เดียวที่จะทำการรักษาได้ในตอนนี้

 

 

ในคนจำนวนไม่มากนี้ ผมไม่สามารถใช้เวทย์รักษาได้ ไม่มีเวลามาให้เสียแล้วด้วยกับคนที่ใช้เวทย์ไม่ได้ควรจะอยู่เป็นตัวล่อที่นี่

 

 

「แต่ว่า ถ้างั้นนายก็…………」

 

 

สายตาของซีน่าสลับไปมาระหว่างผมกับทอม แววตาของเธอสั่นไหว และดูเหมือนเธอจะทำอะไรไม่ถูกและได้แต่รู้สึกผิด

 

 

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาปลอบใจเธอหรอก

 

 

「เดี๋ยวผมจะเป็นตัวล่อให้เองผมอยู่ที่นี่คนเดียวได้! เพราะงั้นไปรักษาทอมและคอยดูอาการเขาซะ! ผมไม่มีค่าพอให้พวกเธอมาสนใจหรอก!! เพราะฉะนั้นให้ความสำคัญกับเพื่อนของเธอเถอะ!!!」

 

 

โนโซมุตะโกนใส่ซีน่าที่ยังคงลังเล ซีน่าสั่นเทิ่มกับน้ำเสียงของเขา แต่โนโซมุเองก็ได้แต่ใช้เสริมพลังกายและเข้าหาสัตว์อสูรโดยไม่พูดอะไรต่อ

 

 

โนโซมุฟาดเท้าลงกับพื้นไว้แน่นพร้อมกับตั้งท่ามั่นสุดกำลัง

 

 

ในเวลาเดียวกันป่ารอบๆก็ปลิวไสวเพราะแรกกระแทกเหล่านั้น มันบดบังทัศนวิสัยของศัตรูและกลายเป็นฝุ่นดินที่คอยบดบังพวกซีน่าเอาไว้

 

 

「ไปซะ!!!!」

 

 

「……ขอโทษนะ! โนโซมุคุง!! เพราะฉะนั้นฝากที่นี่ด้วยนะ!!」

 

 

「อืม!!!」

 

 

ในเวลาเดียวกันโนโซมุก็ตะโกนตอบรับคำพูดของมิมุรุ เธอเริ่มออกวิ่งโดยแบกทอมไว้ด้านหลัง แต่ซีน่ายังคงนิ่งอยู่ชั่วครู่

 

 

เขาหลับตาแน่นและยืนอยู่อย่างมั่นคง ทันทีที่เขาหันกลับไปก็หายเข้าไปในป่าแล้ว

 

 

หลังจากควันหายไป สัตว์อสูรที่เปลี่ยนร่างก็พุ่งเข้าหาโนโซมุและคนอื่นๆ

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุเตรียมการไว้แล้ว

 

 

โนโซมุไม่เห็นซีน่าแล้ว แต่ในขณะที่เขาพุ่งเข้าไปในหมอกควันเขาก็เอื้อมมือหยิบกระเป๋าที่เอวของเขาและขว้างสิ่งของเหล่านั้นใส่สัตว์อสูร

 

 

ผมขวางทั้งระเบิดแสง ระเบิดควันและระเบิดฟ้าร้องไปด้วย

 

 

ระเบิดแสง ระเบิดควัน ระเบิดเสียงต่างทำงานเกิดแสงวูบวาบและเสียงระเบิดดั่งสนั่นไปทั่ว

 

 

「ก๊าซซซซซซซ!!!」

 

 

มันหยุดลงทันทีที่โดนระเบิดเข้าไป โนโซมุวิ่งไปด้านข้างและวิ่งไปทางป่าตรงข้ามกับพวกเขา

 

 

โนโซมุเลือกที่จะเป็นตัวล่อในสถานการณ์นี้และพามันไปที่ป่าตรงข้าม แทนที่จะสู้กันแบบตัวต่อตัว แต่ว่าผมไม่สามารถทนให้มันไล่ตามคนอื่นๆไปได้ เลยวิ่งไปด้านหน้าเพื่อล่อมันแทน

 

 

「ก๊ากกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

โนโซมุวิ่งต่อไป สัตว์อสูรสีดำเองก็วิ่งตามเขาไปในป่าเช่นกัน

 

 

◇◆◇

 

 

「ก๊าชชชชชชชชชชชชชชชชชชช!!!」

 

 

เสียงคำรามสั่นสะเทือนทั่วทั้งบริเวณโดยรอบ เสียงฝีเท้าของสัตว์อสูรขนาดยักษ์ที่กำลังไล่ตามโนโซมุ

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก!!」

 

 

ประมาณ 10 นาทีแล้วหลังจากที่โนโซมุล่อมันออกมา การเล่นวิ่งไล่จับกับสัตว์อสูรยังคงดำเนินต่อไป

 

 

เมื่อพิจารณาถึงความสามารถที่แตกต่างกันระหว่างโนโซมุกับสัตว์อสูรแล้ว เขาอาจจะโดนมันแซงหน้าและกินเข้าก็ได้ แต่ว่าโนโซมุเองที่ชำนาญพื้นที่เองก็ไม่ยอมให้ตัวเองเสียเปรียบหรอก

 

 

ป่าที่เขาวิ่งอยู่นี่ก็เหมือนสนามเด็กเล่นหลังบ้านของเขา เขาฝึกกับชิโนะมาจนจำทางในป่าได้หมดแล้ว โนโซมุรู้ถึงแม้กระทั่งจุดล่าและจุดหลบพวกสัตว์อสรูมากยิ่งกว่านักผจญภัยในเมือง

 

 

โนโซมุเลือกที่จะหลบเข้าไปในป่าที่สั้นที่สุดและมีแมกไม้เยอะที่สุด สัตว์อสูรที่มีร่างกายขนาดใหญ่มันไม่สามารถผ่านพื้นที่แคบง่ายๆ ดังนั้นมันต้องวิ่งชนต้นไม้ส่วนใหญ่อยู่แล้วจึงไม่สามารถจะตามเขาทัน

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุเองก็ไม่สามารถสลัดมันให้หลุดได้อย่างสมบูรณ์ระยะห่างระหว่างทั้งสองแทบไม่ต่างจากเดิม

 

 

เห็นได้ชัดว่าโนโซมุยังคงเสียเปรียบ

 

 

(ต้องรีบออกจากที่นี่ในไม่ช้า แต่ก็ยังใช้เวลากว่าจะถึงที่นั่น ไกลขนาดนี้จะไปถึงทันไหม?)

 

 

เมื่อมองย้อนกลับไปก็พบสัตว์ร้ายสีดำที่กำลังไล่ตามมาพร้อมกับปากอันใหญ่โต

 

 

(โอ้ววววววว! ยังคงแข็งแรงดีเหมือนเดิมเลยนะ!! แต่ว่าผมเองก็จะแพ้ไม่ได้เช่นกันーーー!)

 

 

ที่ๆโนโซมุเล็งไว้คือที่ๆมีทางยาวไปจนถึงที่นั่น ถ้าไปถึงที่นั่นก็มีโอกาสรอด แต่ตอนนี้มันน่าจะตามทันก่อนละมั้ง

 

 

ในขณะนั้นเองโนโซมุก็นึกถึงบางอย่างออก

 

 

(……ใช่แล้ว! ถ้าใช้สิ่งนั้นก็หยุดไอนี่ได้!! แต่ว่าก็เกิดคำถามขึ้นมาว่ามันยังใช้ได้อยู่รึเปล่า……)

 

โนโซมุเปลี่ยนทิศทางวิ่งทันที อ้อมไปนิดหน่อย แต่ถึงอย่างนั้นก็ไปถึงเป้าหมายได้แน่นอน อย่างไรก็ตาม หากหยุดมันไม่ได้จริงๆก็ต้องสู้กันแล้ว

 

 

 

「ชิ!!」

 

 

โนโซมุเบือนหน้าเล็กน้อย หลังจากคิดที่จะปลดปล่อย “พันธนาการ” แน่นอนว่าจำเป็นต้องสู้และเอาชนะมันด้วย

 

 

อย่างไรก็ตามโนโซมุยังไม่สามารถจัดการข้อสงสัยในใจได้

 

 

ตัวตนที่ฆ่าและพรากชีวิตที่เขาเห็น ภาพเมื่อวานที่ตัวผมทำลงไปและเหนือสิ่งอื่นใดคือตัวผมที่ปล่อยตัวเองไปตามอารมณ์เหล่านั้น ทำให้ลังเลที่จะปลด “พันธนาการ”

 

 

ขณะที่โนโซมุยังลังเลฉากตรงหน้าก็เปลี่ยนไป

 

 

ช่องว่างระหว่างต้นไม้ที่รกรากกว้างขึ้น และมีต้นไม้หนาๆโตอยู่รอบๆ

 

 

(อะ! เวรละ!!)

 

 

โนโซมุยังคงลังเลที่จะปลด”พันธนาการ” เขาเล็งไปที่จุดหนึ่ง แต่ว่ามันกำลังตามมาติดๆทำให้ระยะห่างกำลังสั้นลง

 

 

ในที่สุดพื้นที่ราบก็ถูกตัดออกและมีพื้นที่ลาดชันเข้ามาในสายตา

 

 

โนโซมุวิ่งไปตามทางลาดชันด้วยพลังเต็มที่

 

 

ถ้าผมก้าวพลาดและล้มลงละก็เจ็บหนักแน่ๆ แต่ตอนนี้ผมลดความเร็วลงไม่ได้

 

 

มันยังคงไล่ตามโนโซมุมาติดๆ

 

 

ระยะห่างระหว่างโนโซมุและมันก็สั้นลงจนในที่สุดมันก็อยู่หลังโนโซมุแล้ว

 

 

มันอ้าปากกว้าง ปากขนาดใหญ่เปิดออกทั้งซ้ายและขวาเป็นสีแดงสดๆและมีเขี้ยวนับไม่ถ้วนกำลังส่งเสียงดังและมีปากวงกลมอีกอันเพื่อรอที่จะขย้ำเหยื่อ

 

 

โนโซมุพยายามอย่างเต็มที่ที่จะหนีจากมันแต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล

 

 

และในขณะที่ขากรรไกรมันจะกัดโนโซมุนั้นเอง โนโซมุก็หายตัวไปจากการมองเห็นของมัน ความเจ็บปวดอันแสนรุนแรงแล่นไปที่เท้าของมันจนเลือดกระเด็นไปทั่ว

 

 

「ก๊าชชชชชชชชชชชช!!!!」

 

 

ตัวมันเสียสมดุลในทันที มันพยายามลุกขึ้น แต่ก็ล้มลงและกลิ้งลงไปในทางลาดชันนั่น

 

 

「ก๊ากกกกกกกกกกกกกกกก!!」

 

 

โนโซมุเองก็เสียการทรงตัวและไม่มั่นใจในฝีเท้าของตัวเองแต่เขาก็ปรับท่าทางและเริ่มวิ่งลงตามทางลาดชันพร้อมกับมันที่กำลังกลิ้งลงไป

 

 

สิ่งที่โนโซมุใช้ในการเปลี่ยนทิศทางวิ่งก็คือ “ก้าวพริบตา-คมดาบเริงระบำ-”ทันทีที่ศัตรูเข้ามาในพื้นที่ของเขา เขาหลบไปทางด้านข้างของมันและใช้ “คมดาบผ่ามายา”ฟันไปที่ขาของมัน

 

 

สัตว์อสูรที่เท้ารับน้ำหนักจนเกินตัวทำให้มันไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ทำให้มันกลิ้งลงมาตามทางลาดชัน

 

 

「แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก…………」

 

 

มันเป็นความเสี่ยงสูงพอตัวเลยละราวกับเดินไต่เชือก

 

 

ถ้าพลาดแม้แต่นิดเดียวก็จะกลิ้งตกลงไปไม่ก็โดนมันกินไปแล้ว

 

 

โนโซมุที่วิ่งลงมาจากทางลาดชันไม่สามารถตรวจสอบตัวมันได้และยังคงวิ่งต่อไป……。

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซ!!!!!」

 

 

เสียงคำรามของมันดังก้องเข้ามาในหูของโนโซมุ

 

 

หากมองข้ามพลาดไปแม้แต่ก้าวเดียว สัตว์อสูรจะตามจนถึงที่สุด

 

(ชิบหายแล้ว! อย่างที่คิดพลาดสินะ!!!น่าอีกนิดเดียวเพราะงั้นเงียบทีโว้ย !!)

 

 

เดินทีโนโซมุเองก็ไม่คิดว่าจะเอาชนะมันได้ง่ายขนาดนั้น แต่ว่าถ้ามันกลิ้งต่อไปเรื่อยๆจะโดนต้นไม้ขนาดยักษ์ตรงหน้า

 

 

(อ๊ะ!! ขอร้องละ! ได้ผลทีเถอะ!!)

 

 

โนโวมุวิ่งขึ้นไปที่ด้านข้างของต้นไม้และเตะหินก้อนใหญ่ใต้ต้นไม้นั่น

 

 

วินาทีต่อมาก็ บะซูม! เมื่อหินกลิ้งไปด้านข้างพร้อมกับเสียง เชือกที่ถักทอเป็นรูปตารางปรากฏขึ้นทีละตัวระหว่างโนโซมุและสัตว์อสูร。

 

 

โนโซมุที่โดนไล่ตามจนหมอนั่นล้มลง มันพยายามจะหนี แต่ว่าเชือกมันก็พันเข้ากับร่างกาย

 

 

ในขั้นต้นกับดักนี่ถูกสร้างขึ้นเพื่อไว้ใช้หนีจากสัตว์ร้ายที่มาโจมตีโนโซมุ ที่ถูกทิ้งไว้ในป่าโดยชิโนะเป็นคนสร้างให้

 

 

ผมคิดว่ามันคงไม่ดีถ้านักผจญภัยคนอื่นๆมาเห็นที่นี่ ดังนั้นกับดักที่ทำไว้จึงไม่มีพลังในการสังหาร และผมก็พยายามไม่ให้มันทำงาน เว้นแต่จะขยับหินที่เป็นกุญแจสำคัญของกับดักนี้

 

 

นอกจากนี้โนโซมุยังวางกับดักพวกนี้ไว้สำหรับดักจับสัตว์ป่าอีกด้วย

 

 

เพื่อให้โนโซมุซี่งมีความแข็งแกร่งทางกายภาพน้อยกว่าคนทั่วไปอยู่รอดได้ จึงจำเป็นต้องใช้ตัวช่วยในการแก้ปัญหา

 

 

ที่กล่าวมาก็คือกับดักสำหรับจับกุมนั่นล่ะ ยิ่งกว่านั้นมันก็ผ่านมานานมากแล้วทำให้เชือกที่ทอด้วยหญ้ามันไม่ค่อยแข็งแรงนัก

 

 

แน่นอนว่าเชือกมันทนต่อไอ้นี่ไม่ไหวหรอก

 

 

「อย่างที่คิดเลยーーーー!!」

 

 

เดินทีก็คิดไว้แล้วว่ามันไม่น่าจะทนได้ โนโซมุจึงวิ่งต่อไป

 

 

เมื่อมองเห็นโนโซมุที่ออกไกลจากต้นไม้ สัตว์อสูรที่มันเห็นเช่นนั้นก็ดิ้นและไล่ตามโนโซมุต่อ

 

 

(อีกนิด อีกนิดเดียวเท่านั้น!!)

 

 

จุดหมายของโนโซมุใกล้เข้ามาแล้ว แต่สัตว์อสูรมันก็ใกล้มาทุกที

 

 

ในที่สุดก็เห็นจุดหมายปลายทางช่องว่างระหว่างต้นไม้ที่รกเป็นพื้นที่

 

 

มีคนแคระผิวสีเขียวอยู่ที่นั่น เต็นท์ที่ทำจากไม้ และ ใบไม้และผิวที่เรียงติดกัน กะโหลกของเหยื่อที่ถูกเสียบไม้เรียงกันเป็นแถว เปลวไฟที่ลุกโชนที่นี่และที่นั่น และเหยื่อที่ถูกล่ากำลังโดนย่าง

 

 

ใช่แล้วหมู่บ้านก็อบลินนั่นเอง

 

 

หมูบ้านนี้โนโซมุพบมันในป่า ตั้งแต่เริ่มฝึกกับชิโนะ ตอนนั้นเขาคิดว่าสู้กับก็อบลินไม่ไหวเลยปล่อยทิ้งไว้

 

 

ที่ทางเข้าหมู่บ้านมีก็อบลินที่เฝ้าดูแลอยู่และพบโนโซมุที่กำลังวิ่งมา

 

 

「กีกี้!!!」

 

 

ตอนแรกพวกก็อบลินคิดว่ามีคนบุกเข้ามาคนเดียว พวกมันจึงยิ้มและเรียกพวกมา บางทีเขาก็แอบคิดว่ามันคงจะโง่เกินไปหน่อย ใครมันจะมาหมู่บ้านก็อบลินคนเดียวกันล่ะ แต่ทันทีที่มันเห็นสัตว์อสูรด้านหลัง ใบหน้าของมันก็ซีดทันทีและเริ่มหงุดหงิด

 

 

ก็บอลินตัวอื่นๆที่เรียกมาโดยก็อบลินผู้พิทักษก็เริ่มหนีไปพร้อมๆกัน

 

 

โนโซมุไม่สนใจพวกก็อบลินและกระโจนเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับสัตว์อสูรที่ตามมา

 

 

ฐานของก็อบลินมันตั้งแบบสุ่มๆ

 

 

พวกที่พกอาวุธเอย พวกที่หนีไปเอย พวกที่ไม่รู้จะทำยังไง

 

 

อย่างไรก็ตามได้ยินเสียงพวกมันร่ำไห้ด้วยความระส่ำระส่าย

 

 

ในขณะเดียวกันโนโซมุและสัตว์อสูรที่วิ่งตามเขามาก็ทำให้พวกมันเกิดความสับสน

 

 

โนโซมุรีบเข้าหมู่บ้านของพวกมันและใช้ประโยชน์จากที่แห่งนั้นเพื่อหนี

 

 

อย่างไรก็ตามมันยังคงไล่ตามโนโซมุคนเดียว

 

 

(ตอนนี้แหละ!)

 

 

เต็นท์ขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นได้ตรงหน้าโนโซมุน่าจะเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าถิ่นที่นี่ จากทางเข้าเต็นท์ก็เห็นได้ว่ามีก็อบลินตัวใหญ่กว่าก็อบลินรอบๆอย่างเห็นได้ชัด มันเป็นก็อบลิน ลอร์ด เป็นเจ้าของหมู่บ้านแห่งนี้

 

 

ก็อบลินลอร์ดออกมาพร้อมกับพยายามจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อมันเห็นโนโซมุและสัตว์อสูรมันก็ตะโกนก้อนทันที

 

 

「ก๊าซซซซซซซซซซซซซซซ!!」

 

 

「อุกโอววววววววววววววววววววววววววว!!!!」

 

 

「กาโอววววววววววววววววววว!!!」

 

 

โนโซมุ ก็อบลิน ลอร์ด และสัตวอสูรสีดำรีบเข้าไปในเต็นท์ของหัวหน้าเผ่า

 

 

โนโซมุรีบพุ่งเข้าเต็นท์พร้อมกับใช้ “ก้าวพริบตา -ดาบเริงระบำ-” ทันทีที่เขาเข้าไปในเต็นท์ สัตว์อสูรก็เริ่มมองไม่เห็นโนโซมุเนื่องจากความมืดของเต็นท์นั่นเองและโจมตีก็อบลิน ลอร์ดที่อยู่ตรงหน้า

 

 

ขณะที่ก็อบลิน ลอร์ดกำลังกรีดร้องโนโซมุวิ่งไปด้านนอกทันทีและตัดเชือกที่ค้ำเต้นท์เอาไว้ พังเต็นท์จนมันคลุมสัตว์อสรู

 

 

เดินทีโนโซมุพยายามจะปิดตามันด้วยเต็นท์ขนาดใหญ่ ขณะที่หลบหนีก็อบลิน ลอร์ดดันโผล่มาซะงั้นเพราะฉะนั้นก็ดวงซวยหน่อยนะ

 

 

โนโซมุหลบหนีอย่างรวดเร็วในขณะที่สัตว์อสูรยังคงอาละวาดอยู่ภายในเต็นท์

 

 

「แฮ่ก! แฮ่ก! แฮ่ก!!」

 

 

ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาเริ่มถึงขีดจำกัด นอกจากนี้ ก็อบลินเองก็โกรธแค้นที่โนโซมุบุกมาแต่เขาก็หนีไปได้สบายๆ

 

 

หลังจากนั้นก็อบลินมันก็ลังเลว่าจะตามไปดีไหม สัตว์อสูรสีดำมันก็ออกมาจากเต็นท์แล้ว

 

 

สัตว์อสูรสีดำตัวนั้นที่ไม่เห็นโนโซมุก็โจมตีพวกก็อบลินด้วยความโกรธ

 

 

โนโซมุวิ่งต่อไป โดยไม่สนเสียงกรีดร้องของก็อบลินที่ดังเข้ามาในหู

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ” ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดยนำบางส่วนมาจากนิยาย เรื่อง พันธนาการจ้าวมังกร เชื่อมใจ สู่ “หัวใจ”

บทนำ

สถาบันโซลมินาติ เป็นสถานที่รวมตัวของเหล่าคนหนุ่มสาวที่มีควาฝันทะเยอทะยานมากมาย มีชายคนหนึ่งที่เข้ามาเรียนที่นี่เพื่อสนับสนุนความฝันของคนรัก อย่างไรก็ตาม ความสามารถของชายคนนั้นที่ไม่มีดีด้านไหนเลย ก็ถูกผู้คนต่างกลั่นแกล้ง คนรักก็ทอดทิ้ง ความหวังในชีวิตต่างสูญหาย ช่วงเวลาแห่งชีวิตมาถึงจุดเปลี่ยน ยังไงก็ตามเขาพบกับหญิงชราผู้หนึ่งที่จะคอยเปลี่ยนแปลงเขาไปตลอดการ นี่คือเรื่องราวของชายผู้ที่ถูกทอดทิ้งจะกลับมาลุกขึ้นสู้อีกครั้ง

เรื่องย่อ

สถาบันโซลมินาติ สถานที่ๆคนหนุ่มสาวจากทั่วทุกดินแดนจะมารวมตัวกันเพื่อต่อยอดความฝันและความหวังของตัวเอง ความทะเยอทะยาน สำหรับคนที่ไม่มีอะไรดีสักด้านนั้นจะถูกมองด้วยสายตาเหยียดหยามถูกปฏิบัติแบบไร้ซึ่งมนุษย์ธรรมโดยสมบูรณ์

เป็นเวลากว่าสองปีแล้วที่ชั้นอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ข้า โนโซมุ เบลาตี้ ซึ่งอยู่บนดาดฟ้าของโรงเรียนในช่วงพักกลางวัน

ข้ามาที่นี่เมื่อสองปีก่อน ออกมาจากบ้านเกิดกับเพื่อนสมัยเด็กสองคนเพื่อมายังที่แห่งนี้

คนแรกคือ เคน โนทิส เป็นเพื่อนที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

ส่วนอีกคนหนึ่ง คือ ลิซ่า เฮาวน์

สาวสวยผู้มีผมหางม้าสีแดง

เป็นคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตและเป็นคนรักของข้า

เธอเป็นคนที่เอาชนะคนอื่นได้เสมอ เธอเป็นเหมือนดั่งตัวร้ายที่คอยต่อต้านกับหัวหน้าหมู่บ้าน

ข้าพบกับเธอก็เมื่อตอนอายุ 8 ขวบ ตอนที่ข้ากำลังตกปลาในแม่น้ำใกล้หมู่บ้าน

「อะ เอ่อ อืม ว่างหรือเปล่า?」

เป็นตอนนั้นเองที่เธอเข้ามาพูดกับข้า

ผมสีแดงตัดสั้น ท่าทางที่ดูมั่นใจ ใบหน้าของข้าค่อยๆร้อนรุ่ม…ข้าตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น

พ่อแม่ของเธออาศัยอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลออกไป แต่เมื่อพ่อของเธอเสียชีวิตระหว่างเดินทาง เธอจึงตัดสินใจที่จะตั้งถิ่นฐานที่บ้านเกิดของข้า

ตอนเธอยังเด็กมักจะเป็นเด็กที่ซุกซนและอารมณ์ฉุนเฉียว แต่ข้าก็ไม่ได้รังเกียจอะไร และเธอไม่ใช่คนยอมแพ้อะไรง่ายๆ

แล้วก็เด็กที่ทำให้เธอผิดหวังมากที่สุดก็คือนายพลกาคิกับผมด้วยเหตุผลบางอย่าง

เมื่อสามปีก่อนข้าสารภาพรักกับเธอเพราะว่าไม่สามารถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป

รักแรกที่ข้าชอบมาตลอด

เธอตกใจมากกับการสารภาพรักที่กระทันหันของข้า แต่เธอก็ยอมรับข้าและร้องไห้ทั้งน้ำตา

ตอนนั้นเองข้าจึงตัดสินใจที่จะไปสถาบันโซลมินาติกับเธอเพื่อสนับสนุนความฝันของเธอให้เป็นจริง

มันเป็นแรงบัลดาลใจให้ข้า ความฝันของเธอที่บอกข้าตอนยังเด็ก

「ฉันน่ะอยากจะเห็นโลกที่หลากหลายเหมือนกับคุณพ่อ」

ข้ารู้ว่าเธออยากออกไปท่องโลกกว้างเพราะเธอได้ยินเรื่องราวเหล่านั้นมาจากมารดาของเธอ

ตอนนั้นเองเป็นตอนที่ข้าตัดสินใจไปที่สถาบันโซลมินาติ

หากคนที่ตัวเองรักอยากทำความฝันให้เป็นจริง ข้าก็ควรจะสนับสนุน

ด้วยคำพูดเช่นนั้นข้าตัดสินใจว่าจะสนับสนุนเธอตลอดมา

เธอกอดข้าทั้งน้ำตาพร้อมกับบอกว่า「ขอบคุณนะ……ฉันดีใจจริงๆ」

ท่ามกลางการหลับกลางวันของข้าก็ได้ยินเสียงระฆังที่ส่งเสียงบอกเวลาว่าหมดเวลาพักกลางวันแล้ว

ข้าลุกขึ้นพร้อมกับบิดตัวด้วยความขี้เกียจพร้อมกับมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน

ถูกบังคับให้ไสหัวไปก็ตั้งหลายครั้ง ตัวข้าที่ไม่สามารถทำคำปฏิญาณนั่นได้

ชั้นเรียนของข้าคือ ชั้นเรียนที่สอง ระดับ 10 เป็นห้องที่ต่ำที่สุดในบรรดาชั้นเรียนที่สอง

ในหมู่พวกนั้นข้าเป็นคนที่อยู่ต่ำสุดเรียกได้ว่าเป็นพวกที่ห่วยของโครตห่วย

เมื่อข้าเข้ามาในชั้นเรียนก็โดนต้อนรับด้วยการหัวเราะเยาะเย้ยเป็นเรื่องปกติ

「ยังจะโผล่หัวมาอีกนะ ไอชั้นต่ำ」

「เมื่อไรมันจะหายๆไปสักทีวะ」

「หวังว่าจะลาออกไปไวๆน้า~」

เสียงที่ดูไร้หัวใจเหล่านั้นเสียดแทงเข้ามาในจิตใจของข้า ข้าทำได้แต่เมินต่อไปและนั่งลงบนเก้าอี้

เมื่อข้านั่งลงก็มีนักเรียนสามคนเข้ามาทางข้า

「แกจะมาทำไม ในเมื่อแกมาที่นี่มันก็ไร้ความหมายอยู่ดีไม่ใช่เหรอไงวะ ไอ้เศษเดนเอ้ย」

มาร์ที่ตัวค่อนข้างใหญ่พูดข่มขู่ข้า

「ยอมแพ้ไปสักทีเหอะวะแกไม่คิดว่ามันเสียเวลาชีวิตบ้างเหรอวะ」

「แกโดนแกล้งขนาดนี้ก็เหมาะกับแกดีนี่ เหมาะสมกับเศษสวะอย่างแก」

พวกนั้นก็ยังคงกรนด่าข้าไม่หยุด

「ช่ายๆ โดนเด็กผู้หญิงหัวแดงที่ท่าทางเหมือนเจ้าหญิงนั่นทิ้งแล้ว ไม่มีอะไรให้แกได้ฝันอีกต่อไปแล้วล่ะ」

พวกนั้นทั้งสามคนยังยืนหัวเราะและพยายามยั่วโมโหข้า ไม่มีใครคิดจะห้ามพวกมัน ในท้ายที่สุดพวกมันก็ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งอาจารย์ประจำชั้นเข้ามาในห้อง

ใช่แล้วล่ะ ข้าถูกลิซ่าทิ้ง เธอน่ะเป็นนักเรียนห้อง 1 เลยนะ

ทันทีที่เธอทิ้งข้าไปหลังจากกล่าวลาไม่กี่คำ เธอก็ไม่เคยกลับมาพบข้าอีกเลย

ข้าไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น แต่ตั้งแต่นั้นมาเธอก็มองข้าเหมือนเศษสวะ

เป็นเพราะข้าเอาแต่สร้างปัญหายังงั้นเหรอ

ลิซ่าเป็นผู้หญิงที่ถูกขนานนามว่า “เจ้าหญิงผมแดง” เพราะหน้าตาและความสามารถ

ในทางกลับกันตัวข้าที่ไม่มีอะไรดีเด่นหน้าตาบ้านๆ

ตลอดช่วงที่ข้าคบกับเธอ เธอมักจะโดนรังควาญอยู่เสมอ บางทีการที่ข้าโดนทิ้งก็เพราะสร้างความยุ่งยากให้เธออยู่เสมอก็ได้

ข้านั้นไร้ซึ่งเพื่อนและกลายเป็นหมาหัวเน่า

ถึงกระนั้นข้าก็พยายามอยากหนักไม่ละเลยสิ่งต่างๆตามหน้าที่ของตน

สักวันหนึ่งถ้าข้าสามารถรักษาคำสาบานที่ให้ไว้ได้ละก็……….ข้าคิดเช่นนั้น

ในขณะเดียวกันนั้นเองเธอก็ไปคบกับเพื่อนสมัยเด็กที่ข้าสนิทด้วยที่สุด

เธอดูมีความสุขราวกับเธอรักเขาจริงๆ

ในการฝึกซ้อมเป็นคู่พวกเธอสองคนเข้าขากันได้ดีมาก ข้าไม่มีที่ยืนเคียงข้าเธอเลย

ชั่วโมงที่สอง ในช่วงบ่าย

「เฮ้ออ!」

ด้านข้างของดาบจำลองนั่นถูกขว้างมาจากเครื่องยิงดาบจำลอง

เมื่อดาบจำลองที่ถูกยิงมาถูกปากลับไปและแทงเข้าไปที่คอของตุ๊กตา กลไกนั่นก็จะหยุดทำงานลง

หลังจากคาบบรรยายนี่ก็เป็นภาคฝึกปฏิบัติ

นอกจากสนามฝึกซ้อมแล้วยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย เช่น สนามทดลองเวทมนตร์ในสถาบันแห่งนี้และนักเรียนที่สามารถศึกษาเรียนรู้ความสามารถของตนตามสถานที่ต่างๆ

สนามฝึกถูกแบ่งออกเป็นหลายพื้นที่เพื่อให้นักเรียกจากหลายๆชั้นมาเรียนที่เดียวกันได้

วันนี้เป็นการฝึกการต่อสู้ระหว่างบุคคลและแต่ละคนก็จะได้ต่อสู้กับหุ่นยนต์ที่มีดาบจำลองเป็นคู่ซ้อมทำการต่อสู้แบบอิสระ โดยใส่พลังเวทย์เข้าไปเพื่อให้หุ่นยนต์นั้นทำงาน

อย่างไรก็ตามหุ่นยนต์สำหรับพวกห้อง 10 นั้นมีคุณภาพแย่และเคลื่อนไหวได้แค่บางส่วน

「อืม ต่อไปจะเป็นการต่อสู้เป็นคู่ เลือกคู่หูได้ตามใจชอบ~」

เมื่ออาจารย์อันริ วาร์ อาจารย์ประจำชั้นของพวกห้อง 10 เรียกออกมา หุ่นยนต์ก็หยุดทำงาน ดังนั้นทุกๆคนก็หยุดและรอการจับคู่

อาจารย์อันริมีผมหยักสีน้ำตาล ดวงตาที่ดูสมวัยและใบหน้าที่ออกไปทางดูดีอย่างมาก

อย่างไรก็ตามอาจารย์คนนี้เป็นบุคคลที่ไม่เหมาะกับโรงเรียนแห่งคุณธรรมแห่งนี้เลยเพราะเขาชอบพูดและทำท่าทางแปลกๆราวกับคนบ้า

เรียกได้ว่าคนที่รับผิดชอบนักเรียนห้อง 10 ถูกโยนมาแบบทิ้งขว้างเลยก็ได้

อย่างไรก็ตามการที่เขาสามารถมาเป็นอาจารย์ได้ก็คงมีความสามารถพอตัว

ในที่สุดการจับคู่ก็ถูกตัดสินและแต่ละฝ่ายต่างเริ่มจำลองการต่อสู้กับคู่ต่อสู้ของตัวเอง แต่ว่าคู่ต่อสู้ของข้าดันเป็น……。

「เอ่อ สำหรับแกแล้ว น่าเสียดายหน่อยนะ」

เป็นมาร์นั่นเองที่กรนด่าข้าเมื่อตอนบ่าย

「มาเริ่มกันเลยดีกว่า เพราะว่าเศษสวะอย่างแกจะทำให้ชั้นเสียเวลา」

มาร์ดึงดาบใหญ่ออกมาจากด้านหลัง

มาร์เป็นผู้ชายที่ตรงไปตรงมา ความสามารถของเขานั่นของจริง ถึงอย่างนั้นก็ยังได้มาอยู่ในห้องห้อง 10 เช่นนี้เพราะชื่อเสียงแย่ๆนั่นละ

ผมเองก็ดึงดาบจำลองออกมาด้วยเช่นกัน

อาวุธของข้าเป็นดาบที่มาจากทางเกาะตะวันออก เรียกกันว่าคาตานะ เป็นดาบที่มีความคมเป็นอย่างมาก กล่าวได้ว่ามันสามารถตัดทุกอย่าไงได้หากใช้ได้อย่างชำนาญ

ยังไงก็ตาม มันใช้เทคนิตชั้นสูงและความหายากของมันเลยไม่ค่อยเป็นที่แพร่หลายนัก

มันเป็นอาวุธที่เหมาะกับข้าที่สุด สำหรับข้าที่ไร้ซึ่งพลัง

「ถ้าอย่างงั้นละก็ เริ่มได้~~~」

การต่อสู้นั่นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยจากท่าทางของอาจารย์อันริ

「โฮ่ย่าาาาาาาาาาาห์」

มาร์เหวี่ยงดาบใหญ่พร้อมตะโกนก้อง

ผมป้องกันการโจมตีด้วยคาตานะ

ดาบของมาร์ถูกเบี่ยงวิธีและมันก็ฟาดลงทีพื้น

「ฮ่าๆ!」

ก้าวเข้าไปหลังจากมาร์เปิดช่องว่างเล็งไปที่ต้นคอและพยายามจะเอาสันดาบทุบ

「สายไปละโว้ย!」

มาร์เอาถุงมือที่แขนปกป้องดาบของผมไว้ ดาบเลียนแบบที่ไม่มีความคมของดาบดั้งเดิมเหลืออยู่ก็ถูกป้องกันด้วยถุงมือนั่น

มาร์รุดหน้าเข้ามาพร้อมกับยกถุงมือขึ้นป้องกันการโจมตี แต่ข้าก็ก้มลงเพื่อหลบการโจมตี

ข้าพยายามจะโจมตีไปอีกรอบ แต่มาร์นั้นเหวี่ยงดาบใหญ่มาด้วยมือข้างเดียว

ข้าถูกบังคับให้ถอยและกลับไปตั้งหลักใหม่

มาร์ที่ฟาดดาบใหญ่จนพื้นแตกกระจายพยายามมองระหว่างข้าและดาบใหญ่ของมันเอง……。

「อยากโดนหั่นเป็นชิ้นๆเหรอไงวะ」

มาร์พูดเช่นนั้นพร้อมกับรังสีกดดันที่เพิ่มมากขึ้น

“คิ”

เป็นสกิลของทางฝั่งตะวันออกที่จะเพิ่มพลังให้แก่ผู้ใช้งานให้เหนือขีดจำกัดยิ่งขึ้นไป

มาร์พุ่งเข้ามาในคราวเดียว ความเร็วของเขาเพิ่มขึ้นอย่างมาก

นั่นละคือผลลัพธ์จากการใช้ คิ

ราวกับจะจับเหยื่อตรงหน้าฟาดดาบใหญ่นั่นลงมาในทีเดียว

ข้าเองก็ใช้ “คิ”เช่นกันเพื่อหลบการโจมตีของดาบใหญ่นั่น เสียงของเหล็กดังกระทบกันสนั่นหู

「เหอะ!ลังเลอยู่งั้นเหรอ」

มาร์ที่รู้สึกหงุดหงิดนั่นดูมีท่าทีลังเลจึงไม่สามารถจะตัดสินใจจบการโจมตีในทีเดียวได้

เขาดึงดาบใหญ่ที่จมลงไปบนพื้นและเริ่มที่จะฟันมันมาอีกครั้ง

เขาฟาดฟันดาบใหญ่ไปรอบๆด้วยเรี่ยวแรงอันมหาศาลจาก “คิ”

เสียงของเหล็กปะทะกันดังสนั่นไปทั่วบ่งบอกถึงการต่อสู้อันดุเดือด แต่ว่ามีฝ่ายเดียวที่ได้เปรียบ

การเสริมพลังกายของมาร์มีพละกำลังมากกว่าข้า แต่ผลของการเสริมพลังกายของข้าเองก็ได้ผลเพียงครึ่งเดียวด้วยความสามารถของข้า

มาร์มันเป็นคนเก่งแต่เพราะทำแต่เรื่องแย่ๆเลยได้มาอยู่ในห้อง 10

ในทางตรงกันข้ามแม้หมอนั่นจะมีความสามารถสูง แต่มาร์มันกลับพอใจที่จะกดขี่คนที่ต่ำกว่านั่นมันโครตจะแย่

เทคนิคดาบชั้นสูงของมาร์ไม่สามารถใช้จัดการกับโนโซมุตามปกติได้ แต่ว่าพลังกายของโนโซมุที่ได้รับการเสริมแบบครึ่งๆกลางๆมันก็พอเป็นไปได้

พลังที่ได้มานั่นทำให้พอฟัดพอเหวี่ยงกับดาบของโจรสลัดเท่านั้นเอง

「แหลกไปซะเหอะมึง!!」

บางทีอาจจะเป็นเพราะข้าโดนกดดันจนถูกบดขยี้ในพริบตา แต่ว่าข้าก็กันการโจมตีนั่นได้ยิ่งทำให้มาร์มันหงุดหงิดจนพละกำลังมันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

「เหอะ คิดว่าจะบดขยี้ข้าได้ง่ายๆงั้นเหรอ!」

ข้ากัดฟันแน่นเพื่อที่จะไม่เดินไปตามเกมส์ของศัตรู

แม้ว่าพลังในการโจมตีจะเพิ่มขึ้น แต่การโจมตีของมันก็ซ้ำซากและจำเจ ทำให้รับมือได้ไม่ยากเย็น

อย่างไรก็ตามข้าไม่สามารถสวนกลับได้ทำได้เพียงแค่ยื้อเท่านั้น

และถ้าโต้กลับไม่ได้ผลมันก็รู้ๆกันอยู่

ในที่สุดก็มาถึงขีดจำกัด

ข้าไม่สามารถรับการโจมตีของมาร์ได้อีกต่อไป การป้องกันของข้าถูกทำลายลงและไม่มีเวลามาตั้งท่าใหม่ ตอนนั้นเองทีข้าถูกดาบใหญ่นั่นฟาดเข้ามากระแทกกับคาตานะของข้าจนกระเด็น

「จะเหนียวได้สักแค่ไหนกันเชียววะ!」

รูปร่างของข้าบิดเบี้ยวเพราะการโจมตีนั่น ข้าตัวกระเด็นจนตัวไปกระแทกกับกำแพงของสนามฝึกซ้อม

ผลกระทบนั่นทำให้ข้าหายใจติดขัดและการมองเห็นของข้าก็มืดดับลง

「เป็นแค่เศษสวะแท้ๆ แต่ยังกล้าขัดขืน โดนดีไปซะเหอะมึง」

ข้าหมดสติไปพรัอมกับคำพูดของมาร์

「โอ้ยยยย เจ็บแหะ!」

ข้าลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับสติที่พร่ามัวลุกขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดไปทั้งตัว

ข้าก็พบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงในห้องพยาบาล

「เอ้าๆ รู้สึกตัวแล้วไม่ใช่เหรอไงเนี่ย?」

ผู้หญิงสวมชุดโค้ทสีขาวพร้อมกับใส่แว่นนั่นกำลังทำงานอยู่บนโต๊ะพยาบาล

ชื่อของเธอคือนอร์น อัลทิน่า เป็นหมอประจำโรงเรียนที่สวยเอามากๆ

เธอเดินมาทางนี้และขยับนิ้วมาตรงหน้าผมเพื่อตรวจสอบสภาพร่างกาย

「อืมม ดูจากสภาพแล้วสติยังคงดีอยู่ แล้วรู้สึกปวดตรงไหนบ้างรึเปล่า?」

「ข้าปวดหลังนิดหน่อยและหัวเองก็ยังคงมึนๆ แต่ว่าไม่มีตรงไหนผิดปกติแล้วล่ะ」

「อืมมเข้าใจแล้ว ฉันทายาไปที่หลังของนายแล้วล่ะ แต่ถ้ารู้สึกเจ็บหรือปวดตรงไหนก็มาได้ตลอดเวลานะ มันจะดีกว่านะที่มาหาฉันมากกว่าที่จะทนเจ็บกับบาดแผลนั่น」


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท